ASTVผู้จัดการรายวัน- ส.ว.ระยองออกโรงจี้ทหารผลักดันเขมรออกจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ลั่นหากมีปัญหา ต้องมีคนรับผิดชอบ "ลุงจำลอง" จวกรัฐบาลไม่จริงใจช่วย "วีระ-ราตรี" แต่พอใจท่าทีของรัฐบาล-กองทัพ ที่เริ่มยอมรับว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร เป็นของไทย ตามที่พันธมิตรฯ ย้ำอยู่เสมอ สมช.โว ประชุมเจบีซีคืบหน้าหลายเรื่อง สรุปเสนอประเทศที่ 3 ถ่ายภาพพื้นที่ทางอากาศ ส่งทำสำรวจหลักเขต 1-23 เผย อาเซียนย้ำข้อพิพาทต้องเป็นทวิภาคี ย้ำ กต.ไม่ให้อินโด เข้า 4.6 ตร.กม.
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ยังถูกคุมขังอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ว่า เรื่องดังกล่าวค่อนข้างเงียบ ไม่มีสัญญาณว่ามีการดำเนินการช่วยเหลืออย่างไรต่อ มีเพียงคนในรัฐบาลที่ออกมากล่าวหาว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ที่โจมตี นายฮุนเซน นายกฯกัมพูชาอย่างหนัก เป็นเหตุให้นายวีระ และ น.ส.ราตรี ไม่ได้รับการลดโทษ หรืออภัยโทษนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการที่พันธมิตรฯ โจมตีนายฮุนเซน นั้นเป็นเพราะกัมพูชามีแนวคิดที่ไม่หวังดีกับประเทศไทย ดังนั้นคงจะให้ไปสรรเสริญเยินยอ คงเป็นไปไม่ได้ โดยเรื่องนี้ทางครอบครัวของนายวีระ และน.ส.ราตรี มีความเข้าใจดี
อย่างไรก็ตาม พล.ต.จำลอง แสดงความพอใจต่อการปรับท่าทีของรัฐบาล และกองทัพต่อปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกล่าวว่า ช่วงหลังมานี้กองทัพ และรัฐบาลมีการปรับท่าทีที่เหมาะสมมากขึ้น ตรงกับที่พันธมิตรฯ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้หลายประการ อาทิ การไม่ยอมให้ทหารอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร หรือการไม่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป ( จีบีซี ) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.จำลองยังได้เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ บนเวทีสะพานมัฆวานฯ จะมีการจัดงานเล็กๆ มีกิจกรรม อาทิ การนิมนต์พระมาเทศนา และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ตามขบธรรมเนียมประเพณี รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่พันธมิตรฯ ได้ส่งงบประมาณสนับสนุนไปยังพันธมิตรฯท้องถิ่น เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือโดยตลอด แต่อาจไม่ใช่งบประมาณที่มากเท่ากับงบประมาณของรัฐบาล
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (11 เม.ย.) ได้มีการประชุมหารือระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 2 รุ่น และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ซึ่งผลการประชุมยังยืนยันว่า หากมีการเลือกตั้ง จะรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ และลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือ โหวตโน ควบคู่กับการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง
** ย้ำผู้สังเกตการณ์ต้องไม่ใช่ทหาร
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงท่าทีล่าสุดของทางการอินโดนีเซีย ที่ไม่ขัดข้อง กรณีไม่ว่าจะมีกองกำลังทหารของอินโดนีเซียในฐานะ ผู้สังเกตุการณ์ในพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม. ว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้รายงานอะไรมาให้รับทราบ
เมื่อถามว่า แต่ทางนายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศกัมพูชา ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายไทย ต้องยอมรับ บทบาทของอินนีเซียนในฐานะที่เป็นประธานอาเซียน ซึ่งพยายามจะส่งคณะผู้สังเกตุการณ์เข้ามา นายสุเทพ กล่าวว่า เรายอมรับผู้สังเกตุการณ์ แต่ต้องไม่ใช่กองกำลังทหาร
