“ประพันธ์” เชื่อ “มาร์ค” ชาตินี้ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ อีก เพราะการชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้สร้างคุณูปการทำให้สังคมไทยตาสว่างและจะไม่ให้โอกาสนักการเมืองกำมะลอขึ้นสู่อำนาจอีก ชี้ “อภิสิทธิ์” เป็นนักการเมืองแบบเก่าตัวสุดท้าย หมดจากนี้ไปประเทศไทยดีขึ้นแน่นอน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วานนี้ (2 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวบนเวที ว่า น่าสังเกตการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้จะเป็นการเปิดเวทีให้นายอภิสิทธิ์ตีฝีปากแก้ตัว และช่วยหาคะแนนเสียงให้ประชาธิปัตย์หรือไม่
นายประพันธ์กล่าวว่า เปิดดูญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยวันนี้ เป็นการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ และรัฐมนตรีอีก 9 คน เห็นได้ว่าคนที่โดนอภิปรายมาจากประชาธิปัตย์ 6 ราย ภูมิใจไทย 4 ราย โดยไม่มีคนในสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาของนายบรรหาร ไม่มีในส่วนของพรรครวมชาติพัฒนาของของนายสุวัจน์ ขณะเดียวกัน เพื่อแผ่นดินของกลุ่มนายสุวิทย์ก็ไม่โดนเช่นเดียวกัน มันน่าผิดสังเกต ทั้งๆ ที่พรรคเหล่านี้ก็มีเรื่องโกงอันฉาวโฉ่มากเหมือนกัน
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ดูเนื้อหาที่ยื่นอภิปรายก็ยิ่งน่าผิดปกติ โดยข้อกล่าวหาคือ การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ไม่ปฏิบัติตามแผนการบริหารราชการแผ่นดินและแผนการตรากฎหมาย และนโยบายตามที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา จงใจใช้อำนาจหน้าที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่เคารพหลักประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำลายระบบราชการด้วยการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยมิได้คำนึงถึงระบบคุณธรรมและความรู้ความสามารถ ไม่ควบคุมให้มีการรักษาวินัยการเงิน การคลัง เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน เป็นต้น
ดูญัติติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วค่อนข้างจะเบา ไม่มีจุดเน้นเป้าหมายใหญ่ๆ ที่ชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นที่รัฐบาลทำความเสียหายต่อชาติต่อแผ่นดิน ขายชาติขายแผ่นดินไม่พูดถึงเลย มันเป็นไปได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในบรรดาการบริหารชาติบ้านเมือง การทำให้ประเทศสูญเสียดินแดน ทรยศต่อประเทศชาติ เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ต้องประหารชีวิต ต้องถูกดำเนินคดีอาญา ถูกถอดถอนจากการดำรงตำแหน่งทางการเมือง น่าผิดหวังและน่าเสียใจ หรือว่าเพื่อไทยก็มีคนที่ไปร่วมขายชาติขายแผ่นดินกับประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งๆ ที่เรื่องนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีของเพื่อไทยที่จะล้างบาปให้ตัวเองได้ เพราะประชาธิปัตย์เคยต่อว่าเพื่อไทยในเรื่องนี้มาก่อนในสมัยนายสมัคร วันนี้มีโอกาสชำระแค้นแต่กลับหุบปาก แบบนี้มวยล้มต้มคนเสื้อแดงแน่ๆ
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์มีวิธีรับมือกับพันธมิตรฯ ดังนี้ คือ 1.หน้าด้าน เฉไฉบิดเบือน พอเราเผลอไม่ด่าก็จิกกัดเหมือนหมาไล่กัดแพะ อย่างวันนี้กรณีนายวีระ สมความคิด ก็อ้างว่าไม่รู้ว่าทีมกฎหมายเป็นทีมไหนต่อทีมไหน ไม่รู้จะเชื่อใคร ก็นายอภิสิทธิ์เองที่ไปแยกทีมกฎหมาย ไปเสี้ยมเพื่อดึงทนายกลุ่มนายวีระให้ออกมาทำงานตามแนวทางของตัวเอง แล้วมาทำเป็นงง แล้วไม่เคยช่วยนายวีระเลย นี่คือนิสัยถาวรของนายอภิสิทธิ์
