นายกฯ เผยหลังเรียก “ป้อม-ตู่-กษิต” ถกคดี 7 คนไทย ขอรออีกวันจะสรุป ยัน 2 กระทรวงเร่งทำงานอยู่ ปัดจุ้นโดยตรง คาดพรุ่งนี้รู้พิพากษา 1 ก.พ.จริงไหม ชี้ยืดเยื้อไม่เป็นผลดี สั่งตำรวจให้ม็อบเปิดทาง ปัดฮั้วคนไทยฯ บอกพวกเดียวกันคงไม่พูดอย่างนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรียกหน่วยงานความมั่นคงเข้าพบ เพื่อหารือกรณีการช่วยเหลือ 7 คนไทย โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมที่มีการประสานงานอยู่ได้รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา และกำลังดำเนินการต่อในวันนี้ (20 ม.ค.) อีก 1 วัน ซึ่งในวันที่ 21 ม.ค.จะสรุปอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงการต่างประเทศต้องมารายงานอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็คงไม่ต้องมาพบกัน แต่จะรายงานมาได้ เมื่อถามว่า มีการเสนอให้วันที่ 1 ก.พ.เป็นวันตัดสินคดี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรากำลังประสานงาน โดยให้เขาเห็นถึงความเร่งด่วนว่าการที่ปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อนั้น ไม่น่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นทั้งสองกระทรวงก็ทำงานอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกัมพูชาอ้างว่าเป็นกระบวนการภายในจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราคงไม่ไปแทรกแซงเขาโดยตรง แต่เราก็คุยและเป็นเรื่องภายในของเขา เมื่อถามว่า ทางกัมพูชามีการแถลงนัดวันพิจารณาคดีแล้วเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรุ่งนี้ (21 ม.ค.) ก็จะทราบ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าอยู่ในการพิจารณาหรือการตัดสินนั้นยังไม่มีความชัดเจน เมื่อถามว่าเป็นไปได้ประสานให้เร็วขึ้นในสัปดาห์หน้าได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราพยายามประสานให้เห็นว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อจะไม่เป็นผลดี อะไรที่สามารถทำได้ก็ควรจะทำ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของม็อบเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่ยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ก็เดินหน้า ยืนยันว่าต้องให้ทางเจ้าหน้าที่เปิดการจราจรให้เป็นปกติและเร็วที่สุด เมื่อถามว่าการที่มากดดันทางการกัมพูชาในพื้นที่ตรงนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราก็เคยบอกแล้วว่าไม่ควรที่จะมารบกวนประชาชนโดยทั่วไป ตนได้ย้ำให้ทางเจ้าหน้าที่เกือบทุกวันว่าให้พยายามไปเปิดพื้นที่การจราจรให้เป็นปกติให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ใช้วิธีเจรจาอยู่ ซึ่งตนได้บอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าถ้าหากไม่เร่งดำเนินการก็จะเป็นปัญหาในระยะยาว ฉะนั้นก็พยายามทำความเข้าใจ ซึ่งเขาก็รายงานไปว่ามีความคืบหน้าตามลำดับและพยายามที่จะให้เข้าสู่สถานการณ์ปกติให้เร็วที่สุด เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าจะมีการกล่าวหาว่าเป็นพวกเดียวกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พวกเดียวกันคงไม่พูดถึงกันแบบนี้