ปชป.ชง “มาร์ค” โหมหาเสียงประกันรายได้ ตามด้วยนโยบายเพื่อ ปชช.

ปชป.ชง “มาร์ค” โหมนโยบายประกันรายได้เกษตรกร หลังได้เบอร์ปาร์ตี้ลิสต์เน้นนโยบายเพื่อประชาชน ยันนายกฯ มีสิทธิใช้หน่วยงานราชการรักษาความปลอดภัยแม้นอกเวลาราชการ ด้าน กก.ยุทธศาสตร์ภาคเหนือ ปชป.เผยวางตัวผู้สมัครเกือบ 100% แล้ว มั่นใจได้ ส.ส.มากกว่า 23 เสียงบแน่

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเดินทางไปหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในสัปดาห์แรกจะเน้นเกี่ยวกับนโยบายการประกันรายได้เกษตรกร ส่วนสัปดาห์ที่ 2 ในช่วง 21-22 พ.ค.จะเป็นการประกาศนโยบายเพื่อประชาชน เป็นการเริ่มต้นสู่การหาเสียงเลือกตั้ง หลังจากได้หมายเลขระบบบัญชีรายชื่อแล้ว

โดยนายอภิสิทธิ์ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน โดยจะเน้นการพูดคุยเป็นกลุ่มๆ ส่วนการปราศรัยก็จะให้รองหัวหน้าพรรคกำหนดมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการเปิดเวทีปราศรัย หรือ การมีขบวนแห่ในวันที่ 19 พ.ค. 2554 เป็นวันเปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อวันแรกนั้นยังบอกไม่ได้เพราะต้องรอ กกต.ประกาศให้ชัดเจนถึงข้อห้ามก่อน

“หากมีการหาเสียงในช่วงวันเวลาราชการ หรือวันอื่นนายอภิสิทธิ์สามารถลากิจ ได้ โดยตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินนั้น การลากิจของนายกฯ ให้เป็นดุลพินิจของนายกฯ แล้วแจ้ง ครม.ทราบ จะทำเป็นเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่นั้นแล้วแต่ดุลพินิจของนายกฯ”

ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า คนเป็นนายกฯ แยกไม่ออกไม่ใช่ว่า พ้นจากเวลาราชการแล้วก็ไม่เป็นนายกฯ แต่ต้องเป็นตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลต้องรักษาความปลอดภัยไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาทำงานหรือไม่ทำงาน ซึ่งนายกฯ ในขณะนี้ไม่ใช่ตำแหน่งรักษาการ แต่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในตำแหน่งต่อไป เวลาเซ็นชื่อก็คำว่านายกรัฐมนตรีไม่ใช่รักษาการ อย่างไรก็ตาม การหารือกับ กกต.ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่มีแนวปฏิบัติออกมาชัดเจน เพียงแต่ กกต.ชี้แนะแนวทางแล้วให้เราตัดสินใจเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรากังวล จึงต้องเปลี่ยนรถนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคตนก็ใช้รถส่วนตัว

นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการวางตัวผู้สมัครภาคเหนือว่า เกือบ 100% แล้ว ติดขัดบางเขตเท่านั้น ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างจัดทำแผนหาเสียงในพื้นที่เป้าหมาย ส่วนที่หลายฝ่ายในพรรคเป็นห่วงการหาเสียงในพื้นที่ที่มีคนเสื้อแดงนั้นไม่เป็นไรไม่น่าจะมีปัญหาก็หาเสียงตามปกติ และว่าที่ผู้สมัครของพรรคก็เป็นคนในพื้นที่ ผู้สนับสนุนก็ไปตามปกติเพราะเป็นการเลือกตั้งต้องไปได้ทุกที่

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์โดนทำลายป้ายหาเสียงหลายพื้นที่ในภาคเหนือนั้น นายเทอดพงษ์ยอมรับว่า เยอะมากมีทั่วไปเลยแต่ก็ต้องพยายามแก้ไขโดยติดตั้งเพิ่ม ขณะเดียวกันก็ต้องขอให้ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยสอดส่องดูแล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องเข้มงวด เพราะว่ากันตามจริงขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรมากก็โดนแล้ว พอถึงเวลาหาเสียงจริงๆ ป้ายหาเสียงก็เยอะขึ้นก็ต้องช่วยกันดูแลเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ป้ายยังโดนเลยแล้วผู้สมัครเกรงว่าจะโดนหรือไม่ นายเทอดพงษ์กล่าวว่า ตนคิดทุกฝ่ายต้องเข้าใจว่าขณะนี้เป็นการเลือกตั้ง เป็นการแข่งขันต่อสู้ทางการเมือง เมื่อถามว่า ถ้าเทียบการหาเสียงในอดีตกับปัจจุบันต่างกันอย่างไร นายเทอดพงษ์กล่าวว่า สมัยก่อนไม่รุนแรงอย่างนี้ไม่มีการทำลายป้าย มีการพูดจาปราศรัยได้ตามปกติแต่รุ่นหลังๆ รู้สึกจะเครียดกัน

ด้าน นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต รมว.แรงงาน และคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะทำงานยุทธศาสตรภาคเหนือ ได้ประเมินแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ จะได้จำนวน ส.ส.มากกว่าเดิม ทั้งนี้แม้ว่าภาคเหนือจะเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงสนับสนุนแต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา พรรคจะเน้นการหาเสียงในลักษณะเดินเคาะประตูบ้าน ส่วนการปราศรัยก็อาจจะมีบ้างบางจุด เราหาเสียงก็เพราะต้องการให้ประชาชนรัก ส่วนคนที่ไม่รักก็ชั่งเขาแต่เราก็ยังเดินหน้าหมือนเดิม ตนมั่นใจว่าภาคเหนือจะได้ 23 บวกแน่ๆ