2.บิดเบือนและสร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชน ด้วยการใช้สื่อของรัฐสื่อของตัวเองให้ข้อมูลผิดๆ ให้ประชาชนสับสน จ้างนักวิชาการมาให้ข้อมูลเท็จ 3.เอาปัญหาการเมืองมากลบปัญหาของชาติบ้านเมือง สิ่งที่พันธมิตรฯ ทำอยู่ไม่ได้เอาเรื่องการเมืองมาปนเรื่องความมั่นคง ขณะที่เราพูดเรื่องแผ่นดินเรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ นายอภิสิทธิ์กลับไปดึงเรื่องอภิปรายฯ เรื่องยุบสภา เรื่องเลือกตั้งใหม่ เพื่อดึงความสนใจประชาชนไปที่สภาน้ำเน่า 4.พยายามหนีปัญหา ไม่แสดงความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำไม่แก้ปัญหาอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคง เรื่องดินแดนก็โยนไปให้ผู้แทนยูเนสโกทำเรื่องเสนอมา นี่มันเรื่องแผ่นดินของเรา เราต้องแสดงจุดยืน แสดงให้เห็นว่าไม่มีปัญญาและไม่รับผิดชอบ เล่นเกมการเมือง ไม่ได้เป็นคนกำหนดทิศทางประเทศด้วยตัวเองเลย ทั้งๆ ที่พื้นที่รอบปราสาทพระวิหารมันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไม่ได้เพราะศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินแล้วว่า 4.6 ตร.กม.เป็นของไทย ทำไมไม่แสดงจุดยืนของเราในเรื่องนี้
5.ปล่อยข่าวว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร ทุกวันนี้นายอภิสิทธิ์นอนจับไข้สั่นทุกคืน กลัวตาย กลัวทหารปฏิวัติ กลัวประชาชนขึ้นมาปฏิวัติเหมือนอียิปต์ ลิเบีย ไปไหนก็เป็นโรคหวาดผวา ขณะเดียวกันจะยุบสภาหนีก็ถูกเพื่อนเอาปืนจี้หัวไม่ให้ยุบ เหมือนหมานั่งอยู่ในเรือ โงกเงกๆ ไม่รู้จะไปไหน จะลงน้ำก็ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ปล่อยข่าวว่าจะมีรัฐประหารเพื่อใส่ร้ายประชาชน และพยายามทำดีกับเสื้อแดงหวังว่าจะเอามาเป็นพวกตัวเองเพื่อเล่นงานพันธมิตรฯ
6.หาทางทำลายการชุมนุม มาเลยอย่าช้า แน่จริงมาเลย มาช่วยเชียร์แขกให้หน่อย ถ้าไม่กล้าไล่ ตนก็จะหาเรื่องมาด่าอย่างมีความสุขทุกวัน 7.ผลาญงบประมาณแผ่นดิน เอาไปแจกสื่อ คอลัมนิสต์ นักวิชาการ ชาวบ้าน หาเสียงให้ตัวเอง 8.สุดท้ายคือครอบงำพรรค วันนี้ประชาธิปัตย์มีการจ่ายเงินให้ ส.ส.ทุกคนไม่ต่ำกว่าคนละ 2-3 แสน เพื่อดึง ส.ส.ไว้คอยยกมือในสภาฯ และค้ำบัลลังก์ตัวเองในพรรค เพราะในพรรคเองอำนาจนายอภิสิทธิ์ก็ง่อนแง่นอยู่ในสภาพเสียสูญ
นายประพันธ์กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกลยุทธ์ของเราในการเอาชนะนายอภิสิทธิ์ พี่น้องประชาชนไม่ต้องห่วง เพราะไม่ว่านายอภิอสิทธิ์จะไปไหนก็โดนประชาชนไล่ หนีไปไหนก็ไม่ได้ วันนี้สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ทำคือพยายามจะเอาชนะพันธมิตรฯ แต่ลืมไปว่ายิ่งเอาชนะเรา ก็ยิ่งเป็นการทำลายชาติบ้านเมืองหนักขึ้นไปเท่านั้น ถ้าชนะพวกเราก็คือชาติไทยล่มสลาย เพราะฉะนั้นประชาชนต้องช่วยกันเอาชนะนายอภิสิทธิ์
วิธีที่เราจะเอาชนะนายอภิสิทธิ์ คือ ยืนหยัดตีแผ่ความจริง ด่าอย่างมีความสุข เพราะด่าคนชั่วด่าได้อย่างภาคภูมิใจ วันนี้หาคนชอบนายอภิสิทธิ์ได้น้อยมาก ไปไหนมีแต่คนเกลียด เมื่อเรายืนหยัดอยู่อย่างนี้ทำให้เกิดพลังร่วมกันมาก เกิดพลังร่วมกันกดดันนายอภิสิทธิ์อย่างหนักหน่วง หากยังอยู่ได้ก็อยู่ไป และยังกดดันไปยังประชาคมโลกด้วย ให้เห็นว่าแม้จะขี่หัวนายอภิสิทธิ์ได้ แต่ขี่หัวประชาชนคนไทยไม่ได้ ไม่มีทางที่จะยอมให้รุกรานแผ่นดินไทย
“การต่อสู้ของพวกเรายิ่งยืนหยัด ยิ่งยาวนาน จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์หลอกใครไม่ได้อีกแล้ว ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกฯ ได้อีก หากกลับมาก็จะโดนประชาทัณฑ์” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวว่า การต่อสู้ของพันธมิตรฯ วันนี้มันทำให้สังคมต้องมาคิดหาทางออกให้บ้านเมือง ว่าจะอยู่กับการเมืองแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ภารกิจที่ทำอยู่ชนะแน่นอน และจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในชาติบ้านเมืองอย่างแน่นอน
วันนี้ในประเทศไทยสำหรับนักการเมืองเก่าๆ นายอภิสิทธิ์เป็นคนสุดท้ายแล้วที่หลงเหลืออยู่ จากนี้ไปก็หมดแล้ว ไม่มีทางที่คนในประเทศจะหันกลับไปเอานายบรรหาร พล.อ.ชวลิต หรือ นายสนั่นอีกแล้ว หมดตัวเลือกแล้ว เพราะฉะนั้น การต่อสู้ของพันธมิตรฯ ทำให้ประชาชนเห็นหมดสิ้นแล้วว่านักการเมืองในระบอบเก่ามันใช้ไม่ได้ทุกคน วันนี้ประเทศไทยต้องการผู้นำที่กล้าหาญ และนำการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่สังคมใหม่ที่ดีกว่านี้ ใครก็ตามที่เป็นนักการเมืองกำมะลอ ชาตินี้ไม่มีโอกาสกลับมาได้อีกแล้ว
