xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ยัน “มาร์ค” แทรกแซง “ฟิลลิป มอร์ริส” โดยตรง ซัดโคตรเลวกว่า “แม้ว” แบบหาที่ติไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ยัน “อภิสิทธิ์” แทรกแซง “ฟิลลิป มอร์ริส” โดยตรง ตั้งแต่มอบให้ “เกียรติ” เข้าไปดูแลเรื่องร้องเรียนจากบริษัทบุหรี่นี้ แถมเรียกกรรมการสอบสวนคดีเข้าพบ สั่งให้ทบทวนการพิจารณาคดี ชี้สิ่งที่ประเทศควรได้ภาษีก็ไม่ทำ แต่เรื่องเสียดินแดนดันยอมให้ถูกรุกราน ปล่อยให้ ปชช.ถูกขูดรีด ที่สำคัญทำกองทัพไทยหมดศักดิ์ศรี อ่อนแอ ย้ำโคตรเลวกว่า “แม้ว” แบบหาที่ติไม่ได้ และเป็นนายกฯที่เลวที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (8 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ตนขอยืนหยัดว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เลวที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา โคตรเลวกว่าทุกคน มีคอลัมนิสต์ นักจัดรายการบางคนประจบสอพลอ เป็นปากกระบอกเสียงให้นายอภิสิทธิ์ เพื่อให้ได้พื้นที่ในการเขียนคอลัมน์ ให้ได้เวลาในการจัดรายการ

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ที่บอกว่านายอภิสิทธิ์ไม่เลวกว่านายทักษิณ ตนขอบอกว่าโคตรเลวกว่าทักษิณอีก แค่เรื่องฟิลลิป มอร์ริส ก็โคตรเลวกว่าทักษิณแล้ว นายทักษิณโกงบ้านกินเมืองแต่วันนี้ก็ถูกยึดทรัพย์แล้ว แต่วันนี้ความเลวของนายอภิสิทธิ์นั้นเฉพาะคดีนี้คดีเดียว ทำประเทศไทยสูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่า 68,881 ล้านบาท และจากเรื่องนี้มันจะลามไปคดีอื่นๆ มันจะมีบริษัทอื่นเอาอย่างหมด ต่อไปประเทศจะสูญเสียภาษีเป็นแสนๆ ล้าน นี่ยังไม่รวมกับเงินที่พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันโกงกินอีก 3-5 แสนล้าน นี่แค่ 2 ปีเอง นายทักษิณอยู่ในอำนาจ 5 ปี เอาไป 3-4 แสนล้าน สร้างความร่ำรวยให้ตัวเอง 4.6 หมื่นล้านและก็รับใช้กรรมด้วยการถูกยึดทรัพย์แล้ว แต่นายอภิสิทธิ์กับพวกยังไม่ได้รับกรรม ความชั่วเลยมากกว่า นี่อยู่แค่ 2 ปี ทำความชั่วมากกว่าไปแล้ว 3 เท่า

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์ และนายเกียรติ ออกมาแก้ตัวกันพัลวันว่าไม่ได้แทรกแซงคดี แต่ตนขอยืนยันว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับนายกฯและคนของนายกฯ โดยตรง เมื่อเช้านายเจิมศักดิ์พยายามแก้ตัวให้นายอภิสิทธิ์ผ่านรายการวิทยุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ขอบอกว่าตอแหลประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าก็จริงเป็นเรื่องการนำเข้าบุหรี่ LM กับมาร์ลโบโร บริษัทแม่อยู่อเมริกา บริษัทลูกอยู่ที่ไทย แต่สำแดงราคาเท็จว่ามาร์ลโบโรซองละ 7 บาท 76 สตางค์ L&M ซองละ 5 บาท 58 สตางค์ สำแดงต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่คิงเพาเวอร์แจ้งมาร์ลโบโรซองละ 27 บาท 46 สตางค์ และ L&M 16 บาท 81 สตางค์

ดีเอสไอดำเนินคดี โดยให้ตั้งกรรมการตรวจสอบ ตั้งในสมัยรัฐบาลทักษิณจริง แต่ตั้งเมื่อ 10 สิงหาคม 2549 ก่อนนายทักษิณถูกปฎิวัติ 1 เดือน กรรมการประกอบด้วย ดีเอสไอ สรรพากร ศุลกากร ผู้แทนอัยการ 3 คน เรื่องเกิดสมัยนายทักษิณก็จริงแต่สอบสวนแล้วสรุปสำนวนส่งฟ้องเมื่อ 2 กันยายน 2552 เป็นช่วงที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แต่ก่อนส่งฟ้องฟิลลิป มอร์ริส วิ่งเต้นมาตลอด แต่ไม่สำเร็จ ไม่มีใครกล้ารับเพราะเป็นภาษีจำนวนมาก เป็นธุรกิจบาป ใครรับถือเป็นการฆ่าผ่อนส่งประชาชน เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต

คนที่แก้ตัวให้นายอภิสิทธิ์ ลองแก้ตัวสิว่าเกิดในรัฐบาลก่อนแต่ทำไมรัฐบาลก่อนไม่มีใครช่วยเลย แล้วทำไมรัฐบาลนี้ถึงช่วย ทำไมไม่อธิบาย แล้วใครที่ช่วยล่ะ การตรวจสอบ 6 ปี นอกจากฟิลลิป มอร์ริส จะวิ่งเต้นแล้วยังพยายามร้องเรียนหอการค้าระหว่างประเทศ ให้มาบีบคั้นรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย เพราะบริษัทบุหรี่มีอิทธิพลกับรัฐบาลในอเมริกามาก แต่ก็ไม่มีใครยอมจนมาถึงรัฐบาลนี้

“อภิสิทธิ์บอกว่าตัวเองไม่ได้แทรกแซง เรื่องนี้อภิสิทธิ์แทรกแซงโดยตรง เพราะพอบริษัทนี้ไปร้องเรียนองค์การการค้าโลก (WTO) ก็ตาม ฟ้องหอการค้าต่างประเทศก็ตาม แทนที่จะมอบเรื่องนี้ให้กรมเจราจาการค้าของกระทรวงพาณิชย์ เพราะกรมนี้ทำเรื่องนี้มาตลอดก่อนมีองค์การการค้าโลก และมีหน้าที่เจรจาต่อรองดูแลผลประโยชน์ของประเทศไทย แต่ดันมอบให้นายเกียรติ สิทธิอมร ซึ่ง เป็นผ้แทนการค้าที่นายกฯตั้ง ก็คือเป็นลูกน้องนายกฯโดยตรงนั่นเอง ปัญหาคือบริษัทบุหรี่นี้มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม นายอภิสิทธิ์น่าจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประเทศได้ประโยชน์ คณะกรรมการก็มีคำสั่งส่งฟ้องแล้ว ดันทะลึ่งไปยุ่งอีก ไม่ปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์แทรกแซงด้วยวิธีการ ให้สำนักนายกฯทำหนังสือเชิญ ดีเอสไอ อัยการ สรรพากร ศุลกากร และ อัยการ 3 คน ที่อยู่ในกรรมการคณะแรกที่เห็นควรสั่งฟ้องไปแล้ว โดยหนังสือเชิญก็ระบุว่าเป็นบัญชาของนายกฯ และนายกฯ มีท่าทีอยากให้ความเป็นธรรมบริษัทนี้ ก็เท่ากับว่าฝ่ายการเมืองส่งสัญญาณให้ข้าราชการไปทบทวนคดีนี้ มันก็คือการแทรกแซงให้กลับคำฟ้องนั่นเอง เพราะการให้ความเป็นธรรมมันคืออะไรล่ะ จากตอนแรกสั่งฟ้องให้ความเป็นธรรมก็คือไม่ฟ้องนั่นเอง

