xs
xsm
sm
md
lg

“พันธมิตรฯ” ชู 4 เหตุผลโหวตโน!! เมินคำขอ “ปุ” ชี้ไม่ใช่คำตอบการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ
“ปานเทพ” ชี้ “ปุ” ขอเลือกตนแทนโหวตโน ไม่ใช่คำตอบการเมืองไทย ยันชาวบ้านต้องการปฏิรูป วอนการเมืองใหม่อย่าลงเลือกตั้งงวดนี้ ชู 4 เหตุผลใช้สิทธิไม่ลงคะแนน ด้าน “ลุงจำลอง” ซัด ส.ส.ไม่สนใจปัญหาบ้านเมือง แนะเว้นวรรค 4 ปี เพื่อชาติ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ  

วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครักษ์สันติ ออกมาระบุว่าให้ประชาชนที่จะลงคะแนนโหวตโนมาเลือกตัวเองดีกว่าว่า แสดงให้เห็นว่าแม้แต่คนที่มีกระแสในสังคมยังสามารถเห็นและรับรู้ได้ถึงความต้องการของประชาชนที่รู้สึกเบื่อหน่ายการเมือง และการเมืองแบบสองขั้วไม่ใช่คำตอบของประเทศ อย่างไรก็ตาม การกระทำของ ร.ต.อ.ปุระชัย ไม่สามารถเปลี่ยนความต้องการของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งแต่กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนได้ เหตุเพราะประชาชนไม่ได้ต้องการที่จะเลือกพรรคการเมืองใดเพื่อเป็นความหวังหรือแบบอย่างที่ดีอีกต่อไป เพราะภายใต้ระบบที่จำกัดเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพลเพียงไม่กี่คน การเป็นแบบอย่างที่ดีไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ ต้องอาศัยพลังอำนาจของประชาชนที่มีพลังมากกว่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่พันธมิตรฯ รณรงค์ให้ประชาชนใช้สิทธิและกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน รวมไปถึงการเรียกร้องให้พรรคการเมืองใหม่พิจารณาไม่ลงเลือกตั้งในระบบที่มีปัญหา จึงขอฝากไปถึง ร.ต.อ.ปุระชัย ว่า วันนี้ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงมากกว่าทางเลือกที่เป็นแบบอย่างทางการเมือง เพื่อให้การเมืองโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“การเลือกพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด ไม่สามารถเป็นคำตอบได้ จำเป็นต้องแสดงฉันทานุมัติและเจตนารมณ์ของประชาชนในการปฏิรูปครั้งใหญ่ ที่ไม่สามารถหวังได้จากนักการเมืองที่อยู่ระบบที่หวังเพียงการักษาอำนาจของตัวเองและพวกพ้องเอาไว้เท่านั้น” นายปานเทพกล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ว่าหากลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโนนั้น จะไม่มีผลเปลื่ยนแปลงการเลือกตั้ง หรือไม่สามารถขวางให้พรรคการเมืองเข้าสู่อำนาจรัฐได้เพราะต้องมีพรรคการเมืองที่ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งอยู่ดี ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นความจริง อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ และภาคประชาชนเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบ และจำเป็นต้องมีการเว้นวรรคทางการเมืองไม่มีการเลือกตั้ง และนำไปสู่การปฏิรูปอย่างแท้จริง แต่หากไม่สามารถขัดขวางการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้ เห็นว่าการรณรงค์กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น มีเหตุผล 4 ประการ คือ 1.เป็นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนด้วยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าระบบการเลือกตั้งที่จำกัดเฉพาะกลุ่มบุคคลที่อยู่ในระบบตอนนี้ “ไม่ใช่คำตอบทางการเมือง” และต้องมีการปฏิรูปทางการเมือง 2.หากเสียงของประชาชนที่กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนบวกกับผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเกินว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า นักการเมืองทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นเสียงของประชาชนข้างน้อยเท่านั้น ทำให้ขาดความชอบธรรมในทันที

นายปานเทพกล่าวอีกว่า 3.หากมีประชาชนเข้าร่วมการโหวตโนมากๆ จะทำให้ประชาชนมีโอกาสตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ภาคประชาชน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อสู่การแก้ไขกฎหมายต่างๆ หรือรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่มสิทธิให้แก่ประชาชน และเพิ่มอำนาจในการตรวจสอบ ลดการทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคมมากขึ้น และ 4.จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักการเมืองที่ถูกประชาชนบีบให้ยินยอมต่อการปฏิรูปการเมือง เพราะโดยธรรมชาติของนักการเมืองต้องการคะแนนเสียงให้มากที่สุด

“หากประชาชนรู้จักถอยออกมา สิทธิของประชาชนจะมีคุณค่าทันที ทำให้นักการเมืองยอมจำนนต่อภาคประชาชน เพื่อช่วงชิงเสียงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน จึงเห็นว่าหากมีการเลือกตั้ง ควรมีการรณรงค์เพื่อให้กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนมากกว่าที่จะไปเลือกพรรคการเมืองใดที่ไม่เห็นหนทางในการปฏิรูปการเมืองเลย” นายปานเทพกล่าว

ในส่วนของรูปแบบในการรณรงค์นั้น นายปานเทพกล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี้เริ่มมีการรณรงค์ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่เริ่มมีผู้ให้การสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการรณรงค์กันเอง ทำให้เห็นถึงปรากฏการณ์ที่ประชาชนในโลกออนไลน์ที่รับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารมากขึ้น โดยจะทำควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวที่เวทีการชุมนุม ณ สะพานมัฆวานฯ ที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบต่อปัญหาการทวงคืนแผ่นดินและปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งเป็นที่มาของการรณรงค์โหวตโน โดยเชื่อว่าจะสามารถรณรงค์ให้มากขึ้นหลังจากนายกฯ ประกาศยุบสภา โดยการรณรงค์ก็จะเป็นในลักษณะของการหาเสียงประเภทหนึ่งที่ไม่ใช่แคมเปญที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อให้เกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ โดยจะมีภาคประชาชนทำหน้าที่รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิและกาในช่องไม่เลือกตั้ง พร้อมกับการตรวจสอบการทุจริตในการเลือกตั้งไปด้วย

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในกรณีเดียวกันว่า จากชุมนุมตลอดกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้รัฐบาลและนักการเมืองออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับความสนใจจากนักการเมืองเลย เห็นได้ชัดจากการอภิปรายไม่ไว้วางที่ไม่ให้ความสำคัญต่อกรณีการสูญเสียดินแดน สะท้อนว่า ส.ส.ที่ได้เข้ามาทำหน้าที่เพราะการซื้อเสียงนั้น ไม่สนใจเรื่องปัญหาบ้านเมือง สนใจเพียงการเข้าสู่อำนาจเท่านั้น เมื่อเห็นว่าระบบการเมืองแบบเก่าไม่สามารถไปต่อได้แล้วจึงต้องมีการปฏิรูปการเมืองให้มีการจับระบบให้เรียบร้อย อาจจะเว้นวรรคสัก 4 ปี เมื่อเสร็จแล้วก็ให้พรรคการเมืองเข้ามาดำเนินการต่อไปได้

“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้โดยไม่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ จะทำให้บ้านเมืองเสียหายยับเยินแน่นอน และเมื่อมีการเลือกตั้งก็จะรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ แต่ให้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน” พล.ต.จำลองกล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น