ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น.วานนึ้(28 ก.พ.)นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และสมาชิกจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือที่ลงชื่อสส.พรรคเพื่อไทยจำนวน171คนเพื่อถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 8คน ประกอบด้วย 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง 2.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง 3.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร4.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 5.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย 6.นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม 7.นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และ 8.นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271,274 โดยให้ประธานวุฒิสภายื่นไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ต่อไป
นายประสพสุข กล่าวว่า จะดำเนินการตรวจสอบคำร้องต่างๆว่าเข้าหลักกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีส.ส.เข้าชื่อครบ 119 หรือเปล่า ซึ่งมีเวลาในการดำเนินการภายใน 15 วันจากนั้นก็จะส่งไปยังป.ป.ช.ตรวจสอบ คาดว่าในวันศุกร์ที่ 4 มี.ค.สามารถที่จะส่งไปยังป.ป.ช.ได้
นายมิ่งขวัญ ให้สัมภาษณ์ว่า มีส.ส.เข้าชื่อทั้งหมด 171 คนโดยเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด นอกจากนั้นได้นัดกับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เวลา 11.00 น. เพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 9 คน
ด้านนายวิทยา กล่าวว่า ในวันที่ 1 มี.ค.จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรี 9 คน จะมีรายชื่อส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคประชาราช ร่วมลงชื่อด้วย ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ ตอนนี้ร.ต.อ.เฉลิม กำลังเลือกประเด็นที่เหมาะสมว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร ส่วนรายชื่อแนบท้ายญัตติผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นใคร นั้น “จะเป็นใครไปได้ก็ต้องเป็นนายมิ่งขวัญ”
**บรรยายมาร์คเปิดทางรมต.พันทุจริต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่มีการยื่นถอดถอนนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ของพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตภายในกระทรวงๆนั้น ด้วยการที่รัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีพฤติกรรมผัวพันในโครงการที่มีการทุจริต
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดในทุกกระทรวง ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรี จะมีประเด็นการบัญชาการฆาตรกรรมประชาชนในสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงการทุจริตในโครงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน ส่วนนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประเด็นการดูแลโครงการระบายข้าวสารในสต๊อคของรัฐบาล รวมทั้งการประมูลสิ้นค้าการเกษตรต่างๆ
ขณะที่นายนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง มีประเด็นคือ การซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์)และการปั่นหุ้นรวมไปถึงพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง โดยเฉพาะกรณีการออกมาปล่อยข่าวการซื้อหุ้นดาวเทียมไทยคม ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเรื่องการประมูลในรัฐวิสาหกิจ เช่นการสื่อสารระบบ 3 จีและการทำสัญญาการให้บริการโทรศัพท์ในระบบ 3 จี ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีประเด็นการใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลหลายรายการ ที่ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ในยุคที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านสื่อสารมวลชน เมื่อนายองอาจเข้ามารับตำแหน่งกลับเพิกเฉยปล่อยให้การทุจริตเกิดขึ้น รวมถึงการไม่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนายธนวัฒน์ วันสมกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ที่มีเครือข่ายทางการเมืองเชื่อมโยงกับนายสาทิตย์ กับ นายชวน หลีกภัยอดีตนายกฯ
ส่วนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย จะมีประเด็นทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ และทุจริตการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการฝ่ายปกครอง ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกยื่นในประเด็นการถือครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิจำนวนกว่า 700 ไร่นำไปเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราในจ.นครพนม และสุดท้ายคือนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม มีประเด็นการทุจริตโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค โครงการประมูลซ่อมบำรุงทาง กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาท
**“มาร์ค”ท้าซักฟอกปลายอาทิตย์นี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายปลายอาทิตย์นี้เลยก็ได้ ส่วนเวลาวันอภิปรายต้องคุยกับคณะรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน ทั้งนี้คิดว่า ข้อกล่าวหาเป็นเรื่องที่เราชี้แจงได้
ดังนั้นอย่าไปพูดล่วงหน้าว่ารัฐบาลจะสะเทือน อย่างไรก็ตามจะไม่มีการติวรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย
**“เทือก” พร้อมเผชิญหน้าทุกข้อกล่าวหา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่มีชื่อตนด้วย สุดผู้ชี้ขาดหรือวินิจฉัยคือประชาชน และก็ดีมากเลยเมื่ออภิปรายคราวนี้แล้วประชาชนจะได้เห็นธาตุแท้ของพรรคการเมืองและนักการเมืองไปพร้อมกันทั้งประเทศ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีใบเสร็จตรวจสอบ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ไปสบประมาทเขา แต่เอามาดูก็แล้วกันว่าเป็นใบเสร็จหรือกระดาษห่อของ แต่สามารถตอบชี้แจง ได้
**เหยื่อถอกถอนเรียงหน้าไม่กังวล
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า มีความพร้อมและไม่รู้สึกกังวล เชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้ รัฐบาลชุดปัจจุบันสามารถผลักดันเศรษฐกิจได้สูงขึ้นจากช่วงก่อนเข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลได้อย่างไร
นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ เเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย สามารถชี้แจงได้ ส่วนกังวลจะมีผลต่อความนิยมของพรรคหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่คนจะคิด และไม่จำเป็นต้องมีวอรูมเพื่อเตรียมการชี้แจงอภิปราย
ส่วนที่ฝ่ายค้านจ้องจะโจมตีกรณีที่แก้ไขกฎกระทรวงเพื่อรับรองการออกบัตรประชาชนแบบเอนกประสงค์ ( สมาร์ทการ์ด ) นายชวรัตน์ กล่าวว่า มีหลักฐานและเหตุผลพร้อม และมั่นใจว่าชี้แจงได้ ทั้งนี้เชื่อว่าหลังมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แต่ขณะนี้กรมการปกครองกำลังดำเนินการอยู่ ยังมีรายละเอียดต้องทำหลายอย่าง กว่าจะออกเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดได้ โดยคาดว่าประชาชนจะได้ใช้ภายใน 2 เดือน
**เด็กภท.มั่นใจ4รมต.ตอบได้ ชี้
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ก็ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่ได้ยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และสามารถตอบในนามของพรรคได้ว่ารัฐมนตรีของพรรคไม่มีคนใดที่กระทำการทุจริต หรือเป็นเรื่องที่เข้าไปบริหารแล้วใช้อำนาจบริหารแผ่นดินโดยไม่ชอบดังนั้นมั่นใจว่ารัฐมนตรีของพรรคจะตอบคำถามของฝ่ายค้านได้แน่นอน แ
ส่วนการที่ฝ่ายค้านต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ4วันและลงมติวันที่5นั้น นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะพบว่าการอภิปรายมันน่าเบื่อหน่าย ซ้ำซากและใช้เวลามากเกินจำเป็น
** ตั้งฉายาอภิปราย "โหด เลว ฮา"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี10 คน เป็นการจงใจขีดวงเฉพาะรัฐมนตรีที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ 6 คน และพรรคภูมิใจไทย 4 คน ซึ่งถือเป็นคู่แข่งขันทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป
การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน สส. พรรคเพื่อไทยกลืนน้ำลายกลับลำมาร่วมอภิปรายครั้งนี้ จะทำให้การอภิปรายรอบนี้มี 3 รส คือ โหด เลว ฮา "โหด" นำโดย ร.ต.อ.เฉลิมที่จะอภิปรายอย่างดุ เดือด เผ็ด มัน ก้าวร้าว เสียดสี ส่วน "เลว" นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.สัดส่วน ที่จะอภิปรายแบบปั้นน้ำเป็นตัว ใช้ข้อมูลเท็จมาดิสเครดิตรัฐบาล และ "ฮา" นำโดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ที่อภิปรายแบบตุ้งติ้ง หน่อมแน้ม ใช้เสียงเล็กเสียงน้อย ชวนให้ติดตาม
**กฎเหล็ก 9 ข้อนายกฯรับศึกอภิปราย
นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ระยะเวลาในการอภิปรายในความเห็นของวิปรัฐบาลหากฝ่ายค้านยื่นมาเมื่อไหร่ ในสัปดาห์ถัดไปตั้งใจว่าจะให้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันที ทั้งนี้หากยื่นวันที่ 1 มี.ค.ก็สามารถเปิดอภิปรายได้ในช่วงวันที่ 9-10 มี.ค.ส่วนเวลาจะหารือกับวิปฝ่ายค้านเพื่อให้เป็นไปตามประเพณีปฏิบัติ คงจะไม่ให้เวลา 4-5วันตามที่ฝ่ายค้านต้องการเพราะที่ผ่านมาการอภิปรายรัฐมนตรี10-11 คนเราเคยทำกันมาหลายรอบ โดยจะอำนวยความสะดวกให้กับฝ่ายค้านอย่างเพียงพอเหมือนยุคที่พวกตนเป็นฝ่ายค้าน
นายประสพสุข กล่าวว่า จะดำเนินการตรวจสอบคำร้องต่างๆว่าเข้าหลักกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีส.ส.เข้าชื่อครบ 119 หรือเปล่า ซึ่งมีเวลาในการดำเนินการภายใน 15 วันจากนั้นก็จะส่งไปยังป.ป.ช.ตรวจสอบ คาดว่าในวันศุกร์ที่ 4 มี.ค.สามารถที่จะส่งไปยังป.ป.ช.ได้
นายมิ่งขวัญ ให้สัมภาษณ์ว่า มีส.ส.เข้าชื่อทั้งหมด 171 คนโดยเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด นอกจากนั้นได้นัดกับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เวลา 11.00 น. เพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 9 คน
ด้านนายวิทยา กล่าวว่า ในวันที่ 1 มี.ค.จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรี 9 คน จะมีรายชื่อส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคประชาราช ร่วมลงชื่อด้วย ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ ตอนนี้ร.ต.อ.เฉลิม กำลังเลือกประเด็นที่เหมาะสมว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร ส่วนรายชื่อแนบท้ายญัตติผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นใคร นั้น “จะเป็นใครไปได้ก็ต้องเป็นนายมิ่งขวัญ”
**บรรยายมาร์คเปิดทางรมต.พันทุจริต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่มีการยื่นถอดถอนนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ของพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตภายในกระทรวงๆนั้น ด้วยการที่รัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีพฤติกรรมผัวพันในโครงการที่มีการทุจริต
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดในทุกกระทรวง ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรี จะมีประเด็นการบัญชาการฆาตรกรรมประชาชนในสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงการทุจริตในโครงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน ส่วนนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประเด็นการดูแลโครงการระบายข้าวสารในสต๊อคของรัฐบาล รวมทั้งการประมูลสิ้นค้าการเกษตรต่างๆ
ขณะที่นายนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง มีประเด็นคือ การซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์)และการปั่นหุ้นรวมไปถึงพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง โดยเฉพาะกรณีการออกมาปล่อยข่าวการซื้อหุ้นดาวเทียมไทยคม ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเรื่องการประมูลในรัฐวิสาหกิจ เช่นการสื่อสารระบบ 3 จีและการทำสัญญาการให้บริการโทรศัพท์ในระบบ 3 จี ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีประเด็นการใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลหลายรายการ ที่ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ในยุคที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านสื่อสารมวลชน เมื่อนายองอาจเข้ามารับตำแหน่งกลับเพิกเฉยปล่อยให้การทุจริตเกิดขึ้น รวมถึงการไม่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนายธนวัฒน์ วันสมกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ที่มีเครือข่ายทางการเมืองเชื่อมโยงกับนายสาทิตย์ กับ นายชวน หลีกภัยอดีตนายกฯ
ส่วนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย จะมีประเด็นทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ และทุจริตการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการฝ่ายปกครอง ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกยื่นในประเด็นการถือครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิจำนวนกว่า 700 ไร่นำไปเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราในจ.นครพนม และสุดท้ายคือนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม มีประเด็นการทุจริตโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค โครงการประมูลซ่อมบำรุงทาง กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาท
**“มาร์ค”ท้าซักฟอกปลายอาทิตย์นี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายปลายอาทิตย์นี้เลยก็ได้ ส่วนเวลาวันอภิปรายต้องคุยกับคณะรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน ทั้งนี้คิดว่า ข้อกล่าวหาเป็นเรื่องที่เราชี้แจงได้
ดังนั้นอย่าไปพูดล่วงหน้าว่ารัฐบาลจะสะเทือน อย่างไรก็ตามจะไม่มีการติวรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย
**“เทือก” พร้อมเผชิญหน้าทุกข้อกล่าวหา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่มีชื่อตนด้วย สุดผู้ชี้ขาดหรือวินิจฉัยคือประชาชน และก็ดีมากเลยเมื่ออภิปรายคราวนี้แล้วประชาชนจะได้เห็นธาตุแท้ของพรรคการเมืองและนักการเมืองไปพร้อมกันทั้งประเทศ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีใบเสร็จตรวจสอบ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ไปสบประมาทเขา แต่เอามาดูก็แล้วกันว่าเป็นใบเสร็จหรือกระดาษห่อของ แต่สามารถตอบชี้แจง ได้
**เหยื่อถอกถอนเรียงหน้าไม่กังวล
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า มีความพร้อมและไม่รู้สึกกังวล เชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้ รัฐบาลชุดปัจจุบันสามารถผลักดันเศรษฐกิจได้สูงขึ้นจากช่วงก่อนเข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลได้อย่างไร
นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ เเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย สามารถชี้แจงได้ ส่วนกังวลจะมีผลต่อความนิยมของพรรคหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่คนจะคิด และไม่จำเป็นต้องมีวอรูมเพื่อเตรียมการชี้แจงอภิปราย
ส่วนที่ฝ่ายค้านจ้องจะโจมตีกรณีที่แก้ไขกฎกระทรวงเพื่อรับรองการออกบัตรประชาชนแบบเอนกประสงค์ ( สมาร์ทการ์ด ) นายชวรัตน์ กล่าวว่า มีหลักฐานและเหตุผลพร้อม และมั่นใจว่าชี้แจงได้ ทั้งนี้เชื่อว่าหลังมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แต่ขณะนี้กรมการปกครองกำลังดำเนินการอยู่ ยังมีรายละเอียดต้องทำหลายอย่าง กว่าจะออกเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดได้ โดยคาดว่าประชาชนจะได้ใช้ภายใน 2 เดือน
**เด็กภท.มั่นใจ4รมต.ตอบได้ ชี้
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ก็ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่ได้ยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และสามารถตอบในนามของพรรคได้ว่ารัฐมนตรีของพรรคไม่มีคนใดที่กระทำการทุจริต หรือเป็นเรื่องที่เข้าไปบริหารแล้วใช้อำนาจบริหารแผ่นดินโดยไม่ชอบดังนั้นมั่นใจว่ารัฐมนตรีของพรรคจะตอบคำถามของฝ่ายค้านได้แน่นอน แ
ส่วนการที่ฝ่ายค้านต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ4วันและลงมติวันที่5นั้น นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะพบว่าการอภิปรายมันน่าเบื่อหน่าย ซ้ำซากและใช้เวลามากเกินจำเป็น
** ตั้งฉายาอภิปราย "โหด เลว ฮา"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี10 คน เป็นการจงใจขีดวงเฉพาะรัฐมนตรีที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ 6 คน และพรรคภูมิใจไทย 4 คน ซึ่งถือเป็นคู่แข่งขันทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป
การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน สส. พรรคเพื่อไทยกลืนน้ำลายกลับลำมาร่วมอภิปรายครั้งนี้ จะทำให้การอภิปรายรอบนี้มี 3 รส คือ โหด เลว ฮา "โหด" นำโดย ร.ต.อ.เฉลิมที่จะอภิปรายอย่างดุ เดือด เผ็ด มัน ก้าวร้าว เสียดสี ส่วน "เลว" นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.สัดส่วน ที่จะอภิปรายแบบปั้นน้ำเป็นตัว ใช้ข้อมูลเท็จมาดิสเครดิตรัฐบาล และ "ฮา" นำโดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ที่อภิปรายแบบตุ้งติ้ง หน่อมแน้ม ใช้เสียงเล็กเสียงน้อย ชวนให้ติดตาม
**กฎเหล็ก 9 ข้อนายกฯรับศึกอภิปราย
นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ระยะเวลาในการอภิปรายในความเห็นของวิปรัฐบาลหากฝ่ายค้านยื่นมาเมื่อไหร่ ในสัปดาห์ถัดไปตั้งใจว่าจะให้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันที ทั้งนี้หากยื่นวันที่ 1 มี.ค.ก็สามารถเปิดอภิปรายได้ในช่วงวันที่ 9-10 มี.ค.ส่วนเวลาจะหารือกับวิปฝ่ายค้านเพื่อให้เป็นไปตามประเพณีปฏิบัติ คงจะไม่ให้เวลา 4-5วันตามที่ฝ่ายค้านต้องการเพราะที่ผ่านมาการอภิปรายรัฐมนตรี10-11 คนเราเคยทำกันมาหลายรอบ โดยจะอำนวยความสะดวกให้กับฝ่ายค้านอย่างเพียงพอเหมือนยุคที่พวกตนเป็นฝ่ายค้าน