“ลุงจำลอง” ประกาศเดินหน้าชู “โหวตโน” เริ่มเดินสายทั่วประเทศ เริ่มจุดแรกที่ จ.ขอนแก่น 17 เม.ย.นี้ ส่ง “สมเกียรติ” ร่วมเสวนาชี้ระบบการเมืองล้มเหลว ยันชุมนุมบริสุทธิ์ไม่หวังผลให้พรรคไหน ชี้หนุนเลือกตั้งแต่ไม่ลงคะแนนให้ใคร ถือเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ฉะรัฐช่วย “วีระ-ราตรี” ไม่คืบ แต่พอใจท่าทีรัฐบาล-กองทัพที่ปรับตามพันธมิตรฯ พร้อมเผยสงกรานต์จัดงานรดน้ำดำหัวเล็กๆ ที่มัฆวานฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (11 เม.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 เม.ย.ที่จะถึงนี้ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ และคณะจะไปร่วมการเสวนาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนร่วมลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโน หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยจะชี้ให้เห็นว่าระบบการเมืองในปัจจุบันไปไม่รอดแล้ว เพราะนักการเมืองไม่ทำหน้าที่ในการปกป้องดินแดนอธิปไตยและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่มีการชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์มักมีผู้กล่าวหาว่าพันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมเพื่อหวังผลประโยชน์ให้แก่พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหม่ แต่ในความเป็นจริงชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่ เพราะการชุมนุมไม่ได้กล่าวถึงพรรคการเมืองใหม่ มีเพียงการเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาทำหน้าที่ปกป้องดินแดน ไม่มีการพูดถึงพรรคการเมืองใด และเวลาที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค หรือนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค มาขึ้นเวทีปราศรัยก็ไม่ได้มีเนื้อหาในการสนับสนุนพรรคแต่ประการใด
“เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าประเทศกำลังมีปัญหา จึงขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศร่วมกันสั่งสอนนักการเมืองที่หวังซื้อเสียงเข้ามายึดอำนาจรัฐ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยการไม่ลงคะแนนให้ผู้ใด หรือโหวตโน เพื่อเป็นการลงโทษนักการเมืองในระบบปัจจุบัน”
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายโจมตีว่าการรณรงค์โหวตโนของพันธมิตรฯ ไม่เป็นประชาธิปไตย พล.ต.จำลองกล่าวตอบโต้ว่า ตนขอยืนยันว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ รณรงค์เป็นประชาธิปไตย และสนับสนุนการเลือกตั้ง เพราะชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ไม่เลือกใคร และหากว่าการลงคะแนนช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนผิดหลักประชาธิปไตย เหตุใดจึงมีช่องดังกล่าวในบัตรเลือกตั้ง
พล.ต.จำลองยังได้กล่าวถึงการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ยังถูกคุมขังอยู่ที่ประเทศกัมพูชาด้วยว่า เรื่องดังกล่าวค่อนข้างเงียบ ไม่มีสัญญาณว่ามีการดำเนินการช่วยเหลืออย่างไรต่อ มีเพียงคนในรัฐบาลที่ออกมากล่าวหาว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯที่โจมตีนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชาอย่างหนักเป็นเหตุให้นายวีระและ น.ส.ราตรีไม่ได้รับการลดโดษหรืออภัยโทษนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการที่พันธมิตรฯ โจมตีนายฮุนเซนนั้นเป็นเพราะกัมพูชามีแนวคิดที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทย ดังนั้นคงจะให้ไปสรรเสริญเยินยอคงเป็นไปไม่ได้ โดยเรื่องนี้ทางครอบครัวของนายวีระ และ น.ส.ราตรีมีความเข้าใจดี
พล.ต.จำลองแสดงความพอใจต่อการปรับท่าทีของรัฐบาลและกองทัพต่อปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกล่าวว่าช่วงหลังมานี้กองทัพและรัฐบาลมีการปรับท่าทีที่เหมาะสมมากขึ้น ตรงกับที่พันธมิตรฯ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้หลายประการ อาทิ การไม่ยอมให้ทหารอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร หรือการไม่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
พล.ต.จำลองยังได้เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์บนเวทีสะพานมัฆวานฯ จะมีการจัดงานเล็กๆ มีกิจกรรม เช่น การนิมนต์พระมาเทศนา และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุตามขนบธรรมเนียมประเพณี รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่พันธมิตรฯ ได้ส่งงบประมาณสนับสนุนไปยังพันธมิตรฯ ท้องถิ่นเพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือโดยตลอด แต่อาจไม่ใช่งบประมาณที่มากเท่ากับงบประมาณของรัฐบาล