“เทพเทือก” ลั่น ปัญหาน้ำมันปาล์ม ต้องจบในวันนี้ คาด ยกเลิกอิมพอร์ตล็อตที่ 2 จำนวน 1.2 แสนตัน แต่จะนำเข้าเฉพาะจำเป็น เพื่อชดเชยการขาดแคลน “ดีเอสไอ” ลุยตรวจอีก 3 โรงงาน วันนี้ “อัญชลี” เล็งฟ้องฝ่ายค้านปูดชื่อย่อ ยอมรับมีสวนปาล์ม แต่ไม่เกี่ยวโรงงาน คาดถูกโยงเพราะใกล้ชิด “เทพเทือก” ฝากวอน “เจ๊หน่อย-เด็จพี่” อย่านำตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องในละครที่สร้างขึ้น
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ กล่าวถึงการแก้ปัญหาวิกฤตน้ำมันปาล์มภายในประเทศ โดยระบุว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ จะมีการประชุมกันในช่วงบ่าย 13.00 น.วันนี้ พร้อมยืนยันว่า การประชุมครั้งนี้ จะได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน โดยตนเองจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมประชุมกัน ซึ่งผลสรุปจะเป็นอย่างไรนั้น คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในทันที
โดยหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกรผู้ผลิต หน่วยงานภาคเอกชน โรงงานผู้ผลิต และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญให้มานั่งพูดคุยร่วมกัน พร้อมระบุว่า เมื่อพูดคุยบนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหา และจบได้ภายในวันนี้อย่างแน่นอน
“ปัญหาต้องจบแน่นอน ในวันนี้ จะไม่มีเรื่องขาดแคลนที่ประชาชนต้องไปเข้าแถว เข้าคิวรอ และจะไม่เป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน แต่การแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์ม จะต้องทำให้เกษตรกรนั้น มีผลผลิตราคาดีขึ้นด้วย ส่วนความคืบหน้าการรายงานของดีเอสไอยังไม่พบความผิดปกติ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอาจกระทบต่อรูปคดี”
อย่างไรก็ตาม ไม่ขอกล่าวโทษว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของกระทรวงพาณิชย์ เพราะรัฐบาลนั้นมีหน้าที่ที่จะต้องแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แต่หากพบว่าใครทำผิด จะดำเนินการ โดย นายสุเทพ ได้ย้ำว่า ไม่จงใจกลั่นแกล้งและใส่ร้ายใคร
“สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลมีหน้าที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน จะไม่ไปมองว่า จะไปเอาผิดใคร เพราะไม่เกิดประโยชน์ ความผิดที่เกิดขึ้นว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่มุ่งร้ายเอาเรื่องนี้มากลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น”
โดยเบื้องต้น นายสุเทพ คาดว่า จะยกเลิกการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 120,000 ตัน ที่เคยอนุมัติไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ประกอบกับผลผลิตของเกษตรกรเริ่มจะออกสู่ตลาด ส่วนปริมาณที่จะนำเข้าเท่าใด ก็ต้องรอมติที่ประชุมอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ นายสุเทพ ระบุว่า ราคาน้ำมันปาล์มที่ขายในราคาขวดละ 47 บาท ขณะนี้ยังมีความเหมาะสม แต่อนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดราคาลง เพราะหลักสำคัญคือไม่เพิ่มภาระให้กับประชาชน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ ดีเอสไอได้รายงานผลการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานน้ำมันต่างๆ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และจะไม่กดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 3 ชุด เข้าตรวจสอบ โรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ได้รับการจัดสรรโควตาน้ำมันปาล์ม ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยวันนี้ ดีเอสไอจะเดินทางลงไปตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มในหลายพื้นที่ เช่น บริษัท ปาล์มออยล์ เอ็นเนอร์ยี อินดัสตรี จำกัด จังหวัดเพชรบุรี, บริษัท โอลีน จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มโอลีน ในจังหวัดสมุทรสาคร, บริษัท เหล่า ธงสิงห์ จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม และ บริษัท ทีเอส อุตสาหกรรม น้ำมัน จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม จังหวัดสมุทรปราการ
ทั้งนี้ บริษัทที่อยู่ในโควต้าที่ทางรัฐบาลจัดสรรนำเข้าน้ำมันและจำหน่าย จำนวน 10 บริษัท ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการไปแล้ว 4 โรงงาน และในวันนี้อีก 4 โรงงาน และเหลืออีกเพียง 2 โรงงานเท่านั้น ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ไปว่า มีการจับกุมสินค้าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ดีเอสไอจะนำข้อมูลที่ได้เข้าไปที่ประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพ เป็นประธาน
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรรคภูมิใจไทย (พท.) ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบการเมืองถึงขั้นจะมีการปลด นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง เพราะคิดว่า นางพรทิวา ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคแล้ว และเชื่อว่า ปัญหานี้คงจะคลี่คลายไปในเวลาที่รวดเร็ว และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ ยังมองว่า ปัญหาเรื่องนี้คงจะไม่ส่งผลกระทบต่อความขัดแย้งให้รัฐบาลขัดแย้งกันเอง เพราะเป็นเรื่องของมุมมองการบริหารงานที่ต่างกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย
“ตัวท่าน รมต.เอง ก็พยายามทำหน้าที่ที่จะปกป้องผู้บริโภค เราต้องพยายามทำให้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นผู้ร้าย แต่ขอร้องประชาชนว่าอย่าฟังความข้างเดียว”
ด้าน นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ตนและครอบครัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนน้ำมันปาล์มตามที่มีการออกมาเปิดเผย แต่ยอมรับว่า ครอบครัวได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสวนปาล์มจริง แต่เป็นในส่วนของผลผลิต ไม่เกี่ยวข้องกับโรงกลั่นน้ำมัน
ขณะเดียวกัน มองว่า สาเหตุที่ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการทุจริตในครั้งนี้ อาจมาจากความใกล้ชิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และมีความต้องการโยงให้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของการเมือง
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หยุดดึงตนเข้าไปเกี่ยวข้องในละครที่สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพบว่า การให้ข้อมูลของบุคคลทั้ง 2 เข้าข่ายหมิ่นประมาท ตนก็จะทำการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ นางอัญชลี ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำมันปาล์มขาดแคลนอยู่ในขณะนี้ มาจากผลผลิตปาล์มลดลง เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง รวมถึงอาจมีการบริหารจัดการน้ำมันปาล์ม ที่บกพร่อง
