xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.โหมกระแสพท.ทำเพื่อ"แม้ว" แฉแผนป่วนเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อติดตามผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อย่างที่ตนบอกว่าพวกนี้มีการทำแผน และวางแผนล่วงหน้า ปั่นกระแสโพลว่าเขาจะชนะเยอะ และพยายามสร้างภาพว่ามีการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต และเมื่อแพ้เลือกตั้ง ก็จะนำมาเป็นข้ออ้างในการป่วน
เมื่อถามว่าเมื่อมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าจะส่งผลต่อบรรยากาศการเลือกตั้งอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องอยู่กับความเป็นจริง และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องเป็นหลักดูแลให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรม ตนยืนยันว่า เมื่อใกล้เวลาเลือกตั้ง ก็จะมีการหารือกับกกต. เพื่อให้เป็นเจ้าภาพ ในการที่ให้ทุกฝ่ายมาตกลงว่า กังวลเรื่องอะไร อย่างไร ใครจะมาแทรกแซง ตนบอกได้ว่า ตนไม่ทำอย่างที่พวกนายจตุพรเคยทำสมัยที่มีอำนาจรัฐ ส่วนพฤติกรรมของนายจตุพร ที่ทำในอดีตคืออะไรนั้น เดี๋ยววันหลังจะให้ดู
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามามีบทบาทมากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดาเพราะการเลือกตั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย เขาก็คงอยากจะวนอยู่กับประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเรื่องหลัก ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องตัดสินใจ แต่ในส่วนของตน เป็นเรื่องของประชาชนทั้งประเทศ และเดินหน้านโยบายต่อไป
เมื่อถามว่านางสดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาระบุว่า จะมีคนลงมาจัดการกับการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นล่าสุดว่าคุณสดศรี ออกมาพูดว่า ไปตีความสิ่งที่ท่านพูดว่า ไม่ตรง ตนว่าจริง ๆ แล้วเราอย่าไปตื่นเต้นกับคนที่พยายามสร้างกระแสความวุ่นวาย บ้านเมืองควรจะเดินไปข้างหน้า ปัญหาประชาชนไม่ได้มาวนเวียนกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นให้โอกาสกับประชาชนดีกว่า เข้าสู่การเลือกตั้ง เอาประเด็นปัญหาของเขา ความเดือนร้อนของเขา หยิบขึ้นมาพูดกัน แทนที่จะพยายามดึงให้เป็นปัญหาทางการเมือง เพื่อสนองต่อความต้องการของคนคนเดียว อย่าทำอย่างนั้นเลย เอาปัญหาของประชาชนดีกว่า
เมื่อถามว่า วันนี้ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะชูใคร แต่ที่จริงก็คือตัวพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ดี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันก็เห็นชัดอยู่แล้ว ประเด็นของเขาอยู่ตรงนั้น ไม่ได้อยู่ที่ความเดือนร้อนของประชาชน
เมื่อถามว่าล่าสุดพรรคเพื่อไทย เปิดหน้าไพ่ว่าจะนิรโทษกรรม ถ้าได้เป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ค่อยทราบว่าเดินในรูปไหน อย่างไร คลอบคลุมอย่างไร ในทางข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่เปิดโอกาสให้มีการออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของบุคคล ถ้าถามว่าจะนิรโทษกรรม ก็ต้องนิยามกันว่า จะนิรโทษกรรมความผิดเรื่องไหนบ้าง ตนว่าไม่น่าจะรวมเรื่องคอร์รัปชัน
เมื่อถามว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคำพิพากษาที่ตัดสินเด็ดขาดไปแล้ว จะสามารถนิรโทษกรรมคำพิพากษาไปแล้วได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ให้นักกฎหมายวิเคราะห์ดีกว่า ว่าตกลงจะนิรโทษกรรมใคร เพื่ออะไร