** จี้กองทัพผลักดันเขมรพ้นพื้นที่4.6 ตร.กม.
ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ช่วงก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือนั้น นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ได้หารือถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า นายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ต่างยอมรับว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหารเป็นเขตอุทยานแห่งชาติของไทย ตามที่ประกาศในพระราชกฤษฎีกา 2541 จึงขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ใช้อำนาจหน้าที่ ดำเนินการผลักดันให้ทหารและประชาชนชาวกัมพูชาที่ได้ลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวออกไปจากเขตแดนไทย ทั้งนี้เพราะหากปล่อยไว้จะเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนให้กับกัมพูชาอย่างถาวรได้ และหากเป็นเช่นนั้น คงต้องเรียกร้องให้คนออกมารับผิดชอบต่อผลเสียหายตามกฎหมาย
***สมช.โวถกเจบีซีคืบ
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเรื่องความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ว่า จากการประชุมเจบีซี เมื่อวันที่ 7-8 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผลคืบหน้าในหลายเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรอให้สภาเห็นชอบบันทึกการประชุมทั้ง 3 ฉบับ คือ 1.เรื่องของการตกลงภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งต้องมีการตกลงเรื่องบริษัทที่จะเข้ามา ตอนนี้อยู่ระหว่างการเสนอให้ประเทศที่สาม ที่ไม่มีผลประโยชน์ข้างใดข้างหนึ่ง คิดว่า น่าจะพูดคุยกันได้ โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการสรุปว่า จะเป็นประเทศใด 2.ให้ชุดสำรวจลงไปสำรวจหลักเขตที่ 1-23 รวมถึงเรื่องของการเปิดจุดผ่านแดนที่สตึงบก จ.สระแก้ว ซึ่งเรื่องนี้มีความคืบหน้าดำเนินการต่อไปได้ และ 3.เรื่องการที่จะมีชุดสังเกตการณ์ของทางอินโดนีเซีย 15 คน เข้าไปในพื้นที่นั้น ขณะนี้มีการพูดคุยกันอยู่ในกรอบของการเจรจาของทางกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่กรอบการเจรจาของจีบีซี ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ที่จะให้เข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ขณะเดียวกัน ผลการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่าส่วนใหญ่มีความเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ควรเป็นเรื่องของทวิภาคีไม่ปรารถนาที่จะให้เรื่องนี้เป็นเรื่องไปสู่ประชาคมโลก
เมื่อถามว่า เรื่องเจบีซีจะต้องนำเข้าสภา หรือเป็นแค่เพียงการรายงานให้รับทราบเท่านั้น นายถวิล กล่าวว่า ผลการประชุมที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย นั้น ไม่ได้เป็นหนังสือสัญญา เป็นแค่บันทึกการประชุม ฉะนั้น ก็ไม่ต้องเสนอสภา แต่ว่าตัวบันทึกการประชุมอีก 3 ครั้งคงต้องรอสภาพิจารณา
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องจีบีซี หรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า จีบีซีไม่มีพิจารณาเรื่องนี้ ให้กลไกของกระทรวงการต่างประเทศไปพูดคุย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับทางกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีความชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ส่วนจะให้ผู้สังเกตการณ์ 15 คน ที่อยู่ในฝั่งไทยนั้น มาทำหน้าที่อะไร ขณะนี้กำลังคุยกันอยู่ เมื่อถามว่า จะมีการเลื่อนประชุมจีบีซี หรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นในเรื่องนี้ ซึ่ง รมว.กลาโหม ได้ยืนยันว่า จีบีซีเป็นเรื่องระหว่างเรากับกัมพูชา
ส่วนเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านนั้น นายถวิล กล่าวว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์กับประเทศลาว และพม่า ก็ค่อนข้างจะดี โดยจะมีการเปิดจุดผ่านแดนบริเวณด่านสตึงบก ของประเทศกัมพูชา หรือบริเวณอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของประเทศไทย ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทางกัมพูชาได้เร่งรัดมา ส่วนเรื่องการค้าขาย การไปมาหาสู่ยังเป็นไปตามปกติ