xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ระส่ำ ส.ส.จี้ รบ.เคลียร์วิกฤตน้ำมันปาล์ม “อัญชลี” ปัดเอี่ยวกักตุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.วรงค์  เดชกิจวิกรม
ส.ส.ปชป.ระดมพลัง จี้ รบ.เร่ง จัดการเคลียร์ปัญหาวิกฤตน้ำมันปาล์มขั้นเด็ดขาด หวั่นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์พรรค ด้าน “อัญชลี” รับเป็นธุรกิจเครือญาติ แต่ไม่มีเอี่ยวผลประโยชน์ โวยฝ่ายค้านจับแพะชนแกะ ด้าน ปธ.สภาที่ปรึกษาพรรค โบ้ยเป็นปัญหาเฉพาะหน้า เชื่อ วิกฤตจะคลี่คลาย แนะกล่อม ปชช.รอผลผลิตรอบใหม่ ด้านม็อบแรงงานไทย เดินเท้าบุกปิดหน้าพรรค ประกาศยืดเยื้อจนกว่าจะได้ยื่นหนังสือโดยตรงถึงมือ “มาร์ค”

วันนี้ (22 ก.พ.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรค ได้หารือถึงปัญหาน้ำมันปาล์มที่กำลังขาดตลาดอยู่ในขณะนี้ โดย ส.ส.หลายคนได้แสดงความไม่สบายใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก และอาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าปัญหาเกิดจากในอดีตมีการจัดเก็บสต๊อกน้ำมันปาล์ม ประมาณ 1.2 แสนตันต่อปี แต่เมื่อเกิดปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตปาล์มลดลงตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึง เดือนธันวาคม ตัวเลขเหลือเพียง 6.7 หมื่นตัน ขณะที่รัฐบาลให้นำเข้าเพียง 3 หมื่นตัน แต่น้อยกว่าความต้องการ ทำให้เกิดปัญหาวิกฤต ซึ่งบรรดา ส.ส.ได้เรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการเด็ดขาดในการแก้ปัญหา เพื่อเรียกความเชื่อมั่น เพราะแม้ว่าความรับผิดชอบปัญหานี้อยู่ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ตาม แต่ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ไม่มีแกนนำรัฐบาลในส่วนของพรรคเข้าร่วมประชุม เป็นเพียงการหารือกันของ ส.ส.เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม หลังปิดการประชุม นางอัญชลี วานิชเทพบุตร เลขาธิการนายกฯ ได้ขอชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิง ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์น้ำมันปาล์ม โดยปฏิเสธว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และเป็นบริษัทของเครือญาติ และเป็นมหาชน ประกอบกับน้ำมันปาล์มดิบ ไม่มีการเก็บสต๊อก เพราะจะทำให้น้ำมันมีกลิ่นเหม็น การนำประเด็นนี้มาพูดในส่วนของฝ่ายค้านนั้น เป็นการจับแพะชนแกะ ไม่มีเหตุผล ซึ่งที่ประชุมก็ไม่ได้ติดใจเรื่องดังกล่าว แต่ ส.ส.หลายคนได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาให้กับรัฐบาล เช่น ให้เพิ่มจำนวนนำเข้าน้ำมันปาล์มมากขึ้น แต่ก็มีความเห็นแย้งว่า อาจจะกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มภายในประเทศ ที่กำลังจะออกผลผลิตมาในเร็วๆ นี้ ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้แนะนำว่า รัฐบาลควรเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเฉพาะหน้า และคาดว่า ปัญหาจะคลี่คลายในไม่ช้า เพราะผลผลิตน้ำมันปาล์มจะออกมาในช่วงอีกไม่กี่เดือน เพื่อให้ประชาชนไม่เกิดความตื่นตระหนก

สำหรับบรรยากาศที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มผุ้ใช้แรงงานลูกจ้าง บริษัท แม็กซิส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย ) จำกัด อ.ปลวกแดง จ.ระยอง บริษัท พีซีบี เซ็นต์เตอร์ จำกัด และบริษัท ฟูจิสึ เจเนอรัล ประเทศไทย จำกัด จำนวน กว่า 500 คน เดินเท้าจากหน้ากระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยขบวนรถปิกอัพจำนวน 10 คัน และเครื่องขยายเสียง ปิดหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงที่มีการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ เพื่อขอยื่นหนังสือถึงนายกฯให้ดูแลปัญหาการเลิกจ้างของกลุ่มนายทุนผู้ประกอบการทั้ง 3 บริษัท โดยถูกนายทุนเจ้าของโรงงงานชาวต่างชาติเอาเปรียบแรงงานไทย

โดยตัวแทนลูกจ้างบริษัท แม็กซิส รายหนึ่ง กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตยางวรถยนต์ มีเจ้าของเป็นชาวไต้หวัน ตั้งมาได้ 7 ปี มีพนักงานประจำ 2,500 คน โดยทางบริษัทได้ปิดการจ้างงานตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.53 จนถึงปัจจุบัน โดยอ้างว่า ปิดเพื่อซ่อมแซมเครื่องจักร แต่ข้อเท็จจริงกลับมีการจ้างแรงงานต่างด้าวข้ามชาติชาวเขมร และแรงงานเหมาจายค่าแรงมาทำงานแทนพนักงานลูกจ้างประจำ และต่อรองกับลูกจ้างประจำเกี่ยวกับการลดสวัสดิการของพนักงานลง ทั้งที่บริษัทมีกำไรกว่า 1.5 พันล้านบาท

ขณะที่ตัวแทนบริษัท พีซีบี เซ็นต์เตอร์ จำกัด ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ใน จ.ชลบุรี กล่าวว่า ที่บริษัทมีคนไทยเป็นเจ้าของ รับผลิตวงจรอิเลกทรอนิกส์ ส่งขายให้ต่างประเทศ มีลูกจ้างอยู่ราว 500 คน ต่อมาเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้โรงงานในวันที่ 23 มิ.ย.53 มีพนักงานเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ทางบริษัทประกาศจะจ่ายเงินค่าจ้างให้พนักงานและลูกจ้างประจำ 75% จนกว่าทางบริษัทจะปรับปรุงโรงงาน และเปิดกิจการใหม่ในเดือน ธ.ค.53 แต่นายจ้างกลับไม่จ่ายเงินชดเชยให้ และผิดนัดมาตลอด สุดท้ายจึงได้ประกาศปิดกิจการลงในวันที่ 21 ม.ค.54 โดยลอยแพผู้ใช้แรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่กำหนดแต่อย่างใด

ด้านตัวแทนพนักงานบริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งอยู่ที่แหลมฉบัง มีนายจ้างเป็นชาวญี่ปุ่น รับผลิตชิ้นส่วนและประกอบเครื่องปรับอากาศ โดยนายจ้างขอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงานและปิดงานต่อพนักงาน จนเกิดการประท้วงที่หน้าโรงงาน จากนั้นวันที่ 9 ก.พ.54 ศาลได้สั่งกักขังแกนนำ 15 คน ระหว่างวันที่ 9-16 ก.พ.ฐานปิดถนนหน้าโรงงาน จนถึงขณะนี้แรงงานหญิง 2 คน ที่ถูกจับได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่แรงงานชายอีก 13 ราย ยังถูกคุมขังอยู่ อยู่ระหว่างการอุทธรณ์สู้คดี ซึ่งจากปัญหาแรงงานทั้ง 3 บริษัท ล้วนถูกนายจ้างเอาเปรียบ ผู้ใช้แรงงานได้ร้องเรียนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงแรงงาน แต่ไม่มีข้อยุติที่จะช่วยเหลือลูกจางแรงงานชาวไทยได้ ทั้งหมดจึงได้รวมตัวเดินเท้าเข้า กทม.และจะยื่นหนังสือโดยตรงถึงนายกฯให้แก้ไขปัญหาแรงงงานชาวไทย โดยขอให้ทางบริษัทต้นสังกัดรับพนักงาน ลูกจ้างประจำกลับเข้าทำงาน และชดเชยค่าแรงตามที่เคยรับปากให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ส.ส.ในวันนี้ ปรากฏว่า ทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่มาร่วมประชุมแต่อย่างใด ดังนั้น กลุ่มลูกจ้างทั้ง 3 บริษัท ได้ประกาศจะปักหลักปิดถนนด้านหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 1 ช่องทางจราจร จนกว่าจะได้พบนายกฯ เพื่อรับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มทั้งหมด และยังมีผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ปักหลักที่หน้ากระทรวงแรงงานอีกนับพันคนรอมาสมทบ ทำให้ทางพรรคประชาธิปัตย์ ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อย จำนวน 1 กองร้อยจากกองบังคับการตำรวจภูธรบุรีรัมย์สนธิกำลังกับตำรวจนครบาล สน.บางซื่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น