วานนี้(30 มี.ค) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผบ.ตร.เดินทางเข้าพบหารือว่า เราจะปล่อยให้นักเลงมือปืน ผู้มีอิทธิพลเข้ามาวุ่นวายกับการเลือกตั้งไม่ได้ จะต้องพยายามให้มีทีมลงไปดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ จะเอามือสำคัญ ๆ เข้ามาช่วยดู ดังนั้นต้องทำให้เรียบร้อย จะดุเดือดอย่างไรก็ได้ แต่ว่าต้องเรียบร้อย จะปล่อยให้ดุเดือดแล้วรุนแรงเสียหายต่อคนอื่นไม่ได้ จะสู้กันดุเดือดขึ้นเวทีปราศรัยพูดจาหาเสียงก็เชิญ แต่จะถึงขนาดทำร้ายฆ่าแกงกันเพื่อแย่งชิงอำนาจกันไม่ได้ เราไม่ยอม
**ปัดมาร์คจับยามสามตา 27 เม.ย.ยุบฃ
ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปดูฤกษ์ผานาทีกำหนดวันประกาศยุบสภาในวันที่ 27 เม.ย. ที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์สมหวังชนะการเลือกตั้งและนายอภิสิทธิ์ได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี ๆ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ไปดูดวงอะไรเลย เมื่อถามย้ำว่า ฤกษ์วันที่ 27 เม.ย. จะมีผลดีต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี
ถามว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์และนายกรัฐมนตรีจึงได้ใช้เลข 25 เป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายการณรงค์หาเสียง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดวงหรืออไร แต่เป็นเรื่องของฝ่ายยุทธศาสตร์ของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคระทำงานยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่ต้องการให้ประชาชนสามารถจดจำได้ง่ายว่าพรรคประชาธิปัตยืได้เสนอนโยบายว่า จะทำอะไรบ้าง ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นเรื่องให้กำลังใจอะไร เมื่อถามอีกว่าบนตึกไทยคู่ฟ้าก็มีการนำวัตถุสิ่งของที่ใช้ในการปรับแก้ฮวงจุ้ย เสริมดวง เช่นลูกแก้วอัญมณีต่างๆ มาประดับหลายจุด นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ขออภัยเรื่องอย่างนี้สุเทพ ไม่มีความรู้”
**“จิ้น”ฝันภท.ได้ส.ส.70 -80 ที่นั่ง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ยังได้ประเมินตัวเลข ส.ส. ที่จะได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คาดว่า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 70 - 80 ที่นั่ง เชื่อว่ารัฐบาลสมัยหน้ายังคงเป็นรัฐบาลที่มาจากหลายพรรค โดยพรรคเพื่อไทยคงไม่สามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้
**จี้ยุบสภา31มี.ค.อ้างสภาล่มบ่อย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สภาที่ล่มติดต่อกันนั้น พรรคร่วมรัฐบาลต้องรับผิดชอบเพราะเป็นเสียงข้างมาก บรรยากาศในสภาไม่เหมาะที่จะทำงานแล้ว เงียบเหงามาก ขนาดประชุมคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆ ยังเงียบเหงา ส่วนใหญ่มาเซ็นชื่อแล้วก็รีบลงพื้นที่กันหมด ไม่มีใครอยากอยู่สภา ส.ส.ส่วนใหญ่เกือบทุกคนลงพื้นที่หมดเพราะกลัวสอบตก อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี หารือกันให้รีบยุบสภาในวันที่ 31 มี.ค. บรรยากาศเช่นนี้นายกฯอยู่ไม่ได้ต้องประกาศยุบสภา แม้ 3 กฎหมายลูกยังไม่ผ่าน กกต.ก็สามารถออกระเบียบการเลือกตั้งได้ หาก กกต.ลาออกอีกอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเปลืองข้าวสุก ขอให้รีบยุบสภาดีกว่า ป้องกันโรคแทรกซ้อนไม่ให้เกิดปฏิวัติได้ และความปรองดองก็จะเกิดตามมา
**ปชป.หาเสียงล่วงหน้าแล้วเด้อ!
ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคได้สรุปชุดนโยบายเพื่อขับเคลื่อนในการเลือกตั้ง รวมทั้งกลุ่ม ส.ส.หญิงของพรรคไปพบกับผู้ใช้แรงงานย่าน จ.ปทุมธานีเพื่อหาข้อมูล มาสรุปภายในวันที่ 1 เม.ย.นี้
**ดันกม.ลูก3ฉบับเข้าสภา7เม.ย.
ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ว่า การพิจารณาร่างทั้ง 3 ฉบับ เสร็จสิ้นแล้วในส่วนของเนื้อหา ทั้งนี้ ในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 13.30 น. จะมีการนัดที่ประชุมอีกครั้ง เพื่อรับรองบันทึกผลการประชุมที่ผ่านมา รวมถึงตรวจถ้อยคำสำนวนให้มีความสละสลวย ซึ่งตนพร้อมลงนามรับรอง หลังจากนั้นจะส่งให้ประธานสภา อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถบรรจุเป็นระเบียบวาระได้ในวันพฤหัสบดีที่ 7 เม.ย. นี้
เมื่อถามว่าข้อสังเกตเรื่องการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประชุมสรุปอย่างไร นายถาวร กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ 2 วัน โดยไม่ได้เคร่งครัดในการแสดงเหตุผลความจำเป็นว่าติดภารกิจอะไร จึงส่งผลให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง อีกทั้งการขนคนมาเลือกตั้งล่วงหน้าก็ถือเป็นมหกรรมอันยิ่งใหญ่ ส่งผลให้เกิดการทุจริต ทั้งนี้ จะไปตัดสิทธิ์การเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งหมดเลยไม่ได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีภารกิจจำเป็น และไม่สามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้จริงๆ และต้องใช้สินทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า
ซึ่งทางกมธ.ได้พิจารณาในหลักการแล้วเห็นว่าไม่ผิด จึงให้เขียนบทบัญญัติเพิ่มเติมในมาตรา 91 / 1 ภายใต้ มาตรา 95 ให้ผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง มาลงทะเบียนเพื่อแสดงการใช้สิทธิ์ล่วงหน้า ได้เพียงหนึ่งวัน โดยกำหนดวัดเดียวกันทุกเขตเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม กมธ.ยังไม่รู้สึกพอใจ จึงได้ตั้งข้อสังเกตแนบท้ายร่างดังกล่าวไว้ 3 ข้อ คือ 1.จะต้องมีคณะกรรมการจากทุกพรรคการเมืองประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย 2.ให้นำกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งทั่วไปมาใช้ในการเลือกตั้งล่วงหน้า และ 3.ให้มีการลงชื่อคณะกรรมการประจำหน่วยแต่ละหน่วยลงชื่อในหีบบัตรเลือกตั้ง รวมถึงมีการติดตั้งซีซีทีวีทุกจุดที่มีหีบเลือกตั้งด้วย
นายถาวร กล่าวด้วยว่า กรณีการใช้เงินของผู้สมัครส.ส.ในการบริจาคช่วยเหลืองานบุญหรืองานศพนั้น กกต.ออกกฎหมายควบคุมเพียงผู้สมัครส.ส.และรัฐมนตรี แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทางกมธ.จะทำหนังสือไปถึงกกต.ในวันที่ 31 มี.ค. เพื่อขอให้พิจารณาข้อบังคับที่เกี่ยวกับเงินบริจาคดังกล่าวอีกครั้ง .
**ปัดมาร์คจับยามสามตา 27 เม.ย.ยุบฃ
ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปดูฤกษ์ผานาทีกำหนดวันประกาศยุบสภาในวันที่ 27 เม.ย. ที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์สมหวังชนะการเลือกตั้งและนายอภิสิทธิ์ได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี ๆ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ไปดูดวงอะไรเลย เมื่อถามย้ำว่า ฤกษ์วันที่ 27 เม.ย. จะมีผลดีต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี
ถามว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์และนายกรัฐมนตรีจึงได้ใช้เลข 25 เป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายการณรงค์หาเสียง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดวงหรืออไร แต่เป็นเรื่องของฝ่ายยุทธศาสตร์ของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคระทำงานยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่ต้องการให้ประชาชนสามารถจดจำได้ง่ายว่าพรรคประชาธิปัตยืได้เสนอนโยบายว่า จะทำอะไรบ้าง ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นเรื่องให้กำลังใจอะไร เมื่อถามอีกว่าบนตึกไทยคู่ฟ้าก็มีการนำวัตถุสิ่งของที่ใช้ในการปรับแก้ฮวงจุ้ย เสริมดวง เช่นลูกแก้วอัญมณีต่างๆ มาประดับหลายจุด นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ขออภัยเรื่องอย่างนี้สุเทพ ไม่มีความรู้”
**“จิ้น”ฝันภท.ได้ส.ส.70 -80 ที่นั่ง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ยังได้ประเมินตัวเลข ส.ส. ที่จะได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คาดว่า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 70 - 80 ที่นั่ง เชื่อว่ารัฐบาลสมัยหน้ายังคงเป็นรัฐบาลที่มาจากหลายพรรค โดยพรรคเพื่อไทยคงไม่สามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้
**จี้ยุบสภา31มี.ค.อ้างสภาล่มบ่อย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สภาที่ล่มติดต่อกันนั้น พรรคร่วมรัฐบาลต้องรับผิดชอบเพราะเป็นเสียงข้างมาก บรรยากาศในสภาไม่เหมาะที่จะทำงานแล้ว เงียบเหงามาก ขนาดประชุมคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆ ยังเงียบเหงา ส่วนใหญ่มาเซ็นชื่อแล้วก็รีบลงพื้นที่กันหมด ไม่มีใครอยากอยู่สภา ส.ส.ส่วนใหญ่เกือบทุกคนลงพื้นที่หมดเพราะกลัวสอบตก อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี หารือกันให้รีบยุบสภาในวันที่ 31 มี.ค. บรรยากาศเช่นนี้นายกฯอยู่ไม่ได้ต้องประกาศยุบสภา แม้ 3 กฎหมายลูกยังไม่ผ่าน กกต.ก็สามารถออกระเบียบการเลือกตั้งได้ หาก กกต.ลาออกอีกอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเปลืองข้าวสุก ขอให้รีบยุบสภาดีกว่า ป้องกันโรคแทรกซ้อนไม่ให้เกิดปฏิวัติได้ และความปรองดองก็จะเกิดตามมา
**ปชป.หาเสียงล่วงหน้าแล้วเด้อ!
ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคได้สรุปชุดนโยบายเพื่อขับเคลื่อนในการเลือกตั้ง รวมทั้งกลุ่ม ส.ส.หญิงของพรรคไปพบกับผู้ใช้แรงงานย่าน จ.ปทุมธานีเพื่อหาข้อมูล มาสรุปภายในวันที่ 1 เม.ย.นี้
**ดันกม.ลูก3ฉบับเข้าสภา7เม.ย.
ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ว่า การพิจารณาร่างทั้ง 3 ฉบับ เสร็จสิ้นแล้วในส่วนของเนื้อหา ทั้งนี้ ในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 13.30 น. จะมีการนัดที่ประชุมอีกครั้ง เพื่อรับรองบันทึกผลการประชุมที่ผ่านมา รวมถึงตรวจถ้อยคำสำนวนให้มีความสละสลวย ซึ่งตนพร้อมลงนามรับรอง หลังจากนั้นจะส่งให้ประธานสภา อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถบรรจุเป็นระเบียบวาระได้ในวันพฤหัสบดีที่ 7 เม.ย. นี้
เมื่อถามว่าข้อสังเกตเรื่องการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประชุมสรุปอย่างไร นายถาวร กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ 2 วัน โดยไม่ได้เคร่งครัดในการแสดงเหตุผลความจำเป็นว่าติดภารกิจอะไร จึงส่งผลให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง อีกทั้งการขนคนมาเลือกตั้งล่วงหน้าก็ถือเป็นมหกรรมอันยิ่งใหญ่ ส่งผลให้เกิดการทุจริต ทั้งนี้ จะไปตัดสิทธิ์การเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งหมดเลยไม่ได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีภารกิจจำเป็น และไม่สามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้จริงๆ และต้องใช้สินทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า
ซึ่งทางกมธ.ได้พิจารณาในหลักการแล้วเห็นว่าไม่ผิด จึงให้เขียนบทบัญญัติเพิ่มเติมในมาตรา 91 / 1 ภายใต้ มาตรา 95 ให้ผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง มาลงทะเบียนเพื่อแสดงการใช้สิทธิ์ล่วงหน้า ได้เพียงหนึ่งวัน โดยกำหนดวัดเดียวกันทุกเขตเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม กมธ.ยังไม่รู้สึกพอใจ จึงได้ตั้งข้อสังเกตแนบท้ายร่างดังกล่าวไว้ 3 ข้อ คือ 1.จะต้องมีคณะกรรมการจากทุกพรรคการเมืองประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย 2.ให้นำกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งทั่วไปมาใช้ในการเลือกตั้งล่วงหน้า และ 3.ให้มีการลงชื่อคณะกรรมการประจำหน่วยแต่ละหน่วยลงชื่อในหีบบัตรเลือกตั้ง รวมถึงมีการติดตั้งซีซีทีวีทุกจุดที่มีหีบเลือกตั้งด้วย
นายถาวร กล่าวด้วยว่า กรณีการใช้เงินของผู้สมัครส.ส.ในการบริจาคช่วยเหลืองานบุญหรืองานศพนั้น กกต.ออกกฎหมายควบคุมเพียงผู้สมัครส.ส.และรัฐมนตรี แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทางกมธ.จะทำหนังสือไปถึงกกต.ในวันที่ 31 มี.ค. เพื่อขอให้พิจารณาข้อบังคับที่เกี่ยวกับเงินบริจาคดังกล่าวอีกครั้ง .