xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” สับอีก 30 นิสัย 30 ล้มเหลว ยัน “มาร์ค” ไม่เหมาะเป็นนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประพันธ์ คูณมี
“ประพันธ์” ชี้พฤติกรรมอันตราย “มาร์ค” ยกนิสัยน่าขยะแขยง 30 ข้อการันตรีไม่เหมาะเป็นผู้นำประเทศ ชี้ที่ ปชช.รับไม่ได้สุดๆ “หน้าด้าน แถ แหลเป็นอาจิน” เผยเตรียมตอกย้ำรายวันอีก 30 ข้อ ความผิดพลาดในการบริหารประเทศ แนะ ปชช.โหวตโนลงโทษนักการเมือง


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย นายประพันธ์ คูณมี  

วันที่ 27 มี.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า บ้านเมืองวันนี้มันวิปริตจริงๆ เขาถึงบอกว่ายามใดที่เกิดกาลีบ้านกาลีเมืองขึ้น อากาศก็จะแปรปรวนเช่นนี้ ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ข้ามาปกครองประเทศ นำความเสียหายมาสู่บ้านเมืองตลอด สังคมไม่เคยสงบสุข

การชุมนุมของเราพัฒนาขึ้นตามลำดับจากข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ซึ่งเต็มไปด้วยเหตุผลครบถ้วนยากที่รัฐบาลจะโต้แย้งได้ เวทีนี้เราพร่ำบอกประเทศไทยกำลังเสียอธิปไตยให้กัมพูชา ถ้าหากทำตามข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ตั้งแต่แรก ประเทศก็มีเอกราช ไม่สูญเสียแผ่นดินให้กัมพูชาแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ตั้งแต่วันแรกทีพวกเรามาชุมนุมจนถึงวันนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่เคยแสดงท่าทีตอบรับข้อเรียกร้องของประชาชนเลย เท่ากับขุดหลุมฝังศพตัวเอง ทำให้ความศรัทธาที่เคยมีหมดสิ้น เปลี่ยนเป็นความจงเกลียดจงชัง

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ตนมาคิดดูว่าทำไมความรู้สึกของประชาชนที่เคยชื่นชมนายอภิสิทธิ์ ถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ได้ข้อสรุปแท้จริงไม่ได้เกิดจากความมีอคติแต่เป็นเพราะลักษณะนิสัยของตัวเขาเอง สาเหตุที่สมควรให้ประชาชนจะขยะแขยง มีดังนี้

1. เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง แต่จิตใจต่ำไร้สำนึก

2. มีจิตใจคับแคบ คบคนจำกัด ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เห็นประชาชนเป็นแค่ลิ่วล้อทางการเมือง

3. ไม่มีวิธีคิด ไม่มีศิลปะการทำงานที่จะนำพาชาติไปสู่ความก้าวหน้าได้แม้แต่เรื่องเดียว

4. ขาดความรู้ประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ที่สำคัญมีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด

5. ไม่เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น

6. ไม่ใช่เป็นนักประชาธิปไตย แต่เป็นเพียงนักเลือกตั้งน้ำเน่าคนหนึ่งของประเทศไทย

7. คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน

8. ขี้ขลาด ตาขาว ขี้กลัว ยอมจำนนไม่กล้าต่อสู้ ไม่เคยมีชีวิตเพื่อต่อสู้กับความยากลำบาก โดยเฉพาะปัญหาความเป็นความตายของบ้านเมือง ไม่มีความรับผิดชอบ ปัดความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารบ้านเมือง

9. หยิ่งยโสโอหัง แก้ตัวอย่างหน้าด้านๆ

10. ชอบเถียง แถ แหลเป็นอาจิน

11. ปลิ้นปล้อน ตลบตะแลง โกหกมดเท็จ ปกปิดความจริงต่อประชาชน ตั้งแต่เรื่องส่วนตัวไปจนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

12. ไม่มีสัมมาคารวะ ยกตนข่มท่าน

13. ไร้สำนึกรับผิดชอบทางการเมือง

ตั้งแต่ข้อ 14-21 สัญญาณเสียงขาดหาย

22 . ไม่เคยแสดงจุดยืนเป็นคนรักชาติแผ่นดิน ขนาดถูกฮุนเซนด่าก็ลอยหน้าลอยตาเฉยเลย

23. ไม่เคยเห็นเอาจริงเอาจังกับการปกป้องสถาบันสูงสุด

24. บริหารประเทศด้วยการสร้างปัญหา ไม่มีวิสัยทัศในการแก้ปัญหาบ้านเมือง

25. ชอบสร้างภาพ ลอกเรียนแบบคนอื่นไม่มีแนวทางเป็นของตัวเอง

26. เห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่นเอาเปรียบคนอื่นไม่มีความเป็นผู้ใหญ่

27. เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้คนอื่น

28. ชอบกลบเกลื่อนความผิด ปกปิดพฤติกรรมส่วนตัว ส่วนจะปกปิดพฤติกรรมส่วนตัวอย่างไรนั้น เรื่องนี้ต้องไปถามนายศิริโชคเอาเอง

29. ละเมิดกฎหมาย ไม่เคารพแม้กระทั่งกฎ 9 ข้อของตัวเอง แต่ชอบใช้กฎหมายเล่นงานคนอื่น กับช่วยพวกพ้องตัวเองที่ทำผิด

30. ยึดแต่หลักกู เอาหลักการบังหน้า ไม่รักษาหลักนิติรัฐ ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์ประกันแกนนำแดงในคดีล้มเจ้า

ส่วนความผิดพลาด 30 ข้อในการบริหารประเทศ วันนี้ขอจั่วหัวข้อไว้ก่อน ยังไม่พูดรายละเอียด โดยข้อหนึ่งสามารถพูดได้หนึ่งวัน รายละเอียดทั้งหมดหากนายอภิสิทธิ์ไม่ล้มหายตายจากไปก่อน เราจะมาพูดแต่ระเรื่องทุกวันว่ามีอะไรบ้าง ทนได้ให้มันทนไป

1. เป็นผลิตผลการเมืองระบอบสามานย์

2. เป็นตัวแทนชองพรรคคดโกงขายชาติ ปกป้องธุรกิจการเมือง

3. สมคบนักการเมืองคอร์รัปชัน

4. ไม่มีแนวคิด อุดมการณ์ทางการเมือง

5. คำนึงแต่กลุ่มการเมืองที่คำจุนอำนาจตัวเอง

6. ยึดแนวทางประชานิยมมอมเมาประชาชน

7. ผลาญเงินงบประมาณ เพื่อประโยชน์พรรค และต้องการคะแนนนิยม

8. ทำลายหลักนิติรัฐ แทรกแทรงกระบวนการยุติธรรม

9. ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

10. ไม่ส่งเสริมและพัฒนา ระบอบกรรเมืองอันมีพระกษัตริย์ทรงเป็นประมุข

11. ล้มเหหลวในการแก้ไขในความมั่นคงในราชอาณาจักร

12. ล้มเหลวในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

13. ทำลายเกียรติภูมทำลายศักดิ์ศรีประเทศ

14. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสังคม ปล่อยให้มีการเผาบ้านเผาเมือง

15. ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษกิจ ข้าวยากหมากแพง

16. ผลกระทบจากกองทุนนโยบายประกันสังคม กำลังสร้างปัญหาต่อสวัสดิการของผู้ใช้แรงงานอย่างรุนแรง

17. นโยบายประกันพืชผล เอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มทุน

18. ปฎิรูปที่ดินล้มเหลว ออก ส.ป.ก.เอื้อนายทุน นักการเมือง

19. ทำลายกองทัพของชาติ ใช้ ตร. ข้าราชการ เป็นเครื่องมือทางการเมือง

20. แทรกแทรงครอบงำสื่อของรัฐ บิดเบือนการสำเสนอข้อเท็จจริง

21. แทรกแซงองค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช. สภาทนายความ

22. เร่งรัดกฎหมายที่ทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน

23. ไม่ปกป้องผลประโยชน์ชาติ โดยให้นักลงทุนต่างชาติไม่ต้องเสียภาษี

24. บริหารประเทศล้มเหลว ขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถอันเหมาะสมสอดคล้องกับวิกฤตของชาติ

25. ไม่สามารถสร้างความสามัคคีของชาติได้

ขาดหายไป 4 ข้อ

29. ใช้อำนาจ ในทางไม่ชอบเอื้อพวกพ้อง

30. บุคลิกส่วนตัว ทัศนคติ อุดมการณ์ทางการเมือง ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำประเทศในสถานการปัจจุบัน

นายประพันธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ชัยชนะอีกอย่างที่เราต้องกล่าวถึง สังคมส่วนใหญ่มองเห็นแล้วว่า เลือกตั้งไปก็เปล่าประโยชน์ นักการเมืองสกปรกไม่ควรไปเลือกให้กลับมาอีก ครั้งที่แล้วพันธมิตรฯช่วยลงคะแนนให้ยังไม่ชนะเขาเลย วันนี้ยังเนรคุณประชาชน แล้วเราจะสั่งสอนคุณให้ดู จะโหวตโนการเลือกตั้งครั้งหน้าถ้ามี แต่ที่แน่ๆ ตนเชื่อไม่น่าจะมีการเลือกตั้ง

คำต่อคำ: ประพันธ์ คูณมี

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก ผมต้องขออภัยมัวแต่คุยกับนายทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เพราะว่าสนใจบทความ ว่าด้วยกองทัพ ทหารกับประชาธิปไตย ก็เลยติดลมไปนิด มารออยู่ข้างหลังเวทีแล้วครับ กราบสวัสดีและทักทายพี่น้องที่นี่และที่อยู่ทางบ้าน และที่อยู่ต่างประเทศทุกท่าน ด้วยความเคารพ จิตใจกล้าหาญ กล้าต่อสู้ของท่าน เป็นอย่างยิ่งครับ ขอเสียงหน่อยซิครับ หนาวไหมครับ บรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้วิปริต อาเพศจริงๆ นะครับ อากาศแปรเปลี่ยนไป ที่แน่ๆ คือ ถ้าเป็นสุภาษิตไทย ก็คือ ยามใดที่ผู้ปกครองวิปริต หรือภาษานักคดีอาจจะบอกว่า กาลีครองบ้านครองเมือง อากาศจะแปรปรวนแบบนี้ละครับ เขาเรียกว่า ตัวกาลีบ้านกาลีเมือง หรือว่า อาเพศสิ่งที่ไม่เป็นมงคลกับประเทศชาติบ้านเมือง มันเกิดขึ้นมันจะทำให้สังคมมีสภาพอย่างที่พวกเราเห็นนี้ ต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาปกครองประเทศชาติบ้านเมืองนั้น ประเทศชาติไม่เคยมีความสงบ ร่มเย็น สังคมไม่เคยมีความสงบสุขเลยครับ มีแต่ความวุ่นวาย และมีแต่ความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด

พี่น้องที่เคารพรักครับ สถานการณ์การชุมนุมของพวกเรานั้น นับว่าได้มีการพัฒนา และยกระดับขึ้นมาโดยลำดับครับ ในการต่อสู้ ในการชุมนุมของพวกเรา พี่น้องจำได้ใช่ไหมครับว่า เรามาชุมนุมภายใต้ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ เพื่อให้รัฐบาลยกเลิก MOU 2543 เพื่อให้รัฐบาลถอนตัวจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการกดดัน ขับไล่กองทหารและคนกัมพูชาที่รุกรานดินแดนไทย ออกไปทุกตารางนิ้ว นี่คือข้อเรียกร้อง 3 ข้อของพวกเรา ผมคิดว่าข้อเรียกร้อง 3 ข้อนี้ มันเป็นข้อเรียกร้องที่รวมศูนย์ปัญหาสำคัญของชาติ ก็คือปัญหาที่ประเทศไทยกำลังสูญเสียดินแดนและอธิปไตยให้กับประเทศกัมพูชา ภายใต้นโยบายการเมือง การทูต และการบริหารประเทศของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ถ้าทำตามข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชน ประเทศก็มีเอกราช ประชาชนก็มีประชาธิปไตย แผ่นดินไทยไม่สูญเสียให้กัมพูชาแม้แต่ 1 ตารางนิ้วเดียวครับพี่น้อง

เหตุผล ข้อเท็จจริง ว่าทำไมเราจึงยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อนั้นต่อรัฐบาล ผมคิดว่ามาถึงวันนี้แทบจะไม่ต้องพูดถึงเลยว่า เหตุผล ข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชนนั้นมีเหตุและผลที่สมบูรณ์ ครบถ้วนด้วยข้อเท็จจริงและหลักฐาน ยากที่รัฐบาลจะปฏิเสธและโต้แย้งได้ ที่สำคัญคือ สิ่งที่เราพูดนั้น วันนี้ทำให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ และคนส่วนใหญ่เข้าใจในข้อเรียกร้องของพวกเราเป็นอย่างดี แม้กระทั่งสมาชิกรัฐสภา ซึ่งแต่ก่อนยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้ หรือพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน นักวิชาการ หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆ ประชาชนในวงสังคม อาจจะยังไม่เข้าใจปัญหานี้ แต่ 2 เดือน กับ 2 วันที่มาชุมนุมกันอยู่ที่นี่ พี่น้องต้องภาคภูมิใจนะครับว่า เราได้ทำให้ปัญหานี้เป็นที่เข้าใจของคนทั้งประเทศ และคนไทยทั่วโลก ต้องปรบมือให้กับตัวเอง ถือว่าวันนี้ในปัญหานี้ เราได้ชนะโดยเด็ดขาด อันเป็นการชนะในทางความคิด ความรู้ ปัญญา และในทางการเมือง ที่มีเหตุผลเหนือกว่ารัฐบาลทุกประเด็นครับพี่น้องครับ

รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะรัฐมนตรีของเขา หรือทีมวิชาการของเขา เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และใครต่อใครที่ยืนเคียงข้างรัฐบาล ไม่สามารถจะตอบโต้ โต้แย้งเวทีและเหตุผลการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ได้เลยครับ ต้องปรบมือให้กับทีมวิชาการ วิทยากร และความยืนหยัดต่อสู้ของพ่อแม่พี่น้อง ที่ช่วยกันทำงานเรื่องนี้อย่างแข็งขัน เสียสละ และอดทนครับพี่น้องครับ

พี่น้อง การต่อสู้วันนี้ เมื่อเราเรียกร้องให้รัฐบาลทำ 3 ข้อ จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่วันแรกที่เรามาชุมนุมจนกระทั่งถึงวันนี้ นายอภิสิทธิ์ยังไม่เคยแสดงท่าทีสนอง หรือตอบรับข้อเรียกร้องของประชาชนเลยแม้แต่น้อย ใช่ไหมครับพี่น้องครับ พี่น้องคิดว่าเป็นผลดี เป็นผลร้าย เป็นเรื่องบั่นทอนกำลังใจเรา หรือเป็นเรื่องที่ทำให้เรายิ่งมีความเชื่อมั่นและมีกำลังใจในการต่อสู้ ผมคิดว่าประเด็นนี้ผมอยากจะพูดคุยกับพี่น้องเล็กน้อยครับ

พี่น้องรู้ไหมครับ ที่นายอภิสิทธิ์ตกต่ำมาทุกวันนี้ ความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อนายอภิสิทธิ์หมดสิ้นไป ความเชื่อถือ ความไว้วางใจของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ และทั่วโลก หมดไป ทุกคนมีความรู้สึกจงเกลียดจงชังต่อการไม่ทำหน้าที่ของนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความใจดำอำมหิต และความเพิกเฉยละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ไม่เหลียวแลและช่วยเหลือนายวีระ และนางสาวราตรี ได้ทำให้นายอภิสิทธิ์หมดสภาพของความเป็นผู้นำประเทศ หมดเครดิต และหมดสิ้นเกียรติภูมิอย่างย่อยยับ ในเวทีการเมือง ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ

ผมจึงไม่รู้สึกว่า การที่นายอภิสิทธิ์ไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชนทั้ง 3 ข้อนั้น เท่ากับนายอภิสิทธิ์ขุดหลุมฝังศพตัวเองครับพี่น้องครับ แล้ววันนี้ผมเพิ่งได้ยินท่าน พ.อ.ปรีชา พูดว่า ต่อว่าไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าถ้ามาอยู่ใกล้ๆ จะถีบให้กระเด็นไปเลยครับพี่น้องครับ ผมก็เพิ่งได้ยินพี่ปรีชา ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความอดทนแล้วนะ มีความเมตตาต่อเด็กอย่างนายอภิสิทธิ์พอสมควรแล้ว ยังทนต่อพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ ผมก็เชื่อแน่ว่า ความรู้สึกเช่นนี้ของพี่น้องประชาชนชาวไทยคงมีเช่นเดียวกันเรือนแสนเรือนล้าน ครับพี่น้องครับ

ครั้งแรกผมนึกว่ามีผมคนเดียวที่อยากจะถีบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นอย่างนี้ครับพี่น้องมันเกิดจากอะไร ผมมาทบทวนและมาคิดดูว่า เอ๊ะทำไมวันนี้นายอภิสิทธิ์จึงได้เปลี่ยน คือความรู้สึกของคนจึงได้เปลี่ยนแปลงต่อนายอภิสิทธิ์ไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ จากความรู้สึกให้เกียรติ ให้โอกาส และมีความเคารพนับถือ และยังเชื่อมั่นว่าจะมีความรู้ความสามารถในการทำงานให้บ้านเมืองได้ ยังไม่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง หรือตรงไปตรงมา ในช่วงแรกๆ แต่มาวันนี้ ทุกคนกล้าวิพากษ์วิจารณ์ และหมดสิ้นความรู้สึกที่ดีๆ ต่อนายอภิสิทธิ์หมดสิ้นเลยนั้น พี่น้องครับ ไม่ได้เกิดเพราะว่าเรามีอคติ ไม่ได้เกิดเพราะว่าเราเป็นคนเจ้าอารมณ์ โมโหร้าย ไม่มีเหตุมีผลหรอกครับ ผมมาทบทวนดูแล้ว นายอภิสิทธิ์นั้นเป็นคนที่สมควรถูกประชาชนชิงชัง รังเกียจ ขยะแขยง และหมดสิ้นความศรัทธา เคารพนับถือจริงๆ ครับ เพราะพฤติกรรมของเขาเอง ไม่ใช่เพราะเรามีอคติ มีอารมณ์ ไม่มีเหตุมีผลนะครับ

พี่น้องครับผมรวบรวมพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์เอาไว้ พฤติกรรมส่วนตัวผมรวบรวมไว้ได้ 30 ประการ ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ผมรวบรวมไว้ได้ 30 ประการ เดี๋ยววันนี้ผมจะอ่านหัวข้อให้ท่านฟัง แต่ถ้ามีโอกาสผมจะมาพูดแต่ละประเด็นๆ ให้เห็น แล้วท่านจะไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมประชาชนและพวกเรา หรือคนไทยจำนวนมากจึงรู้สึกจงเกลียดจงชังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะพฤติกรรมส่วนตัว นิสัย ความรู้ความสามารถ และการบริหารประเทศของเขาที่กระทำต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนทั้งนั้นครับ มันทำให้ประชาชนมีความรู้สึกเช่นนั้น ผมเคยรวบรวมไว้แล้ว แต่วันนี้ผมรวบรวมได้ค่อนข้างจะทบทวน 30 ข้อ

ข้อที่ 1.นายอภิสิทธิ์เป็นคนมีความทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง แต่จิตใจต่ำไร้สำนึก เดี๋ยวพี่น้องดูแล้วคิดตามผมนะว่า เขาเป็นคนที่น่าจงเกลียดจงชังจริงหรือเปล่า

ข้อที่ 2. เป็นคนที่มีจิตใจคับแคบ คบคนจำกัด ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่นๆ หรือเพื่อนร่วมงาน ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนและเพื่อนร่วมงานเลย เห็นประชาชนเป็นเพียงเครื่องมือ ลิ่วล้อทางการเมืองเท่านั้นเองครับ

ข้อ 3. นายอภิสิทธิ์เป็นคนไม่มีวิธีคิด ไม่มีวิธีการทำงาน ไม่มีศิลปะในการนำ หรือการทำงานที่จะนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้เลย ทั้งหมดที่เขาเป็นนักการเมืองมาจนถึงกระทั่งวันนี้ นายอภิสิทธิ์ยังไม่เคยเสนอแนวนโยบายอะไรที่จะพาชาติบ้านเมืองก้าวไปข้างหน้าได้แม้แต่เรื่องเดียวครับพี่น้อง

ใครคิดได้ช่วยบอกผมทีว่า นโยบายหรือวิธีคิด วิธีทำงานที่เป็นคนต้นคิดของนายอภิสิทธิ์ มีเรื่องอะไรที่ทำให้ชาติบ้านเมืองก้าวไปข้างหน้า ช่วยบอกหน่อย แต่ผมดูแล้วหาไม่เจอครับ นอกจากเป็นพวกที่ลอกเลียนแบบความคิดของคนอื่น

4. ขาดความรู้และประสบการณ์ในการบริหารประเทศชาติ ที่สำคัญก็คือ มีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอดครับพี่น้อง

คนเราไม่ใช่ว่าจะเก่งมาแต่เกิดแต่สามารถเรียนรู้ได้ แต่นายอภิสิทธิ์เป็นคนหยิ่งยโส โอหัง ทนงตน เขาจึงไม่ได้เรียนรู้ประสบการณ์การบริหารประเทศของคนอื่น หรือของผู้นำในโลก ที่เขาประสบความสำเร็จมาใช้กับการบริหารประเทศของตนเองเลย แม้แต่เรื่องเดียวยังไม่เห็นเลยครับพี่น้องครับ ไม่สามารถเอาความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับลักษณะสังคมไทยได้แม้แต่เรื่องเดียว

ประการที่ 5 นายอภิสิทธิ์เป็นคนไม่เคารพความคิดเห็น และไม่เคารพประสบการณ์ของผู้อื่น

เรื่องนี้ยืนยันได้จากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไปพบไปคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมเจอมากับตัวเยอะแล้ว ขนาด อ.สมปอง ชวนท่านไปคุยไม่รู้กี่ครั้ง มันไม่เคยเอาความคิดความอ่าน ความรู้ของ อ.สมปอง ไปใช้ แต่แอบอ้าง ลับหลังในทางที่ทำให้ท่านเสียหาย มากกว่าเอาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ ผมบอกตรงๆ เคยขอจะพบจะพูดคุยกับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ด้วยซ้ำไป ท่านไม่ไปพูดคุยด้วย และไม่ไปขอหารือ ให้คำแนะนำกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะรู้นิสัยว่า เป็นคนไม่ฟังความเห็นคน สื่อมวลชน คอลัมนิสต์ใหญ่ๆ ไม่ว่าไทยรัฐ มติชน ข่าวสด คมชัดลึก หลายคนที่เป็นสื่อมวลชน เขาเคยไปคุยกับนายอภิสิทธิ์ครั้งเดียวแล้วเขาก็กลับมาเขียนด่านายอภิสิทธิ์หมด เพราะให้เขาไปนั่งฟังมันพล่ามอยู่คนเดียวไม่เคยฟังความเห็นของใครเลย

ประการที่ 6 นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่นักประชาธิปไตย วันนี้เราเข้าใจแล้ว เห็นแล้ว เมื่อก่อนนี้นายอภิสิทธิ์สร้างภาพว่าตัวเองเป็นนักประชาธิปไตย แท้ที่จริงวันนี้ นายอภิสิทธิ์เป็นเพียงนักเลือกตั้ง เป็นเพียงนักการเมืองน้ำเน่าคนหนึ่งของประเทศไทย ไม่ใช่นักประชาธิปไตย นักประชาธิปไตยจะต้องปฏิรูป สร้างสรรค์การเมือง พัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้หนีพ้นจากวงจรอุบาทว์ และการเมืองน้ำเน่า แต่นายอภิสิทธิ์เป็นคนเอาหัวไปซุกในการเมืองน้ำเน่า และกอดเนวิน กอดบรรหาร กอดสุวัจน์ กอดการเมืองน้ำเน่าเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจเท่านั้น ไม่ใช่นักประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย อย่างที่เราชุมนุมอยู่ขณะนี้ เขาไม่เคยเคารพสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนเลย

ประการที่ 7 นายอภิสิทธิ์เป็นคนขี้ขลาด ตาขาว ขี้กลัว และไม่เคยมีชีวิตเพื่อต่อสู้กับความยากลำบากในเรื่องใด โดยเฉพาะปัญหาภัยพิบัติ ทุกข์ร้อน ปัญหาความยากลำบากของประชาชน ปัญหาความเป็นความตายของบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์ไม่เคยกล้าหาญต่อสู้แม้แต่เรื่องเดียว ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งอายุ 40 กว่าปี เป็นคนขี้ขลาด ยอมจำนน ไม่กล้าต่อสู้ แม้กระทั่งเรื่องกัมพูชา พอเราเสนอเรื่อง ทำไมไม่ใช้กำลังทหารไปกดดัน ทำไมไม่คัดค้านเรื่องนี้ เอา MOU เข้ามาทำไม เอา JBC เข้ามาทำไม ถ้าไม่เข้ามาปล่อยให้รัฐบาลอื่นมาจะทำให้คนอื่นมาแทรกแซง ดีแต่อ้าง แก้ตัวแบบคนขี้ขลาดตาขาว ทำไมไม่ช่วยวีระ ราตรี ทำไมไม่ประท้วง ทำไมไม่บอยคอต ทำไมไม่ยื่นคำขาดกัมพูชา มันก็จะแก้ตัวอ้างอย่างโน้นอย่างนี้ไปเรื่อย นี่คือคนขี้ขลาดตาขาวที่ไม่กล้าต่อสู้กับปัญหาของชาติบ้านเมือง และไม่ยืนอยู่เคียงข้างประชาชน

ประการที่ 8 นอกจากขี้ขลาดแล้วยังเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ชอบปัดความรับผิดชอบทุกเรื่อง นายอภิสิทธิ์ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารบ้านเมืองของตัวเองแม้แต่เรื่องเดียว ทั้งๆ ที่บริหารบ้านเมืองเสียหายอย่างร้ายแรง

