“พรทิวา” เสนอ 2 ทางเลือก ผ่าทางตัน โดยแนวทางแรก เปิดนำเข้าเสรี-ห้ามส่งออก เป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนแนวทางที่สองปรับวิธีการนำเข้า 1.2 แสนตัน โดยแยกน้ำมันปาล์มดิบ-สำเร็จรูป แต่ต้องขายขวดละ 47 บาท พร้อมให้รัฐจ่ายชดเชย ส่วน “เฉลิม” เชื่อมีคนได้ประโยชน์จากวิกฤตครั้งนี้ “จ้อน” เชื่อ การประชุม คกก.น้ำมันปาล์มฯ จะแก้ปัญหาได้ “บางจาก” เรียกร้องให้เร่งนำเข้า เพราะราคากำลังขยับเพิ่ม “เทือก” ขู่ผู้กักตุนเตรียมขาดทุน แย้มอาจงดนำเข้า เพื่อสร้างสมดุลเกษตรกร-ผู้บริโภค
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ วันพรุ่งนี้ ในฐานะคณะกรรมการ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอ 2 แนวทางในการบริหารจัดการน้ำมันปาล์มที่จะมีการนำเข้า จำนวน 1.2 แสนตัน ให้ที่ประชุมพิจารณาใหม่ หลังจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ จำนวน 1.2 แสนตัน ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถนำเข้าได้ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่จะนำเข้าจากมาเลเซีย มีราคาเฉลี่ยที่ 39-40 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นราคาที่ไม่รวมค่าขนส่งและค่าดำเนินการใดๆ และติดปัญหาที่ต้องจำหน่ายไม่เกินราคาลิตรละ 47 บาท โดยภาคเอกชนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าวได้
โดยแนวทางแรกเสนอให้อนุญาตนำเข้าเสรี และห้ามส่งออกชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน แต่จะต้องจำหน่ายไม่เกินราคาเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้ ขวดละ 47 บาท ส่วนแนวทางที่สอง คือ ปรับวิธีการนำเข้า 1.2 แสนตัน โดยแยกเป็นการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไข หรือนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบสำเร็จรูป โดยกำหนดราคาปลีกขวดละไม่เกิน 47 บาท ซึ่งรัฐบาลจะต้องหางบประมาณมาชดเชยส่วนต่าง เพราะขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบบริสุทธิ์สำเร็จรูปจากมาเลเซีย อยู่ที่ 39 บาทต่อลิตร ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบกึ่งบริสุทธิ์ อยู่ที่ 40-41 บาท
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาขาดแคลนน้ำมันปาล์มในขณะนี้ โดยเชื่อว่าต้องมีผู้ได้รับผลประโยชน์จากปัญหาที่เกิดขึ้น แต่นาจะพิสูจน์ได้ยาก เพราะไม่มีใบเสร็จ โดยหากรัฐบาลทราบข้อมูลดังกล่าวก็อาจทำให้ปัญหานี้แก้ไขได้
ทั้งนี้ เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขาดภาวะความเป็นผู้นำ โดยผลักภาระความรับผิดชอบให้กับ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แก้ปัญหา
อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ตนเตรียมยื่นกระทู้สดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นการลงทุนที่ผิดปกติของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในประเทศอียิปต์ โดยตนตั้งข้อสังเกตว่า การลงทุนดังกล่าว สำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) มีส่วนรับรู้หรือไม่ เนื่องจากที่ ปตท.ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการลงทุนในท่อก๊าซทะเลนั้น เป็นเพียงการอธิบายครึ่งเดียวเท่านั้น
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงกระทู้ถามสดนายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง ที่ถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าแพง และขาดแคลน โดยระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เพื่อพิจารณาหามาตรการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปาล์มขาดแคลน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมั่นใจว่าจะสามารถคลี่คลายความเดือดร้อนของประชาชนได้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการกักตุนสินค้าแล้ว ทั้งนี้ หากพบว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะถูกลงโทษด้วยการไล่ออก เพราะหาผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนสาเหตุที่ผลผลิตลดลงจนขาดแคลนนั้น เนื่องจากประสบปัญหาภัยพิบัติจนพืชผลทางการเกษตรเสียหาย
ส่วน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เรียกร้องรัฐบาลให้เร่งทยอยนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ราคาในประเทศปรับลดลง เพราะการนำเข้าล็อตที่ 2 ที่ล่าช้า ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้นกิโลกรัมละ 4-5 บาท
นายสุเทพ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการน้ำมันปาล์มแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้ จะมีการหารือปัญหาราคาน้ำมันปาล์ม โดยฝากบอกผู้ที่กักตุนให้เตรียมขาดทุน เพราะว่ามีความเป็นไปได้ที่จะงดนำเข้า เพราะว่าต้องการสร้างควาามสมดุลระหว่างเกษตรกร กับผู้บริโภคให้มากที่สุด
นายสุเทพ ยืนยันว่า มีความต้องการตรึงราคาน้ำมันปาล์มให้อยู่ที่ราคา 47 บาท เพราะว่าประชาชนจะได้ไม่ต้องแบกภาระหนัก ขณะเดียวกัน ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นของฝ่ายค้านที่ระบุชื่อย่อนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ โดยหากรู้ชื่อจริงให้นำมาเปิดเผย
