ศูนย์ข่าวพรมแดน โผล่ร้องประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา สอบกองทัพภาค 3 ส่งกลับผู้ลี้ภัยสงครามกระเหรี่ยงคริสต์กับกะเหรี่ยงพุทธกว่า 3,500 คน ชี้ส่อพาคนกลับไปตาย จี้ยับยั้งส่งกลับทั้งหมด และโยนให้UNHCR ตรวจสอบจนกว่าจะพบความปลอดภัยในการส่งกลับ ส่วนคนไม่อยากไปให้ย้ายอาศัยค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละ ด้าน “ส.ว.สมชาย” รับลูกจ่อดันเข้าถก กมธ.
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนศูนย์ข่าวข้ามพรมแดน นำโดย นายอดิศร เกิดมงคล ได้ยื่นเรื่องต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และตัวแทนคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีกองทัพภาคที่ 3 มีมติเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ให้ส่งกลับผู้ลี้ภัย กลุ่มเดือน มิ.ย.2552 สืบเนื่องจากการสู้รบระหว่างกองกำลังเคเอ็นยู หรือกะเหรี่ยงคริสต์ กับกองทัพ รัฐบาลพม่า ที่ร่วมกับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ หรือดีเคบีเอ ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยราว 3,500 คน ซึ่งเกินกว่าครึ่งเป็นเด็ก ที่เหลือเป็นผู้หญิงและคนชรา หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และอาศัยอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราว บ้านหนองบัว และบ้านอุสุทะ
ทั้งนี้ ศูนย์ข่าวข้ามพรมแดนได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และกังวลต่อมติให้ส่งกลับผู้ลี้ภัยอาจมีปัญหา เนื่องจากการบังคับส่งกลับผู้ลี้ภัยไปสู่ความตาย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎจารีตระหว่างประเทศว่าด้วยหลักการการไม่ส่งผู้ลี้ภัย เครือข่ายฯ จึงมีข้อเสนอต่อคณะกรรมาธิการให้เร่งพิจาณา และดำเนินการโดยให้หยุดยั้งส่งกลับผู้ลี้ภัยทั้งหมด จนกว่าจะมีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสว่า ผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะไม่เกิดอันตรายใดๆ โดยสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ ทางรัฐบาลไทยจะต้องให้ยูเอ็นเอชซีอาร์มีอิสระในการทำทะเบียนรายชื่อ และสอบถามความสมัครใจของแต่ละคนในเงื่อนไขต่างๆ และต้องให้ยูเอ็นเอชซีอาร์มีบทบาทดูแลให้ผู้ลี้ภัยได้กลับอย่างปลอดภัย โดยเปิดเผยต่อสื่อมวลชน สำหรับผู้ลี้ภัยที่ไม่เต็มใจจะกลับให้พิจารณาย้ายเข้าค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละ ซึ่งอยู่ในความควบคุมของกระทรวงมหาดไทยโดยสมบูรณ์ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลต้องควบคุมมิให้มีการผลักดัน ผู้ลี้ภัยกลับ อันเป็นการเสี่ยงชีวิตต่อกับระเบิด ที่มีการวางไว้ตามตะเข็บชายแดน
ด้าน นายสมชายกล่าวว่า ตนจะเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะถือว่าเรื่องนี้ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน
