“ชินวรณ์” เผย คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิรูประบบคุรุศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... แล้ว พร้อมเดินหน้าต่อและให้คณะกรรมการชุด “วรากรณ์ สามโกเศศ” ดูแลต่อ
วันนี้ (22 มี.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิรูประบบคุรุศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ 1.การให้มีคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ (ก.ค.ช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ เป็นคณะกรรมการ 2.กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ ที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องของการผลิต การพัฒนา การใช้ การพัฒนาระบบค่าตอบแทน การสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครู รวมถึงการพัฒนาวิชาชีพของครูอย่างเป็นระบบ และ 3.การกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่จะให้มีอำนาจหน้าที่ทั้งในเรื่องของการกำหนดนโยบาย การศึกษาวิจัย ตลอดถึงการที่จะเข้ามาขับเคลื่อนในการพัฒนาระบบการปฏิรูปเกี่ยวกับครูทั้งระบบต่อไป
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ก็จะไปดำเนินการตามลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศธ.ได้จัดตั้งคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ ซึ่งมี นายวรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน ดังนั้น จะใช้คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามร่างระเบียบนี้ไปก่อนจนกว่าจะมีการร่างกฎหมายตามที่คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) ได้เห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ และให้มีการตรากฎหมายขึ้นมารองรับในการดำเนินการ
วันนี้ (22 มี.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิรูประบบคุรุศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ 1.การให้มีคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ (ก.ค.ช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ เป็นคณะกรรมการ 2.กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ ที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องของการผลิต การพัฒนา การใช้ การพัฒนาระบบค่าตอบแทน การสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครู รวมถึงการพัฒนาวิชาชีพของครูอย่างเป็นระบบ และ 3.การกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่จะให้มีอำนาจหน้าที่ทั้งในเรื่องของการกำหนดนโยบาย การศึกษาวิจัย ตลอดถึงการที่จะเข้ามาขับเคลื่อนในการพัฒนาระบบการปฏิรูปเกี่ยวกับครูทั้งระบบต่อไป
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ก็จะไปดำเนินการตามลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศธ.ได้จัดตั้งคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ ซึ่งมี นายวรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน ดังนั้น จะใช้คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามร่างระเบียบนี้ไปก่อนจนกว่าจะมีการร่างกฎหมายตามที่คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) ได้เห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ และให้มีการตรากฎหมายขึ้นมารองรับในการดำเนินการ
