xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ย้ำปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ เดินหน้าชู “โหวตโน” ปิดทางนักการเมืองเลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“ลุงจำลอง” ชูเดินหน้า “โหวตโน” ปิดทางนักการเมืองเลว ชี้ทางออกประเทศควรเว้นวรรคเลือกตั้ง จัดระเบียบใหม่ ยันไม่ขัดแย้ง ก.ม.ม. ให้สิทธิ กก.บห.ตัดสินใจ ด้าน “ประพันธ์” ชี้เป็นสิทธิตาม รธน. สวนกลับ ปชป.เคยทำสมัย 2 เม.ย.49 จวก “มาร์ค” ประกาศยุบสภาทิ้งทุ่นปล่อย “วีระ-ราตรี” เผชิญชะตากรรม เชื่อหาก ปชป.ไม่ได้เป็น รบ. 2 คนไทยมีโอกาสได้กลับบ้าน



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (1 เม.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงแนวทางรณรงค์ให้มีการโหวตโนหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นว่า เราได้มีมติไปแล้วจากการหารือระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 2 รุ่น และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ที่ได้หารือร่วมกัน ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นตรงกันว่า สิ่งที่มีประโยชน์ต่อประเทศในขณะนี้ควรมีการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ โดยเสนอให้มีการเวง้นวรรคไม่มีการเลือกตั้งระยะเวลาหนึ่งประมาณ 4-5 ปี เพื่อทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เข้าระบบเสียก่อน แล้วจึงกลับมามีเลือกตั้งตามเดิม แต่หากปีนี้มีการเลือกตั้งก็จะรณรงค์ให้ประชาชนลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ใคร หรือโหวตโน เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา กลับได้ผู้แทนที่แย่ลงๆ เรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นการปกป้องดินแดนอธิปไตย และภาวะข้าวยากหมากแพง ที่บรรดา ส.ส.ไม่ให้ความสนใจ เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้เงินซื้อเสียงเข้ามา และสนใจแต่การทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อเป็นทุนในการเลือกตั้งเท่านั้น

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไปบ้านเมืองเราแย่แน่ จึงเห็นควรว่าต้องมีการปฏิรูปการเมือง และเว้นวรรคการเลือกตั้งระยะหนึ่ง เพื่อปรับระบบให้เข้าที่ ส่วนกระบวนเป็นอย่างไรนั้นเราคงไม่ลงรายละเอียด เหมือนเรารู้ว่าเป็นโรคร้ายแรง ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่รักษาต้องหาวิธีการเอง ซึ่งไม่ใช่นักเลือกตั้งที่ซื้อเสียงเข้ามาที่สนใจต่อปัญหาบ้านเมือง แต่หากมีการเลือกตั้ง ก็ควรมีมาตรการตีโต้ประท้วงกลับโดยลงคะแนนในช่องไม่เลือกใคร เพื่อให้นักการเมืองรู้ว่าประชาชนไม่พอใจ” พล.ต.จำลองกล่าว

ในส่วนกรณีกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างพันธมิตรฯ กับพรรคการเมืองใหม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า เราได้แจ้งจุดยืนให้พรรคการเมืองใหม่ทราบถึงการรณรงค์โหวตโนแล้ว ซึ่งก็อยู่ที่ว่าทางพรรคการเมืองใหม่จะเห็นอย่างไร เพราะเมื่อถึงเวลาเราก็ไม่ลงคะแนนให้แม้แต่พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่ได้ให้สิทธิในการตัดสินใจต่อกรรมการบริหารพรรค การเลือกตั้งครั้งก่อนมีบางจังหวัดที่ช่องไม่ลงคะแนนได้มากกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเสียอีก

ด้าน นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การโหวตโนนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์เคยใช้เป็นกลยุทธ์ในการบอยคอตการเลือกตั้งมาแล้วเมื่อครั้งวันที่ 2 เม.ย.49 รวมไปถึงพรรคพรรคเพื่อไทยในสมัยที่เป็นพรรคพลังประชาชนก็เคยรณรงค์ให้มีการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ในการลงประชามติ ซึ่งทั้ง 2 กรณีถือเป็นแนวทางเดียวกับจุดยืนของพันธมิตรฯ ในครั้งนี้ ดังนั้น การรณรงค์โหวตโนจึงเป็นสิทธิที่พี่น้องประชาชนสามารถทำได้ เป็นการแสดงออกของประชาชนที่สามารถทำได้ หากครั้งนี้การโหวตโนของประชาชนมีมากพอก็จะทำให้เกิดการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้

“เรื่องที่ทำให้ประชาชนมาถึงจุดนี้ก็คือ การไม่ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติที่รัฐบาลไม่นำพา ไม่สนใจผลประโยชน์ของชาติ ประชาชนจึงสิ้นหวัง ดังนั้นเกมโหวตโนเป็นการตอบโต้โดยพลังของประชาชนที่ทรงอานุภาพมาก” นายประพันธ์กล่าว

ส่วนกรณีความช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำประเทศกัมพูชา นายประพันธ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เอาจริงเอาจังในการช่วยเหลือทั้งคู่ โดยครั้งสุดท้ายที่กระทรวงการต่างประเทศแถลงยืนยันว่าทั้ง 2 คนลงนามขออภัยโทษแล้ว แต่ผ่านมาร่วมเดือนกลับไม่มีอะไรคืบหน้า แตกต่างจากกรณีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย หรือการช่วยเหลือ 5 คนไทยก่อนหน้านี้ ที่มีนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรัฐบาลเอาจริงเอาจังติดต่อโดยตรงถึงผ็นำกัมพูชาเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่กรณีของนายวีระ และ น.ส.ราตรี กลับมาแบบเสียไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลประกาศว่าจะยุบสภา ก็เหมือนกลับปล่อยให้ทั้งคู่เผชิญชะตากรรมโดยลำพัง และครอบครัวต้องหาหนทางต่อไป กว่าที่จะมีรัฐบาลใหม่ได้ก็ต้องใช้เวลานาน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าหากมีรัฐบาลใหม่ที่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามา ตนเชื่อว่านายวีระและ น.ส.ราตรี จะมีโอกาสได้กลับประเทศมากกว่า



กำลังโหลดความคิดเห็น