**ซัด"ไอ้ตู่"มั่วจับแพะชนแกะ
พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีนายจตุพร อ้างว่า กองทัพมีการจัดชุดสู้วิกฤติเศรษฐกิจ และชุดเสริมสร้างความเข้าใจ (ชสจ.) หรือ"ชุดเกาะติด" โดยมีทหารชุดละ 6 นาย ลงไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง ว่า กองทัพ หรือ กอ.รมน. ยืนยันไม่มีการจัดส่ง"ชุดเกาะติด" แบบที่นายจตุพรอ้าง เพราะไม่ใช่ภารกิจของกอ.รมน. วันหลังหากนายจตุพร สงสัยอะไรขอให้มาถามก่อน หากคิดเอาเอง และนำไปพูดแบบนั้นอาจไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ทั้งนี้ เรื่องที่มีการหารือในกองทัพ หรือที่ กอ.รมน. เป็นการประชุมกำกับดูแลงานตามสายบังคับบัญชาเท่านั้น
"นายจตุพรนำไปเบี่ยงเบนประเด็น โดยนำการสั่งงานในหน้าที่สายการบังคับบัญชาไปผูกแพะชนแกะ ตามที่ตนเองอยากจะให้เกี่ยวกับอะไร ก็นำไปพูด ไปเรื่อย ซึ่งไม่ถูก ดังนั้น วันหลังหากนายจตุพรจะพูดอะไรให้ระมัดระวังด้วย หากไม่รู้จริงให้ถามคนที่รู้จริงก่อน แล้วค่อยนำไปพูด อย่าไปคิดเอาเองพูดเอาเองคนจะเข้าใจผิดกันไปทั่ว" โฆษกกอ.รมน.ระบุ
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงกรณี นายจตุพร นำภาพทหาร 5 นาย ออกมาเปิดเผยโดยระบุว่า เป็น ชสจ.ปลอมตัวเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง ว่า บุคคลที่อ้างว่าเป็นทหารนั้น เขาจะลงไปทำอะไร จะสามารถบังคับให้คนมาเลือกตั้งได้หรือไม่ แต่ต้องอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกใคร ดังนั้นไม่เห็นจะเกี่ยวกัน วันนี้สังคมรู้ว่าทหารทำอะไรอยู่บ้าง จังหวัดในภาคใต้หรือที่ไหนทหารก็กำลังช่วยประชาชน ไม่มีใครมีเวลามาคิดเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตาม รูปภาพทหาร 5 นายที่นายจตุพร นำมาแสดงนั้น ก็ไม่ได้แสดงถึงว่าทหารได้เข้าไปทำอะไร และเป็นทหารจริงหรือไม่ ดังนั้นไม่ควรนำไปโยงการเมืองทุกเรื่อง
" หากนายจตุพรยังไม่ก้าวข้ามผ่านไปคงทำการเมืองลำบาก เพราะตราบใดที่ยังมองทหารในแง่ไม่ดี ก็จะได้รับการยอมรับจากคนแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ใช่คนทั้งประเทศ เพราะวันนี้ประชาชนรู้ว่าทหารพยายามออกมาจากการเมืองให้มากที่สุด ใครจะเลือกตั้งจะยังไงก็สุดแล้วแต่ เพราะกองทัพไม่เคยคิดอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง" โฆษกทบ.ระบุ

