ครม.ไฟเขียวยุทธศาสตร์ปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษา สอดรับปฏิรูปฯ รอบ 2 “ชินวรณ์” เผย นายกฯ ฝาก ศธ.ขับเคลื่อนกองทุน กยศ. สนองตอบการช่วยเหลือนักเรียนยากจน แนะไม่ใช่แค่จูงใจให้มากู้อย่างเดียว เน้นคุณภาพผู้เรียน โปร่งใส ตรวจสอบได้
วันนี้ (22 มี.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ยุทธศาสตร์การเงินการคลัง ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษา ยุทธศาสตร์การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ยุทธศาสตร์การส่งเสริมความเข็มแข็งของสถานศึกษา 2.ยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการอุดมศึกษา ได้แก่ ยุทธศาสตร์การเงินการคลัง ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ และการใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษา ยุทธศาสตร์การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยมีกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษา ดังนี้ กลไกการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการและการใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษา กลไกการส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคมในการระดมทุนและการสนองทุนเพื่อการศึกษา กลไกการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา กลไกการสนับสนุนด้านกฏหมาย และกลไกการผลักดันจากผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่ออุดมศึกษา โดยเฉพาะในส่วนของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่าให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปดำเนินการในการขับเคลื่อนให้ กยศ.สนองตอบต่อการเข้าไปช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่มีฐานะยากจนอย่างแท้จริง รวมทั้งสนองตอบต่อสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ และคำนึงถึงประสิทธิภาพและคุณภาพในการจัดการศึกษา โดยการจัดสรรงบประมาณของ กยศ.ต้องไม่ใช่การจูงใจให้คนมากู้ยืมเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพและการพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง ที่สำคัญ การดำเนินการเกี่ยวกับเงิน กยศ.จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
“ศธ.ได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยกระจายงบประมาณสู่สถานศึกษา และมุ่งเน้นจัดสรรงบประมาณเพื่อคุณภาพ และจัดสรรงบฯ ถึงตัวผู้เรียนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ สิ่งที่ ศธ.จะต้องเร่งดำเนินการต่อไปคือ การสร้างความตระหนักรู้ของสังคมและเร่งระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา” รมว.ศธ.กล่าว
วันนี้ (22 มี.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ยุทธศาสตร์การเงินการคลัง ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษา ยุทธศาสตร์การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ยุทธศาสตร์การส่งเสริมความเข็มแข็งของสถานศึกษา 2.ยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการอุดมศึกษา ได้แก่ ยุทธศาสตร์การเงินการคลัง ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ และการใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษา ยุทธศาสตร์การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยมีกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษา ดังนี้ กลไกการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการและการใช้ทรัพยากรเพื่อการศึกษา กลไกการส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคมในการระดมทุนและการสนองทุนเพื่อการศึกษา กลไกการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา กลไกการสนับสนุนด้านกฏหมาย และกลไกการผลักดันจากผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบการเงินเพื่ออุดมศึกษา โดยเฉพาะในส่วนของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่าให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปดำเนินการในการขับเคลื่อนให้ กยศ.สนองตอบต่อการเข้าไปช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่มีฐานะยากจนอย่างแท้จริง รวมทั้งสนองตอบต่อสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ และคำนึงถึงประสิทธิภาพและคุณภาพในการจัดการศึกษา โดยการจัดสรรงบประมาณของ กยศ.ต้องไม่ใช่การจูงใจให้คนมากู้ยืมเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพและการพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง ที่สำคัญ การดำเนินการเกี่ยวกับเงิน กยศ.จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
“ศธ.ได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยกระจายงบประมาณสู่สถานศึกษา และมุ่งเน้นจัดสรรงบประมาณเพื่อคุณภาพ และจัดสรรงบฯ ถึงตัวผู้เรียนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ สิ่งที่ ศธ.จะต้องเร่งดำเนินการต่อไปคือ การสร้างความตระหนักรู้ของสังคมและเร่งระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา” รมว.ศธ.กล่าว
