ผบ.ทบ.ไม่ว่า ม็อบคนไทยฯ ไปไล่ “ประวิตร” ที่กลาโหม โวลูกพี่ช่วย 7 คนไทยมาตั้งแต่ต้น ชมเขมรให้ความร่วมมือ ยันต้องค่อยพูดจา ชี้ถ้าต่างคนต่างเคลื่อนไหวปัญหายิ่งพันกัน จะอยู่ด้วยกันไม่ได้ บอกถ้าปักแดนเสร็จ ปัญหาก็จบ อ้างสภาพพื้นที่เปลี่ยน แถมสมัยก่อนไม่มีจีพีเอสทำคลาดเคลื่อน แนะต้องดูที่สัญญา ยันยังไม่มีใครได้หรือเสีย ลั่นไม่มีทหารได้ประโยชน์ริมแดน ขู่เจอฟ้องกลับ ไล่เอาหลักฐานโชว์ อ้างบุญคุณกองทัพทำคนไทยอยู่รอด
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติจะเคลื่อนขบวนไปหน้ากระทรวง กลาโหมเพื่อไปขับไล่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ที่ออกมายอมรับว่า 7 คนไทยรุกล้ำเขตแดนกัมพูชาว่า ไม่เป็นไรก็ไปได้ และทำได้ตามกฎหมาย แต่อย่าไปบุกรุกสถานที่ราชการ และเรามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่แล้ว ถ้าจะไปแสดงกิจกรรมเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นอะไรก็ไม่มีปัญหา เพราะทุกอย่างมีระเบียบอยู่แล้ว ส่วนที่เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ระบุว่ากองทัพไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือกรณี 7 คนไทยนั้น ตนต้องขอร้องเรียนกับสื่อมวลชนด้วยว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนที่ช่วยมากที่สุด และช่วยมาตั้งแต่ต้น เราก็ไม่อยากจะพูด เพราะมันมากเรื่อง ยิ่งพูดก็ยิ่งมากเรื่องไปเรื่อยๆ
ผบ.ทบ.กล่าวว่า ยืนยันว่ากลไกในการทำงานเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล รมว.กลาโหม รมว.ต่างประเทศ ทำงานมาตลอด ในส่วนของฝ่ายทหารถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเจรจาในเรื่องนี้ รัฐบาลก็มีช่องทางของรัฐบาล ทหารก็มีช่องทางของทหาร เพราะเรามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน กัมพูชาก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่ใช่ตนไม่รัก 7 คนไทย ถ้าไม่รักจะทำหรือ หรือมีวันนี้เหรอ เพราะที่รักกันถึงทำได้และติดตามาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราทำกันทุกช่องทาง การที่กระบวนการเดินมาถึงขณะนี้มีการพิจารณากันภายในวันเดียวแล้วให้ประกัน ตัวอย่างนี้ไม่ช่วยหรือ ถ้าไม่ช่วยอย่างน้อยก็ต้องรอไปอีก 6 เดือน ข้างหน้าค่อยมาพูดกันใหม่
“ผมต้องขอชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนโดยรวมว่า การแก้ไขปัญหาของเราในบางเรื่อง พูดออกสังคมไม่ได้มากนัก เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาและสถานการณ์เป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น รวมทั้งจะมีผลกระทบกับคนไทยทั้งหมด หากทุกอย่างค่อยๆ พูดค่อยๆ จากกัน อย่างน้อยมิตรภาพที่เรามีร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านน่าจะแก้ไขปัญหาได้พอสมควร” ผบ.