xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” สั่งลุยรณรงค์ “โหวตโน” ให้บอกต่อวันละ 5-10 คน เริ่มพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” ลั่นพรุ่งนี้เริ่มรณรงค์ “โหวตโน” อย่างเข้มข้น เผยให้บอกต่อวันละ 5-10 คน จากนั้นก็ให้บอกต่ออีกเป็นทอดๆ จนได้เป็นเครือข่าย พร้อมแนะสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ไปร่วมใช้สิทธิจี้พรรคถอนตัวออกจากการเลือกตั้ง 24 เม.ย.นี้ ย้ำเคารพสิทธิแม้จะลงเลือกตั้งก็ยังจะเป็นมิตรต่อกัน


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์  

วันนี้ (15 เม.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวบนเวทีเสวนาราชอาณาจักรไทย กำลังจะเสียดินแดนว่า ช่วงปี 2544 เกิดการเลือกตั้งตอนนั้นประชาธิปัตย์ถึงคราวตกต่ำ มีคนเลือกพรรคไทยรักไทย 12 ล้านคน เลือกประชาธิปัตย์ 7 ล้านคน ต่างกันอยู่ 5 ล้านคน

อีก 4 ปีต่อมา ปรากฏว่าไทยรักไทยโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำประชานิยม จาก 12 ล้านเสียง กลายเป็น 19 ล้านเสียง ประชาธิปัตย์แพ้ราบคาบ แต่เสียงที่ไทยรักไทยได้เพิ่มไม่ได้มาจากประชาธิปัตย์เพราะประชาธิปัตย์ได้ 7 ล้านเสียงเท่าเดิม แต่ไทยรักไทยได้เสียงเพิ่มจากการควบรวมพรรคร่วมต่างๆ

นายปานเทพกล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ตกต่ำที่สุดคะแนนขั้นต่ำก็อยู่ที่ 7 ล้านเสียง มาที่ไทยรักไทยหลังเกิดการเคลื่อนไหวปรากฏการณ์สนธิในปี 2549 เกิดการเลือกตั้ง 2 เมษายน ฝ่ายค้านไม่ลงจนกลายเป็นโมฆะ ที่น่าสนใจคือมีคนเลือกไทยรักไทย 16 ล้านคน แปลว่าหายไป 3 ล้านคน นี่แค่การเคลื่อนไหวของนายสนธิเพียง 1 ปี เสียงที่หายไปคือมาจากการโหวตโน และบัตรเสีย รวม 2 อย่างมากถึง 10 ล้านคน และมีประชาชนบางกลุ่มไม่ไปใช้สิทธิเพื่อไม่ให้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์อีก 5 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 15 ล้านคน นี่ไม่ใช่น้อย

จนกระทั่งรัฐประหาร 2549 ประชาชนเริ่มรู้ข้อมูลมากขึ้น เลือกตั้งอีกครั้ง 23 ธันวาคม 2550 มาในนามพรรคพลังประชาชน ปีนั้นมีคนเลือก 13.2 ล้านคะแนน หายไปประมาณ 2.8 ล้าน เลือกประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นเป็น 12.8 ล้านคะแนน แปลว่ามีเสียงที่ย้ายฐานจากพลังประชาชนมาใส่ประชาธิปัตย์ด้วย แสดงให้เห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยฝีมือประชาชนที่ไม่ได้จงรักภักดีกับพรรคใดพรรคหนึ่ง

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ชวนให้คิดต่อมาว่า แล้วประชาชนเหล่านั้นจะเลือกพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ ก็ไม่เลือก เพราะประชาชนรู้สึกว่าต้องการอะไรที่มากกว่าแค่พรรคที่เป็นแบบอย่างของพรรคการเมือง เพราะเขากำลังเบื่อการเมืองมาก มันมีกระแสที่เบื่อพันธมิตรฯด้วย ไม่ชอบเสื้อแดงด้วย ไม่ชอบทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยด้วย ไม่เอาพรรคการเมืองใหม่ด้วย

นายปานเทพยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่เริ่มรณรงค์โหวตโนอย่างเป็นทางการ หลายพรรคก็หวั่นไหวแล้ว เราไม่หวังผลว่าจะต้องได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่จำเป็น แต่ดีที่สุดคือ ไปกาช่องไม่ลงคะแนนบวกกับคนไม่ไปใช้สิทธิให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ทันทีนั้นจะแสดงว่าพรรคการเมืองในระบบเป็นเพียงเสียงส่วนน้อยของประชาชน

มีคนตั้งข้อสงสัยว่าโหวตโนเท่ากับเชิญทักษิณขึ้นมาหรือเปล่า ขอเรียนให้ทราบว่าเมื่อภาคประชาชนเห็นพรรคการเมืองเลวไม่ต่างกัน ก็ไม่จำเป็นต้องให้พรรคหนึ่งไปทำลายบ้านเมือง เลือกพรรคไหนก็เหนื่อยเหมือนกัน ถ้านักการเมืองโคตรชั่วมากๆ ประชาชนจะมีแนวร่วมมากขึ้นไปโดยปริยาย มีโอกาสปฏิรูปง่ายขึ้นเข้าไปอีก อย่าไปเชื่อกระแสที่บอกให้เลือกคนดี คนดีในระบอบแบบนี้ ไปๆ มาๆ คนดีก็ไปยกมือให้คนชั่ว ไม่ต่างกัน

มีคนบอกว่าเราต้องทำให้เกิดสุญญากาศ ให้เกิดการเว้นวรรค นั่นทำได้ถ้าเรามีอำนาจ แต่เราไม่มีก็ทำได้ด้วยการโหวตโน อย่างน้อยคะแนนของเราก็ไม่ไปทำบาปให้ประเทศ เมื่อโหวตโนมากๆ ก็นำไปสู่กระแสให้สังคมได้เห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก ทำไมเราไม่เลือกแนวทางนี้ถ้าจะมีประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ

นายปานเทพกล่าวอีกว่า ประการถัดมามีคำถามว่าแล้วต่อไปจะปฏิรูปการเมืองได้อย่างไร เมื่อเราคิดการใหญ่ ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปให้ประชาชนมีพื้นที่มากขึ้นไม่ใช่แค่การชุมนุม เช่นมีพื้นที่ให้เราตรวจสอบการทุจริตได้เร็วขึ้นแค่นี้เราก็ลดการชุมนุมได้แล้ว ปฏิรูปได้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ หรือเรื่องเขตแดนให้ต้องมีการลงประชามติ ถ้าเป็นแบบนี้เราไม่ต้องชุมนุมเลย และเปิดโอกาสให้ตัวแทนหลายภาคส่วนเข้าไปเป็น ส.ส.มีที่ยืนในสภา ไม่ใช่มาจากพื้นที่และบัญชีรายชื่อเท่านั้น

นายปานเทพกล่าวว่า จะไม่ให้พ่อแม่พี่น้องเป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น ตนขอมอบการบ้านให้ท่านผู้ชม

1.สร้างสรรค์ผลงานโหวตโน ไม่ว่าจะเป็นคำคม ข้อความ กลอน ภาพ หรือโปสเตอร์ ก็ได้ ให้เข้าใจได้ง่ายและเสนอเข้ามา

2.รณรงค์โหวตโนเริ่มต้นจากคนรอบข้างที่ไม่ได้มาชมุนุม อาจจะเป็นคนที่ชมเอเอสทีวีหรือไม่ก็ได้ ถ้าสามารถทำได้วันละ 5-10 คน จนถึงการเลือกตั้ง พวกเราได้ชัยชนะทันที พอคนเหล่านั้นเชื่อแล้วก็ขอให้ทำต่อไปอีก 5-10 คน ใครทำได้เครือข่ายเยอะสุด มีรางวัลให้ เราจะมาดูกันว่าคนนั้นเป็นใคร หากทำสำเร็จเราจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยกัน

นายปานเทพยังกล่าวต่ออีกว่า หวังว่าวันที่ 24 เมษายนนี้จะมีสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ไปใช้สิทธิยกมือให้พรรคการเมืองใหม่ถอนตัวออกจากการเลือกตั้ง นี่คือความหวังลึกๆ และยังหวังว่าหากสาขาพรรคการเมืองร่วมรณรงค์โหวตโนด้วยก็จะดี แล้วถ้าถามว่าจะตั้งพรรคการเมืองใหม่มาเพื่ออะไร ก็ตั้งมาเพื่อปฏิรูปการเมืองร่วมกับพี่น้องไง

“แต่อย่างไรเราก็เคารพสิทธิ ถ้ายังจะลงเลือกตั้งก็ยังเป็นมิตรต่อกัน แต่เราจะโหวตโน และถือว่าท่านเป็นพรรคการเมืองในระบบที่เราไม่เลือกใคร” นายปานเทพกล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ภารกิจเริ่มพรุ่งนี้บอกต่อโหวตโนให้ได้ 5-10 คน คิดว่าทำบุญให้ประเทศ มีความคิดใช้ความคิด มีทุนใช้ทุน คนต่างจังหวัดที่ไม่รู้จะทำอะไร ให้เริ่มโทรหาที่บ้านหรือเพื่อนบ้าน แล้วเราจะทำแผ่นพับใบปลิวกระจายไปทั่วประเทศ พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะขยายการโหวตโนอย่างเข้มข้นที่สุด


 

 



















กำลังโหลดความคิดเห็น