กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน เสนอยกเลิกเลือกตั้งล่วงหน้า ชี้เป็นช่องโหว่การทุจริตเลือกตั้ง หวั่น จนท.รัฐวางตัวไม่เป็นกลางเลือกตั้ง พร้อมขู่จะใช้อำนาจ กกต.ที่มีอยู่ให้เต็มที่แจกแดง-เหลือง สกัดทุจริตเลือกตั้ง ระบุความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตไม่เกี่ยว กกต. เป็นหน้าที่รัฐที่ต้องดูแลความเรียบร้อย
วันนี้ (3 เม.ย.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.จะแปรญัตติให้ลดวันเลือกตั้งล่วงหน้าเหลือเพียงหนึ่งวัน ว่า ตนเห็นว่าไม่ควรที่จะมีการเลือกตั้งล่วงหน้าก็ได้ เพราะไม้รู้ว่าจะมีไปทำไม เพราะตนเห็นว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นช่องโหว่ของการทุจริตการเลือกตั้งมากกว่า เช่น การขนคนไปลงคะแนน นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนในเรื่องของการนับคะแนน ที่อาจจะมีการเปลี่ยนหีบเลือกตั้งได้ จึงเห็นว่าไม่ควรมีจะดีเสียกว่า
นายสมชัยยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางได้วางยุทธศาสตร์ โดยการที่จะนำอำนาจของกกต.ที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งที่ให้ กกต.สามารถให้ใบเหลือง-ใบแดงได้ก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งในช่วงนี้ กกต.มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 239 เพราะหากประกาศรับรองผลไปแล้วมาสอยทีหลังผู้สมัครบางคน ที่ได้รับรองให้เป็น ส.ส.ก็อาจจะใช้อำนาจในการเป็น ส.ส.และไม่เกรงกลัว กกต. เพราะเมื่อไปศาลแล้วเวลาพิจารณาก็จะเคร่งครัด โดยต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่า กกต.และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายต่อสู้ได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม หาก กกต.จะให้ใบแดงก่อนประกาศรับรองผล ก็คงต้องไม่เกิน 25 ใบ แต่ถ้ามีมากกว่า 25 ใบก็คงต้องปล่อยไปก่อนแล้วสอยทีหลัง เพราะต้องให้มีการประชุมสภา มาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญระบุว่า ภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ส.ส.ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก
“ตอนนี้เรายังบอกไม่ได้ว่าเรามียุทธศาสตร์กันอย่างไร เพราะการจับ ส.ส.ไม่ใช่เรื่องง่ายเราป้องปรามแล้ว แต่เขาก็ไปใช้วิธีอื่น ถ้าบอกไปก่อนตอนนี้ก็จะเป็นช่องทางให้นักการเมืองไปหาทางเอาเปรียบ หลบหลีกเราก็จะทำงานอยากขึ้น แต่ถึงอย่างไรเราก็ได้เตรียมความพร้อม โดยจัดเตรียมเจ้าหน้า พนักงานสืบสวนสอบสวนทั่วประเทศกว่า 2 พันคน และขณะนี้ก็ทราบมาว่าเริ่มมีกระบวนการทุจริตการเลือกตั้งบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ก็ยังทำอะไรไม่ได้ แต่ กกต.เองก็จะเก็บข้อมูลเพื่อเอาประกอบการวินิจฉัย แต่หากมีก็จะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาร่วมด้วย ส่วนที่มีความเป็นห่วงในเรื่องของการใช้อินเตอร์เน็ตในการใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัคร ยอมรับว่าเรื่องนี้การตรวจสอบค่อนข้างลำบาก ต้องอาศัยคู่แข่งขันรวบรวมหลักฐานนำข้อมูลมาให้ต่อ กกต.” นายสมชัยกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคที่เป็นพรรครัฐบาลระบุว่ามั่นใจว่าได้เสียง 70-80 เสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ห่วงความเป็นกลางของข้าราชการหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า เป็นห่วงมากกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะวางตัวไม่เป็นกลางจริงๆ ในช่วงการเลือกตั้ง และขณะนี้ก็มีความเคลื่อนไหวของข้าราชการบางกลุ่มแล้ว จึงขอฝากไปยังข้าราชการทุกคนควรวางตัวให้เป็นกลาง ซึ่งเราก็ตั้งศูนย์ปฏิบัติการข่าวหาข้อมูล และจับตาการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่วางตัวไม่เป็นกลาง หากพบว่ามีการทำหน้าที่ไม่เป็นกลางก็จะมีโทษทั้งวินัยและอาญาด้วย ตามมาตรา 74 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ ที่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวให้เป็นกลางทางการเมือง
“ขอฝากข้าราชการทุกคนไว้ว่า ประเทศชาติต้องมาก่อนตำแหน่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ กกต.แต่งตั้งเขามาช่วยเหลืองานเลือกตั้งของ กกต.ก่อนหน้านี้ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนมาเยอะว่าเข้าไปเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมือง ซึ่งเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก” นายสมชัยกล่าว
เมื่อถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีประมาณ 50 เขตเลือกตั้งจะมีการแข่งขันมีความรุนแรงมาก รวมถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลด้วย นายสมชัยกล่าวว่า เรื่องความรุนแรงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง การยิงกันหรือฆ่ากันตายก็ใช้กฎหมายบ้านเมืองไม่ใช่กฎหมายเลือกตั้ง แต่ในส่วนของ กกต.จะดูแลไม่ให้ทำผิดฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด