“มาร์ค” หวังใช้สถาบันศึกษา แก้ปัญหาขัดแย้งการเมือง

“นายกฯ” เป็นประธาน ลงนามเอ็มโอยู โครงการหนึ่งมหาลัยหนึ่งจังหวัด หวังให้สถาบันอุดมศึกษาแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในชุมชน ตามที่ ครม.อนุมัติตามข้อกระทรวงศึกษาธิการ คาดหวังใช้สถาบันการศึกษา เป็นแหล่งแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง

วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และสักขีพยานพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการหนึ่งมหาวิทยาลัยหนึ่งจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.53 ครม.เห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ อุดมศึกษาร่วมสร้างประเทศไทยน่าอยู่ เพื่อส่งเสริมสถาบันอุดมศึกษามาส่วนรวมกับสังคมและชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเป็นแกนหลักสร้างความสัมพันธ์ และลดความเหลื่อมล้ำของสังคม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินมีผลมาจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทางการเมือง ปัญหาโครงสร้างในเรื่องความเหลื่อมล้ำ และความไม่เสมอภาค ความพยายามในการปรับต้องมีองค์ความรู้เป็นส่วนประกอบ ความคาดหวังของสังคมต่อสถาบันอุดมศึกษาที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างน่าจะมีมากกว่าที่เคยทำมา ทั้งนี้ การจัดทำข้อตกลง หรือบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ หรือโครงสร้าง เพื่อทำให้สังคมมีคุณภาพ คุณธรรม มีภูมิคุ้มกันความสมานฉันท์ และมีเอกภาพในการผลักดันไปสู่ความสำเร็จ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มีหลายพื้นที่มีการดำเนินการไปแล้ว ซึ่งจะดึงเอาศักยภาพของสถาบันต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของแต่ละพื้นที่แต่ละชุมชน โดยจะมีความสอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายด้านอื่นๆ ของรัฐบาล เช่น ยุทธศาสตร์เรื่องการวิจัย ก็จะอ้างอิงกับพื้นที่ได้มากขึ้น นโยบายทางด้านการศึกษาด้านอื่นๆ เช่น การเพิ่มโอกาส หรือในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพ ที่จะเชื่อมโยงกับภาควิชาการและภาคส่วนอื่นๆ ในสังคม จึงหวังว่า การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานต่างๆ ทั้ง 8 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันอุดมศึกษาและจังหวัดทุกจังหวัดในวันนี้ จะส่งผลให้มีการเริ่มต้นที่มั่นคง ไปสู่การรวมพลังในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ ให้เกิดความยั่งยืนสืบต่อไป