ปธ.คกก.นโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เชิญทุกฝ่ายถกปัญหาสวาปาล์มบ่ายนี้ คาดวันนี้จบแน่ โวชาวบ้านไม่ต้องแย่งซื้อ ตั้งราคาลิตรละ 47 บาท คาดมีแววราคาลงอีก พร้อมยกเลิกนำเข้า 1.2 แสนตัน ยันน้ำมันแพงไม่ใช่ความผิดพลาดทางนโยบายผลิตไบโอดีเซล เชื่อดีเอสไอสอบโปร่งใส ท้า พท.เปิดชื่อเต็มอย่ามาแค่อักษรย่อ
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนจะหาตัวผู้กระทำผิดกักตุนหรือแก๊งสวาปาล์มได้หรือไม่ว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาดูแลแก้ปัญหานี้ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเท่าที่ได้ดูข้อมูลตัวเลขข้อเท็จจริงทั้งหลายชัดเจนแล้ว โดยในเวลา 13.00น. วันเดียวกันนี้ตนจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ กระทรวงเกษตรฯกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน รวมทั้งตัวแทนเกษตรกร โรงงานต่างๆ มานั่งปรึกษาหารือกัน เมื่อเราได้พูดคุยกันบนตัวเลขข้อมูลบนพื้นฐานความเป็นจริง คิดว่าปัญหาแก้ได้ และวันนี้จบแน่นอน
“ผมขอให้คำมั่นกับประชาชนได้เลยว่า หลังประชุมคณกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติวันนี้ปัญหาทุกอย่างจบได้แน่นอน โดยน้ำมันปาล์มต้องไม่ขาดแคลนสำหรับผู้บริโภค ประชาชนไม่ต้องมาแย่งกันซื้ออีกต่อไป ผมรับรองได้ว่าจัดให้ไม่ให้ขาดแคลนและจะให้ราคาน้ำมันปาล์มอยู่ในระดับลิตรละ 47 บาท ไม่เป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน ถ้าจะต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้นเพราะอะไรก็แล้วแต่ ก็จะให้ส่วนอื่นๆ ช่วยรับภาระแทนประชาชนไปก่อน และจะดูแลให้น้ำมันปาล์มขวดและปี๊บ สามารถขายได้ในราคาเดียวกัน ไม่ต้องไปเข้าคิวแย่งซื้อน้ำมันขวด และแล้วมาเทใส่ปี๊บขายให้มันเดือดร้อนกันไปอีก ผมยืนยันว่าในวันนี้ หรือพรุ่งนี้(วันที่ 23 ก.พ.) พี่น้องประชาชนซื้อน้ำมันปาล์มได้ราคาขวดละ 47 บาทได้เลย ส่วนพวกกักตุน เราก็จับกุม และในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันปาล์มจะต่ำลงกว่าลิตรละ 47 บาทด้วย” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า ที่สำคัญคือในการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องตั้งหลักเอาไว้เลยว่าจะต้องทำให้ เกษตรกรชาวสวนปาล์มขายผลผลิตได้และราคาดีด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถสร้างสมดุลในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นได้ โดยจะให้ยกเลิกการอนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน เพราะมันสายไปแล้ว เนื่องจากพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ปาล์มในประเทศจะเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นแล้ว การจะนำเข้ามาจะให้นำเข้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เมื่อถามว่า ใครจะต้องเข้ามารับภาระแทนประชาชนในกรณีมีต้นทุนสูงขึ้น รัฐบาลจะยอมจ่ายเงินแทรกแซงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องไปดูกันในรายะละเอียด ซึ่งภายหลังการประชุมจะต้องทำให้มีผลเลยให้ชัดเจน ประชาชนจะได้ไม่ได้ต้องกลุ้มอกกลุ้มใจ
“เรื่องของน้ำมันที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้เพราะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันปาล์มที่ผลิตได้ในประเทศ จริง ๆ ทุกวันนี้เรามีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มทั้งบริโภคและเข้าไปในโรงงานเพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซล เราต้องดูแลสัดส่วนนี้ให้ดี เดิมเราให้สัดส่วนไปในการผลิตไบโอดีเซล เพราะเราต้องการประหยัดเงินที่จะไปซื้อน้ำมันจากต่างประเทศ และต้องการให้โครงการผลิตไบโอดีเซลไปดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกินจากที่เหลือเกิน บริโภคภายในประเทศ แต่พอทำไปๆ ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น ทำให้สามารถดึงราคาน้ำมันที่จะทำเป็นไบโอดีเซลให้แพงขึ้นด้วยจึงมีผลกระทบ ถ้ามีปริมาณผลผลิตปาล์มเพียงพอในประเทศก็ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ แต่ช่วงที่ผลผลิตขาดแคลนก็กระทบกันบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของนโยบายนำปาล์มน้ำมันไปผลิตไบโอดีเซล โครงการไบโอดีเซลยังต้องทำต่อไป เพราะเราต้องเตรียมพร้อมที่จะยืนหยัดในการจะพึ่งตัวเองให้ได้ในวันข้างหน้า หรือลดค่าใช้จ่ายของประเทศในการซื้อเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ดีในการดูดซับผลผลิตปาล์มน้ำมัน ทุกปีก็มีผลผลิตเพียงพอเกินความต้องการ เพิ่งมีปีนี้ที่เจอทั้งฝนแล้ง น้ำท่วมก็มีปัญหา” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรเพราะเรื่องนี้อ่อนไหว พอกระทรวงพาณิชย์บอกจะให้ปรับราคา น้ำมันปาล์มก็หายวับไปจากตลาด นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าใครเก็บไว้ก็ไม่มีผลอะไร เก็บเอาไว้ก็เป็นปัญหาของเขาเอง เพราะเราไม่ให้ขึ้นราคา ทั้งนี้ การออกไปตรวจสอบโรงงานต่างๆ ของดีเอสไอก็รายงานมาทราบ เขาตรวจทั้งโรงงานสกัดปาล์มทะลาย จ.สุราษฎร์ธานี แถวบ้านตน และตรวจไปถึงโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ด้วย ส่วนจะพบความผิดปกติหรือไม่ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่คงจะรายงานมา แต่ตนจะไม่ลงไปในรายละเอียด เพราะหากจะต้องดำเนินคดีกับใครจะได้ดำเนินการได้ เมื่อถามว่า จะถือว่ากระทรวงพาณิชย์บกพร่องโดยตรงที่ไม่สามารถบริการจัดการเรื่องนี้ได้ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่มีหน้าที่ไปกล่าวโทษใคร ตนไม่โทษใครทั้งนั้น แต่มีหน้าที่แก้ปัญหาช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนผู้บริโภคและเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการของดีเอสไอจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนเพราะดูแล้วไม่ค่อยกล้าดำเนินคดี นายสุเทพกล่าวว่า ดีเอสไอลงไปดำเนินการใครผิดใครถูกก็ว่ากันไป สื่อมวลชนอย่าไปใส่อารมณ์ในจินตนาการไปด้วย ดีเอสไอเข้าไปตรวจ ถ้าผิดก็ต้องผิด ถ้าไม่ผิดก็ไม่ผิด ไม่ใช่ว่าเราจงใจไปกลั่นแกล้งเล่นงานหรือช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ ว่าไปตามข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านปล่อยรายชื่อตัวย่อนักการเมืองพัวพันในเรื่องนี้ เลิกเสียที บอกมาเลยว่าชื่ออะไร เป็นใคร อยู่ที่ไหนจะให้ดีเอสไอลุยเข้าไปเลย เมื่อถามว่า ทำไมนางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกฯออกมาปฏิเสธก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องไปถามนางอัญชลี อาจมีคนเอาไปพูดชื่อย่อ “อ.” เขาก็ต้องคิด เพราะมีบางคนก็พูดจาเลอะเทอะไป
เมื่อถามว่า ปัญหาราคาน้ำมันปาล์ม ข้าวยากหมากแพงจะกระทบต่อฐานคะแนนเสียงพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปกังวลเรื่องคะแนนเสียงเลย ยังไม่ถึงเวลา เวลาวันนี้คือรัฐบาลมีหน้าที่ต้องทำหน้าที่ประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลมีหน้าที่แก้ปัญหาก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เรื่องปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนวันนี้ต้องรู้กันทั้งประเทศว่าจบแน่นอน
