“นายกฯ-9 รมต.” ไม่หวั่นศึกซักฟอก พร้อมชี้แจงทุกประเด็น พท.ซัด “มาร์ค” รู้เห็นเป็นใจให้คนใกล้ชิดทุจริต ดัน “เจ๊มิ่ง” นั่งนายกฯ คนใหม่ ก่อนจวก! นายกฯ บริหารชาติล้มเหลว ทำข้าวยากหมากแพง
วันนี้ (15 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุมสภา ซึ่งมีวาระสำคัญญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 9 ท่าน ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง, นายจุติ ไกรฤษ์ รมว.โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนังานนายกรัฐมนตรี, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย, นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม, นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์, นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยยืนยันว่าไม่หนักใจในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านและพร้อมชี้แจงทุกประเด็น
โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงที่ผ่านมา นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน อภิปรายเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจระบุ นายกรัฐมนตรีมีความบกพร่องรู้เห็นเป็นใจให้รัฐมนตรี และบุคคลใกล้ชิด กระทำการทุจริตในการบริหารงาน เลือกปฏิบัติในการใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน โดยแจกแจงเป็นข้อผิดพลาด 7 ข้อ เช่น เปิดช่องให้มีการทุจริตทั้งเชิงนโยบาย และลักษณะขายตรง จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันทุจริตมากกว่าทุกชุดในอดีต
นอกจากนี้ยังมีการสั่งการให้ทหารทำร้ายประชาชน และใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อว่าผู้ประท้วงเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งยังมีการแทรกแซงแต่งตั้งโยกย้าย ประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาดจนเกิดลักษณะเคาะศัตรูเข้าบ้าน จากข้อผิดพลาดทั้งหมดฝ่ายค้านจึงขอเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรวม 10 คน ในจำนวนนี้มีการเสนอยื่นถอดถอน 9 คน คือ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้งหมด ยกเว้นนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในท้ายญัตติยังได้แนบชื่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย
ด้าน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยอ้างถึงความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จนเป็นเหตุให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพงในบ้านเมือง โดยเฉพาะปัญหาปาล์มน้ำมันที่เชื่อมโยงถึงปัญหาไบโอดีเซล และกองทุนน้ำมันที่กำลังส่งผลกระทบถึงปัญหาน้ำมันทุกชนิด