xs
xsm
sm
md
lg

“ชินวรณ์” เลื่อนประกาศรายชื่อ นร.เงื่อนไขพิเศษเป็น 22 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ.
ผู้บริหาร ร.ร.บ่นอุบให้แจ้งชื่อ นร.เงื่อนไขพิเศษวันที่ 18 มี.ค.ทำไม่ทัน อ้าง ร.ร.บางแห่งยังไม่ได้ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ด้าน “ชินวรณ์” ถอยเลื่อนประกาศรับ นร.เงื่อนไขพิเศษเป็น 22 มี.ค.สั่งกรณีเด็กสละสิทธิ์ให้ ร.ร.ดึงชื่อจากบัญชีสอบ นร.ทั่วไปสลับกับบัญชี นร.เขตพื้นที่บริการ

วันนี้ (17 มี.ค.) ที่โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการมัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) 42 เขต ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (ผอ.สพป.) 183 เขต และผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 369 โรง เพื่อประชุมทำความเข้าใจเรื่องการรับนักเรียนปีการศึกษา 2554 โดยเฉพาะกรณีการรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษ ที่ได้มีการกำหนดแนวปฏิบัติไว้ 7 ข้อ เพื่อให้โรงเรียนใช้ประกอบเป็นแนวทาง พร้อมกันนี้ ได้กำหนดให้ประกาศรายชื่อรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษวันที่ 18 มี.ค.นี้


นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบนโยบายต่อ ผอ.สพม. ผอ.สพป.และ ผอ.ร.ร.กล่าวว่า เนื่องจากในที่ประชุมเสนอแนะมา 3 ประเด็น ตนจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนรายละเอียดการรับนักเรียนเพื่อความเหมาะสม ประการที่ 1 เลื่อนวันประกาศรายชื่อนักเรียนเงื่อนไขพิเศษเป็นวันที่ 22 มี.ค.จากเดิม 18 มี.ค.เพื่อให้ ร.ร.มีเวลาพอในการดำเนินการอย่างรอบคอบ 2.กรณีนักเรียนสละสิทธิ์ ให้เรียกผู้ที่ได้คะแนนลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อสอบคัดเลือกรับนักเรียนทั่วไปสลับกับบัญชีรายชื่อสอบรับนักเรียนในพื้นที่บริการ โดยให้ดึงมาจากทั้ง 2 บัญชีห้ามใช้บัญชีใดบัญชีหนึ่ง ยกตัวอย่าง เหลือที่นั่ง 10 ที่ ก็ให้ดึงจากบัญชีรับนักเรียนทั่วไป 1 คน และสลับไปดึงบัญชีเด็กในพื้นที่บริการ 1 คน สลับไปมาจนครบ 10 ที่นั่ง เป็นต้น วิธีนี้จะได้รับความเป็นธรรมทั้ง 2 บัญชี
 
สำหรับการรับนักเรียนปีนี้ ตนเชื่อว่า จะมีผู้สละสิทธิ์ไม่มาก เพราะไม่มีการรับนักเรียนรอบ 2 และ 3 ให้นักเรียนวิ่งรอกสอบ ประการที่ 3 มีข้อเสนอให้ยืดหยุ่นการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษกรณีผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง แต่ตนยืนยันว่า จะไม่ยืดหยุ่นให้นักเรียนที่จะเข้าตามเงื่อนไขนี้ต้องเกี่ยวพันโดยตรง เป็นบุตรของผู้ทำคุณประโยชน์โดยตรงเท่านั้นไม่ครอบคลุมถึงหลาน

