"พิภพ" หวั่น รบ.พลาดซ้ำซ้อน จี้ "มาร์ค" คายผลประชุมที่อินโดฯ เย้ย รบ.ถอนประชุมเจบีซี เพราะจำนนต่อกฎหมาย ย้ำถอนทหารแต่ไม่รื้อวัดแก้วฯประชุมมรดกโลกไทยใบ้กินแน่ๆ ถาม ผบ.ทบ.ชวนคนเลือกตั้ง หากได้ "ปชป.- พท." ประเทศจะดีขึ้นหรือ แนะไปอ่านประวัติศาสตร์สมัย "จอมพล ป."ก่อนเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกครั้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" การเสวนา "ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน"
วันที่ 12 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี วันนี้ถือเป็นชัยชนะของเรา พิสูจน์ชัดเราชุมนุมมา 77 วัน ถูกตลอด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดเก่งแต่ไร้สาระ เป็นโรคความจำสั้นไม่รู้ว่าเมื่อก่อนพูดอะไร สาเหตุที่ต้องถอนรายงานการประชุม เจบีซี 3 ฉบับ ออกจากสภา เป็นเพราะจำนนในแง่กฎหมาย และเหตุผลที่นายอภิสิทธิ์ เคยให้ไว้ผิดทั้งหมด และที่ไม่สามารถเอาทหารอินโดนีเซีย เข้ามาสังเกตการณ์ได้ เป็นผลมาจากการชุมนุมของเรา ย้ำแล้วย้ำอีกว่าเป็นผลร้ายต่อประเทส จนทหารต้องออกมาบอกไม่ยอมให้ทหารอินโดเข้ามา และไม่ไปประชุม จีบีซี ในประเทศที่สาม ทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ต้องยอมจำนน เพราะผลักดันไปไม่ได้จริงๆ นี่ถ้าเป็นนายกฯประเทศอื่นเขาลาออกไปแล้ว นายอภิสิทธิ์ ทำให้เป็นมาตรฐานนายกฯไทยหน่อย ลาออกเทห์กว่ายุบสภาเยอะเลย นอกจากนี้ถ้าลาออกแล้วกลับมาเลือกตั้งยังได้คะแนนเยอะกว่า ยุบสภาแล้วเลือกตั้ง
“จุดแตกหักปัญหาเขาวิหารอยู่ที่วันที่ 19-29 มิ.ย. ซึ่งเขมรจะขอเสนอแผนจัดการมรดกโลก ดังนั้นเราต้องอยู่จนถึงวันที่ 19 มิ.ย. เพราะวันนี้รัฐบาลและทหาร ยังไม่สามารถผลักดันทหารเขมร และรื้อวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร หากถึงเวลาประชุมมรดกโลกที่ปารีส อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเขมรยังยืนอยู่บนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า การประชุมมรดกโลก จะเอาพื้นที่โดยรอบเข้าไปอยู่ในแผนด้วย แต่จะมากน้อยแค่ไหนยังไม่รู้เพราะยังไม่เห็นแผน สาเหตุที่เราต้องชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ เป็นเพราะรัฐบาลยังไม่มีจิตสำนึกใหม่ ในการปฏิเสธแผนกัมพูชา วันนี้ประชาชนที่ไม่ใช่เป็นพี่น้องพันธมิตร หมดความเชื่อมั่นในการรักษาดินแดนของนายอภิสิทธิ์แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหากเราทำงานการเมืองกับคนที่ไม่ได้มาชุมนุมดีๆ ความชอบธรรมเราจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะพิสูจน์แล้วสิ่งที่เราทำถูกต้องในทุกประเด็น ที่สำคัญเราได้ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน และคณะเป็นปากเสียงที่จะยืนหยัดในวุฒิสภาต่อไป
นายพิภพ กล่าวว่านายอภิสิทธิ์ ต้องยอมรับว่าตัวเองผิดพลาดในวิธีคิด ผิดพลาดในทางกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายมาก ดูได้จากอยู่ดีๆ ไปเสนอศาลรัฐธรรมนูญตีความจนถูกตอกกลับมา ไม่แม่นทางกฎหมายทำให้การต่อรองกัมพูชาเพรี่ยงพล้ำมาตลอด มีปัญหาว่าทำไม นายอภิสิทธิ์ ต้องยืนยันเส้นเขตแดนสันปันน้ำที่ทำโดยสยาม - ฝรั่งเศสเมื่อ 103 ปีที่แล้ว เข้าไปอยู่ในเอ็มโอยู43 และทำไมไม่เอาเรื่องนี้ยืนยันในที่ประชุมคณะมนตรีองค์การสหประชาชาติ ทั้งนี้ตนได้ยินเสียงกระซิบจากคณะรัฐมนตรี ว่า นายกฯต้องถอนมติ เพราะถอนมติเสียหน้าแค่นายอภิสิทธิ์กับนายกษิต เท่านั้น แต่หากไม่ถอนจะมีผลทางกฎหมายทั้งคณะรัฐมนตรี ในการเจรจาทางการเมืองระหว่างประเทศ เห็นกันอยู่นายอภิสิทธิ์ ผิดพลาดอะไรมาบ้าง จำนนต่อกฎหมายอะไรมาตลอด หากนายอภิสิทธิ์ จะมีปัญญาต่อสู้เลห์กลเขมรต้องกลับมาพึ่งปัญญาพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ ต้องหยุดดื้อรั้น ต้องฟังพันธมิตรฯมากขึ้น เชื่อ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายเทพมนตรี ลิมปพยอม ไม่รังเกียจที่จะจับเข่าคุยอีกครั้ง เพราะนี่เป็นเรื่องของแผ่นดิน
“ก่อนการประชุมที่ปารีส จะมีการประชุมเจบีซี อย่างน้อยอีกหนึ่งครั้ง อยากให้นายกฯ เมื่อทำผิดพลาดมาตลอด ท่านต้องไม่ทำผิดพลาดอีก ต้องเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างต่อสาธารณชนให้ทราบ เริ่มต้นด้วยการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งที่ 4 ซึ่งเราอยากรู้ว่าผู้แทนไทยไปประชุมเราได้รื้อฟื้นศักดิ์ศรีของประเทศที่เสียไปในการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ครั้งหรือไม่ ในสิ่งที่ ฮอนัมฮง หยามไทย กับให้ถอนทหารออกจากวัดแก้วฯ โดยไม่รื้อวัดแก้วฯ”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า หากเราอยู่ไปตลอดสิ้นสุดการประชุมนุมมรดกโลก เราต้องอยู่ อีก 77 วัน ถึงวันนั้น รัฐบาลไทยต้องถอนตัวออกจากมรดกโลก ถ้าพ่ายแพ้กัมพูชา และยกเลิกเอ็มโอยู 43 เพราะทำให้เราเสียเปรียบกัมพูชามาตลอด แผนการเราตอนนี้ ถ้านายอภิสิทธิ์ ยังจำคำพูดตัวเองได้ ต้องยุบสภาภายในต้นเดือนพฤษภาคม การเลือกตั้งก็จะอยู่ช่วงเดือน มิถุนายนไม่เกินกรกฎาคม ดังนั้นในเดือนมิถุนายน เราต้อง 1.ปกป้องดินแดนที่มีปัญหา 2.รณรงค์โหวตโนเพื่อปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศ
นายพิภพ กล่วถึง ผบ.ทบ. ว่าท่านบอกอยากเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ด้วยการเรียกร้องให้มาลงคะแนนเสียงให้มากที่สุด เรื่องนี้แม้ท่านไม่บอกว่าให้เลือกพรรคไหน แต่เป็นที่รู้กันดีมีสองพรรคให้เลือก ไม่ประชาธิปัตย์ก็เพื่อไทย ดังนั้นขอถามท่านจริงๆ หากเลือกพรรคไดพรรคหนึ่งจะทำให้ประเทศไทยพ้นจากการเมืองน้ำเน่าหรือไม่ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลอีก จะทำถูกต้องต่อประเทศไทยมากกว่านี้หรือ ส่วนพรรคเพื่อไทย ถ้าได้คะแนนเสียงข้างมาก จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นจริงหรือ
อย่างไรก็ดี ตนรู้ความหวังดีของท่านที่ต้องการให้ประเทศไทยดีขึ้น วันนี้บทนำในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเขียนดีมาก ว่า การทำปฎิวัติใช้อำนาจในการปกครองประเทศผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และการซื้อเสียงก็เป็นการเข้าสู่อำนาจโดยไม่ชอบเช่นเดียวกัน เพียงแต่ฝ่ายหนึ่งใช้กำลังบังคับ แต่อีกฝ่ายหนึ่งใช้อำนาจเงินเข้ามามีอำนาจ ดังนั้น ประชาชนจึงมีสิทธิต่อต้านการใช้อำนาจนี้
นายพิภพ กล่าวต่อว่าถ้า ผบ.ทบ. เข้าใจคำว่าโหวตโนซึ่งเครื่องมือของประชาชน ในการต่อต่านการเข้าสู่การเมืองด้วยการใช้กระสุนเงิน สิ่งที่ประชาชนทำได้ 1. ไม่ไปเลือกตั้งทั้งหมดทั่งประเทศ 2.ไปเลือกตั้งแต่โหวตโน และ3.ชุมนุมในที่สาธารณะ ทั้งนี้อยากให้ ผบ.ทบ. ไปอ่านประวัติศาสตร์ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม กระบวนการเลือกตั้งมีการโกงอย่างมโหฬาร แล้วเกิดอะไรขึ้นที่สะพานมัฆวานแห่งนี้ ทำให้พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก กลายเป็นวีรบุรุษในครั้งนั้น เป็นเหตุให้ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้อำนาจจากปลายกระบอกปืนยึดอำนาจ ดังนั้นหากท่านไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จากโพลไม่ต้องการเลือกพรรคการเมืองใดเลยถึง 60% เชิญท่าน ผบ.ทบ. มามองการเมืองร่วมกันเราคิดตรงกัน ว่า การเมืองแย่ แต่วิธีการยังไม่ตรงกัน รู้ว่าท่านหวังดี ถึงกล้าที่จะออกมาในระยะนี้ แต่สิ่งที่ท่านเสอนมันไม่ใช่ ก็จะกลายเป็นอัปรีย์อยู่ จัญไรเข้าไปได้ หรืออัปรีย์ไปจัญไรมา เมื่อเป็นเช่นนี้ตนอยากขอช่วนท่านมาร่วมโหวตโน เพื่อแสดงประชามติ ว่าไม่เอาพรรคการเมืองแบบเก่าทั้งหมด