“มาร์ค” ประชุม ครม.แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด “เจ๊วา” ชง 2 แนวทาง พร้อมของบฯกว่า 1 พันล้านบาทชดเชยส่วนต่าง แม้นายกฯ เคยส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินชดเชย ด้าน ผบ.ตร.ชงต่ออายุ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ อีก 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เช้าวันนี้ (22 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ โดยมีประเด็นที่ต้องจับตา คือ การแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนจนทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น ประชาชนต้องเข้าคิวซื้อ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการทุจริต กักตุนสินค้าของพ่อค้าและนักการเมืองเพื่อแสวงหากำไรส่วนต่าง ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต่างตำหนินางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ที่ไม่เร่งดำเนินการนำเข้าน้ำมันปาล์มเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนทั้งๆ ที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าไปแล้ว 1.2 แสนตัน พร้อมให้แสดงความรับผิดชอบ ขณะที่นางพรทิวาออกมาตอบโต้อย่างไม่เกรงกลัว ถึงขนาดแฉว่ามีเรือขนน้ำมันปาล์มของใครบางคนลอยลำอยู่ที่อ่าวไทยเตรียมนำเข้าหลังได้รับอนุมัติ
ล่าสุด นางพรทิวาเตรียมนำรายละเอียดมาชี้แจงถึงปัญหาการนำเข้า พร้อมจะเสนอ 2 แนวทางในการแก้ปัญหา โดยแนวทางแรกให้อนุญาตนำเข้าน้ำมันปาล์มเสรี และห้ามส่งออกชั่วคราว 3 เดือน ส่วนแนวทางที่ 2 ปรับเงื่อนไขนำเข้าน้ำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน ที่ให้นำเข้าน้ำมันปาล์มแยกไขเพียงอย่างเดียว เปลี่ยนเป็นนำเข้าน้ำมันปาล์มสำเร็จรูปเข้ามาบางส่วน และกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มขวดละ 47 บาท โดยทั้ง 2 แนวทางหากจะให้น้ำมันปาล์มราคาขวดละ 47 บาท จะใช้งบประมาณ 1,006 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้ส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่เห็นด้วยกับการนำเงินกว่า 1 พันล้านบาทมาชดเชย จึงต้องดูว่า ครม.จะมีความเห็นอย่างไร โดยหลังประชุม ครม.จะมีการประชุม คณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพเป็นประธานช่วงบ่ายทันที จึงต้องติดตามผลการประชุม
สำหรับ วาระด้านความมั่นคง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ผอ.ศรส.) จะรายงานถึงผลการปฏิบัติหน้าที่หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษามั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จากการที่มีกลุ่มมวลชนชุมนุมกันอยู่ ขณะเดียวกันจะมีการเสนอขอต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ออกไปอีก 15 วัน หลังจากจะครบกำหนดในวันที่ 23 ก.พ.นี้
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี จะนำข้อเสนอปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรเสนอ ครม. หลังนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นประธานหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำข้อของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ไปสรุปว่ามีเนื้อหาส่วนใดสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรให้จัดทำตารางเปรียบเทียบเสนอ น่าสนใจความเห็นกระทรวงทรัพยากรฯ ซึ่งมีความเห็นค้านการจัดที่ดินให้เกษตรกรจะส่งผลต่อการทำลายทรัพยากรป่าไม้หรือไม่ ตรงนี้จะมีการแยกแยะชัดเจนอย่างไร
ส่วนวาระอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ พิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขออนุมัติ ต่อสัญญาเงินกู้ 800 ล้านบาทของการรถไฟแห่งประเทศไทย, การขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ชุ่มน้ำชั้น 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด วังศิลา และนายนิคม สังฆรักษ์ จ.นครศรีธรรมราช, มาตรการเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมไทยในการแข่งขันในกฎระเบียบสหภาพยุโรป White paper ระยะที่ 2, ร่าง พ.ร.บ.ศุลกากรฯ, กระทรวงการต่างประเทศขอเปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ยังจะมีรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เรื่องประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียนฉบับพิเศษ ที่เกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย ยังมีรายงานผลสำรวจเส้นทาง R3A ของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-จีน และรายงานผลการเดินทางของคณะผู้แทนการค้านำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการค้าแบบรัฐต่อรัฐ และการกำชับความสัมพันธ์ทางการค้า ณ บังกลาเทศ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 19-24 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา