สมช.ยันสงกรานต์ไร้ป่วน ย้ำพร้อมส่งหม่องอพยพกลับบ้านเกิดแต่ไม่ใช่ตอนนี้

เลขาฯ สภาความมั่นคง ชี้สงกรานต์เรียบร้อย ทุกฝ่ายมองสู่เลือกตั้ง ยันฝ่ายมั่นคงเป็นกลาง ย้ำไทยยังช่วยด้านมนุษยธรรมหม่องอพยพ โยนยูเอ็นเอชซีอาร์ส่งบางส่วนไปประเทศที่ 3 ยันเห็นพ้ององค์กรต่างชาติส่งกลับบ้านเกิดเมื่อพร้อม แต่ไม่ใช่ตอนนี้

วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ขณะนี้สถานการณ์ความสงบเรียบร้อยดี ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายก็คงจะมองไปถึงการเลือกตั้ง กลับไปหาประชาชน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคง และฝ่ายปกครองดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ และดำรงอยู่ในความเป็นกลาง เพราะต้องการให้เกิดบรรยากาศของการพัฒนาไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และหวังว่าการเลือกตั้งจะก้าวไปข้างหน้าได้ และแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการผลักดันชาวพม่าออกจากพื้นที่ไทยหลังจากเหตุการณ์ในพม่าสงบว่า ยืนยันว่าไทยจะยังยืนยันนโยบายที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยชนแก่คนเหล่านี้ที่หนีภัยสู้รบมาตั้งแต่อดีตในการให้ที่พักพิงชั่วคราว ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ และด้านอื่นให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ถึงแม้ว่าจะเป็นภาระกับไทยมากพอสมควรก็ตาม ไทยยืนยันมาตลอดว่าการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยสู้รบต้องเป็นไปตามปัจจัยของข้อเท็จจริง อาจจะมีบุคคลจำนวนหนึ่งอาจจะเดินทางกลับไม่ได้ต้องไปถิ่นฐานประเทศที่ 3 เป็นหน้าที่ของยูเอ็นเอชซีอาร์ที่จะมีมิตรประเทศรับไป อย่างไรก็ตาม มีอีกจำนวนมากพร้อมที่จะเดินทางกลับ เพียงแต่รอให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อยมากพอ ซึ่งเมื่อวันที่ 11 เม.ย.สภาความมั่นคงฯ มีการประชุมกันเราก็มองเห็นปัจจัย หรือเงื่อนไขต่างๆที่พอจะทำได้ คือ พม่ากำลังจะพัฒนาไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเนื่องจากจะมีการเลือกตั้ง ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านและสมาชิกอาเซียน สมช.ก็สนับสนุนให้เกิดความปรองดองในชาติ เพราะเป็นประโยขน์ต่อชาวพม่า

นายถวิลกล่าวต่อว่า ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ว่ายอมรับว่าการแก้ไขปัญหานี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามปัจจัย ตามเหตุแต่ละกรณี ส่วนไทยเห็นว่ามีบางส่วนที่เดินทางกลับได้ เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะทำงานร่วมกันระหว่างไทย ประเทศเพื่อนบ้าน ยูเอ็นเอชซีอาร์ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ มิตรประเทศ เตรียมคนเหล่านี้ให้พร้อมเพื่อให้เดินทางกลับไปเริ่มชีวิตใหม่ในบ้านเมืองของเขา ดังนั้น เมื่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นตรงกันก็จะสามารถทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าจะส่งชาวพม่ากลับไปวันนี้หรือพรุ่งนี้