xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ยก4เหตุโหวตโน อัด"ปุ"แหล!ฟอก"ป๊อด"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯ ยก 4 เหตุผล “โหวตโน” เปลี่ยนแปลงประเทศ แนะประชาชนถอยเพื่อให้นักการเมืองเห็นความสำคัญ ลั่นกระแสโลกออนไลน์แรง เตรียมจัดเต็ม! หลังวันยุบสภาชัด คกก.ปกป้องราชอาณาจักรไทยฯ สับ “ปุระชัย” แหล หวังปล้นเสียงโหวตโน ฟอก “ป๊อด” พ้นมลทิน 7 ตุลา “น้องวีระ” โร่หา “แม้ว” ช่วย

วานนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงทิศทางในการรณรงค์ “โหวตโน”ว่า กรณีที่ว่าหากลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนหรือโหวดโนนั้น จะไม่มีผลเปลื่ยนแปลงการเลือกตั้ง หรือไม่สามารถขวางให้พรรคการเมืองเข้าสู่อำนาจรัฐได้ เพราะต้องมีพรรคการเมืองที่ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งอยู่ดี ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นความจริง อย่างไรก็ตามพันธมิตรฯและภาคประชาชนเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบ และจำเป็นต้องมีการเว้นวรรคทางการเมืองไม่มีการเลือกตั้ง และนำไปสู่การปฏิรูปอย่างแท้จริง แต่หากไม่สามารถขัดขวางการเลือกตั้งได้

ตนเห็นว่าการรณรงค์การในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้นมีเหตุผล 4 ประการ คือ
1.เป็นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนด้วยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ระบบการเลือกตั้งที่จำกัดเฉพาะกลุ่มบุคคลที่อยู่ในระบบตอนนี้ ไม่ใช่คำตอบทางการเมือง และต้องมีการปฏิรูปทางการเมือง

2.หากเสียงของประชาชนที่กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนบวกกับผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเกินว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่านักการเมืองทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นเสียงของประชาชนข้างน้อยเท่านั้น ทำให้ขาดความชอบธรรมในทันที

3.หากมีประชาชนเข้าร่วมการโหวตโนมากๆ จะทำให้ประชาชนมีโอกาสตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ภาคประชาชน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อสู่การแก้ไขกฎหมายต่างๆ หรือรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่มสิทธิให้แก่ประชาชน และเพิ่มอำนาจในการตรวจสอบ ลดการทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างความเป็นธรรมให้กับสังคมมากขึ้น

4.จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักการเมือง ที่ถูกประชาชนบีบให้ยินยอมต่อการปฏิรูปการเมือง เพราะโดยธรรมชาติของนักการเมืองต้องการคะแนนเสียงให้มากที่สุด

“หากประชาชนรู้จักถอยออกมา สิทธิของประชาชนจะมีคุณค่าทันที ทำให้นักการเมืองยอมจำนนต่อภาคประชาชน เพื่อช่วงชิงเสียงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน จึงเห็นว่าหากมีการเลือกตั้ง ควรมีการรณงค์เพื่อให้กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนมากกว่าที่จะไปเลือกพรรคการเมืองใดที่ไม่เห็นหนทางในการปฏิรูปการเมืองเลย” นายปานเทพ กล่าว

**กระแสออนไลน์ “โหวตโน”แรง!!

ในส่วนของรูปแบบในการรณรงค์นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี้เริ่มมีการรณรงค์ผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่เริ่มมีผู้ให้การสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการรณรงค์กันเอง ทำให้เห็นถึงปรากฎการณ์ที่ประชาชนในโลกออนไลน์ที่รับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารมากขึ้น โดยจะทำควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวที่เวทีการชุมนุม ณ สะพานมัฆวานฯ ที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบต่อปัญหาการทวงคืนแผ่นดินและปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งเป็นที่มาของการรณรงค์โหวตโน โดยเชื่อว่าจะสามารถรณรงค์ให้มากขึ้นหลังจากนายกฯประกาศยุบสภา โดยการรณงค์ก็จะเป็นในลักษณะของการหาเสียงประเภทหนึ่ง ที่ไม่ใช่แคมเปญที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อให้เกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ โดยจะมีภาคประชาชนทำหน้าที่รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิและกาในช่องไม่เลือกตั้ง พร้อมกับการตรวจสอบการทุจริตในการเลือกตั้งไปด้วย