ถ้านายกฯ ไม่สั่งให้ไปยุ่งเกี่ยว ป่านนี้ก็ดำเนินไปตามกฎหมายแล้ว แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีใครทำ เลวหาที่ติไม่ได้จริงๆ แม่ว่าบริษัทนี้จะอ้างองค์การการค้าโลก (WTO) ตนจะบอกให้ว่าคำวินิจฉัยองค์การการค้าโลกไม่มีผลต่อกฎหมายไทย เพราะไทยมีเอกราช มีอธิปไตย แม้สินค้านี้จะปล่อยให้ทั่วโลกเอาเข้ามา แต่ไม่ได้ให้แจ้งราคาตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีเหตุผลและข้ออ้างเลยที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย วันนี้นายอภิสิทธิ์ทำผิดแบบไม่น่าให้อภัย

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า นายเกียรติพยายามอ้างว่าจะแทรกแซงอัยการได้อย่างไร ก็แทรกแซงด้วยวิธีการเรียกเจ้าหน้าที่มาประชุมแล้วขู่ว่าถ้าฟ้องแล้วจะเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศ ที่บอกว่าอัยการแทรกแซงไม่ได้ ประเทศไทยอัยการไม่เหลือศักดิ์ศรีแล้ว พร้อมเอนไปซ้ายขวาได้ตลอดเวลา

“ผมพูดเรื่องนี้เพื่อตอกย้ำว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ และรัฐบาลยังชี้แจงประชาชนไม่ได้เลย ถ้ามีเหตุผลข้อเท็จจริง ต้องตอบประชาชนเรื่องนี้ให้ได้ นอกจากทำให้ประเทศไม่ได้ภาษีแล้ว ต่อไปเอาบุหรี่นอกเข้ามาดัมพ์ราคาแค่ครั้งเดียว โรงงานยาสูบไทยเตรียมปิดได้เลย เรื่องผลประโยชน์ที่ควรได้ก็ไม่ทำ แผ่นดินแทนที่จะไม่เสียก็ให้ต่างชาติมารุกราน ข้าวยากหมากแพงก็ปล่อยให้นายทุนขูดรีดประชาชน งบประมาณแผ่นดินที่มีน้อยอยู่แล้วแทนที่จะได้เงินนี้มาช่วยหนุนก็ไม่ได้ จะไม่เรียกว่าชั่วกว่ารัฐบาลอื่นๆ ได้ไง” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า สุดท้ายที่เลวกว่านั้นคือการไม่ปกป้องแผ่นดินแล้ว ยังให้ทหารและกองทัพไทยตกอยู่ในสภาพอ่อนแอปวกเปียก นักการเมืองที่โกงภาษีประชาชนก็เอาเงินไปฟาดหัวผู้นำกองทัพบางคน และผู้นำกองทัพบางคนก็ขายชาติขายจิตวิญญาณ ไปเป็นน้องเขยนายฮุนเซน ไปเอาน้องเมียฮุนเซนมาเป็นเมีย แล้วก็ค้าขายหากินกับฮุนเซน

“พี่น้องทหารหาญที่เคารพรัก ช่วยจับผู้บังคับบัญชาของท่านที่ทรยศต่อชาติ ต่อแผ่นดิน ออกไปด้วย วันนี้ทหารหมดศักดิ์ศรีแล้วถ้ายังให้ผู้นำบางคนเกาะแข้งเกาะขาอยู่กับนักการเมืองเลวอยู่แบบนี้ มาถึงวันนี้นายอภิสิทธิ์เลวกว่านายทักษิณแบบหาที่ติไม่ได้เลย ถ้านายเจิมศักดิ์ หาความดีนายอภิสิทธิ์เจอช่วยเอามาบอกผม และพี่น้องหน่อย” นายประพันธ์กล่าว

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่อยู่ทั่วโลก และติดตามชมหน้าจอ ASTV ขอคารวะด้วยจิตใจที่กล้าหาญกล้าต่อสู้ของท่าน ทำให้พวกผมมีกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อสู้จนกว่าเราจะได้ชัยชนะ

วันนี้ ไปๆ มาๆ เขาคงให้ผมยึดโพเดียมของนายอภิสิทธิ์ไว้ตลอดไปเพื่อถือเคล็ด เพราะว่าถ้าประพันธ์ยึดโพเดียมแล้วอภิสิทธิ์ก็น่าจะมีโอกาสตกโพเดียมครับพี่น้อง ในช่วงนี้จึงเป็นที่สังเกตว่า อภิสิทธิ์ไปที่ไหนยืนโพเดียมไม่ค่อยติด เพราะว่าจะมีพี่น้องประชาชน กลุ่มสุภาพสตรีผู้กล้าหาญ ตามประท้วงไปทุกหนทุกแห่ง ทำให้โพเดียมของอภิสิทธิ์คงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคุ้มครองโพเดียมไปด้วยมั้งครับพี่น้องครับ ต่อไปนี้มีโพเดียมที่ไหนก็ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไปด้วยครับพี่น้อง เพราะที่บ้านก็อุตส่าห์ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว แนะนำท่าน ผบ.ตร.นะครับว่า เวลานายกฯ ไปปราศรัยที่ไหนให้นำกฎหมายความมั่นคงไปประกาศในบริเวณโดยรอบโพเดียมด้วยห้ามคนเข้าไปใกล้ ก็หวังว่าน่าจะใช้ได้ผล แต่ดูเหมือนว่าพี่น้องประชาชนแม้จะมี พ.ร.บ.ความมั่นคง มันก็ไม่มั่นคงสำหรับตำแหน่งนายกฯ อภิสิทธิ์ เสียแล้วครับพี่น้องครับ

วันนี้มาเร็วกว่ากำหนด อาจจะเป็นเพราะว่าทำงานดีเขาก็เลยเลื่อนเวลาเข้ามาก็ได้ มีเรื่องที่อยากจะพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ และได้พูดกับพี่น้องประชาชนไปแล้ว แต่ว่ายังมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่สนใจเรื่องที่ผมพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเมื่อวานนี้ แต่ว่าก่อนจะพูดคุยกันในเรื่องสำคัญดังกล่าว ผมมีพี่น้องชาวไทยจากอเมริกาเขียนจดหมายมาถึงผม เมื่อวานนี้ผมอ่านจดหมายพี่น้องชาวใต้ พี่น้องจากสิงห์บุรีไปแล้ว แต่วันนี้ผมเห็นว่ามีจดหมายของพี่น้องชาวไทยที่มาจากอเมริกา ซึ่งเขียนมาได้ดีมาก ผมขออนุญาตอ่านก่อนจะพูดคุยกับพี่น้องในประเด็น

พี่น้องครับ ผู้ที่เขียนจดหมายมานั้นชื่อ คุณสุพัตรา เมดโทรส เป็นคนไทยที่อยู่บอสตัน ติดตามรับชมรับฟัง ASTV และฟังการปราศรัยของพวกเราบนเวทีนี้มาโดยตลอดไม่เคยขาดเลย เธอเขียนมาอย่างนี้ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2554 บอกว่า หนูแต่งงานกับสามีเป็นวิศวกรชาวอเมริกัน เราพบกันที่จุฬาฯ ขณะที่หนูทำงานอยู่ที่นั่น สามีและครอบครัวเขาติดตามสถานการณ์ในเมืองไทยตลอด ตั้งแต่ที่หนูอยู่ในเมืองไทยและไปเดินไล่ทักษิณกับพันธมิตรฯ ด้วย ตอนที่ทักษิณออกไปและอภิสิทธิ์เข้ามา หนูเล่าให้ทุกคนทางอเมริกาฟังว่า หนูภูมิใจในตัวนายกฯ คนนี้มาก การศึกษาดี มาจากพรรคที่หนูและครอบครัวที่ จ.สตูล เลือกมาตลอด น่าจะนำพาประเทศกลับสู่ความสุข และน่าอยู่เสียที แต่ตอนนี้คุณพ่อสามีมาถามอีกว่า ทำไมยังมีการชุมนุมกันอีกล่ะ หนูเจ็บใจและเสียใจที่เคยบอกคุณพ่อไปว่า ชอบคุณอภิสิทธิ์ หนูเล่าให้พ่อกับแม่สามีฟัง ใช้เวลาเป็นวันค่ะถึงจะหมดว่ารัฐบาลนี้ทำความเสียหายอย่างไร โดยคิดถึงคำพูดของคุณประพันธ์ ที่หนูรับฟังทุกวัน ขอบคุณคุณประพันธ์ที่อ่านข้อความที่หนูส่งไปให้ทาง Facebook ออกเวทีก่อนหน้านี้ อีกอย่าง ตั้งแต่หนูมีอายุถึงสามารถเลือกตั้งได้ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยน ความคิดอันหนึ่งที่ผุดมาคือ ทำไมไม่ว่าจะเลือกใคร เลือกสักกี่ครั้งก็ตาม ไม่เคยได้ดั่งใจ เลือกนักการเมือง เหมือนเป็นนักการทำมาหากินกับภาษีของประชาชน ที่ต้องจ่ายภาษีทุกเดือน จากการทำงานที่สุจริตและเหนื่อยยาก การเลือกตั้งแต่ละครั้งใช้เงินมากมายมหาศาล แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น หากพันธมิตรฯ ไม่คิดวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีเลือกตั้ง ไม่ขับไล่นักการเมืองแย่ๆ ออกไป ตอนนี้คงไม่มีใครในบ้านเมืองคิดจะทำแล้วละ บ้านเมืองไม่มีที่พึ่งแล้วนอกจากพันธมิตรฯ ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็คงไม่รู้จะทำตอนไหน เพราะตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจจากการอธิบายบนเวทีนี้

สถานการณ์ของคุณอภิสิทธิ์ หากที่นี่ที่อเมริกา คะแนนนิยมตกต่ำขนาดนั้น ทำความเสียหาย มีหลักฐานขนาดนั้น อยู่ได้ไม่เกินสัปดาห์ก็คงต้องลาออกไป หน้าไม่หนาหน้าไม่ด้านขนาดนั้น ไม่มีสปิริตของนักการเมือง ไม่เคารพประชาชน ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน

เธอเขียนต่อไปว่า หนูเริ่มเอะใจเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง ด้วยวิธีการแก้ปัญหา การเพิกเฉยต่อปัญหาของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ทหารผู้ใหญ่เสียชีวิต เจ้าของผู้ประกอบการได้รับความเสียหาย ผู้คนอยู่ด้วยความหวาดผวา ว่าเมื่อไหร่จะมีระเบิดอีก ออกจากบ้านไปทำงานแล้วไม่รู้จะมีชีวิตกลับบ้านตอนเย็นรึเปล่า นี่ยังไม่รวมเรื่องใหญ่ที่สุดคือ เรื่องเสียดินแดนให้กับกัมพูชา การแก้ปัญหาต่อคนไทยที่ต้องไปติดคุกที่กัมพูชา ที่หนูเกิดมายังไม่เคยเห็นนายกฯของประเทศไหนไม่ช่วยคนประเทศตนเองแบบนี้ และยังไม่รวมถึงการโกงกินอย่างมโหฬารทุกกระทรวง การแก้ไขปัญหาทางภาคใต้ ที่ทหารและชาวบ้านเสียชีวิตอย่างโหดร้ายทุกวัน นายกฯ นอนหลับตาได้อย่างไร ท่านโกหกประชาชนได้ แต่ท่านโกหกตัวเองได้อย่างไร ความหวังที่หนูเคยมีว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค อย่าง ท่านชวน ทำไมไม่สะกิดให้ตกเก้าอี้นายกฯ ไปเลย ไม่เข้าใจจริงๆ

คุณสมบัติของคุณอภิสิทธิ์ ที่คุณประพันธ์กล่าวมา หนูเห็นด้วยทุกอย่าง คงจะเป็นคุณสมบัติอันเลวร้าย 27 ประการ ของนายอภิสิทธิ์นะครับ และหนูอยากจะให้ความฝันของหนูเป็นจริงคือ ตื่นมาพบว่านายอภิสิทธิ์ตกเก้าอี้นายกฯ ไปแล้ว ขอบคุณคุณประพันธ์ที่เสียสละทุกอย่าง หนูน้ำตาซึมทุกครั้งที่คุณประพันธ์บอกว่า ขอเป็นข้าพระบาทเป็นทาสประชาชน ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์ ส่งให้คุณประพันธ์ คุณสนธิมาช่วย หนูอยู่ทางนี้ที่บอสตัน ของส่งใจช่วย อีกอย่างที่เคมบริดจ์ ขึ้นป้ายเป็นชื่อในหลวงของเรา เพื่อเป็นเกียรติในฐานะที่ท่านประสูติที่นี่ ที่บอสตันหนูและสามี แขวนรูปในหลวงและราชินีไว้ในห้องนั่งเล่น รักและเคารพ ขอให้ทุกคนมีความปลอดภัยและสำเร็จในการต่อสู้ เพื่อนำพาประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง สุพัตรา เมดโทรส บอสตันอเมริกา

พี่น้องครับ ที่ผมมาพบท่านทุกครั้ง ผมพยายามจะนำความรู้สึกและจดหมายที่พี่น้องประชาชนเขียนมาถึงพวกเรา มาบอกกล่าวก็เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ มีความรู้สึกนึกคิด แม้จะอยู่ห่างไกลจากประเทศชาติบ้านเมืองของตนเอง ก็มีความห่วงใยประเทศชาติบ้านเมือง และมีความรู้สึกร่วมกันกับพวกเราทุกคนว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ที่ใช้ไม่ได้จริงๆ ครับพี่น้องครับ เป็นนายกฯ ที่ทำลายความหวัง อนาคตของชาติบ้านเมือง และสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทุกคนได้แต่หวังและภาวนาว่า การต่อสู้ของเราจะประสบความสำเร็จ และทำให้นายอภิสิทธิ์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครับพี่น้องครับ พวกเราทุกคนบนเวทีนี้ ไม่ว่าทีมวิชาการ วิทยากร ผู้ดำเนินรายการ ผู้ประกาศ ทุกคนที่มาทำหน้าที่บนเวทีนี้ ทำหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ และตั้งใจ เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้น เป็นภารกิจเพื่อการปกป้องแผ่นดิน และรักษาประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมือง ปกป้องชาติ ราชบัลลังก์ให้หลุดพ้นจากการสูญเสียดินแดนและอธิปไตย ในยุคสมัยรัชกาลปัจจุบัน

อ.พิภพ ธงไชย คุณปานเทพ อ.เทพมนตรี นักวิชาการทุกคน ต่างแสวงหาข้อมูล ความรู้ ข้อเท็จจริงทุกประการ เพื่อจะบอกกับเพื่อนร่วมชาติและพี่น้องว่า ประเทศไทยเสียดินแดนเพราะถูกกัมพูชารุกราน เพราะความโง่เขลาอ่อนด้อยประสิทธิภาพ ไร้สภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เราเพียรพยายามที่จะบอกให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง มาทำหน้าที่ปกป้องดินแดนและอธิปไตย แต่นายอภิสิทธิ์ไม่เคยนำพา และไม่เคยสนใจที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ ผมเองก็ต้องเพียรพยายามรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อชี้ให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ล้มเหลวและไร้ความสามารถที่สุด ไร้ประสิทธิภาพที่สุด บริหารให้เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองที่สุด แม้ว่าเราจะเพียรพยายามพูดอยู่ทุกวันนี้ มันยังมีคนพยายามจะออกมาแก้ต่างปกป้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามจะโจมตี ใส่ร้าย บิดเบือนการต่อสู้ของพวกเราอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม ความจริงย่อมเป็นความจริง และผมจะต้องยืนหยัดที่จะพูดและบอกกับพี่น้องชาวไทยทุกคนว่า นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่เลวกว่านายกฯ ทุกคนที่ประเทศไทยเคยมีมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีบางคนเถียงผม บอกว่าคุณประพันธ์พูดได้อย่างไรว่านายอภิสิทธิ์เลวกว่านายกฯ ทุกคน ก็ผมจะยืนยันให้คุณเห็นไงว่า นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่โคตรเลวกว่าทุกคน

มีคอลัมนิสต์บางคน นักจัดรายการบางคนในคราบนักวิชาการ ที่พยายามไปเกาะคลื่นนู้นเกาะคลื่นนี้ เกาะนักการเมือง เลียแข้งเลียขาประจบสอพอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อให้ได้เวลาในช่อง 11 เพื่อให้ได้หน้าหนังสือพิมพ์แนวหน้ามาเป็นพื้นที่เขียน เพื่อให้ได้เวลาในสถานีวิทยุมาจัดรายการ ทำตัวเป็นปากกระบอกเสียงปกป้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถ้าคุณมีข้อมูลข้อเท็จจริง แน่จริงคุณมาโต้กับนายประพันธ์ คูณมี ผมจะบอกนายอภิสิทธิ์เลวที่สุดในโลก เลวที่สุดของความเป็นนายกรัฐมนตรีไทย แต่คุณเป็นคนแหลเหมือนกันกับนายกฯ คุณไม่กล้าบอกว่า นายกรัฐมนตรีไม่เลวกว่านายกฯ คนอื่นอย่างไร คุณทำไมไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริง คุณได้แต่แหลไปแหลมา ไม่เชื่อว่า ผมไม่เห็นด้วยว่านายกฯอภิสิทธิ์ เลวกว่านายกฯ ทักษิณ ผมก็บอกว่า นายกฯ อภิสิทธิ์เลว โคตรเลวกว่านายกฯ ทักษิณ พอผมพูดอย่างนี้ บรรดาลิ่วล้อ สมุนบริวารของอภิสิทธิ์ หรือสมุนลิ่วล้อของนายอภิสิทธิ์ จะมาบอกว่า นายประพันธ์วันนี้สงสัยรับเงินทักษิณมาพูด เลยบอกว่าอภิสิทธิ์เลวกว่าทักษิณ

พี่น้องครับ ถ้าพี่น้องฟังเรื่องเมื่อวานนี้ กรณีของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็บอกแล้วว่า นายอภิสิทธิ์โคตรเลวกว่าทักษิณเลย ก็ผมบอกแล้วไงว่า ทักษิณขายหุ้นเทมาเส็ก ถ้าเลี่ยงภาษีก็เลี่ยงแค่หมื่นกว่าล้าน แต่ความเลวของทักษิณนั้น วันนี้ถูกศาลตัดสินยึดทรัพย์ที่ร่ำรวยผิดปกติมาแล้ว ความเลวของเขาได้ถูกชดใช้โดยผลของคำพิพากษาไปแล้ว แต่วันนี้ความเลวของนายอภิสิทธิ์เฉพาะคดีฟิลลิป มอร์ริส ทำให้ประเทศชาติสูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่า 68,881 ล้านบาท นี่เรื่องเดียว แล้วจากเรื่องนี้มันจะลามไปถึงคดีอื่นๆ ต่อไปใครที่เอาบุหรี่นอกเข้ามาขายในประเทศไทย ไม่ได้มีบริษัทฟิลลิป มอร์ริส บริษัทเดียว เช่น บุหรี่มายด์เซเว่น บุหรี่ดาวิดอฟ บุหรี่35 บุหรี่นอกทั้งหลายก็ต้องเอาอย่างบริษัทฟิลลิป มอร์ริส หมด พวกที่นำเหล้าต่างประเทศมาขาย นำไวน์ต่างประเทศมาขาย มันก็ต้องเอาอย่างบริษัทฟิลลิป มอร์ริส ต่อไปประเทศจะสูญเสียภาษีเป็นแสนๆ ล้านบาท นี่เฉพาะเรื่องเดียว ยังไม่นับเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลโกงไปไม่ต่ำกว่า 3-5 แสนล้าน นี่คุณอยู่เพียง 2 ปี ทักษิณอยู่ 5 ปี โกงไป 3 แสนล้าน 4 แสนล้าน และสร้างความร่ำรวยให้ตัวเองไป 46,000 ล้าน แต่ถูกศาลตัดสินและริบมาแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์กับพวกที่โกงอยู่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับกรรมเวรของตัวเอง ความชั่วมันจึงมากกว่าเขา เพราะอยู่ 2 ปีทำความชั่วเหนือกว่าทักษิณกับพวก 3 เท่าเข้าไปแล้ว ไม่เลวได้อย่างไร

ทีนี้เฉพาะประเด็นฟิลลิป มอร์ริส ผมเพิ่มเติม พี่น้องครับ เพราะมีประเด็นที่ วันนี้นายกฯ และนายเกียรติ สิทธีอมร ออกมาแก้ตัวเป็นพัลวัน ว่าเรื่องนี้ตัวเองไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง พี่น้องฟังครับ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับนายกฯ และคนของนายกฯ โดยตรง คนอื่นไม่เกี่ยวเลยครับ คือนักจัดรายการคนหนึ่ง เอ่ยชื่อก็ได้ เมื่อเช้านี้ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พยายามจะแก้ตัวให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผ่านรายการคลื่น 92.25 เขาแก้ตัวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลนี้ ผมจะบอกว่า คุณกำลังตอแหลกับประชาชนแล้วครับ

พี่น้องครับเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าก็จริง บริษัทฟิลลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่แอลเอ็ม กับบุหรี่มาโบโร่ นำเข้าจากต่างประเทศ โดยนำมาจากฟิลิปปินส์มาขายในเมืองไทย บริษัทแม่อยู่อเมริกาบริษัทลูกอยู่เมืองไทย มันเป็นการโอนเอาสินค้ามาให้กันนั่นเอง มันไม่ใช่การซื้อขายครับ แต่สำแดงเท็จโดยแจ้งราคานำเข้าว่า บุหรี่มาโบโร่ ราคาซองละ 7.76 บาท บุหรี่แอลเอ็ม ซองละ 5.58 บาท พี่น้องเชื่อไหมครับ สำแดงต่ำกว่าความเป็นจริง ในขณะที่บริษัทคิงเพาเวอร์ นำเข้ามา สำแดงในราคา 27.46 บาท มาโบโร่ และแอลเอ็ม สำแดงในราคา 16.81 บาท ภาษีต่างกันแค่ไหน ระหว่างแจ้ง 7 บาท กับแจ้ง 5 บาท อีกบริษัท 27.46 บาท กับ 16.81 บาท

เมื่อเป็นอย่างนี้กรมสรรพสามิตไปตรวจสอบ เขาตรวจสอบพบ เขาก็ตั้งเรื่องดำเนินคดีแล้วแจ้งให้ดีเอสไอดำเนินคดี ดีเอสไอดำเนินคดี แล้วตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ คนที่ออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบ ตั้งในรัฐบาลทักษิณจริง เรื่องเกิดในรัฐบาลทักษิณ แต่นายทักษิณตั้งกรรมการสอบ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2549 ก่อนทักษิณจะถูกปฏิวัติ 1 เดือน ทักษิณตั้งกรรมการขึ้นมาสอบเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2549 ได้ตั้งผู้แทนดีเอสไอ ผู้แทนกรมสรรพากร ศุลกากร และมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการ อีก 3 คน คือ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ นายโกวิทย์ เกิดศิริลักษณ์ และนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ตั้งพวกนี้ขึ้นมาเป็นกรรมการสอบ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. พี่น้องเห็นหรือยัง เรื่องมันเกิดสมัยทักษิณก็จริง แต่เมื่อเขาสอบแล้วเขามาทำความเห็น สรุปสำนวนและสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2552 ผมไม่รู้ตัวไหนเป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องสรุปสำนวนและส่งฟ้องในยุคสมัยที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเขาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2551 เดือนธันวาคม เพราะฉะนั้นคดีนี้เดินมาระหว่างที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แต่ก่อนถึงวันที่ 2 กันยายน ที่เขาสั่งฟ้อง บริษัทฟิลลิป มอร์ริส พยายามวิ่งเต้นมาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ วิ่งเต้นมาจนถึงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ เพื่อจะให้ล้มคดีนี้ แต่วิ่งเต้นไม่สำเร็จ เพราะไม่มีใครกล้าเอามือซุกหีบ ไม่กล้าเอาคอขึ้นเขียง เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับภาษีจำนวนมาก และเป็นเรื่องธุรกิจบาป มันเป็นธุรกิจบุหรี่ที่เอามาเผาปอดคนไทยทั้งประเทศให้เป็นโรคถุงลมโป่งพอง และเป็นโรคมะเร็ง มันเป็นการหากินบนความทุกข์ยาก และเป็นการฆ่าผ่อนส่งกับประชาชนผู้บริโภค ใครไปช่วยบริษัทนี้ล้มคดี ไม่ให้เสียภาษี มันก็คืออาชญากร มันก็คือตราบาปที่ติดนักการเมืองคนนั้น หรือข้าราชการคนนั้นไปตลอดชีวิต ไม่มีใครกล้าช่วย

เพราะฉะนั้นที่มาแก้ตัวว่า คดีนี้เป็นคดีเก่าตั้งแค่รัฐบาลก่อน และจะทำไมล่ะ ถ้าเป็นเรื่องเก่าเกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลก่อน ก็รัฐบาลอื่นไม่มีใครเขาช่วยเลย แล้วทำไมมาถึงรัฐบาลคุณคุณสามารถช่วยบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ไม่ให้ถูกฟ้อง ไม่ต้องเสียภาษี 68,000 ล้าน ทำไมคุณไม่อธิบาย แล้วใครเป็นคนช่วยเขา ปัญหาคือว่า รัฐบาลก่อนเกิดขึ้นจริงแต่เขาดำเนินคดีมาตามกฎหมาย

ทีนี้การตรวจสอบในเวลา 6 ปี บริษัทนี้ไม่ได้ซื้อขาย มันเป็นการเอาสินค้ามาส่งขายในเมืองไทย เหมือนการโอนสินค้าเข้ามา แล้วสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เลี่ยงภาษี โดยเจตนาจะเลี่ยงภาษี ทีนี้บริษัทนี้นอกจากวิ่งเต้นแล้ว ยังพยายามจะไปร้องเรียนกับองค์การหอการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้หอการค้าระหว่างประเทศของอเมริกามาบีบคั้น มากดดันรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย เพราะบริษัทบุหรี่มีอิทธิพลต่อรัฐบาลในประเทศสหรัฐอเมริกา พยายามให้ผู้แทนประเทศอเมริกามาบีบรัฐบาลไทย แต่รัฐบาลไทยที่ผ่านมาไม่มีใครยอม มาถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอภิสิทธิ์บอกว่าตัวเองไม่ได้เข้าไปแทรกแซง

พี่น้องครับ เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์เข้าไปแทรกแซงโดยตรง เพราะพอบริษัทนี้ไปร้องเรียนกับองค์การค้าโลก หรือไปร้องเรียนกับหอการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้มาบีบรัฐบาล แทนที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมอบเรื่องนี้ให้กรมเจรจาการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้เจรจารับเรื่องนี้พิจารณา นายอภิสิทธิ์กลับไม่มอบเรื่องนี้ให้กรมเจรจาการค้า พี่น้องครับ กระทรวงพาณิชย์ เขามีกรมเจรจาทางการค้า กรมเจรจาทางการค้า สมัยก่อนคุณเกริกไกร จีระแพทย์ เป็นอธิบดี คุณหญิงอรนุช โอสถานนท์ เคยดูแลกรมนี้ เป็นผู้แทนการค้าไทยไปเจรจา ก่อนจะมีองค์การค้าโลก กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาทางการค้า เป็นคนทำหน้าที่เรื่องนี้มาโดยตลอด ถ้าผู้ประกอบการต่างประเทศมีปัญหา มีเรื่องร้องเรียน และเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะต้องไปถึงองค์การค้าโลก จะเป็นหน้าที่ของกรมเจรจาทางการค้า เป็นคนรับผิดชอบ เพราะเขามีหน้าที่เจรจาต่อรองและดูแลสิทธิผลประโยชน์ของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ไม่ยอมมอบให้กรมนี้ ซึ่งเป็นกรมที่อยู่สังกัดกระทรวงพาณิชย์ และอยู่ในความดูแลของรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ คือ นายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นคนดูแลกรมนี้ นายอภิสิทธิ์มอบเรื่องนี้ให้ นายเกียรติ สิทธีอมร เป็นคนดูแล นายเกียรติเป็นผู้แทนการค้า ที่นายกฯ เป็นคนตั้ง เป็นตำแหน่งทางการเมืองที่นายกฯ เป็นคนตั้ง ก็คือเป็นลูกน้องโดยตรงนายกฯ ครับพี่น้อง

ปัญหาสำคัญก็คือ ถ้าเขาร้องเรียนมาขอความเป็นธรรม นายอภิสิทธิ์ก็ควรจะรู้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ และเป็นเรื่องที่ประเทศจะได้ประโยชน์ ถ้าการฟ้องดำเนินคดีและเรียกร้องให้บริษัทบุหรี่จ่ายภาษีให้รัฐบาลไทย ประเทศไทย มันเป็นเรื่องที่ประเทศได้ประโยชน์ ขณะเดียวกัน กรรมการสอบสวน เขาก็สอบสวนดำเนินคดีและมีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว มันเรื่องอะไรที่นายกฯ จะทะลึ่งเข้าสอดเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และกฎหมายของประเทศไทย นี่ไงครับ ความวิปริตของนายกฯ คือแบบนี้ครับ

ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังเปรียบเทียบกรณีนายวีระ สมความคิด และ 7 คนไทย พวกเราเวทีนี้ร้องเรียน และยื่นข้อเท็จจริง ข้อมูล หลักฐานให้รัฐบาลช่วย 7 คนไทย มันทำหูทวนลม แถมมันยังผลักดันคนไทยให้ไปขึ้นศาลเขมรแล้วติดคุกรับทุกข์ทรมานอยู่ในขณะนี้ครับพี่น้อง นี่เราทั้งยื่นข้อเสนอ ยื่นข้อเรียกร้อง ทั้งให้ข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานว่าคนไทยถูกจับในแผ่นดินไทย มึงเสือกไม่ทำหน้าที่ ขออภัยที่ต้องใช้คำนี้ครับ ไม่ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิคนไทยเลย นี่บริษัทบุหรี่ บริษัทเมืองนอก ประเทศไทยจะได้ภาษี ฝรั่งมาร้องขอความเป็นธรรมกับมัน มันรีบกุรีกุจอออกหน้าให้ผู้แทนการค้าไปรับเรื่องราวร้องทุกข์ของเขามา แล้วทำมาเป็นธุระหาทางช่วยเหลือเขา แบบนี้มันวิปริตหรือเปล่าครับพี่น้อง เรื่องประเทศไทยเสียประโยชน์ ทะลึ่งเสือกขยัน เรื่องคนไทยถูกเขมรจับตัวไป หาทางจะช่วยคนไทยอย่างไร เสือกทำหูทวนลม แถมด่าและให้ร้ายคนไทยไปขึ้นศาลเขมรอีกครับ

หรือเปรียบเทียบกับกรณีพวกเราพี่น้องพันธมิตรฯ พี่น้องพันธมิตรฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มาตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเราชุมนุมโดยสงบ และเราถูกก่อการร้ายยิงใส่เรา แทบเอาชีวิตไม่รอด กว่าจะรอดมาได้ 193 วัน น้องโบว์ต้องเสียชีวิต ผู้คนที่มาชุมนุมโดยสงบ ผู้บริสุทธิ์ ผู้มีความรู้มีการศึกษา บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่ครับ และเป็นเหตุทำให้นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ แทนที่จะสนองคุณประชาชน เราร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปที่นายกฯ บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกลั่นแกล้งพวกเรา ตั้งข้อหาเกินความเป็นจริง และไม่เป็นธรรม มันทำหูทวนลมและไม่สนใจประชาชนเลยครับ ทีคนเสื้อแดง 7 คน แกนนำที่ถูกจับ มันบอกมันไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม มันให้รองนายกฯ ไปเป็นพยาน มันให้ผู้การแต้มไปเป็นพยาน มันให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปเป็นพยานช่วย 7 คนเสื้อแดงออกมาจากคุก แล้วไหนบอกไม่แทรกแซง

เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ พอเปรียบเทียบเรื่องนี้ เรื่องที่ประเทศจะได้เงินภาษีเข้าประเทศ 68,881 ล้าน เสือกขยันผิดที่ผิดทาง ปัญหาก็คือ ถ้าคุณไม่แทรกแซง อัยการจะเปลี่ยนความคิดไหมครับ เขาแทรกแซงโดยวิธีการไหน แทนที่จะมอบเรื่องนี้ให้กับกรมเจรจาการค้า มามอบให้นายเกียรติรับเรื่องนี้ดูแลให้ความยุติธรรมกับพ่อค้าบุหรี่ พี่น้องดูซิครับ ความจริงแล้วนายกฯ ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้เลยตั้งแต่แรก ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อดีเอสไอสั่งฟ้องแล้วก็ส่งอัยการ ให้อัยการดำเนินคดีไปตามกฎหมาย แต่นี่กลายเป็นว่า ฝ่ายรัฐบาลโดยสำนักนายกฯ ออกหนังสือเชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ สรรพากร ศุลกากร และอัยการที่ทำความเห็นสั่งฟ้องเรื่องนี้ อัยการ 3 คนนี้เป็นอัยการที่อยู่ในคณะกรรมการสอบสวนของดีเอสไอในตอนแรก และมีความเห็นร่วมกันทั้งคณะ เห็นสมควรสั่งฟ้องบริษัทฟิลลิป มอร์ริส ไปแล้ว สำนักนายกฯ ออกหนังสือเชิญพวกนี้มาประชุมที่สำนักนายกฯ ทำไม แล้วในหนังสืออ้างว่าเป็นบัญชาของนายกฯ เพื่อจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องเรียนเรื่องนี้ เมื่อคุณเรียกเจ้าหน้าที่เหล่านี้มา แล้วนายกฯ มีท่าทีอยากจะให้ความเป็นธรรมกับบริษัทนี้ ผู้แทนทางการค้า นายเกียรติ สิทธีอมร ก็อยากจะให้ความเป็นธรรมกับบริษัทฟิลลิป มอร์ริส มันก็เท่ากับว่า ฝ่ายการเมืองส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ประจำรู้ว่า บัดนี้ฝ่ายการเมืองอยากจะให้ความเป็นธรรม ทบทวนเรื่องการสั่งฟ้องคดีนี้ มันก็คือวิธีการแทรกแซงและสั่งให้ข้าราชการไปกลับความเห็นสั่งฟ้องนั่นเองครับ ประชาชนไม่ได้กินแกลบ ถ้าคุณไม่ถึงขนาดออกหนังสือจากสำนักนายกฯ ไปเรียกเจ้าหน้าที่เขามาประชุม แสดงว่านายกฯ ต้องให้ความสำคัญถึงได้เรียกเขามาประชุม ใช่ไหมครับพี่น้อง

