“มาร์ค” ประชุม ครม.รับศึกซักฟอกพรุ่งนี้ พร้อมหารือออกกฎหมายลูก 3 ฉบับ ก่อนยุบสภาต้น พ.ค. ขณะเดียวกัน จะพิจารณาช่วยเหลือญี่ปุ่นที่เกิดภัยพิบัติทั้งแผ่นดินไหว และสึนามิ โดยบัวแก้วชงงบฯ 200 ล้านบาทช่วย ส่วนพาณิชย์จะเสนอส่งข้าวช่วย 5 หมื่นตัน ด้านสาธารณสุข ดันงบฯ โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี 2555 จำนวน 1.4 แสนล้านบาท
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเลื่อนจากวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) มาเป็นวันนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) จะมีการประชุมสภาในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งแน่นอนว่านายอภิสิทธิ์คงกำชับให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเตรียมความพร้อมในการชี้แจง ขณะที่รัฐมนตรีที่ไม่ถูกอภิปรายจะให้กำลังใจรัฐมนตรีทั้ง 10 ท่านที่ถูกซักฟอกในครั้งนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 2.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี 3.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง 4.นายจุติ ไกรฤษ์ รมว.โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนังานนายกรัฐมนตรี 6.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย 7.นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม 8.นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ 9.นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกร์ และ 10.นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์จะรายงานถึงการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงการกำหนดวันยุบสภา ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. โดยต้องพิจารณาร่างประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ว่าด้วย กม.ลูกว่าด้วย กกต. จำนวน 1 มาตรา กม.ลูกว่าด้วยพรรคการเมือง 7 มาตรา และ กม.ลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ส.และส.ว. 33 มาตรา ซึ่งการหารือครม.วันนี้จะเห็นชอบร่าง กม.ลูก 2 ฉบับที่มีมาตราน้อย ก่อนเข้าสู้การพิจารณาของสภา ขณะที่ กม.ลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. อาจต้องออกประกาศ ตามที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ เพื่อให้ทันระยะเวลาก่อนประกาศยุบสภา
ขณะเดียวกัน ครม.จะหารือเพื่อช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นหลังแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดกระหน่ำ กระทรวงการต่างประเทศจะเสนอขออนุมัติงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทสนับสนุนการช่วยเหลือ พร้อมปรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านจากเหตุภัยพิบัติ และรายงานแผนการให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นทั้งระบบ ตั้งแต่การส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทหาร เจ้าหน้าที่การแพทย์ สุนัขดมกลิ่น การจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะเครื่องกันหนาวที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ระบุต้องการอย่างเร่งด่วน ในด้านกระทรวงจะเชิญชวนประชาชนบริจาคสิ่งของ และเงินทอง ผ่านบัญชีกระทรวงการต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาสามยอด ชื่อบัญชี “เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น” เลขที่บัญชี 0020271468
ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะเสนอ ครม.อนุมัติข้าวสารส่งไปช่วยผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่น จำนวน 50,000 ตัน โดยแบ่งเป็นข้าวหอมประทุม 30,000 ตัน และข้าวเหนียว 20,000 ตัน
ด้านกระทรวงสาธารณสุข ชงอีกรอบเข้า ครม. กับการจัดสรรงบประมาณตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปี 2555 กำหนดเหมาจ่ายรายหัว 2,895 บาท คิดเป็นเงิน 1.4 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่เฉลี่ยเหมาจ่ายรายหัว 2,546 บาท คิดเป็นเงิน 1.2 แสนล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 14.5 เปอร์เซ็นต์ ให้กับประชากร 48 ล้านคน
สำหรับกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืน รวมทั้งกรอบวงเงิน 3,416.40 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืนเริ่มตั้งแต่ปี 55-64วงเงินรวม 2,167 ล้านบาท และโครงการพัฒนาศูนย์ทดสอบยานยนต์เริ่มปี 55-57 วงเงินรวม 1,249.40 ล้านบาท นอกจากนี้ได้เสนอครม.มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไปพิจารณาบูรณาการภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางบริหารจัดการแผนงานและงบประมาณ รวมถึงประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงานด้วย
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กระดับตำบล แห่งละ 2 ล้านบาท จำนวน 99 แห่ง รวม 198 ล้านบาท จากงบฯปี 2554 งบกลาง และให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ไปจัดทำรายละเอียดแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงิน
วาระพิจารณาอื่น มาตรการให้ความช่วยเหลือแก่บริษัท ฮัทชิสันแหลมฉบังเทอร์มินัล จำกัด ในการปฏิบัติตามสัญญา ลงทุนก่อสร้าง บริหารและประกอบท่การท่าเรือ A3 C1 C2 D1 D2 และ D3 ของท่าเรือแหลมฉบัง กระทรวงแรงงานเสนอการปฏิบัติการคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