**แฉเล่ห์ "เพื่อแม้ว" เอาทุกทาง

นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส. ระยอง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลายวงการ ที่ประกาศตัวเข้าสู่ถนนการเมือง เช่น นายภารดร ศรีชาพันธ์ น.ส.สุนารี ราชสีมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช ถือเป็นเรื่องที่ดี และขอต้อนรับเข้าสู่เวทีการเมือง และถือเป็นผู้มีความเสียสละที่อาสาเข้ามารับรู้ปัญหาภาพรวมของประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นส.ส. เขต หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องรับรู้ปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ และรับรู้ว่าโครงสร้างทางการเมืองมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร
สำหรับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง จะนัดหารือหลังสงกรานต์ และจะทยอยเปิดชื่อผู้สมัคร โดยภาคกลาง จัดทำรายชื่อผู้สมัครเสร็จเกือบ 100 % ซึ่งไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ เพราะเป็นผู้สมัครหน้าเดิม จะมีคนใหม่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นผู้มีชื่อเสียงอะไร ส่วนในกทม.ก็จะทยอยเปิดตัวเช่นกัน
ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่ม นปช. ที่ออกมากล่าวหาว่าทหารจะเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่ตนเรียกร้องให้มาทำสัตยาบัน ในการพูดเรื่องสร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ให้ความร่วมมือ และจะเดินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ คือ ยุทธศาสตร์เอาทุกทาง โดยทางแรกถ้าชนะก็จะจัดตั้งรัฐบาล ขณะเดียวกันก็สร้างกระแสว่า พรรคที่ชนะอันดับหนึ่งต้องได้รับเกียรติเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทางที่สอง ถ้าได้อันดับสอง ก็ไม่ได้ทำตามในสิ่งที่ตนเองเรียกร้อง ก็จะรวมกับพรรคที่มีเสียงขนาดกลางจัดรัฐบาลแข่งด้วย เพื่อมาเป็นแกนนำ หรือเป็นนายกรัฐมนตรี
ทางที่สาม ถ้าไม่ได้เป็นพรรคแกนนำ หรือเป็นพรรคอันดับสอง ก็ขอเป็นพรรคร่วมเพื่อมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกฯ
ทางที่สี่ ถ้าไม่สำเร็จเกลุ่มเสื้อแดงก็จะไม่หยุดการชุมนุม และจะเอาเหตุผลที่นายจตุพร พูดในวันนี้ไปอ้างในวันข้างหน้า เพื่อไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยบอกว่า ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม มีการปลุกระดมไม่ให้ยอมรับผลเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
นายสาธิตกล่าวว่า ในอดีตการชุมนุมจะมีผู้สนับสนุน คือ แก้ว3 ประการ คือ พรรคการเมือง มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ แต่ตอนนี้มีกองกำลังมาเพิ่มเป็นแก้วประการที่ 4 ที่น่าวิตกมาก คือ กองทัพสื่อที่ไร้จรรยาบรรณ จะมาสนับสนุนตามยุทธศาสตร์ ที่พรรคเพื่อไทยต้องการ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ได้อำนาจรัฐมา อันจะเป็นปัจจัยที่เอื้อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาบ้านโดยไม่ติดคุก พรรคจึงหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีประชาชนเสียงส่วนใหญ่มาเป็นตัวตัดสินปัญหาทั้งหมดและเดินไปข้างหน้า เพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองทุเลาเบาบางลง จึงขอให้ทุกฝ่ายกลับมาสู่การเลือกตั้ง เอาความขัดแย้งวางไว้ และเดินไปข้างหน้า เริ่มต้นให้กับประเทศกันใหม่

** เย้ยพท.เลื่อนเปิดนโยบายวันโลกาวินาศ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศเลื่อนการเปิดนโยบายพรรคที่จะใช้ในการหาเสียงในวันที่ 24 เม.ย.ออกไปก่อนว่า คงเป็นเพราะเหตุผล 3 ข้อคือ
1. วันดังกล่าวเป็นวันโลกาวินาศ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่เชื่อดวง และโชคชะตาราศีอยู่แล้ว จึงไม่ยอมเสี่ยงที่จะใช้วันดังกล่าว
2. ความไม่พร้อมในตัวนโยบายของพรรคที่ไม่สามารถหาแคมเปญนโยบายใหม่ๆ ที่จะชนะใจประชาชนได้
3. รอจังหวะเวลาให้พรรคประชาธิปัตย์ เปิดนโยบายทั้งหมดก่อนแล้วพรรคเพื่อไทย จะเอามาต่อยอด และเกทับเหมือนกรณีนโยบายเพิ่มค่าแรง 25 เปอร์เซ็นต์ ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเอามาเกทับ เพิ่มเป็นให้วันละ 300 บาท โดยไม่ได้ดูปัจจัย และองค์ประกอบของภาคการผลิตว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ประกาศว่าได้ทำโพลใน กทม. ว่าจะได้รับการเลือกตั้งถึง 22 ที่นั่ง จาก 33 ที่นั่งว่า เป็นเพียงการปั่นตัวเลข เพื่อสร้างกระแสในพื้นที่ กทม.เท่านั้น เพราะที่ผ่านมา โดยเฉพาะในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม.ทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ยังพ่ายแพ้ต่อพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ยังไม่รวมถึงการเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะชนิดถล่มทลาย เชื่อว่าคนกรุงเทพฯ จะไม่เลือกพรรคที่สนับสนุนให้มีการเผาบ้านเผาเมืองของตัวเอง เพราะต่างเข็ดขยาดกับพฤติกรรมป่วนเมืองของพรรคเพื่อไทย และกลุ่มนปช. เพราะพฤติกรรมนั้นยังฝังใจคนกทม. อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสที่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา จะยิ่งทำให้ประเทศชาติวุ่นวายเพราะคนกทม. ต้องการให้ชาติบ้านเมืองสงบ และประเทศเดินต่อไปข้างหน้ามากกว่า

