00 สังเกตหรือไม่ว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอาการเหมือนกับคนที่กำลังดิ้นรนเพื่อสร้างความนิยมเหมือนเช่นในอดีต แต่เชื่อหรือไม่ว่าเห็น “สภาพ” ตอนนี้ดูแล้วไม่มี สง่าราศีเหมือนก่อน หน้าตาดูโทรมๆ อิดโรย เพียงแต่ยังทำท่าทางฝืนกลบเกลื่อนเท่านั้น และถ้านำไปเปรียบเทียบนายกฯรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร ต่อเนื่องมาถึง สมัคร สุนทรเวช ล้วนมีสีหน้าท่าทางคล้ายๆกัน
00 ก็จะไม่เครียดได้ไง สมัยก่อนชาวบ้านยังจับได้ไล่ไม่ทัน นึกว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ หวังพึ่งพาได้ จนต้อง “รวมพลัง” กันปกป้อง ช่วงที่ “เสื้อแดง” ไล่ฆ่าก็ได้ชาวบ้านนี่แหละ ส่วนจะปะปนกันมาในนามกลุ่ม “เสื้อหลากสี” ก็ตามที แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่ยังศรัทธาให้ความหวัง แต่มาวันนี้พลิกตาลปัตร เพราะพวกเสื้อแดงยังเกลียดเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย ขณะที่ “เสื้อเหลือง” แม้จะแยกย่อยออกไปเป็นพวกสาวกปชป.แต่ก็ถือว่าคนรัก คนชอบลดลงฮวบฮาบ ทำนองเหลือ “คนกันเอง” ลดน้อยลง ชะตากรรมถึงได้เป็นแบบนี้ไง
00 เวลานี้ “มาร์ค” เริ่มอยู่ในอาการผวา แม้ว่าภายนอกจะเก็บอาการได้ดีอยู่ก็ตาม แต่ถ้าถูกชาวบ้านตามไล่ด่าตั้งแต่เช้าจรดเย็นเป็นใครมันก็ต้องเซ็งเหมือนกันแหละน่า ยิ่งตอนนี้ยังมีพวก “พันธมิตรฯ” มาสมทบเรื่อง “หลอกลวง-ขายชาติ” เข้าไปอีกมันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทำนองเวลานี้เลิกมี “พี่เลี้ยง” แล้ว มีแต่ “พี่เทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ กับ “เสี่ยป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนเป็นแบ็กอยู่ข้างหลังเท่านั้น หากยังมั่นใจคนประเภทนี้ต่อไปก็ไม่ว่ากัน
00 เชื่อว่านอกจากเรื่องข้อหา “ขายชาติ” ยกดินแดนให้เขมรแล้ว เรื่องต่อมาก็คือ “ของแพง” และการ “กักตุน” ของพ่อค้ากลุ่มทุนในพรรคร่วมรัฐบาลที่หากินบนความเดือดร้อนของชาวบ้านนี่แหละจะเป็น “จุดตาย” เพราะหลังจากเรื่อง “น้ำมันปาล์ม” สารพัดจุกไม่ว่า “สีเขียว-ชมพู” ยังไม่คลี่คลาย ที่คุยโม้ว่า “ขายไม่อั้น” แต่เมื่อไปเจอของจริง “ยังอั้น” เหมือนเดิม เซ็งวะ แถมล่าสุดพวก “น้ำมันถั่วเหลือง” ที่จะขอขึ้นราคามหาโหดจากลิตร 46 บาทเป็น 65 บาท จะเพิ่มขึ้นถึง 19 บาทแถมน้ำตาลก็เริ่มขาดตลาด ลองนึกดูแล้วกันว่า “นรก” แค่ไหน นอกจากนี้ยังมี นม-ปุ๋ย ต่อคิวขึ้นราคาตามมาอีก ชาวบ้านเตรียมตัว “กระอัก” เอาไว้ล่วงหน้าได้เลย ขณะเดียวกันเมื่อเห็นภาพ “มาร์ค” ที่ขึงขังไปตรวจตามห้างร้านเวลานี้มันก็ยิ่งน่าหัวร่อ เพราะดูแล้วไม่น่าจะใช่นายกฯ แต่เป็นแค่เจ้าหน้าที่ “กรมการค้าภายใน” เท่านั้น ตลกสิ้นดี
00 กรณีปิดบัง “สัญชาติ” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึง “ตัวตน” ของ อภิสิทธิ์ ได้เป็นอย่างดี แม้ในตอนแรกที่ “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพร ออกมาแฉว่าถือว่าสองสัญชาติ คือเพิ่ม “อังกฤษ” เข้ามาโดยอาศัยการเกิด แต่ในตอนแรกเขาก็เฉไฉโยนไปให้ “แม้ว” รับไปทำนองว่าไม่ได้ถือสัญชาติ “มอนเตฯ” แต่ในที่สุดเมื่อเลี่ยงไม่ออกก็ต้องยอมรับในที่สุดว่าใช่ อ้างว่าไม่รู้ตัว และไม่ได้ใช้ เพราะใช้สัญชาติไทยอย่างเดียว ก็ไม่ผิดหรอก แต่ประเด็นก็คือ “ทำไมต้องปิดบัง” บิดเบือนทำไมไม่ยอมให้สิ้นเรื่องสิ้นราว สะท้อนให้เห็นว่าจิตใจไม่บริสุทธ์ ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขาไม่ยอมรับเด็ดขาด แต่ถ้าได้จังหวะก็แถไปได้อีก ทุด !!
00 อาจจะผิดคิวหรือไม่ได้หารือกันมาก่อนกับ “ลูกพี่” สุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงได้รีบประกาศตั้งแต่ไก่โห่ว่าเลือกตั้งคราวหน้าจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำว่า 250 คน เล่นเอาสะดุ้งกันเป็นแถว เพราะการเมืองไทยลองถ้าประกาศกันล่วงหน้าแบบนี้มันเท่าเปิดหน้าให้ฝ่ายตรงข้ามชกได้สะดวก แถมนิสัยคนไทยไม่ชอบคนขี้โอ่ มักหมั่นไส้เอาดื้อๆ ไม่เชื่อก็คอยดูไปก็แล้วกัน
00 เริ่มเข้าโหมดการเลือกตั้งเต็มขั้นแล้ว เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ระดมเคมเปญหาเสียงประกาศเป้าหมายโม้ข่มฝ่ายตรวข้าม ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ล็อตใหญ่ 300 คนแรก ส่วนจะมีใครบ้างให้ตรวจรายชื่อกันเอง บอกได้แต่เพียงว่ามากันครบทั้งดาวร้ายพระเอกยี่เก สิบแปดมงกุฎ โชคดีประเทศไทย !!
00 ก็จะไม่เครียดได้ไง สมัยก่อนชาวบ้านยังจับได้ไล่ไม่ทัน นึกว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ หวังพึ่งพาได้ จนต้อง “รวมพลัง” กันปกป้อง ช่วงที่ “เสื้อแดง” ไล่ฆ่าก็ได้ชาวบ้านนี่แหละ ส่วนจะปะปนกันมาในนามกลุ่ม “เสื้อหลากสี” ก็ตามที แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่ยังศรัทธาให้ความหวัง แต่มาวันนี้พลิกตาลปัตร เพราะพวกเสื้อแดงยังเกลียดเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย ขณะที่ “เสื้อเหลือง” แม้จะแยกย่อยออกไปเป็นพวกสาวกปชป.แต่ก็ถือว่าคนรัก คนชอบลดลงฮวบฮาบ ทำนองเหลือ “คนกันเอง” ลดน้อยลง ชะตากรรมถึงได้เป็นแบบนี้ไง
00 เวลานี้ “มาร์ค” เริ่มอยู่ในอาการผวา แม้ว่าภายนอกจะเก็บอาการได้ดีอยู่ก็ตาม แต่ถ้าถูกชาวบ้านตามไล่ด่าตั้งแต่เช้าจรดเย็นเป็นใครมันก็ต้องเซ็งเหมือนกันแหละน่า ยิ่งตอนนี้ยังมีพวก “พันธมิตรฯ” มาสมทบเรื่อง “หลอกลวง-ขายชาติ” เข้าไปอีกมันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทำนองเวลานี้เลิกมี “พี่เลี้ยง” แล้ว มีแต่ “พี่เทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ กับ “เสี่ยป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนเป็นแบ็กอยู่ข้างหลังเท่านั้น หากยังมั่นใจคนประเภทนี้ต่อไปก็ไม่ว่ากัน
00 เชื่อว่านอกจากเรื่องข้อหา “ขายชาติ” ยกดินแดนให้เขมรแล้ว เรื่องต่อมาก็คือ “ของแพง” และการ “กักตุน” ของพ่อค้ากลุ่มทุนในพรรคร่วมรัฐบาลที่หากินบนความเดือดร้อนของชาวบ้านนี่แหละจะเป็น “จุดตาย” เพราะหลังจากเรื่อง “น้ำมันปาล์ม” สารพัดจุกไม่ว่า “สีเขียว-ชมพู” ยังไม่คลี่คลาย ที่คุยโม้ว่า “ขายไม่อั้น” แต่เมื่อไปเจอของจริง “ยังอั้น” เหมือนเดิม เซ็งวะ แถมล่าสุดพวก “น้ำมันถั่วเหลือง” ที่จะขอขึ้นราคามหาโหดจากลิตร 46 บาทเป็น 65 บาท จะเพิ่มขึ้นถึง 19 บาทแถมน้ำตาลก็เริ่มขาดตลาด ลองนึกดูแล้วกันว่า “นรก” แค่ไหน นอกจากนี้ยังมี นม-ปุ๋ย ต่อคิวขึ้นราคาตามมาอีก ชาวบ้านเตรียมตัว “กระอัก” เอาไว้ล่วงหน้าได้เลย ขณะเดียวกันเมื่อเห็นภาพ “มาร์ค” ที่ขึงขังไปตรวจตามห้างร้านเวลานี้มันก็ยิ่งน่าหัวร่อ เพราะดูแล้วไม่น่าจะใช่นายกฯ แต่เป็นแค่เจ้าหน้าที่ “กรมการค้าภายใน” เท่านั้น ตลกสิ้นดี
00 กรณีปิดบัง “สัญชาติ” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึง “ตัวตน” ของ อภิสิทธิ์ ได้เป็นอย่างดี แม้ในตอนแรกที่ “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพร ออกมาแฉว่าถือว่าสองสัญชาติ คือเพิ่ม “อังกฤษ” เข้ามาโดยอาศัยการเกิด แต่ในตอนแรกเขาก็เฉไฉโยนไปให้ “แม้ว” รับไปทำนองว่าไม่ได้ถือสัญชาติ “มอนเตฯ” แต่ในที่สุดเมื่อเลี่ยงไม่ออกก็ต้องยอมรับในที่สุดว่าใช่ อ้างว่าไม่รู้ตัว และไม่ได้ใช้ เพราะใช้สัญชาติไทยอย่างเดียว ก็ไม่ผิดหรอก แต่ประเด็นก็คือ “ทำไมต้องปิดบัง” บิดเบือนทำไมไม่ยอมให้สิ้นเรื่องสิ้นราว สะท้อนให้เห็นว่าจิตใจไม่บริสุทธ์ ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขาไม่ยอมรับเด็ดขาด แต่ถ้าได้จังหวะก็แถไปได้อีก ทุด !!
00 อาจจะผิดคิวหรือไม่ได้หารือกันมาก่อนกับ “ลูกพี่” สุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงได้รีบประกาศตั้งแต่ไก่โห่ว่าเลือกตั้งคราวหน้าจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำว่า 250 คน เล่นเอาสะดุ้งกันเป็นแถว เพราะการเมืองไทยลองถ้าประกาศกันล่วงหน้าแบบนี้มันเท่าเปิดหน้าให้ฝ่ายตรงข้ามชกได้สะดวก แถมนิสัยคนไทยไม่ชอบคนขี้โอ่ มักหมั่นไส้เอาดื้อๆ ไม่เชื่อก็คอยดูไปก็แล้วกัน
00 เริ่มเข้าโหมดการเลือกตั้งเต็มขั้นแล้ว เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ระดมเคมเปญหาเสียงประกาศเป้าหมายโม้ข่มฝ่ายตรวข้าม ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ล็อตใหญ่ 300 คนแรก ส่วนจะมีใครบ้างให้ตรวจรายชื่อกันเอง บอกได้แต่เพียงว่ามากันครบทั้งดาวร้ายพระเอกยี่เก สิบแปดมงกุฎ โชคดีประเทศไทย !!
