“รองเลขาฯ ประชาธิปัตย์” เผยบัญชีรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.เสร็จแล้ว ฝันชนะ “เพื่อไทย” กวาด 200 ที่นั่ง พร้อมกล่าวต้อนรับ “ยิ่งลักษณ์” คู่ชิงเก้าอี้นายกฯ คุยฟุ้ง “มาร์ค” ได้เปรียบกว่าเย้ยไม่ต้องรอฟังคำสั่งจากพี่ชาย
วันนี้(16 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดทำรายชื่อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้จัดทำบัญชีรายชื่อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเสร็จแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนี้จะเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกตัวผู้สมัครที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค เป็นประธานพิจารณา จากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธาน จึงถือว่าจบกระบวนการทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
นายสุเทพ กล่าวว่า ทั้งนี้การจัดทำบัญชีรายชื่อดังกล่าว มีการนำ ส.ส.ที่อยู่ในระบบ เขต เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช เป็นต้น เข้ามาอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ที่ได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขตพื้นที่ใหม่ รวมถึงผู้ที่ทำงานให้พรรค เช่น นายกนก วงศ์ตระหง่าน นายเกียรติ สิทธีอมร นายวีระชัย วีระเมธีกุล โดยการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเกินครึ่ง อย่างน้อย 65-66 ขึ้นไป
ส่วนโพลล่าสุดพบว่านโยบายและผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคอื่นนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เราพยายามทำงานอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน คัดเลือกตั้งผู้สมัครให้เหมาะ และในวันที่ 22 พฤษภาคม จะมีการสัมมนาผู้สมัคร ส.ส.เขตอีกครั้ง ยืนยันว่า เราไม่ประมาท ผลโพลออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของโพล เราทำตามหน้าที่และตามระบบพรรคการเมืองอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรนอกเหนือแนวทางนี้ ทั้งนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการทำโพลเป็นระยะๆ ถึงได้ เชื่อมั่นว่า เราจะชนะพรรคเพื่อไทย เป็นการชนะการเลือกตั้งแบบคะแนนรวม คงดูเป็นรายภาคไม่ได้ เช่น ภาคอีสานคงชนะไม่ได้ แต่ประมาณว่า ส.ส.ภาคอีสานเราจะได้ประมาณ 20 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้สัก 200 เสียงขึ้นไป ก็พอใจแล้ว แต่ถ้าเกินได้ก็ยิ่งดี ถ้าเราทำได้ขนาดนั้นก็พอใจ
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนจะส่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกฯทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เวลาจะพูดถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพูดด้วยความระมัดระวังเพราะเป็นสุภาพสตรี แต่ขอบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ขอต้อนรับในฐานะเป็นผู้นำของพรรคการเมือง คู่แข่งขัน และให้ความนับถือจะปฏิบัติต่อเธอในฐานะที่เป็นคู่แข่งขันคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าประชาชนไม่ได้พิจารณาที่ความเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จะพิจารณาว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมในภาวะบ้านเมืองขณะนี้ ถ้าตรงนี้คิดว่า นายอภิสิทธิ์ได้เปรียบมาก และพรรคประชาธิปัตย์ได้ 10 คะแนนเต็ม เพราะนายอภิสิทธิ์ได้แสดงฝีมือ ความเป็นผู้นำในการเป็นนายกฯแก้ปัญหาของประเทศในช่วงวิกฤตของประเทศ รักษาบ้านเมืองรอดพ้นมาได้ 2 ปีกว่า
"ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ ประชาชนคงหลับตาแล้วนึกไม่ค่อยออกว่า ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะแก้ปัญหาประเทศอย่างไร หรือต้องทำงานไปคอยฟังเสียงโทรศัพท์ทางไกลตลอดเวลาว่าจะวิพากษ์ว่าอย่างไร มันก็เหมือนหนังตะลุง ก็เลยทำงานยาก ทำให้เสียเปรียบมาก มีส่วนที่ได้เปรียบอย่างเดียวคือ พรรคนั้นเงินเยอะ มีวิชาเทพ วิชามาร ชำนาญศึก ขนาดถูกยุบพรรคมาแล้ว 2 หนที่เขาจับได้ ยังมีที่จับไม่ได้อีกนะ ที่จับไม่ได้ก็มีเยอะ ถือเป็นความช่ำชองที่ได้เปรียบ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นหัวเลี้ยวหัวที่สำคัญของประเทศ ประชาชนที่เลือกตั้งต้องชั่งใจอย่างหนัก"เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ
ส่วนการเปลี่ยนทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากทหารเป็นตำรวจ ในช่วงการเลือกตั้งนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่า หน้าที่การดูแลความปลอดภัยผู้สมัครส.ส. หรือบุคคลสำคัญเช่น นายกรัฐมนตรี หรือเขา เป็นหน้าที่ของตำรวจ จึงต้องให้ตำรวจทำหน้าที่เต็มที่ ความจริงแล้วการให้ทหารรักษาความปลอดภัยก็ไม่ขัดต่อระเบียบเลือกตั้ง แต่ไม่ต้องการให้ใครเอาไปกล่าวหาว่า ทหารมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุมีเจ้าหน้าที่ของรัฐขนเงินจากส่วนกลางลงพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ และไม่เคยทราบ ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนน้อยลง เพราะนโยบายพรรค ประชาชนจับต้องไม่ได้นั้น ขอให้เอาสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดวันนี้แปะติดไว้ข้างฝา ติดไว้คู่กับสิ่งที่เขาพูดไว้เลือกตั้งเสร็จแล้วค่อยมาดูกัน