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรครักษ์สันติ ออกมาระบุว่า ให้ประชาชนที่จะลงคะแนนโหวตโนมาเลือกตัวเองดีกว่า นายปานเทพ กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าแม้แต่คนที่มีกระแสในสังคมยังสามารถเห็นและรับรู้ได้ถึงความต้องการของประชาชน ที่ความรู้สึกเบื่อทางการเมือง และการเมืองแบบสองขั้วไม่ใช่คำตอบของประเทศ อย่างไรก็ตามการกะทำของ ร.ต.อ.ปุระชัยไม่สามารถเปลี่ยนความต้องการของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนได้ เหตุเพราะประชาชนไม่ได้ต้องการที่จะเลือกพรรคการเมืองใดเพื่อเป็นความหวังหรือแบบอย่างที่ดีอีกต่อไป เพราะภายใต้ระบบที่จำกัดเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพลเพียงไม่กี่คน การเป็นแบบอย่างที่ดีไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ ต้องอาศัยพลังอำนาจของประชาชนที่มีพลังมากกว่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่พันธมิตรฯรณรงค์ให้ประชาชนใช้สิทธิและกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน รวมไปถึงการเรียกร้องให้พรรคการเมืองใหม่พิจารณาไม่ลงเลือกตั้งในระบบที่มีปัญหา จึงขอฝากไปถึง ร.ต.อ.ปุระชัยว่า วันนี้ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงมากกว่าทางเลือกที่เป็นแบบอย่างทางการเมือง เพื่อให้การเมืองโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

***สับ “ปุ” จ้องปล้นเสียงโหวตโน

ค่ำวานนี้ (3 เม.ย.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ สัจจารักษ์ และพล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ในฐานะตัวแทน 4 เหล่าทัพ ได้กล่าวบนเวทีเสวนาราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน ถึงกรณี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทยรัก ได้ประกาศจัดตั้งพรรครักษ์สันติ และบิดเบือนข้อเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ขอให้ประชาชนใช้สิทธิโหวตโน ไม่ยอมรับจัดการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเพื่อไปเทคะแนนเสียงให้กับพรรคของตัวเองว่า ร.ต.อ.ปุระชัยก็เป็นนักสร้างภาพ เปรียบเหมือนนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี อาจจะเป็นเพราะเกิดความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ จึงแยกตัวออกมาในรัฐบาลทักษิณ 1 แต่วันนี้กลับมาเสนอหน้าเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่น่ามีเงื่อนงำอย่างยิ่ง

พล.ต.ท.สมเกียรติกล่าวว่า นายปุระชัยไม่ได้เป็นนักเรียนนายร้อยเตรียมทหารโดยเนื้อแท้ เพียงแค่มียศนำหน้า เพราะไม่เคยทำหน้าที่ในปกป้องอธิปไตย แต่หันไปเป็นนักวิชาการและกระโดดลงเล่นการเมือง โดยจับมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จัดตั้งพรรคไทยรักไทย จนศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และเมื่อครั้งนายปุระชัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังปล่อยให้คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่นายเสนาะ เทียนทอง ตกเป็นผู้กล่าวหาไม่ยอมถูกดำเนินคดี จนคดีหมดอายุความ แถมยังมีเพื่อนที่ชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. สั่งฆ่าประชาชนในวันที่ 7 ตุลาทมิฬ วันนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ แถมอภิสิทธิ์ก็ยังไม่ได้ดำเนินการถอดยศ ทั้งหมดทั้งปวงเพราะนักการเมืองเลวมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น

“ปุระชัยพยายามใช้สถาบันตำรวจมาโอบอุ้มคนทำผิด เพราะตัวเองกระโดดลงเล่นการเมือง พันธมิตรฯคงทราบดีว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ก็คือน้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลอภิสิทธิ์นี่เอง แต่มียังหน้ามีบิดเบือนข้อมูลเพื่อเรียกคะแนนเสียงโหวตโนเพื่อพรรคของตัวเอง”

พล.ร.ท.ประทีปย้ำว่า การโหวตโนไม่ใช่ปิ้งปลาประชดแมว แต่สะท้อนให้ว่า 1.เป็นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนด้วยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ระบบการเลือกตั้งที่จำกัดเฉพาะกลุ่มบุคคลที่อยู่ในระบบตอนนี้ “ไม่ใช่คำตอบทางการเมือง” และต้องมีการปฏิรูปทางการเมือง 2.หากเสียงของประชาชนที่กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนบวกกับผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเกินว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า นักการเมืองทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นเสียงของประชาชนข้างน้อยเท่านั้น ทำให้ขาดความชอบธรรมในทันที

3.หากมีประชาชนเข้าร่วมการโหวตโนมากๆ จะทำให้ประชาชนมีโอกาสตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ภาคประชาชน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อสู่การแก้ไขกฎหมายต่างๆ หรือรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่มสิทธิให้แก่ประชาชน และเพิ่มอำนาจในการตรวจสอบ ลดการทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคมมากขึ้น และ 4.จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักการเมืองที่ถูกประชาชนบีบให้ยินยอมต่อการปฏิรูปการเมือง เพราะโดยธรรมชาติของนักการเมืองต้องการคะแนนเสียงให้มากที่สุด

**น้องวีระโร่หา“แม้ว”ช่วยวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น.ในเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) นายปรีชา สมความคิด น้องชายนายวีระ สมความคิด และญาติจะเข้ายื่นหนังสือผ่านโฆษกพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ช่วยเหลือ นายวีระ และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 2 คนไทยที่ถูกจับกุมอยู่ในกัมพูชา.
กำลังโหลดความคิดเห็น