อันที่ 9 คนเห็นแล้วอยากจะถีบนายอภิสิทธิ์ คืออันที่ 9 คือนายอภิสิทธิ์เป็นเด็กไปเรียนเมืองนอก เกิดเมืองนอก เวลาพูดจะหยิ่งยโสโอหัง อวดดี จีบปากจีบคอเอียงข้าง พูดแบบนี้ถ้าเป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆ กันเขาเอารองเท้าตบปากไปนานแล้ว คือเขาเป็นคนไม่รู้สำนึก ไม่มีสัมมาคารวะ และหยิ่งยโสโอหัง ทนงตน โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังพูด กำลังชี้แจงอยู่นั้น คือการตอแหลและแก้ตัวน้ำขุ่นๆ หน้าด้านๆ ทำให้คนฟังเลือดขึ้นหน้า เขาถามไปไหนมาสามวาสี่ศอก จะอ้อมไปอ้อมมา พูดวกไปวนมา พอเราเผลอจะมาตอดเล็กตอดน้อย เป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่ พล.อ.ปรีชา บอกถ้ามาใกล้อยากจะถีบซะที ยักคิ้วยักไหล่ คนนิสัยอย่างนี้ผมไม่รู้ว่าจะอยู่อาวุโสตายแบบชราตายหรือจะตายก่อนวัยอันควรรึเปล่า เป็นคนหยิ่งยโสโอหัง อวดดีอวดเก่ง นึกว่าที่ตัวไปเรียนเมืองนอก ไปเรียนอีต้มอีตั้นมานี่เก่งเหลือเกินกว่าคนไทย ความจริงความรู้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ขี้ตีนคนไทยอีกเยอะครับพี่น้อง มีคนไทยที่เก่งกว่านายอภิสิทธิ์เยอะ แต่มันสำคัญตัวเองผิด อันนี้ต้องบอกไปถึงครอบครัวว่า กรุณาอบรมสั่งสอนบุตรหลานของท่านใหม่ว่า ยโสโอหังมาก อวดดีอวดเก่ง ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรสำเร็จมาก่อนเลย มันจึงทำให้คนที่ฟังนายอภิสิทธิ์นี่อยากจะ.. ทนไม่ได้อยากจะอ้วก บางทีคนอยู่ใกล้ๆ อยากจะถุยน้ำลายรดหน้าด้วยซ้ำไป

อันที่ 10 อีกอันที่ทำให้คนหมั่นไส้ คือชอบเถียง ชอบแถ แหลเป็นอาจิณแบบนักโต้วาที นี่คือนายอภิสิทธิ์ อย่างในสภา ประชุมเมื่อวันที่ 25 เห็นหรือยัง เอาวาระ JBC เข้ามา สมาชิกอภิปราย เหตุผลสมาชิกคัดค้าน ที่เขาไม่เห็นด้วย ที่เขาซักถาม รัฐบาลจำนนต่อเหตุผล สู้เขาไม่ได้ ก็เถียงก็แถไปอีกอย่างหนึ่ง พอคุณรสนาพูดว่าเอาเข้ามาทำไมเรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ก็แถไปอีกอย่าง พอ พล.อ.วินัย อภิปราย สมเกียรติอภิปราย หรือ นายแพทย์ชลน่านอภิปราย ใครต่อใครอภิปราย จนกระทั่งรัฐบาลจนมุม ก็จะแถไปอีกแบบ เข้าทำนองชอบเถียงชอบแถแหลเป็นอาจิณ นี่คือนายอภิสิทธิ์

อันที่ 11 คือปลิ้นปล้อน ตะหลบแตลง พูดจาโกหก ปกปิดความจริงต่อประชาชน นี่คือนายอภิสิทธิ์ โกหกทุกเรื่อง เรื่องสัญชาติพวกเราเพิ่งรู้ใช่ไหมไอ้หมอนี่มี 2 สัญชาติ นี่ก็ปกปิด พฤติกรรมส่วนตัวก็ปกปิด แก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาเข้าสภา พอ ส.ว.คำนูณ จับได้คุณหมกเม็ดแก้มาตรา 190 เปลี่ยนวรรคหนึ่งวรรคสองแยกวรรค จนกระทั่งตัดสิทธิอำนาจประชาชน พอเขาจับได้ ก็โกหกตอแหลบอกว่า ไม่ตั้งใจจะแก้แบบนี้ คณะกรรมาธิการเสนอมาอย่างนี้ ความจริงตัวมันนั่นแหละตัวดีเป็นคนขอแก้ นี่ไง โกหก ปกปิด หมกเม็ด พอเขาจับได้รีบแก้ตัวพัลวันว่า ผมจะแปรญัตติ นี่คือนิสัย เอกลักษณ์ประจำตัว ซึ่งแบบนี้คนเป็นนายกฯ ผู้นำประเทศทำอย่างนี้ไม่ได้ครับ ขาดคุณสมบัติ ถ้าเป็นพระก็ขาดศีล ถ้าเป็นนักการเมือง ถ้าจับได้กลางสภาแบบนี้ ไม่ควรหน้าด้าน ต้องลาออกกลางสภาไปแล้วครับ

ส่วนข้อ 12 คือเป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ พี่น้องรู้เลยว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ วางตัวเหนือท่าน ยกตนข่มท่าน เป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ นี่ผมไม่ได้มาใส่ร้ายเขานะครับ ผมสำรวจพฤติกรรมคนๆ นี้ ทุกวันก็เป็นแบบนี้ครับ เป็นคนที่ไร้สัมมาคารวะ ขาดคุณสมบัติผู้ดีสำหรับคนไทยอย่างยิ่งครับพี่น้องครับ

13. ไร้สำนึกรับผิดชอบทางการเมือง นี่พี่น้องไม่ต้องห่วง มันบอกถ้าผม

(สัญญาณเสียงมีปัญหา)


พระทุกโบสถ์ในประเทศไทยมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อเลยครับพี่น้อง แต่ยังหน้าด้านลอยหน้าลอยตาบอกว่า การเลือกตั้งไม่มีโกง อย่าทำโพลปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อให้เข้าใจอย่างนั้น ปันโธ่ไอ้หนูน้อย คุณนี่ไม่น่าเลยว่าจะด้านขนาดนี้ ใครเขาก็รู้ว่าการเมือง การเลือกตั้งประเทศไทยมันโคตรโกง อภิมหาโกง และแกได้เป็นนายกฯ เพราะโกงเลือกตั้งของพรรคการเมืองเหล่านี้มาค้ำจุนคุณเท่านั้นเอง แล้วมีหลักประกันอะไรถ้ายุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งใหม่มันจะไม่มีการโกง จะโกงหนักกว่าเดิมอีก