**ปาร์ตี้ลิสต์พท.สุสานคนแก่-พวกเผาเมือง

ส่วนกระแสข่าวเรื่องการวางตัวผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย นั้น เมื่อดูรายชื่อจากข่าวแล้ว ก็ไม่อยู่เหนือความคาดหมาย พรรคเพื่อไทย กำลังจัดบัญชีรายชื่อในรูปแบบสุสานคนแก่ โดยเอานักการเมืองอาวุโส เข้ามาอยู่ในบัญชีจำนวนมาก เพราะต่างก็ไม่กล้าที่จะลงสมัครแข่งขันในระบบเขตเลือกตั้ง จึงต้องหนีตายเอาเปรียบ ส.ส.เด็กขึ้นมาอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ
โดยให้ผู้สมัครส.ส.เขต เป็นพวกนกแล พวกนอมินี เช่น ให้ลูกของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง น้องชายของ นายนพดล ปัทมะ ภรรยาของนายนิสิต สินธุไพร หลานชายของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเภทวงศาคณาญาติ และสาวกใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น
แม้แต่แกนนำนปช.ประเภทปากกล้า ยุยง ปลุกปั่นให้มวลชนเผาบ้านเมือง ก็แย่งกันลงในระบบบัญชีรายชื่อทั้งสิ้น

** ฉะ"มาร์ค"ลงพื้นที่สร้างภาพ ขายฝัน

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า เหมือนเป็นการลงพื้นที่เพื่อสร้างภาพ ไม่ได้หวังแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่มีครูในจังหวัดภาคใต้กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีอาการเครียดจัดจากปัญหาน้ำท่วม เป็นเหตุการณ์ที่ประจานการทำงานของรัฐบาลอย่างชัดเจน อีกทั้งเงินชดเชยจำนวน 5,000 บาท ก็มีการโกงกิน โดยหัวคะแนนของท้องถิ่น เพราะประชาชนที่เดือดร้อนกลับไม่ได้รับเงินชดเชยจำนวนดังกล่าง เช่น จ.นครศรีธรรมราช และชาวบ้านใน จ.พัทลุง ได้เรียกร้องมาที่พรรคเพื่อไทย ให้ตรวจสอบการจ่ายเงินชดเชย เพราะคิดว่าน่าจะเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบด้วย เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะขายในการเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้เป็นนโยบายก็คือ เรื่องของอนาคต แต่ในตอนนี้นายอภิสิทธิ์ ควรที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยการเพิ่มรายได้ และขยายโอกาสก่อน เพราะข้อความนี้ ตนรู้สึกว่าจะเป็นนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะตอนนี้ประชาชนกำลังขาดรายได้อย่างมาก โดยเฉพาะด่านชายแดนที่ อ.แม่สอด ที่ถูกปิดมานานแล้ว และทางแก้ไขปัญหาก็คือ การเจรจาให้มีการเปิดด่าน เพราะหากนายอภิสิทธิ์ ทำไม่ได้นั่นก็ทำให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้มีปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

**พท.ป้ายไม่พร้อมขอเลื่อนเปิดนโยบาย

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเลื่อนวันเปิดตัวนโยบายออกไปก่อน หลังจากที่เคยกำหนดไว้ในวันที่ 24 เม.ย.ว่า ไม่เกี่ยวกับความเชื่อว่าเป็นวันที่ไม่ดี เพียง แต่พรรคเพื่อไทยมีปัญหาในด้านการจองสถานที่ และการจัดทำป้ายโฆษณาต่างๆที่ยังไม่พร้อมแต่ตัวนโยบายต่างๆ นั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเลื่อนไปเปิดตัวไม่เกินวันที่ 27 เม.ย. นี้ แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น