“เพื่อแม้ว” เคาะซักฟอก “มาร์ค” พร้อมรัฐมนตรีอีก 9 ราย ยื่นถอดถอนวันที่ 28 ก.พ.ก่อนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 มี.ค.ระบุ เนื้อหามีทั้งเรื่องสลายการชุมนุม การทุจริต และความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน โวมีหลักฐานระดับเกรดเอ ถึงเอบวก น็อกรัฐบาล
ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (27 ก.พ.) คณะกรรมการเตรียมการการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย นำโดย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ในฐานะประธาน นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน และ น.ส.ฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา ร่วมกันแถลงข่าวการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการทำงานสำเร็จลุล่วงในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแล้ว โดยจะยื่นถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่อประธานสภา ในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 11.00น.และยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่ 1 มี.ค.
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า สำหรับรัฐมนตีที่จะถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที), นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย, นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม, นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์, นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
โดยเมื่อจำแนกออกมา จะเป็นนายกรัฐมนตรี 1 คน รองนายกรัฐมนตรี 1 คน รัฐมนตรีว่าการ 6 คน รมต.ประจำสำนักนายกฯ 1 คน และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 1 คน ทั้งนี้ การยื่นถอดถอน มีทั้งหมด 9 คน เพราะมีหลักฐานการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยกเว้น นายกษิต เท่านั้น
นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงเนื้อหาการอภิปรายว่า แบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่ คือ 1.ประเด็นสลายการชุมนุม ตอน ฆาตกรรมประชาชน โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเด็น 2.ประเด็นการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ ทั้งเรื่องที่มีหลักฐานและมีใบเสร็จ แบ่งเป็น 11 ประเด็น 3.การอภิปรายถึงความล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน ความล้มเหลวความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ มีเนื้อหาอีก 8 เรื่อง
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า การเตรียมเนื้อหาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรคได้พิจารณาจาก 30 ประเด็น แต่คณะทำงานตัดนำมาเฉพาะเรื่องที่มีหลักฐาน ใบเสร็จชัดเจน จึงเหลือเพียง 28 เนื้อเรื่องย่อย โดยประเด็นที่ 1 จะมีผู้อภิปราย 7 คน ประเด็นที่ 2 มีผู้อภิปราย 18 คน และประเด็นที่ 3 มีผู้อภิปราย 10 คน แม้ตัวเลขผู้อภิปรายจะเกิน เพราะบางคนจะอภิปรายซ้ำในเรื่องอื่นด้วย
ส่วนระยะเวลาในการอภิปรายนั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า มอบหมายให้ประธานวิปฝ่ายค้านไปตกลงกับวิปฝ่ายรัฐบาล โดยพรรคต้องการวันอภิปราย 4 วัน และลงมติในวันที่ 5 ของการอภิปราย ส่วนจะมีพรรคอื่นด้วยร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่นั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ขอนำเรียนทีหลัง แต่ตอนนี้มีแต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค ยินดีจะร่วมในทีมอภิปราย โดยมีการพูดคุยกันในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า จะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของสภาชุดนี้ โดยครั้งนี้มีหลักฐาน ข้อมูล และเอกสารที่อ้างอิงได้ ไม่ว่าจะตอบอย่างไร แต่เอกสารได้ระบุเช่นนั้น หลายประเด็น ชัดเจนมากๆ ดูแล้วแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ส่วนจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้หรือไม่ คงแล้วแต่ประชาชนผู้ฟังเมื่ออภิปรายแล้วเป็นหน้าที่ประชาชนฟังแล้วจะเชื่อใคร
“ประเด็นครั้งนี้มีเรื่องราว เรียงร้อยอย่างชัดเจน ไม่วกไปวนมา ต้องเรียกว่า “จับให้มั่น คั้นให้ตาย โชว์เอกสาร’” การอภิปรายและยื่นถอดถอน พรรคเพื่อไทย ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ทำอย่างซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ตามหน้าที่ตัวแทนปวงชนชาวไทย พิจารณาอย่างรอบครอบ จนมั่นใจว่า บุคคลที่เราจะอภิปราย และถอดถอนมีพฤติกรรมดังกล่าว เมื่อดูข้อมูลหลักฐานแล้ว ท่านคิดอย่างไร อยู่ที่ใจท่านเอง”
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม กล่าวว่า พรรคได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ประเด็นเรื่องการสังหารประชาชน เท่าที่พรรคได้ตรวจสอบมีหลักฐานชัดเจน จะได้นำมาอภิปรายฯในเรื่องการทำผิด ทั้งเรื่องทุจริตต่อหน้าที่ และการประพฤติมิชอบ ส่วนกรณี นายกรณ์ ถูกอภิปรายเรื่องใดนั้น คงระบุไม่ได้ เหมือนกับการสอบ ถ้าให้โจทย์แก่ผู้ทำข้อสอบก่อน อาจจะมีการทำอะไรเพื่อให้เปลี่ยนแปลง แต่บอกได้เบื้องต้น กรณี นายกรณ์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐ บริหารล้มเหลวราชการล้มเหลวและทุจริตในกระทรวงการคลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสลายการชุมนุมทำไมไม่มี รมว.กลาโหม ด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจาก ผอ.ศอฉ.ขณะนั้นเป็น นายสุเทพ นอกจากโดนเรื่องสลายการชุมนุมแล้ว ยังมีเรื่องทุจริตด้วย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรขอให้ติดตาม โดยหลักฐานที่พรรคเพื่อไทยมีเป็นเกรดเอถึงเอบวก และเมื่อแต่ละเรื่องที่อภิปรายแล้วเสร็จ จะมีการแถลงและแจกจ่ายเอกสารต่อสื่อมวลชนด้วย
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า บุคคลที่ถูกกล่าวหาครั้งนี้ มีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นจำนวนวันเวลาที่จะใช้ต้องเยอะ หลักการอภิปรายครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งก่อน การขอไป 5 วัน สมัยรัฐบาลทักษิณ ก็เคยมีมาแล้ว รัฐบาลจะมาต่อรองไม่ได้ เพราะแต่และประเด็นมีเรื่อง และประเด็นเยอะมาก