22. แปลกนะครับ นายอภิสิทธิ์เป็นคนที่มีจุดยืนที่แปลกมาก คือไม่เคยแสดงจุดยืนของการเป็นคนรักชาติ รักแผ่นดิน เพราะเขาเป็นคนหลายสัญชาติ เป็นคนเกิดต่างประเทศ ไม่เคยยากลำบาก ไม่เคยอยู่แผ่นดินไทยแบบพวกเรา ความรู้สึกสำนึกรักชาติรักแผ่นดินต่ำมาก และไม่เคยแสดงอารมณ์ความรู้สึกจะปกป้องเกียรติภูมิศักดิ์ศรีชาติของตนเอง เวลาถูกฮุน เซน ด่าเหมือนหมา ก็ลอยหน้าลอยตาเฉยเลยครับพี่น้องครับ แต่ว่ากับอำนาจของตัวเองหวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ ถ้าแผ่นดินช่างแม่งมันกูไม่หวงเลย แต่ถ้าอำนาจตำแหน่งนายกฯ หวงอย่างกับจงอางหวงไข่ ใครวิพากษ์วิจารณ์ต้องตอด ต้องโต้ต้องเถียง ต้องแหลเป็นอาจิณ แต่วันนี้แหลไม่ออกเพราะเจอพันธมิตรฯ อัดจมธรณีไปแล้วครับ มาเจอของจริงเข้าไงครับ

23. เรื่องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันสูงสุด ผมไม่เคยเห็นนายอภิสิทธิ์เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ไม่รักษาแผ่นดิน ไม่ปกป้องสถาบันสูงสุด

24. บริหารประเทศด้วยการสร้างปัญหา และหมกปัญหา ไม่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาบ้านเมืองเลย นี่คือบริหารประเทศ ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ขึ้นมาสร้างแต่ปัญหาไม่เคยแก้ปัญหาได้แม้แต่เรื่องเดียว เดี๋ยวผมจะพูดใน 30 ประการหลัง ปัญหาเยอะแยะพี่น้องเห็นแล้ว

25. เป็นคนชอบสร้างภาพ ฉวยโอกาสหาคะแนนเสียง ลอกเลียนแบบผู้อื่น ไม่มีแนวทางของตัวเอง ผมเคยพูดใช่ไหม งานศพของพี่ทองใบ ทองเปาด์ เขาไม่ได้เชิญก็ต้องไป แล้วขอชิงตัดหน้าเป็นประธาน งานหลวงตามหาบัว ไปแบบเพื่อหาเสียง แต่เผอิญไม่มั่นใจ เพราะว่าพี่น้องที่ไปงานหลวงตามหาบัว ผมว่า 80-90% เป็นพันธมิตรฯ เสื้อเหลืองเป็นส่วนใหญ่ และลูกศิษย์ลูกหาหลวงตาบัวนั้น มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยกองทุนผ้าป่าช่วยชาติ ที่จะเอาเงินของหลวงตาบัวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ แต่ด้านพอที่จะไปเพราะอยากหาเสียง หาคะแนนนิยม สร้างภาพ เสี่ยงตายก็เอานะ ยังดีรอดมาได้

26. นายอภิสิทธิ์เป็นคนเห็นแก่ตัว นิสัยเห็นแก่ตัวเป็นขนเลยครับเรื่องเห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่นเอาเปรียบผู้อื่น คิดเล็กคิดน้อย ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลย นี่คือนายอภิสิทธิ์ตัวจริง ของจริงเป็นอย่างนี้ ตอดเล็กตอดน้อย ตีกิน เหมือนดูโต้วาทีกับพวกเราถ่ายทอดออกทีวี หยิบยกพระราชดำรัสในหลวงมาพูด พูดอยู่คนเดียว พูดเสร็จปิดรายการไปเลย นึกว่าเท่ นึกว่าแน่ นึกว่าเก่ง ได้ตอดเล็กตอดน้อยตีกิน เผยสันดาน คนแบบนี้มาเป็นนายกฯ ได้อย่างไร ส่วนเรื่องเอาดีใส่ตัวโยนความชั่วให้คนอื่น ปัดความรับผิดชอบนั้น เป็นวัฒนธรรมประจำพรรค และเป็นนิสัยประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น เป็นประการที่ 27

28. อันนี้พี่น้องฟังให้ดี นายอภิสิทธิ์เป็นคนชอบกลบเกลื่อนความผิด ปกปิดพฤติกรรมส่วนตัว อ้าวทำไมเงียบ งงหรอ กลบเกลื่อนความผิด ปกปิดพฤติกรรมส่วนตัว เรื่องอะไรไปถามศิริโชคแล้วกัน แอ๊บแมน กลบเกลื่อนความผิด ผมยกตัวอย่างที่พี่น้องเห็นง่ายๆ ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 พอจับได้ไล่ทันกลางสภา รีบกลบเกลื่อนความผิด ผมจะเสนอแปรญัตติเองครับ แล้วเรียกร้อง ส.ว.คำนูณ ร่วมเซ็นด้วย พยายามจะกลบเกลื่อนความผิด ปัดปัญหาให้ไปเร็วๆ กลัวพวกเราด่ากลัวพวกเราจับได้ แต่นั่นเขาจับได้คาหนังคาเขาก็จะกลบเกลื่อน ส่วนทหารที่ตายอยู่ราบ 11 ก็เป็นส่วนหนึ่งของการกลบเกลื่อนครับพี่น้อง ผมก็รออยู่ว่าจะพูดสวนผมผมจะเอาของจริงให้ดู อ้าวนึกว่าให้ 2 ชั่วโมง

29. เป็นคนที่ละเมิดกฎหมาย ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพแม้กระทั่งกฎ 9 ข้อของตัวเองเลยครับพี่น้อง แต่มักจะอ้างกฎหมายและใช้กฎหมายไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองเล่นงานผู้อื่น ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เอาทหารไปล้อมบ้านตัวเอง สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น อย่างนี้เก่ง ถนัด หรือว่าช่วยพวกตัวเองที่ทำผิด พัชรวาททำผิด ป.ป.ช.ชี้มูล พยายามกลบเกลื่อน พยายามช่วยพวก ทำไมเป็นพวกเดียวกัน ก็มันเป็นพวกสุเทพ พัชรวาทเป็นพวกสุเทพ สุเทพเป็นพวกอภิสิทธิ์ ก็เป็นพวกเดียวกันใช่ไหม ช่วยคนอื่นที่ทำผิดถ้าเป็นพวกของตัว ถ้าเป็นพี่น้องประชาชน วีระ ราตรี ไม่ผิดก็ปล่อย นี่เป็นคนไม่ยึดมั่นในความถูกต้อง

สุดท้ายข้อที่ 30 เป็นคนที่ยึดกับหลักกู เอาหลักการบังหน้า ไม่รักษาหลักนิติรัฐ ถ้ารักษาหลักนิติรัฐ จะยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐไปประกันตัวแกนนำก่อการร้ายเสื้อแดงล้มเจ้าหรอครับ เอาหลักกูเป็นที่ตั้ง จำได้ไหมที่ศิริโชคต่อว่าผมว่า ผมไปขอให้นายกฯ ช่วย พอเขาไม่ช่วยแล้วโกรธ เรื่องคดีก่อการร้าย ที่ตำรวจตั้งข้อหา ผมก็ซัดกลับไปแล้ว ผมไม่เคยขอให้นายอภิสิทธิ์ช่วยเลย ผมมีแต่เตือน วิจารณ์ไปว่า การตั้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนกับพวกเรา ด้วยข้อหาก่อการร้ายนั้น เป็นการตั้งข้อหาเป็นเท็จ เกินกว่าความเป็นจริง และเป็นการเปิดทางให้เจ้าพนักงานใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงประชาชน คุณเป็นนายกฯ บังคับบัญชาข้าราชการ ทำไมไม่ดูแลการบริหาร การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมพูดแค่นี้ ผมไม่เคยไปอ้อนวอนขอให้คุณมาช่วย กลับมาแหลว่าผมขอให้ช่วย ผมก็ตอกหน้าไปแล้ว แต่พอทีกับเสื้อแดงมันแหลไปช่วยเขาเองครับพี่น้อง แกนนำเสื้อแดงก่อการร้าย ล้มเจ้า ทุกคนได้รับการประกันตัวออกมาหมด เพราะนโยบายของรัฐบาลและการกระทำของนายอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น ส่วนคนที่ควรจะช่วยก็ไม่ช่วย 7 คนไทย ช่วยพวกตัวเอง 5 คน จะเอาพนิชกลับมาคนเดียวกลัวโดนด่า เลยเอาคนอื่นพ่วงมาด้วย 5 คน แซมดิน และตายแน่ มุ่งมาจน พลอยกลับมาด้วย เพราะจะเอาพนิชกลับมาคนเดียวกลัวโดนถล่ม แต่จงใจปล่อยวีระกับราตรีให้ได้รับโทษหนักอยู่ในคุก นี่คือนิสัยของนายอภิสิทธิ์ครับ

พี่น้องครับ นี่ผมพูดเพียงเรื่องส่วนตัว บุคลิกลักษณะส่วนตัว 30 ประการของนายอภิสิทธิ์ อันเป็นลักษณะที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการเป็นผู้นำประเทศ นี่มีแค่ 5 ประการ 7 ประการ ก็ไม่ควรเป็นนายกฯ แล้ว นี่ประพันธ์รวบรวมความเลว ความชั่ว ความไม่เหมาะสมในการจะเป็นผู้นำประเทศมาตั้ง 30 ประการ ยังด้านชาชีวะอยู่ทำไม มันควรจะออกไปตั้งนานแล้ว นี่ผมยังไม่ลงรายละเอียดนะครับ

ส่วนอีกเรื่องที่ผมรวบรวมเอาไว้ เรียกว่าความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารประเทศ 30 ประการ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล้วนแต่เป็นเรื่องอุกฉกรรจ์ทั้งนั้น นี่ผมไล่มาแต่เฉพาะหัวข้อไม่ได้ลงรายละเอียด ถ้าลงรายละเอียดจะมันกว่านี้ การบริหารประเทศที่ผิดพลาดล้มเหลว 30 ประการ ผมจั่วหัวข้อไว้เป็นเบื้องต้นก่อน ยังไม่พูดรายละเอียด

1.นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่เป็นผลิตผลของการเมืองเก่าที่ล้าหลัง เป็นผลิตผลของการเมืองที่สามานย์ เป็นนายกฯ ของระบอบการเมืองที่สามานย์

2.เป็นตัวแทนของพรรค และนักการเมืองที่โกง ทุจริต ขายชาติ ปกป้องผลประโยชน์กลุ่มธุรกิจการเมือง ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชน
3.นายอภิสิทธิ์สมคบ ร่วมมือ และสนับสนุนนักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่น

4.ไม่มีแนวคิด ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง และยอมจำนนต่อการเมืองระบอบเก่าทุกประการ

5.คำนึงแต่กลุ่มการเมืองที่ค้ำจุนอำนาจตัวเอง ละทิ้งผลประโยชน์ชาติ ละทิ้งประชาชน พี่น้องฟังทุกข้อที่ผมไล่มาจะมีเรื่องราวรายละเอียดข้อเท็จจริง

6.ยึดแนวทางประชานิยมมอมเมาประชาชน แล้วสวนทางกับแนวทางพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง นี่คือนโยบายของนายอภิสิทธิ์

7.ผลาญเงินงบประมาณ สร้างภาระหนี้ ใช้จ่ายงบประมาณฟุ่มเฟือยเพื่อประโยชน์พรรค และเพียงต้องการคะแนนนิยมเท่านั้น

8.ทำลายหลักนิติรัฐ แทรกแซง ทำลายกระบวนการยุติธรรม

9.ไม่เคารพ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ไม่ยึดมั่นในแนวนโยบายแห่งรัฐ ผมรวบรวมมาเพื่อถล่มนายอภิสิทธิ์โดยเฉพาะแต่ละข้อ ข้อนึงพูดได้ 1 วัน

10.ไม่ส่งเสริมและพัฒนาการเมืองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ผมจะพูดให้ฟังว่า นายอภิสิทธิ์เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอย่างไร
11.เป็นคนที่ล้มเหลวที่สุดในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้เลยครับ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
12.ล้มเหลวในการปกป้องและรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ ทำให้ไทยสูญเสียดินแดนให้แก่กัมพูชา

13.เป็นคนที่ทำลายเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของประเทศชาติในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ไม่ช่วยเหลือปกป้อง ไม่คุ้มครองสิทธิของพลเมืองไทย

14.ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสังคม ล้มเหลวในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปล่อยให้ปัญหาการชุมนุมเป็นจลาจลเผาบ้านเผาเมือง อาชญากรรมการค้ายาเสพติด การค้าประเวณี การล่อลวง การละเมิดสิทธิมนุษยชน ขยายตัวลุกลามเป็นวิกฤตสังคมทุกด้าน

15.ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ค่าครองชีพ สินค้าราคาแพง ขาดแคลน ภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ฐานะการคลังของประเทศไม่มั่นคง ปัญหาข้าวยากหมากแพงลุกลามบานปลาย ประชาชนไร้หลักประกัน นี่คือผลงานนายอภิสิทธิ์ทั้งนั้น

16.ผลกระทบจากนโยบายกองทุนประกันสังคม กำลังสร้างปัญหาต่อสวัสดิการผู้ใช้แรงงานอย่างรุนแรง จนผู้ใช้แรงงานจะบอยคอตไม่ส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคม
17.การแก้นโยบายราคาพืชผลเกษตร การประกันรายได้ล้มเหลว เอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มทุนการเกษตรขนาดใหญ่เท่านั้น

18.การปฏิรูปที่ดิน การจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกร ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง การออกโฉนดที่ดินโดยเอา ส.ป.ก.มาทำเป็นโฉนดทั่วประเทศ เอื้อประโยชน์ให้พวกนายทุน นักการเมืองที่ครอบครองที่ดินอยู่เป็นพันๆ หมื่นๆ ไร่

19.ทำลายกองทัพของชาติ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิทหาร ใช้ตำรวจและข้าราชการเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น

20.แทรกแซง ครอบงำสื่อของรัฐ เอกชน มอมเมาประชาชน โฆษณาชวนเชื่อ เป็นเครื่องมือค้ำจุนอำนาจ ปกป้องการปกครองที่ฉ้อฉลไร้ความชอบธรรมของตน ใช้เงินงบประมาณของรัฐติดสินบนด้วยการเอื้อประโยชน์ให้แก่สื่อที่รับใช้ตนและรัฐบาล บิดเบือนการนำเสนอข้อเท็จจริงของประชาชน หรือผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง คัดค้านรัฐบาล

21.แทรกแซง ครอบงำองค์กรณ์อิสระ พี่น้องจะแปลกใจว่ารัฐบาลนี้แทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่ต้องแปลกใจว่า คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กกต.ทำไมมีความเห็นแบบนั้น นั่นหละคือกระบวนการแทรกแซง สตง., ป.ป.ช. แม้กระทั่งสภาทนาย รัฐบาลนี้ยังเอาเงินไปช่วยสภาทนาย หวังจะปิดปากไม่ให้สภาทนายออกมาเป็นปากเสียงและร่วมสู้กับประชาชน

22.เร่งรัดกฎหมายคุกคามเสรีภาพประชาชน คือรีบออกกฎหมายควบคุมการชุมนุมสาธารณะ แต่กฎหมายที่จะคุ้มครองเสรีภาพ สิทธิประชาชน เช่น กฎหมายให้ประชาชนฟ้องนักการเมืองต่อศาลฎีกา ดองไว้จนกระทั่งวันนี้ยังไม่เสนอเข้าสู่สภาเลยครับ

23.ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ช่วยเหลือบริษัทต่างชาติไม่ต้องเสียภาษีถึง 68,881 ล้านบาท กรณีฟิลลิป มอร์ริส และกรณีอื่นๆ อีก มีพฤติกรรมช่วยนายทุน นักธุรกิจต่างประเทศ แต่ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย

ใกล้จบแล้วเอาเฉพาะหัวข้อไว้ก่อน 24.บริหารประเทศล้มเหลว โดยนายอภิสิทธิ์เป็นคนเลือกใช้คนไม่เหมาะกับงาน คณะรัฐมนตรีของเขาล้วนแต่เป็นคนที่ขาดความรู้ ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศโดยขาดบุคลากร ทีมงานที่มีความรู้ความสามารถอันเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตของชาติ

25.นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่สามารถสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติได้ ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน คำนึงแต่ประโยชน์ของตนเองและประโยชน์ของพรรคการเมืองที่ตนสังกัด มุ่งแต่จะเอาชนะในการยัดเยียดข้อกล่าวหาอันไม่เป็นธรรมให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์

29.มีพฤติกรรมใช้อำนาจไปในทางไม่ชอบ เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง

30.มีพฤติกรรม บุคลิกลักษณะส่วนตัว ทัศนคติ และอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมไทย ไม่ใช่ลักษณะผู้นำที่ดีที่จะสร้างความเจริญรุ่งเรื่องให้แก่ประเทศชาติและบ้านเมือง

นี่คือคุณสมบัติของความล้มเหลวที่นายอภิสิทธิ์ทำไว้กับประเทศชาติบ้านเมือง เห็นหรือยังครับที่ผมเตรียมไว้ 30 ข้อ เพราะผมกะว่าจะอยู่อีก 60 วัน พูดหัวข้อละวันครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นเรายังได้อยู่กันอีกนาน พี่น้องครับ วันนี้ขอจบท้ายด้วย ความจริงอยากจะมาพูด แต่เอาไว้ก่อน คือเรื่องสถานการณ์การเลือกตั้ง ว่าวันนี้พี่น้องครับ ชัยชนะอีกอันหนึ่งที่พี่น้องจะต้องมองเห็น ก็คือ วันนี้สังคมและประเทศไทย คนส่วนใหญ่มองเห็นแล้วว่า เลือกตั้งไปก็เปล่าประโยชน์ มีแต่จะสร้างความเสียหายและไร้อนาคตให้กับประเทศชาติบ้านเมือง นี่คือชัยชนะที่เราทำให้คนในสังคมเห็นพ้องต้องกันกับเราว่า นักการเมืองสกปรกโสโครกนี้เราไม่ควรไปเลือกกลับมาอีก กระแสสังคมขณะนี้ไม่เอาการเลือกตั้งแบบนี้ และถ้ามีเราจะโหวตโนลงโทษนักการเมือง นี่คือชัยชนะของเรา รายละเอียดทั้งหมด ถ้ายังมีการชุมนุมอยู่ต่อ นายอภิสิทธิ์ยังไม่ไป ไม่ล้มหายตายจากพวกเราไปก่อน ผมจะมาพูดรายละเอียดแต่ละวันแต่ละเรื่อง เพื่อชี้ให้พี่น้องเห็นว่า 30 ความล้มเหลวของนายอภิสิทธิ์มีอะไรบ้าง 30 คุณลักษณะความชั่วร้ายในตัวนายอภิสิทธิ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการเป็นผู้นำประเทศที่ดี และไม่อาจจะนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญได้ เราจะมาพูดคุยกัน คุณอยากด้านก็ด้านไป แต่เราจะมาชำแหละคุณทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน ทนได้ทนไป และดูว่าขนาด เมื่อการเลือกตั้งคราวที่แล้วพี่น้อง พันธมิตรฯ ช่วยลงคะแนนให้อย่างท่วมท้นทุกเขตทั่วประเทศ ลื้อยังไม่ชนะเขาเลย มันนี้ยังบังอาจมาเนรคุณพี่น้องประชาชน เราจะสั่งสอนคุณให้ดู เราจะระดมประชาชนโหวตไม่เลือกพรรคใด คนใดในการเลือกตั้งคราวต่อไปถ้ามี แต่ที่แน่ๆ ผมเชื่อว่าไม่น่าจะมีการเลือกตั้งนะพี่น้อง ขอบคุณมากครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น