“ปานเทพ” ระบุ “มาร์ค” สร้างหลักฐานเท็จพยายามลากเส้นให้สระน้ำยูเอ็นเข้าไปอยู่ในฝั่งกัมพูชา สรุปให้ 7 คนไทยรุกล้ำแดนเขมร พร้อมแจงเหตุผล 8 ข้อ สาเหตุที่ทำให้ไทยเสียเปรียบกัมพูชา ก่อนแถลงอย่างเป็นทางการวันนี้ 10.00 น.
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (24 ม.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ “ยามเช้าริมเจ้าพระยา” ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้สื่อของรัฐอธิบายกรณี 7 คนไทยรุกล้ำเขตกัมพูชา กว่า 30 นาทีว่า การกระทำของนายกฯ ที่แถลงข่าวก่อนที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีการชุมนุมในวันที่ 25 มกราคม 2554 ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่เข้าใจข้อเท็จจริง การกระทำอย่างนี้ทำให้ภาคประชาชนหรือพันธมิตรฯ จำเป็นต้องจัดแถลงข่าวในวันนี้ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้มีการถ่ายทอดสดเหมือนนายกฯ แต่อย่างน้อยหวังว่าข้อความที่เราจะแถลงน่าจะทำให้สังคมเกิดการชั่งน้ำหนักในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนประเด็นไปในทางอื่นที่ทำให้ไม่สามารถพูดไปถึงประเด็นหลักของเนื้อหาสาระที่พันธมิตรฯ กำลังพูดนี้อยู่ได้
ทั้งนี้ สังเกตได้ว่า เมื่อวานนายกฯ พูดเฉพาะขอบเขตที่ตนเองต้องการพูดเท่านั้น กล่าวคือพูดเฉพาะเหตุการณ์ที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่ได้พูดถึงเขาพระวิหาร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน ล่าสุด ทางการกัมพูชาระบุว่าจะไม่ถอนแผ่นหินที่สลักข้อความว่าเป็นจุดที่ไทยรุกล้ำเขตแดนบนเขาพระวิหาร เป็นการแสดงให้เห็นว่าเอ็มโอยู 43 ใช้ไม่ได้ผล ป้ายหินที่สลักกล่าวร้ายว่าไทยรุกล้ำ ตามแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เท่ากับกัมพูชาต้องการสื่้อให้รู้ว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา ถึงขั้นประกาศตอนเช้านี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ทำให้ตนคิดว่ารัฐบาลจะทำอะไรได้อีก เนื่องจากในเอ็มโอยู 43 ข้อ 8 กำหนดห้ามใช้กำลัง
นายปานเทพกล่าวต่อว่า เมื่อคืนที่นายกฯ พูด แต่พูดไม่หมด คือ (1.) ได้มีการตรวจสอบพยานบุคคลหลายคน ระบุว่า ค่ายอพยพหนองจานอยู่ในพื้นที่ไทยหรือกัมพูชา อย่างไรก็ดี หน่วยกาชาดสากล แพทย์ ทหาร ต่างระบุว่าพื้นที่สระน้ำยูเอ็นอยู่ในพื้นที่ไทย การที่นายกฯ เลี่ยงไม่พูดถึงสระยูเอ็น ทำให้สังคมไม่มีโอกาสตรวจสอบว่าเส้นทางที่นายกฯอ้างเป็นเส้นปฏิบัติการในปัจจุบันถูกหรือผิด เพราะจะส่งผลกระทบต่อ 7 คนไทย ว่าเป็นพื้นที่ของใครกันแน่ ซ้ำร้ายกว่านี้ พยานยุคคลระบุต่างๆ ระบุยืนยันว่าสระน้ำยูเอ็น เป็นพื้นที่สำคัญและเป็นพื้นที่ของไทย เมื่อ 7 คนไทยยังเดินไม่ถึงสระน้ำแสดงว่ายังอยู่ในพื้นที่ของไทย แต่รัฐบาลไทยไม่เคยใช้ข้อมูลที่เป็นคุณเหล่านี้ยื่นคัดค้านกัมพูชา เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อ 7 คนไทย
(2.) พันธมิตรฯ ได้เชิญชาว จ.สระแก้ว ที่อาศัยอยู่บริเวณเขตแดนที่ 46-47 ถึงสองครั้ง ต่างระบุว่าพื้นที่สระน้ำยูเอ็นขุดเป็นพื้นที่ ส.ค.1 รวมถึงทางทิศตะวันออกของสระน้ำเป็นที่ดินของนายจันทร์ ซึ่งเป็นที่ดิน ส.ค.1 เหมือนกัน กรณีนี้นายกฯ อ้างเส้นปฎิบัติการโดยพยายามให้กรมที่ดินสร้างหลักฐานให้ที่ดินชาวบ้านวางเข้ามาในฝั่งกัมพูชา ทำให้ชาวบ้านโทร.มาหาตนหลายรายว่า พื้นที่ของเขาไม่ได้อยู่หลังเส้นแนวปฏิบัติการ แต่อยู่ข้างๆ ด้านขวาของสระยูเอ็น
นายปานเทพกล่าวอีกว่า ชาวบ้านบอกว่า หลักเขตที่นายกฯ ใช้แตกต่างจากหลักเขตที่ชาวบ้่านระบุ แล้วนายกฯ บอกตรวจสอบ L7017, L7018 ซึ่งจัดทำเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แผนที่ที่นายกฯ อ้างนี้ต้องไม่ลืมว่า เป็นแผนที่ที่ใช้หลังจากชาวกัมพูชาเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว ย่อมมีแรงจูงใจในการเคลื่อนย้ายหลักเขต และ (3.) นายกฯ ให้สัมภาษณ์ “ไม่ว่า 7คนไทยจะุถูกจับกุมขึ้นที่ฝั่งใดก็ตาม เราเห็นควรให้คนไทยได้รับการปล่อยตัวโดยทันที เนื่องจากมีข้อตกลงกันหากเกิดกรณีเช่นนี่้จะไม่นำขึ้นสู่กระบวนการศาล” ดังนั้น ปล่อยให้กัมพูชาใช้กำลังทหารจับกุมคนไทยไปขึ้นศาล ย่อมถือว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลง แต่รัฐบาลไทยก็ไม่ได้ใช้มาตรการตอบโต้ ทั้งที่มีหลายมาตรการที่จะต่อรองได้
(4.) เราไม่เคยพูดว่าล้ำเขตกัมพูชา แต่ปรากฏว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมอีกหลายคน พูดว่า 7 คนไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการพูดโน้มน้าวให้คนไทยยอมรับอำนาจศาลกัมพูชา สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการยอมรับอำนาจศาลกัมพูชา ทำให้กัมพูชาสามารถใช้ข้ออ้างนี้เป็นบรรทัดฐานแสดงอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนไทย
และ (5.) รัฐบาลไม่สามารถแบ่งแยกเรื่องเขตแดนกับการลงโทษ 7 คนไทยได้ เพราะคดีนี้มีการอ้างว่าคนไทยล้ำเขตกัมพูชา ทำให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อคนที่ได้รับคำสั่งให้่ติดคุก และมีผลกระทบอย่างยิ่งกับคนไทยที่เหลืออีก 2 คน หากไทยไม่รับข้อหาล้ำเขตแดนแล้วเขาจะโดนข้อหาจารกรรมไม่ได้เลย
(6.) ไทยสูญเสียอธิปไตยหลักที่ 46-48 แล้ว โดยพฤตินัยเพราะเอ็มโอยู 43 (7.) ด้วยความอ่อนแอของรัฐบาล ไม่สามารถเรียกร้องให้รื้อป้ายหินบนเขาวิหารได้ เพราะติดเอ็มโอยู 43 และ (8.) นายกฯ บอกหากยกเลิกเอ็มโอยูจะทำให้กัมพูชาสามารถอ้างการเข้ามาครอบครองตั้งแต่ 30 ปีแล้ว ตรงนี้ไม่จริง เพราะมีเอ็มโอยู 43 นี้เองทำให้เราไม่สามารถผลักดันชาวกัมพูชาออกไปได้ ทั้งนี้ ทางพันธมิตรฯ จะแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในเวลา 10.00 น.วันนี้
