xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” หลุดโลก! ลั่นอาชีพนายกฯสุ่มเสี่ยงสูง อ้อน เสธ.หนั่น ทวงบุญคุณประกันโจกแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“อภิสิทธิ์” อ้างรู้ชะตากรรมเจอม็อบโห่ไล่ทุกพื้นที่ แสร้งถามเป็นกระบวนการหรือไม่ ลั่นอาชีพนายกฯมีความเสี่ยงสูง อ้อน “เสธ.หนั่น” เคลียร์เสื้อแดง หลังลงทุนเป็นพยานให้หัวโจกได้ประกันตัว คาด หวังเชลียร์ม็อบอยู่หมัดก่อนเมษาเลือด เล่นลิ้นคำสั่ง ศอ.รส.คุมเข้มพื้นที่รอบบ้านนายกฯแค่กันผู้ชุมนุมก่อกวน ขู่ กม.มั่นคง จับกุมได้ทันที ย้ำ วิถีชีวิตเพื่อนบ้านยังสัญจรใช้ได้ตามปกติ



วันนี้ (8 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้ต่อต้านตามก่อกวนในทุกพื้นที่ ว่า ไม่ทราบว่าเป็นกระบวนการหรือไม่ ต้องไปสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างที่เคยเรียนได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ซึ่งตนเองต้องเดินสายในการทำหน้าที่ตามนโยบายหรือการพบปะทำความเข้าใจกับประชาชนก็ต้องทำ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะภาวะที่เรามีความจำเป็นต้องอธิบายถึงแนวทางการทำงานหลายเรื่อง ที่ประชาชนเดือดร้อนอยู่ ตรงนี้จะต้องมีประชาชนไปขัดขวาง และเชื่อว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เวลาที่เราพยายามจะไปพูดถึงการแก้ปัญหาของประชาชน ก็จะมีคนไปขัดขวาง แต่คำถามคือการขัดขวางเป็นไปเพื่ออะไร ซึ่งขณะนี้เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายค้าน หรือใครก็ตามต้องการทำให้เกิดภาพของความขัดแย้งทางการเมืองไม่จบไม่สิ้น ให้มันเป็นสภาพปัญหาที่วุ่นวาย แต่ตนมีหน้าที่แก้ปัญหาก็ต้องเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่จะพบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.นี้ จะมีการหยิบยกปัญหานี้หารือด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องหลักคงเป็นเรื่องการทำระเบียบเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ตนเองเสียสมาธิในการทำงาน เพราะตนเองรู้ว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร เมื่อถามว่า จะส่งผลให้การยุบสภาต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้มองเรื่องนั้น แต่มองในขณะนี้ว่า ต้องการที่จะหาทางออกให้กับประเทศ และขณะนี้ปัญหาของประชาชนหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาข้าวของแพง การมีนโยบายมากระตุ้นให้เกิดรายได้ สภาพการเมืองหลังการเลือกตั้งอาจจะเอื้ออำนวยกว่า ฉะนั้นน่าจะให้ทุกฝ่ายเร่งบอกกับประชาชน ว่า จะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับประชาชนได้อย่างไร ตนยึดประโยชน์ตรงนี้ และเดินหน้าทำงานต่อไป ตราบที่อยู่ในตำแหน่งก็ไม่มีเสียสมาธิ คนที่มาตะโกน มาอะไร ตนก็ทำหน้าที่ตามปกติ

เมื่อถามว่า จะเป็นอุปสรรคกับผู้สมัคร ส.ส.ในการลงพื้นที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นบ้าง การทำงานก็มีอุปสรรค ตนก็ยันให้รู้กันไป เพราะตนมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ก็เดินหน้าแก้ปัญหา คนจะมาขัดขวางก็ขอให้ประชาชนดูก็แล้วกันว่า ควรจะเอาการเมืองแบบไหน จะเอาการเมืองแบบการทำงาน หรือแบบขัดขวาง เมื่อถามต่อว่า บรรยากาศ ณ เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นทำให้การยุบสภามีอุปสรรคใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีอะไรรุนแรง และเข้าใจว่า คนมาต้องการสร้างข่าว และแสดงออก หรือขัดขวางเพื่อให้เป็นประเด็นขึ้นมา และเบี่ยงเบนไปจากประเด็นการทำงาน อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องดู ทั้งนี้ ตนเองยังได้คุยกับพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ไปพยานในการประกันตัวแกนนำเสื้อแดง และหวังผลเห็นความสงบเรียบร้อย ฉะนั้นท่านคงต้องมาช่วยแก้ไขด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลลากยาวออกไป จะยิ่งทำให้กลุ่มต่อต้านยิ่งเพิ่มพูนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีใครลากยาวตอนนี้ เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ตนก็จะไปดูเรื่องระเบียบของ กกต.เมื่อถามต่อว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในการเลือกตั้งแค่ไหนกับสถานการณ์ที่รุมเร้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคต้องพร้อม แม้แต่ในพื้นที่อีสานก็ต้องไปหาเสียง เมื่อถามต่ออีกว่า สถานการณ์ตอนนี้อยู่ในภาวะที่ทำให้พรรคเสียคะแนนนิยมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดาหาเสียงเลือกตั้งเมื่อไร ไม่มีใครบอกได้คะแนนนิยมจะดีขึ้นหรือลดลง แต่ตนถือว่าอยู่ในตำแหน่งก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตนเองดูจังหวะเวลา ความเหมาะสมของการเลือกตั้ง ซึ่งจะดูให้เหมาะสมกับสิ่งที่คิดว่าดี สำหรับประเทศ และประชาชน ในการแก้ปัญหา

นายกฯ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า อย่างไรก็ตาม ประเทศต้องเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง และเห็นว่าท่ามกลางความเดือดร้อน และปัญหาที่มีการเปลี่ยนแปลงไป การที่จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาจะเป็นวิธีการในการกำหนดทิศทางของการแก้ปัญหาได้ดีกว่า มันเป็นเวลาที่ค่อยข้างจะเหมาะสม ฉะนั้นจะเดินไปสู่จุดนั้น และวันนี้ตนต้องแก้ทุกเรื่อง อย่าง ครม.วันนี้เราได้ดูเรื่องต้นทุนของพี่น้องเกษตรกร ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวเสนอก็อนุมัติไป ซึ่งอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง แต่เราอยู่กับตัวเลขที่เห็นว่า เป็นจริงในเรื่อของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา ปัญหาที่เรียกร้องกันมานาน เรื่องการปฏิรูปที่ นายอานันท์ ปันยารชุน เสนอมา ได้นำเสนอผ่านไปแล้ว 2 เรื่องคือ เรื่องฐานข้อมูลกับการที่จะทำเรื่องการคุ้มครอง หรือส่งเสริมเขตเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร และในสัปดาห์หน้าจะต่อกันในเรื่องการจำกัดการถือครองที่ดินหรือไม่ เรื่องการจัดทำภาษีระบบก้าวหน้าหรือไม่ ได้ให้กระทรวงการคลังเสนอมา ปัญหาน้ำมันพืชนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ก็ดูแลอยู่ รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ก็เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การต่อต้านขัดขวางการทำงานดังกล่าว หากย้อนกลับไปในอดีตถึงขั้นเข้าทำร้ายนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันเป็นความเสี่ยงของอาชีพนี้อยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า จะให้ความมั่นใจกับสังคมได้อย่างไรว่าการตัดสินใจของรัฐบาลจากนี้ไป จะไม่เป็นไปเพื่อการรักษาฐานคะแนน จนทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่า เวลานี้แต่ละเรื่องสามารถที่จะตรวจสอบได้ ถามว่า วันนี้ถ้าอยากได้คะแนนเสียง แล้วปัดเรื่องให้พ้นๆ ตัวไป ตนคงต้องขึ้นราคาประกันราคาข้าวจากหมื่นเป็นหมื่นสี่พันบาท ซึ่งมันขึ้นไม่ได้ เพราะเราต้องดูตามสภาพความเป็นจริงของกำลังงบประมาณ บวกกับต้นทุนที่แท้จริง เห็นว่าขยับได้หนึ่งพันบาทเราก็ขยับให้ น้ำมันดีเซลเรายังยืนยันว่า ไม่ต้องการให้กองทุนน้ำมันเข้าสู่สภาวะที่จะต้องไปกู้ยืมเงิน หรือติดลบ ฉะนั้นตรงนี้ไปได้แค่ไหน ก็ต้องมาพิจารณามาตรการอื่นๆ หรือถ้าจะดำเนินการหลังเดือน เม.ย.อย่างไร ก็ต้องมาพิจารณากัน

“ดังนั้น ทุกเรื่องผมจะไม่ยึดติดเพียงแค่ว่า ทำอะไรก็ได้ ให้มันถูกใจคน ไม่ใช่ ไม่งั้นป่านนี้ง่าย ผมก็พูดง่าย วันนี้ปากมูลผมก็บอกให้เปิดไป เดี๋ยวก็รอให้คนมาประท้วง ให้ปิดก็ปิด หรืออะไรอย่างนั้น ผมคงไม่ทำอย่างนั้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หลังเมษาฯรัฐบาลยังอยู่หรือเปล่า ที่จะมาพิจารณาตรึงราคาน้ำมันดีเซลอีกครั้ง นายกฯ กล่าวว่า ต้องพิจารณาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนอยู่แล้ว ไม่หนีความรับผิดชอบตรงนี้ เมื่อมีการประกาศยุบสภาหรือเลือกตั้ง คิดว่าการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ จะยุติลงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่ บางกลุ่มไม่ยุติ เพราะบางกลุ่มไม่อยากให้เลือกตั้งด้วย

เมื่อถามว่า ใกล้ถึงเดือนเมษาฯจะเกิดเหตุเหมือน 2 ปีที่แล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้พยายามอย่างเต็มที่ ไม่ให้มีเงื่อนไขอะไร เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว ขณะนี้ทุกคนควรมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง ก็ทำโดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สัปดาห์หน้าก็ได้พูดกันหลายชั่วโมงอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่ง ศอ.รส.ปิดการจราจราบริเวณถนนหน้าบ้านนายกฯเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยนั้น นายกฯ กล่าวว่า หลักของคำสั่งที่ฟังจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคือ ในช่วงที่ผ่านมามีการไปชุมนุม และใช้เครื่องกระจายเสียงอะไรต่างๆ ซึ่งแปลก เพราะตนเองไม่ได้อยู่ที่นั้นเวลาที่เขาไป ก็ทำให้เกิดปัญหากับประชาชนในพื้นที่ ฉะนั้น สิ่งที่เขาจะทำคือ อาศัยอำนาจตามกฎหมายความมั่นคง การประกาศตรงนี้คนที่สัญจรไปมาตามปกติรอบๆ บ้านสามารถทำได้ตามปกติ แต่ถ้าใครไปทำอะไรที่เป็นความเดือดร้อนขัดขวางตรงนี้อีก เขาก็จะสามารถจับกุมได้ เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายความมั่นคง
กำลังโหลดความคิดเห็น