“เทพเทือก” โต้ “เจ๊วา” ยันไม่มีเรือ 5 ลำลอยอยู่อ่าวไทยเตรียมนำเข้าน้ำมันปาล์็มตามที่อ้าง บอกถ้ามีจริงให้เตรียมขาดทุน เพราะจะยกเลิกนำเข้า 1.2 แสนตัน เปลี่ยนมาเป็นทยอยครั้งละ 2-3 หมื่นตัน อ้างกลัวกระทบผลผลิตปาล์มดิบที่เริ่มออกสู่ตลาดปลายเดือนนี้ ซัดฝ่ายค้านมั่วปล่อยชื่อย่อนักการเมืองเอี่ยวงาบผลประโยชน์ พร้อมปัดใช้ดีเอสไอฟอกขาวแก๊งสวาปาล์ม ยันสาวเจอใครไม่ว่าคน ปชป.-ภท.ต้องเล่นงาน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการสั่งการให้ดีเอสไอที่มีปัญหาความน่าเชื่อถือเข้าไปตรวจสอบการกักตุนน้ำมันปาล์มจะได้ผลหรือไม่ เพราะมีการบอกล่วงหน้าก่อนไปตรวจจนผู้ประกอบการที่กักตุนขนของย้ายหนีว่า คงไม่ง่ายที่จะขนน้ำมันเป็นคันรถเที่ยววิ่งหนีอยู่คงไม่ใช่ แต่การตรวจสอบเจ้าหน้าที่ต้องตรวจจะหนีไปไหนเจ้าหน้าที่ก็ต้องตามตรวจสอบต่อไปให้ครบ
ส่วนที่ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เสนอของบประมาณกว่าพันล้านไปบริหารจัดการแทรกแซงราคาน้ำมันปาล์มให้ยังยืนราคาขวดละ 47 บาท นายสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้แต่ละฝ่ายก็อาจมีความคิดเห็นไปได้ แต่เมื่อเข้าไปในที่ประชุมแล้วก็ต้องฟังความเห็นของทุกฝ่ายร่วมกันและช่วยกันหาข้อสรุปที่ดี
“สำหรับผมถือว่าราคาน้ำมันปาล์มขวดละ 47 บาทนั้น ควรจะต้องเป็นราคาที่ยืนเอาไว้ เพราะพี่น้องประชาชนเพิ่งต้องรับภาระจากการปรับราคาขึ้นมาตั้งแต่ 38 บาทมาแล้ว ถ้าไปขึ้นราคาอีกก็เป็นการซ้ำเติมประชาชน ควรต้องคิดหาวีธีการอื่น ซึ่งนางพรทิวายังไม่ได้ชี้แจงเหตุผลการทำงานล่าช้า เพราะยังไม่ได้คุยกัน มีแต่อ่านข่าว มีคำอธิบายผ่านสื่อไปยังพี่น้องประชาชน จะพูดคุยกันในที่ประชุมวันที่ 22 ก.พ.นี้ ผมยังไม่สามารถพูดได้ว่ามีความผิดปกติอย่างไร แต่หน้าที่ผมที่รับมาจากนายกฯ คือ ต้องทำให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภคยุติลงให้ได้ ต้องดูแลไม่ให้ราคาไปสร้างความเดือดร้อนเพิ่มภาระให้ประชาชน และต้องไปดูแลให้เกษตรกรขายปาล์มทะลายให้ได้ราคาดี” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ท่านเคยบอกว่าถ้ากระทรวงพาณิชย์นำเข้าปาล์ม 1.2 แสนตันไม่ได้ จะเอามาให้เอกชนนำเข้าแทน จะทำให้ได้ราคาน้ำมันปาล์มขวดละ 47 บาทหรือไม่ นายุสเทพกล่าวว่า อย่าไปพูดคลุมเครือ คำว่าทำได้หรือทำไม่ได้ มีหลายเรื่อง หน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องดูแลสินค้าก็ต้องทำไป ตนไม่สามารถไปยึดเอามาได้ ที่พูดหมายถึงว่าคณะกรรมการปาล์มน้ำมันฯ ได้อนุมัติให้นำเข้าไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ทำ จนประชาชนรบเร้าว่าทำไมยังไม่ทำ แต่กระทรวงพาณิชย์อาจจะมีขั้นตอนวีธีทำงานแบบราชการ ตนจึงบอกว่าถ้ากระทรวงพาณิชย์ทำช้า ยังมีปัญหามากก็ให้เอกชนเขาทำเฉพาะในส่วนของการนำเข้า แต่มาถึงวันนี้เมื่ออนุมัติมาเกือบเดือนแล้วแต่ไม่ได้นำเข้า ก็ต้องมาทบทวนตัวเลขและวีธีการนำเข้าใหม่ เพราะคณะกรรมการฯ ต้องรักษาสมดุลระหว่างผู้บริโภคกับเกษตรกรด้วย รายจ่ายของผู้บริโภคและรายได้ของเกษตรกรต้องสมดุลกัน ซึ่งตนยังไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนชนิดน้ำมันปาล์มที่จะนำเข้ามา แต่กระบวนการในการทำงานต้องชัดเจนและไม่เพิ่มภาระให้ประชาชน ขณะเดียวกันต้องดูแลให้เกษตรกรขายปาล์มได้ราคาดีด้วย