ก็เหมือนกัน ถ้าเรื่อง คดีก่อการร้าย ที่พี่น้องประชาชน พันธมิตรฯ ร้องเรียนไป ถ้านายกฯ เรียกพนักงานสอบสวนมาประชุม และบอกว่า นี่นายกฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่าเขาถูกกลั่นแกล้งในการดำเนินคดี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณากลั่นกรองสำนวนและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนผู้ร้องเรียนด้วย เพียงนายกฯ พูดแค่นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจะไปพิจารณาทบทวน กรณีนี้เหมือนกัน บริษัทฟิลลิป มอร์ริส ร้องเรียนคุณ แล้วคุณมาทำอย่างนี้ มันก็เท่ากับเป็นการแสดงตน ส่งสัญญาณให้ข้าราชการประจำ ถ้าพูดแบบชาวบ้านก็คือ มึงไปหาทางทำสำนวนมาใหม่แล้วสั่งไม่ฟ้อง หรือให้ความเป็นธรรมกับเขา ให้ความเป็นธรรมกับเขามันจะทำอย่างไร เดิมเขาถูกสั่งฟ้อง ถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับเขาก็คือ สั่งไม่ฟ้อง

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันร้ายแรงตรงไหน พอเป็นเรื่องแบบนี้มันสะท้อนให้เห็นแล้วว่า ถ้านายกฯ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่สั่งให้ตัวแทนเจรจาทางการค้า นายเกียรติ เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมป่านนี้เขาฟ้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายแล้ว ตลอดมาไม่มีรัฐบาลไหนเขาทำแบบคุณ ผมถึงบอกว่า คุณนั้นมันเลวหาที่ติไม่ได้เลยครับพี่น้องครับ เรื่องที่ประเทศจะได้เงิน มีแต่เขาจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเรื่องนี้เป็นการรักษาผลประโยชน์ชาติ แม้ว่าบริษัทนี้จะอ้างองค์การการค้าโลก (WTO) อ้างคำวินิจฉัยขององค์กรศาลโลกก็ตาม ผมจะบอกให้คุณอภิสิทธิ์ คุณพลาดแล้ว คุณฟังฝรั่งขู่ โดยอ้างความเห็นขององค์การการค้าโลกอย่างนั้นอย่างนี้ ผมจะบอกคุณให้นะ คำวินิจฉัยขององค์การการค้าโลก ไม่มีผลต่อกฎหมายไทย และกระบวนการยุติธรรมของไทยครับพี่น้อง เพราะประเทศไทยมีเอกราชและอธิปไตย แม้สินค้านี้จะเป็นการเปิดให้ผู้ประกอบการทั่วโลกส่งเข้ามาขายได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ประเทศเราจะปล่อยให้ใครสำแดงเท็จอย่างไรก็ได้ แจ้งภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศเรามีสิทธิจะประเมินภาษีตามกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลากร และ พ.ร.บ.สรรพสามิต ทุกประการ

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีเหตุผล และไม่มีข้ออ้างเลยที่คุณจะยื่นมือเข้าไปช่วยบริษัทบุหรี่ ไม่ว่าคุณจะอ้างองค์การการค้าโลกก็ตาม คุณก็ไม่มีสิทธิ์อ้าง เพราะฉะนั้นวันนี้ นายอภิสิทธิ์ทำความผิดแบบไม่น่าให้อภัย เวลาเรื่องที่ประเทศไทยจะเสียดินแดน เขาก็อ้าง MOU2543 เวลาประเทศไทยจะได้ประโยชน์ได้เงินภาษีเข้าประเทศ ก็อ้างว่า ต้องปฏิบัติตาม WTO แบบนี้อ้างได้อย่างนี้ เอาใครมาเป็นนายกฯ ก็ได้ครับ คนเป็นนายกฯ มันต้องมีหน้าที่ปกป้องดูแลผลประโยชน์ของประชาชน ดูแลสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนไทยจะได้รับ ไม่ใช่คุณเป็นนายกฯ ทางไหนที่จะทำให้ชาติเสียหาย ไม่ได้ประโยชน์ ขยันฉิบหายเลยครับพี่น้อง ทางไหนที่จะทำให้ประเทศเสียแผ่นดิน มึงหลับหูหลับตา แกล้งโง่ ทางที่ประเทศจะได้เงินภาษีเข้า ก็ทำเป็นแกล้งโง่ก้มหัวให้ต่างประเทศ โดยไม่ยอมยึดถือกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายของประเทศตัวเอง ผมว่าบ้าไปแล้ว เสียสติไปแล้ว คือทำงานผิดฝาผิดตัว

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาข้าวยากหมากแพง ก็เหมือนกัน สินค้าราคาแพง ก็เหมือนน้ำมันปาล์ม ไม่ทำอะไรเลยครับ ปล่อยให้พ่อค้าขูดรีดขูดเนื้อประชาชนไปตามอำเภอใจ นั่งอยู่เฉยๆ ครับพี่น้อง ไม่ทำอะไรเลย ผมเลยไม่รู้ว่าประเทศไทยเป็นกรรมเวรอะไร คนโง่ๆ ประสิทธิภาพต่ำ คือคนแบบคุณอภิสิทธิ์เขาเรียกว่าเป็นคนทะเยอทะยานสูง มักใหญ่ใฝ่สูง แต่สามัญสำนึกและจิตสำนึกรับผิดชอบต่ำมาก เป็นคนที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่ำ 2.คือ ทำงานไม่เป็น ทำอะไรก็ไม่เป็น คิดอะไรก็ไม่เป็น กูขอเป็นนายกฯ อย่างเดียว แก้ปัญหาให้ประชาชนก็ไม่เป็น แต่กูหน้าด้านอยากจะเป็นนายกฯ อย่างเดียวครับพี่น้อง ผมถึงบอกว่า ประเทศไทยแย่ถ้ามีนายอภิสิทธิ์อยู่ต่อไป