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ตนมาประชุมครั้งนี้ทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจในนโยบายรับนักเรียน 85% ตนพอใจเพราะจะทำให้เกิดการปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งผู้ปกครองจะเชื่อมั่นว่าการรับนักเรียนไม่มีการฝากเด็ก การระดมทรัพยากรเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตนไม่อยากเห็นโรงเรียนถูกกล่าวหาเรื่องรับเงินใต้โต๊ะแลกที่นั่งเรียนต่อไป อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ตนได้รับร้องเรียนว่าโรงเรียนดังกว่า 30 โรง ที่มีการทุจริตในการรับนักเรียน แต่ตนตัดสินใจให้โอกาสคนเหล่านี้โดยยังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวน หรือใช้มาตรการสำรองราชการเพราะถือว่าผู้บริหารเหล่านี้ทำไปในบริบทเก่าที่คิดว่าฝากเด็กได้ รับเงินใต้โต๊ะได้ แต่ต่อไปทุกคนต้องทำตามนโยบาย ตนมาจากครูไม่อยากเห็นใครเอาเงินลูกหลานโดยเฉพาะคนจน

“ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติตามนโยบายข้างต้น ถือว่าเป็นการอภิวัฒน์การศึกษา ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าการปฏิรูปการศึกษาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยมสำคัญในสังคมไทย สร้างวัฒนธรรมการเลือกเรียนตามความถนัดของผู้เรียนยกระดับคุณภาพการศึกษาและมาตรฐาน ร.ร.ให้ขึ้นมาเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะเปลี่ยนแค่เล็กๆ แต่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ หากเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมจะปกป้องทุกคน ถ้า ร.ร.ทำตามนโยบาย หลักเกณฑ์ที่ สพฐ.กำหนด และมีเจตนาบริสุทธิ์ที่จะดูแลนักเรียน หากใครจะฟ้องร้องอย่าไปฟ้องร้อง ร.ร.ในกรณีรับนักเรียนนั้นขอให้มาฟ้องร้องผมๆ พร้อมจะสู้คนเดียว” นายชินวรณ์ กล่าว

ด้าน นายอุดม พรมพันธ์ใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แสดงความเห็นว่า การกำหนดเงื่อนไขพิเศษต้องคิดให้รอบคอบ เพราะในทางปฏิบัตินั้นจะต้องนำมาประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา หากให้ประกาศรายชื่อเด็กเงื่อนไขพิเศษในวันที่ 18 มี.ค.นี้คงไม่ทันแน่นอน เพราะบางโรงเรียนก็เพิ่งรู้และยังไม่ได้ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ส่วนกรณีเงื่อนไขพิเศษที่ให้รับลูกของครูในโรงเรียนเข้าเรียนก็เป็นเรื่องเสี่ยงที่จะ ผอ.ร.ร.จะถูกฟ้องร้องได้ เพราะหากรับลูกครูในโรงเรียนเข้าเรียนและลูกของประชาชนคนอื่นๆหรือคนที่เป็นข้าราชการอื่นจะมองว่าอย่างไร ตรงนี้ ผอ.ร.ร.จะต้องตกเป็นจำเลยสังคมและหากโดนฟ้องใครจะรับผิดชอบ

“นโยบายรับเด็กมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โรงเรียนปรับตัวไม่ทัน ตามนโยบายเดิมจะให้ดูแลเด็กในพื้นที่บริการก่อน แต่วันนี้ให้เน้นดูแลเด็กทั่วไปด้วย ทำให้เด็กในพื้นที่ที่สอบคัดเลือกไม่ได้และยังจับสลากไม่ได้จะต้องไปเรียนที่อื่น ซึ่งอย่างไรเสีย ร.ร.ก็ต้องดูแลเด็กในพื้นที่บริการก่อน ส่วนเงื่อนไข 7 ข้อ ในทางปฏิบัติทำยากและตกตั้งแต่ข้อแรกที่ว่าเป็นนักเรียนที่ได้คะแนนสอบเท่ากันในลำดับสุดท้าย ซึ่งก็ทำไม่ได้อยู่แล้วเพราะยังไมได้มีการสอบ ซึ่งถ้าจะทำได้จริงต้องเลื่อนเวลาออกไป ร.ร.จึงจะประกาศรายชื่อนักเรียนเงื่อนไขพิเศษได้” นายอุดม กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น