xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ซัด “เด็จพี่” ใส่ร้าย “มาร์ค” ต้นเหตุรบเขมร หยัน พท.ไม่พร้อมซักฟอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“โทรโข่งมาร์ค” ซัด “เด็จพี่” ใส่ร้าย “มาร์ค” ต้นเหตุเขมรรบไทย จวกเพื่อไทยอย่าทำตัวเป็นคนไทยแต่ฝักใฝ่เขมร ฉะฝ่ายค้านลีลาไม่ยื่นซักฟอก เชื่อไม่มีความพร้อม ไร้ “เฉลิม” ชูโรง แนะเลิกกุข่าวมานั่งหาข้อมูลดีกว่า ชี้ทัศนคติหนุนรัฐบาลโกงแต่ทำงานไม่ควรเกิด

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงต้นเหตุของเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มาจากนายกรัฐมนตรีว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทยเป็นการใส่ร้าย และพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและพยายามโยนความผิดมาให้นายกฯ โดยมีการพูดถึงที่กัมพูชาจับกุม 7คนไทย โดยกล่าวหาว่านายกฯ เป็นคนสั่งให้นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปบริเวณชายแดนจนเกิดการจับกุมขึ้น รวมทั้งการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.การต่างประเทศ ตนเห็นว่ากรณีของนายพนิช เป็นการทำตามหน้าที่ เพราะนายพนิชเป็นกรรมการเจบีซี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่นายกฯ สั่งให้ไปสร้างปัญหา ส่วนการแต่งตั้งนายกษิตเป็น รมว.การต่างประเทศ ซึ่งหากกรณีนี้เป็นต้นเหตุของปัญหาจริงก็ควรจะเกิดปัญหาตั้งแต่นายกษิต เข้ามาบริหารงานแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้พรรคเพื่อไทยเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และสนับสนุนการแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่อยากให้ทำตัวเป็นคนไทยแต่ใจฝักใฝ่ประเทศเพื่อนบ้าน

นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพราะเกรงรัฐบาลจะชิงยุบสภาก่อนว่า ทุกฝ่ายพร้อมให้มีการตรวจสอบ แต่พรรคเพื่อไทยยังแสดงลีลาตลอดเวลาไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากว่าพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะไม่ให้มีการยุบสภาจริงมากกว่าสร้างประเด็นทางการเมืองก็ควรยื่นญัตติเสียที ทั้งนี้ เห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความพร้อมใดๆ มีเพียงการฉายหนังตัวอย่างเพื่อให้สังคมเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม การอ้อนวอนให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมอภิปราย เท่ากับว่าคนที่อภิปรายไม่มีราคาค่างวด จึงจำเป็นต้องให้ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นตัวชูโรงนำการอภิปราย

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคกล่าวว่า ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยเตรียมขุนพลที่ใช้ในการอภิปราย 20 คน หากมีคนขนาดนั้นจริง และใช้เวลาคนละ 30 นาที คงใช้เวลาหลายชั่วโมง หากต้องการแบ่งคนเพื่อให้สมาชิกของตัวเองออกทีวีหาเสียง ก็คงล้มเหลวตั้งแต่ต้น ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ยุติการสร้างข่าว กลับมาเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในการอภิปรายในครั้งนี้ และทำหน้าที่ให้ประชาชนเห็น หากอภิปรายนายกฯ ก็ควรเอาคนที่เป็นว่าที่นายกฯมาอภิปราย หรือต้องการอภิปรายกระทรวงใดก็ให้ว่าที่เจ้ากระทรวงนั้นๆ ขึ้นมาอภิปรายตัวต่อตัว จะได้เป็นการวัดกึ๋นและความพร้อมที่พรรคเพื่อไทยจะได้รับโอกาสกลับมาเป็น รัฐบาลอีกหรือไม่

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่ารัฐบาลได้เตรียมยกร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพื่อยุบสภาไว้รอ ทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่า ถ้าจำได้ 2 เดือนที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยก็บอกใบ้ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว หาก “บ.” ที่จะเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์คงมีแต่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคเท่านั้น ซึ่งการยุบสภาง่ายนิดเดียวคือเอา พ.ร.ฎ.ของเดิมมาเปลี่ยนแปลงวันที่ก็สามารถใช้ได้ ไม่มีเรื่องอะไรที่สลับซับซ้อนขนาดต้องผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้น พรรคเพื่อไทยหยุดสร้างข่าวให้สังคมเกิดความสับสนเสียที

เมื่อถามว่า ปัจจัยกาชุมนุมของประชาชนจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการยุบสภาเร็วขึ้นหรือไม่ นายเทพไทกล่าวว่า ไม่ได้เป็นเงื่อนไข เพราะตราบใดที่การชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ก็ไม้ได้เป็นปัจจัยที่จะทำให้อนาคตทางการเมืองสั้นลง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการยุบสภาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งตนขอเรียกร้องให้กลุ่มประชาชนควรจะร่วมมือช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดความ สงบเรียบร้อย เพราะหากมีปัญหาภายในบ้านและนอกบ้านอาจทำให้ผู้นำครอบครัวไม่มีสมาธิต่อการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักวิจัยเอแบคโพลล์สำรวจความเห็นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาล ที่ชี้ให้เห็นว่า 64 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้รัฐบาลจะโกงแต่ก็ขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดีว่า ตนมองว่าทัศนคติดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ว่ารัฐบาลชุดใดก็ตามถือว่าเป็นความล้มเหลวทางจริยธรรม เพราะฉะนั้น การบริหารงานที่ดีต้องไม่โกงและรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายกฯได้พิสูจน์ว่าเป็นคนดีไม่โกง ดังนั้น ไม่อยากให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนำไปขยายผล เพราะไม่เป็นผลดีต่อสังคมไทยและประเทศชาติ และถือว่าเป็นภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทย ฉะนั้นไม่อยากให้สังคมเกิดความสับสนและเกิดการเปรียบระหว่างรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เพราะหากดูข้อเท็จจริง รัฐบาลก่อนหน้านั้นได้สร้างความกินดีอยู่ดี แต่ทำให้ประเทศชาติเสียหายเกือบแสนล้านบาท เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า ดังนั้น ขอเรียกร้องให้สังคมพิสูจน์ชั่งน้ำหนักว่ารัฐบาลทักษิณที่โกงและรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่โกงประชาชนจะได้อะไรคุ้มค่ากว่ากัน
กำลังโหลดความคิดเห็น