อีกเรื่องหนึ่ง อยากจะบอกว่า คุณเกียรติ สิทธีอมร พยายามจะให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกับประชาชนว่า ผมจะไปสั่งอัยการได้อย่างไร ผมจะไปแทรกแซงอัยการได้อย่างไร ก็คุณก็แทรกแซงอย่างที่คุณทำอยู่ขณะนี้ไง ก็ด้วยวิธีการเรียกให้เจ้าหน้าที่มาประชุมและให้แนวคิดให้นโยบาย บอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าสั่งฟ้องแล้วจะเกิดผลเสียหายต่อภาพพจน์ภาพลักษณ์ของประเทศขอให้ทบทวน นี่ไงคือการแทรกแซงอัยการ แล้วคุณพยายามจะบอกว่า อัยการแทรกแซงไม่ได้ ใครจะไปสั่งได้ ปัดโธ่ อัยการประเทศไทย ฝ่ายการเมืองแทรกแซงสั่งได้ทั้งนั้นจะบอกให้ เพราะอัยการไม่มีศักดิ์ศรีอะไรอยู่แล้ว อัยการสูงสุดก็ไม่มีศักดิ์ศรี มีศักดิ์ศรีอะไรอัยการสูงสุด ถ้ามีประโยชน์ก็พร้อมจะเอนไปซ้ายไปขวาได้ตลอดเวลา ที่สำคัญ พอสั่งไม่ฟ้องก็ตัดตอนกระบวนการพิจารณา แทนที่เรื่องนี้จะขึ้นไปสู่ศาล ศาลจะได้พิจารณาแล้วจะได้เป็นบรรทัดฐาน ต่อไปถ้ากรมสรรพสามิตชนะคดี แล้วประเทศไทยชนะคดี ก็สามารถเรียกเก็บภาษีกับบุหรี่อื่นๆ และเหล้า หรือของที่นำเข้าจากต่างประเทศได้หมด แต่ถ้าเรื่องนี้แพ้คดี คุณสั่งไม่ฟ้อง ต่อไปเขามาสำแดงกูก็เอาอย่างบริษัทฟิลลิป มอร์ริสหมด แล้วประเทศจะไปเก็บภาษีกับใครครับ ผมถึงบอกว่า อันนี้มันทำให้ประเทศเสียหาย และเป็นการทำความเลวมากกว่าที่ทักษิณทำ ไม่ใช่ว่าผมเห็นดีเห็นงามกับทักษิณ ทักษิณว่าทำเลวแล้วแต่อภิสิทธิ์ทะลึ่งทำเลวหนักกว่าเขาอีกครับ

พี่น้องครับเรื่องทั้งหมดที่อยากจะพูดก็เรื่องนี้ เพื่อตอกย้ำว่า คดีเรื่องฟิลลิป มอร์ริส มันเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ขณะนี้ ยังไม่สามารถชี้แจงกับประชาชนได้เลย และบอกว่ารอจะไปชี้แจงที่สภา ถ้าคุณมีเหตุผล มีข้อเท็จจริง วันนี้ผมอภิปรายไม่ไว้วางใจคุณก่อนฝ่ายค้านแล้วว่า คุณเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทฟิลลิป มอร์ริส ทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ แทนที่จะได้ภาษี 68,000 ล้าน ก็ไม่ได้แม้สตางค์แดงเดียว เพราะการเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงอัยการของคุณ คุณต้อบตอบประชาชนครับ

พี่น้องที่เคารพรัก เรื่องนี้ผมบอกไปแล้วว่า นอกจากจะทำให้ประเทศเสียประโยชน์แล้ว ยังทำให้กิจการโรงงานยาสูบของไทยต้องเจ๊งแน่นอน ถ้าปฏิบัติตามแนวทางนี้ ขณะนี้บุหรี่กรองทิพย์ขายห่อละ 520 บาท ตกซองละ 52 ขายส่ง ต่อไปถ้าบุหรี่นอกเอาเข้ามา 7 บาท มันดัมป์ราคาทีเดียว ขณะนี้โรงงานยาสูบไทยจะเจ๊งอยู่แล้ว ถ้าเกิดเขาดัมป์ราคามาอย่างนี้ ยาสูบไทยต้องเตรียมปิดโรงงานยาสูบได้เลยครับ คุณไม่ปกป้องผลประโยชน์คนไทยเลยแม้แต่น้อย

เพราะฉะนั้นเรื่องที่ผมพูดวันนี้เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า พี่น้องครับ เรื่องผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้เขาก็ไม่ปกป้อง เรื่องแผ่นดินของเราแทนที่จะไม่เสีย ก็ปล่อยให้คนอื่นมารุกราน เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนข้าวยากหมากแพง ก็ปล่อยให้นายทุนพ่อค้า นักการเมืองหาประโยชน์ ขูดรีดเอาเปรียบประชาชน ประชาชนหาเช้ากินค่ำ ทุกข์ยากเดือดร้อนอยู่แล้ว ยิ่งทุกข์ยากหนักเข้าไปใหญ่ ขณะเดียวกัน เงินภาษีแผ่นดิน งบประมาณแผ่นดินมีน้อยอยู่แล้ว แทนที่จะได้เงินจากภาษีเหล่านี้เข้ามาพัฒนาประเทศ นักการเมืองก็โกงเงินภาษีและเงินงบประมาณของประเทศไปอีก ผมจะไม่เรียกว่า ชั่วกว่ารัฐบาลอื่นๆ ได้อย่างไรครับ มันชั่ว 4 ต่อเลยครับพี่น้อง

สุดท้ายที่เลวกว่านั้นก็คือ การไม่ปกป้องแผ่นดินแล้วยังปล่อยให้ทหารและกองทัพไทยตกอยู่ในสภาพอ่อนแอ นักการเมืองที่โกง ทุจริตเงินภาษีของประชาชน ก็เอาเงินไปฟาดหัวผู้นำกองทัพบางคน แล้วผู้นำกองทัพบางคนก็ขายชาติ ขายจิตวิญญาณ ยอมไปเป็นน้องเขยฮุน เซน แล้วทรยศชาติ เอาน้องเมียฮุน เซน เป็นเมีย เอาญาติพี่น้องฮุน เซน มาเป็นเมีย แล้วค้าขายหากินกับฮุน เซน พี่น้องทหารหาญที่เคารพรักครับ ทหารที่รักชาติ ช่วยขจัดผู้บังคับบัญชาของท่านที่ทรยศต่อชาติ ต่อประชาชนออกไปด้วย วันนี้ทหารหมดศักดิ์ศรีแล้ว ถ้ายังปล่อยให้ผู้บังคับบัญชาบางคนเกาะแข้งเกาะขานักการเมือง เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า วันนี้ความเลวของรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้นเลวครบถ้วนหาที่ติไม่ได้ ใครที่บอกว่าอภิสิทธิ์เลวน้อยกว่าทักษิณนั้นขอเถียงคอเป็นเอ็นเลยครับว่า มาถึงวันนี้เลวกว่าเขาอย่างหาที่ติไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของผมต่อไปนี้ก็มีหน้าที่หาความเลวของอภิสิทธิ์มาพูดให้พี่น้องฟังทุกวัน ถ้าเขามีความดีมากกว่าความเลวผมคงไม่สามารถมาพูดคุยกับพี่น้องได้ทุกวัน แต่เผอิญว่า ผมพยายามหาความดีของเขา หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ หายากกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกครับ เพราะฉะนั้นถ้า อ.เจิมศักดิ์ หาความดีของนายอภิสิทธิ์เจอ ช่วยมาบอกประพันธ์ คูณมี และพี่น้องหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น