ตรัง - “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ยืนยันจะลงสมัคร ส.ส.ตรัง เขต 2 เหมือนเดิม หลังมีกระแสข่าวว่าจะขึ้นสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบื่อกระแสข่าวไร้สาระสร้างความแตกแยก ระบุขอเอาเวลาที่เหลือไปลุยงานจะดีกว่า
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์ 5 สมัย กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า ตนจะขึ้นไปลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) แล้วให้น้องชาย คือ นายสาธร วงศ์หนองเตย ลงสมัคร ส.ส.ตรัง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 แทนตนเองนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาตามร้านน้ำชากาแฟ ซึ่งไม่สามารถยึดเอามาเป็นสาระหรือเชื่อถืออะไรได้
เช่นเดียวกับกรณีที่มีการระบุว่า นายชวน หลีกภัย ส.ส.ตรัง 14 สมัย จะไปลงสมัคร ส.ส.ตรัง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 หากตนขึ้นไปลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาลอยๆ โดยที่ไม่สามารถหาตัวตนของบุคคลที่ออกมาพูดอย่างชัดเจนได้ จนทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งขึ้นโดยใช่เหตุ
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลชุดรักษาการ ยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนชาวไทย จนกว่าการเลือกตั้งใหญ่จะเสร็จสิ้น และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงานต่อ ตนจึงอยากให้ใช้ระยะเวลาที่เหลือนี้ในการทำงานอย่างเต็มที่ ดีกว่าต้องมาคอยตอบคำถามกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพียงเพราะกระแสข่าว แถมยังอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์โดยไม่จำเป็น
ส่วนกระบวนการในการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 หรืออีก 3 เขตเลือกตั้งในจังหวัดตรัง เป็นเรื่องของคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะนำรายชื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเป็นผู้พิจารณาและมีมติออกมาตามลำดับขั้นตอน ซึ่งในเร็วๆ นี้ ก็คงจะมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์ 5 สมัย กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า ตนจะขึ้นไปลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) แล้วให้น้องชาย คือ นายสาธร วงศ์หนองเตย ลงสมัคร ส.ส.ตรัง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 แทนตนเองนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาตามร้านน้ำชากาแฟ ซึ่งไม่สามารถยึดเอามาเป็นสาระหรือเชื่อถืออะไรได้
เช่นเดียวกับกรณีที่มีการระบุว่า นายชวน หลีกภัย ส.ส.ตรัง 14 สมัย จะไปลงสมัคร ส.ส.ตรัง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 หากตนขึ้นไปลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาลอยๆ โดยที่ไม่สามารถหาตัวตนของบุคคลที่ออกมาพูดอย่างชัดเจนได้ จนทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งขึ้นโดยใช่เหตุ
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลชุดรักษาการ ยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนชาวไทย จนกว่าการเลือกตั้งใหญ่จะเสร็จสิ้น และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงานต่อ ตนจึงอยากให้ใช้ระยะเวลาที่เหลือนี้ในการทำงานอย่างเต็มที่ ดีกว่าต้องมาคอยตอบคำถามกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพียงเพราะกระแสข่าว แถมยังอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์โดยไม่จำเป็น
ส่วนกระบวนการในการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 หรืออีก 3 เขตเลือกตั้งในจังหวัดตรัง เป็นเรื่องของคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะนำรายชื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเป็นผู้พิจารณาและมีมติออกมาตามลำดับขั้นตอน ซึ่งในเร็วๆ นี้ ก็คงจะมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา