“พล.ร.ท.ประทีป” สวนแนวคิด ผบ.ทอ. เชื่อหลังเลือกตั้งส่อเค่้าวุ่น พยากรณ์อนาคต ปชป.แพ้ พท. สภาอันทรงเกียรติจะเต็มไปด้วยโจรในคราบนักการเมือง ชี้ความมั่นคงชาติอยู่เหนือ รธน. หากล่มสลาย ประเทศก็ล่มสลาย ขณะที่ “พล.อ.ปรีชา” ย้ำ “นช.แม้ว” ผิดอาญา ไม่เกี่ยวการเมือง มั่นใจทหารสลายแดงไม่ผิด ซัด ตร.นครบาล-ดีเอสไอทำไม่ทันตาม ป.วิอาญา เลยไม่ได้ใช้ข้อกฎหมายต่อสู้ให้ตัวเองพ้นผิด
คลิกที่นี่ เพื่อฟังการเสวนา “ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน” โดย พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์
วันที่ 9 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องดินแดน กล่าวถึงความไม่สอดคร้องกับสิ่งที่ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พูดว่า “ภายหลังการเลือกตั้งเหตุการณ์จะเรียบร้อย” คือปฏิกิริยานางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกให้เห็นว่า เหตุการณ์ภายหลังเลือกตั้งไม่สงบแน่ ตัวชี้วัดอีกอย่างคือ การแสดงความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้ นปช. จับตาการเลือกตั้งว่ายุติธรรมหรือไม่ ซึ่งคำจำกับความยุติธรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ หมายความว่า พรรคไทยรักไทยต้องชนะเท่านั้นถึงจะเรียกว่ายุติธรรมใช่หรือไม่ นอกจากนี้นายจตุพร พรหมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ทำนอง “ถ้าไม่ชนะป่วนเมือง”
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวต่อว่า ผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแม้ไม่มีการโหวตโน พันธมิตรฯ เทคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ กระนั้นก็ไม่สามารถชนะเพื่อไทย ตนยังเชื่อระบอบทักษิณ ยังวางยุทธิวธี ครองใจชนชั้นล่าง ซึ่งเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้ง ประกอบกับการปรองดองที่ผิดพลาดของรัฐบาล ที่ไปปล่อยหัวโจกแดงออกมาเคลื่อนไหว ทำให้การขับเคลื่อนของเสื้อแดงที่เป็นตัวละครหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งยิ่งขึ้น และด้วยอิทธิพล ความเป็นตัวตนของพรรคเพื่อไทยมีเล่ห์กลชั้นสูง สามารถกล่อมพรรคชั้นกลางให้เข้าร่วมได้มากว่าพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น ตนพยากรณ์อนาคต พรรคประชาธิปัตย์จะต้องแพ้การเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าบรรดาแม่ทัพที่ใต่เต้าขึ้นมาเป็น ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งแสดงได้ถึงความเป็นผู้มีภูมิความรู้ จะคิดไม่ได้เหมือนตน ดังนั้น ถ้า ผบ.เหล่าทัพสามารถวิเคราะห์ได้ว่าอำนาจรัฐจะเปลี่ยนมือเป็นของระบอบทักษิณ เมื่อเป็นเช่นนี้ แอ็กชันที่ ผบ.เหล่าทัพแดดงออกมา “การันตรีไม่ปฏิวัติ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง สบายใจได้ไม่มีรัฐบาลตามมาตรา 7” เป็นการย้ำให้มั่นใจใช้อำนาจครองการเมืองได้ใช่หรือไม่
“ในเมื่อวิเคราะห์ได้อำราจจะเปลี่ยนมือ ท่านออกมาพูด ซึ่งที่จริงน่าจะอยู่เฉยๆดีกว่าจะแกว่งเท้าหาเสี้ยน หรือเป็นเพราะต้องแถลงไปอย่างนั้น เพื่อรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี แถลงไปอย่างนั้นเพราะประเทศชาติไม่ใช่ของเราคนเดียว แถลงไปอย่างนั้นเพราะอำนาจรัฐหากเปลี่ยนมือจะได้ไม่หลุดจากตำแหน่ง หรือแถลงไปอย่างนั้นเพราะกลัวระบอบทักษิณ ใช่หรือไม่”
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวว่า หากนึกถึงนายเสนาะ เทียนทอง ทำให้นึกถึงคำพูดที่นักการเมืองชอบใช้ “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” เมื่อเอาไปเปรียบได้กับคติ โจรบอก “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” แสดงให้เห็นว่าทั้งนักการเมืองและโจรมีเป้าหมายเหมือนกัน คือ มุ่งมีผลประโยชน์เรื่องเงินทอง ชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีจอมโจร แต่เป้าหมายนัการเมืองกับโจรต่างกัน เพราะพฤติกรรมของนักการเมืองมีกฎหมายรองรับ ทำให้กระสันอยากไปเป็น ส.ส. เพื่อไม่ให้ติดคุก เหมือนคนเสื้อแดงบางคน ที่จะเป็น ส.ส. เป็นโจรที่จะแฝงเข้าไปในคราบนักการเมือง
“จึงไม่แปลกอนาคตอันใกล้นี้ สภาอันทรงเกียรติจะเต็มไปด้วยนักเลงอันธพาล โจรในคราบนักการเมือง แล้วจะได้เห็นภาพสภาแก้กฎหมายให้โจรมีอำนาจ กฎหมายนิรโทษกรรมจะต้องผ่านสภา อยากเอาคำพูดนายเสนาะ “รู้สึกเสียดายที่เชื่อคนง่าย คนที่ตนให้การสนับสนุนเป็นคนดี แต่กลับเป็นคนโกงทุกอย่างที่ขวางหน้า และโกงทุกอย่างถูกกฎหมาย” แสดงการแก้กฎหมายจะเกิดขึ้น เพื่อให้โกงทุกอย่างโดยถูกกฎหมาย”
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวอีกว่า ขอฝากถึงกองทัพ ท่านอย่ายึดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทางมาตรา 74 ที่ให้เป็นกลางทางการเมือง จนท่านขยับตัวไม่ได้ ย้ำภายใต้การบริหารของนักการเมือง จะนำมาซึ่งควาามมั่นคงหรือไม่มั่นคงซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบกองทัพด้วย หากเห็นว่านักการเมืองบริหารประเทศ กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ของสถาบัน ท่านต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ความมั่นคงของชาติอยู่เหนือความเป็นกลางทางการเมือง อยู่เหนือบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะหากความมั่นคงของชาติล่มสลาย ประเทศก็ล่มสลาย แล้วจะมีรัฐธรรมนูญไปทำอะไร ในเมื่อประเทศล่มสลายไปแล้ว
ด้าน พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ คณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า เหตุการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นยกเว้นภัยธรรมชาติ นอกนั้นเป็นการวางแผนของนักการเมือง เชื่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่ากระพริบตา อาจไม่มีการโหวตโน ฝากเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะเสนาธิการทหารบก วางกำลังให้ว่างอยางน้อย 1 กองพล ในช่วง 1-2 เดือนนี้ อย่างไรก็ดี 1 กองพล ถือว่าน้อยสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองในภาวะเช่นนี้ แต่ไม่ต้องห่วงท่านยังมีพันธมิตรฯหนุนหลัง
พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเข้ามา เขาอาจขอนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำความผิดทางอาญญากรรม ไม่เกี่ยวกับการเมือง ดังนั้นหากนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษในเรือนจำทั่วประเทศก็ต้องได้รับนิรโทษกรรมด้วย
“เราไม่เคยเห็นคนในครอบครัวสถาบัน ออกมาพูดขอความเป็นธรรมให้บิดา ข้อบกพร้องนี้ตนโทษไปที่รัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว ความผิดจาบจ้วง เกิดมานานแล้วในภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังใจเย็น ทั้งที่มีเคลื่องมือมากมาย นี่คือวิกฤติผิดผลาดที่ใด้นายกหุ่นเชิดเป็นผู้นำของชาติ ดังนั้นหากทำเหมือน 2ปี ที่ผ่านมาก็ไม่สมควรเป็นผู้นำอีก”
พล.ต.ท.สมเกียรติกล่าวว่า อยากให้ความเป็นธรรมกับทหาร ที่ทหารถูกกล่าวหาไปยิงเสื้อแดงว่า เป็นข้อบกพร่องของการสอบสวน โดยเฉพาะตำรวจนครบาล และดีเอสไอ เรื่องนี้ตนคิดว่าทหารไม่ผิด ที่ว่าไม่ผิดเพราะเป็นการต่อสู้ป้องกันพอสมเหตุ งานสอบสวนต้องดูก่อนเกิดเหตุ ต้องดูขณะนั้นเสื้อแดงมีอาวุธปืนอะไรบ้าง ทหารได้ตั้งจุดสกัดพยายามเอาอาวุธปืนจากผู้ชุมนุมแต่ไม่สามารถเอาออกมาได้และก่อนเข้ากระชับพื้นที่ ก็ประกาศจะไม่ใช้อาวุธอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังประกาศจะเอาอาวุธมายิงทหารไม่ได้ ทหารมีอำนาจเข้ากระชับพื้นที่ ทั้งนี้ถ้าตนเป็นทหารอยู่ในภาวะเช่นนั้นก็ต้องยิง ยิงแล้วสามารถ อ้างการต่อสู้พอสมควรแก่เหตุได้ อย่างไรก็ดีการชันสูตรในวันเกิดเหตุ ตนมันใจว่า ต้องปล่อยปะละเลยทำไม่ทัน ตามกฎกติกาของกฎหมายวิธีพิจารณาความวิอาญา เลยไม่ได้ใช้ข้อกฎหมายต่อสู้ให้ตัวเองพ้นผิด
“บอกได้ว่าทหารในวันนั้นไม่ผิด ให้พนักงานสอบสวนออกมาเถียงตนเรื่องนี้ได้เลย ตนเคยผ่านงานด้านนี้มามากมาย คนที่ไม่เคยทำงานด้านวิสามัญฆาตกรรม สอบสวนก็ลำบาก" พล.ต.ท.สมเกียรติกล่าวทิ้งท้าย