สำหรับส่วนต่าง 9 บาท จากการปรับราคาขึ้นที่ผ่านมาใครเอาไปนั้น นายสุเทพกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์น่าจะตอบได้ดี ในช่วงที่ต้องปรับราคาจาก 38 บาท เป็น 47 บาท เพราะผลผลิตปาล์มดิบราคาแพงขึ้น กก.ละ 11-12 บาท เมื่อกลั่นเป็นน้ำมันปาล์มจึงมีต้นทุนแพงต้องปรับราคา
ต่อข้อถามว่า ฝ่ายค้านอกมาเปิดเผยชื่อย่อนักการเมืองที่มีเอี่ยวกับผลประโยชน์การกักตุนน้ำมันปาล์ม ทั้ง “ส.-พ.” และ “อ.” นายสุเทพกล่าวว่า น่าเบื่อแล้ว พวกที่ออกมาพูดชื่อย่อ ไม่จริงสักคน ถ้าจริงก็บอกชื่อมาเลยจะได้จัดการได้ แต่พูดไปอย่างนั้น ตนจะไปรู้หรือว่า “พ.” หมายถึงนายพร้อมพงศ์หรือเปล่า หรือ “จ.” คือ นายจตุพรหรือเปล่า ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านอาจจะไปเปิดเผยข้อมูลชื่อจริงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า ดีมาก ถ้าอภิปรายก็จะได้ชี้แจง ตนสบาย ไม่มีปัญหา
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งข้อสังเกตว่า การไปตรวจสอบบริษัทที่ได้รับโควตาน้ำมันปาล์มอย่างถูกต้องจะไม่ใช่การซุกซ่อนที่แท้จริง แต่อาจไปหลบซ่อนอยู่ที่คลังน้ำมันปาล์มแถว จ.สุราษฎรร์ธานี สมุทรสงคราม หรือสมุทรสาคร นายสุเทพกล่าวว่า ดี ขอให้บอกเบาะแสมาจะได้ให้ดีเอสไอตรวจสอบต่อไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า นางพรทิวายังระบุด้วยว่ามีเรือไปลอยลำอยู่ในน่านน้ำอ่าวไทย 5 ลำอยู่ก่อน เหมือนรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการนำเข้า นายสุเทพกล่าวว่า “ขอให้ยืนยันมาว่ามีเรืออะไรลอยลำอยู่ที่ไหน และที่แน่นอนถ้าลอยลำอยู่จริงก็เตรียมขาดทุนได้ เพราะผมกำลังจะยกเลิกไม่ให้นำเข้า โดยผมคิดว่าต้องทบทวนกันใหม่ เพราะปลายเดือนนี้ผลผลิตปาล์มดิบก็เริ่มจะออกสู่ตลาดแล้ว ขืนไปยืนยันตัวเลขนำเข้า 1.2 แสนตันก็จะกระทบกับราคาปาล์มภายในประเทศ ดังนั้นต้องทบทวนกัน ผมคิดว่าเนื่องมาจากปล่อยเวลาไปตั้ง 20 กว่าวัน ไม่ได้นำเข้า และผลผลิตของเราก็จะออกมาแล้ว เพราะฉะนั้นที่เคยอนุมัติให้นำเข้า 1.2 แสนตันก็ต้องมาทบทวน อาจจะต้องเข้ามาทีละ 2 หมื่น หรือ 3 หมื่นตัน แล้วดูว่าผลผลิตปาล์มดิบออกมาทันหรือไม่ และคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันฯ กันถี่ขึ้นทุก 10 หรือ 15 วัน เพื่อมาประเมินกัน คนที่กล่าวโม้ว่ามีเรือกี่ลำมารออยู่ก็ช่วยแจ้งเจ้าของเรือเหล่านั้นด้วยก็แล้วกัน และยืนยันว่าการให้ดีเอสไอมาตรวจสอบจะไม่เป็นการลูบหน้าปะจมูก ไม่ว่าจะแตะไปโดนพวกใครไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือภูมิใจไทย โดนใครก็เอาเรื่องทั้งนั้น”
ส่วนที่คนใกล้ชิด รมว.พาณิชย์ออกมาโพสข้อความในเฟซบุ๊ก ตำหนิว่าก่อนหน้านี้นายสุเทพ และนายกรัฐมนตรีก็ดูเหมือนอยู่ข้างเดียวกัน แต่จู่ๆ พอมีปัญหาก็ทิ้งไปอยู่ข้างประชาชน ไม่เป็นสุภาพบุรุษในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ นายสุเทพกล่าวว่า หยุดพูดได้แล้ว ทำงานดีกว่า เมื่อถามว่า ท่านกับนางพรทิวายังจะพูดจาสนิทใจกันหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนการให้สัมภาษณ์ไม่ค่อยลงรอยกัน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ถ้าตั้งอยู่การรับผิดชอบต่อประชาชน ไม่มีปัญหา