ทบ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของกองทัพจะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดจาทำความเข้าใจกับเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติหรือไม่ เพราะกำลังรวบรวมมวลชนเดินทางไปปิดด่านชายแดน ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าการไปปิดด่านหรือปิดกั้นการจราจรมันผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการ และเห็นว่าประชาชนในพื้นที่ก็ไม่ค่อยพอใจที่จะให้คนอื่นคนนอกพื้นที่ไปทำให้เกิดความเดือดร้อน แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตระหนักอยู่ตลอดเวลาคือทำอย่างไรไม่ให้คนไทยทะเลาะกันเอง ถ้าไปแล้วสร้างความเดือดร้อนเพราะคนในพื้นที่ไม่อยากให้ไปมันก็เกิดความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดปัญหา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกมาทำงาน ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยคนเพียงไม่กี่คน หากพูดจากันให้รู้เรื่องก็น่าจะเป็นเรื่องดี แต่ถ้าต่างคนต่างใช้ความเคลื่อนไหวมาใช้แก้ปัญหาทุกเรื่องทุกปัญหาก็จะพันกันอยู่แบบนี้ ผลประโยชน์ของชาติก็หมดไป
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าเราพูดจากันด้วยดี ปักกันเขตแดนเรียบร้อยปัญหาประเทศเพื่อนบ้านก็จบไป แต่ถ้าเคลื่อนไหวกันอยู่อย่างนี้กดดันกันไปมา ซึ่งตนก็ไม่อยากจะบอกว่าใครผิดใครถูก แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของกลไกการแก้ปัญหา เอาหลักฐานเอกสารมาพูดจากัน ถ้าเราไปยึดจุดใดจุดหนึ่งมันจะยากลำบาก ไม่ใช่เรื่องของการเสียไม่เสียดินแดน เพราะสภาพพื้นที่มันเปลี่ยนแปลงไป แนวเขตแดนเปลี่ยนแปลงไป แต่เราต้องมาพูดจากันด้วยข้อตกลง ข้อสัญญาต่างๆ อย่างไรก็ตาม การปักปันเขตแดนในอดีตที่ผ่านมาก็มีความคลาดเคลื่อน เพราะไม่มีระบบดาวเทียมจีพีเอส การปักหลักเขตไปแล้วแต่เมื่อหลักเขตถูกทำลายไปก็ต้องเอาสัญญามาพูดกัน สรุปแล้วขณะนี้ยังไม่มีใครได้ใครเสียอะไร ก็ตกลงกันแล้วว่าเมื่อปักปันเขตแดนชัดเจนแล้วเขาก็ต้องถอยออกไปหรือไม่เราก็ต้องถอยเข้ามา แล้วมันจะได้เสียกันอย่างไร
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะยิ่งเป็นการกดดันการปักปันเขตแดน หรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า เขาก็เคลื่อนไหวด้วยความรักแผ่นดินรักชาติ แต่ต้องมาพูดจากันแล้วเอาข้อยุติที่ได้ไปเจรจากับประเทศอื่นเขา เมื่อเรามีหลายกลุ่มหลายฝ่ายเราก็ต้องมาคุยกันเองเพื่อหาข้อยุติ จากนั้นก็เสนอให้รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลทั้งสองประเทศได้พูดจากัน ถ้าทุกกลุ่มเอาปัญหาตัวเองขึ้นมาพูดแล้วไปกดดันกัน อีกหน่อยเราก็อยู่กันไม่ได้
“ยืนยันว่าไม่มีใครอยากเสียดินแดนและไม่มีทหารคนไหนจะไปได้ผลประโยชน์จากการป้องกันชายแดน ผมอยู่ชายแดนมาก็นาน ผู้บังคับบัญชาการทุกระดับชั้นก็เคยอยู่ชายแดน ผบ.ทบ.ทุกคนก็เคยอยู่ชายแดน แล้วมันเสียดินแดนตรงไหน ได้ผลประโยชน์ตรงไหนกัน ที่บอกว่าได้ประโยชน์ตามแนวชายแดน ระวังจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ถ้ามันพูดอะไรไม่มีเหตุผล ไม่มีเรื่องราวอะไรขึ้นมาจะมากล่าวอ้างอย่างนี้ไม่ได้ มันถือว่าทำลายกองทัพ ที่อยู่มาได้ทุกวันนี้ก็กองทัพนี่แหละที่ดูแลท่านอยู่ เสียเลือดเหนื้อชีวิตไปเท่าไหร่แล้ว ทำไมไม่เห็นใจเขาบ้างมาบอกว่าผู้บังคับฐัชามีผลประโยชน์มีตรงไหน ผมไม่เห็นจะมีผลประโยชน์ตรงไหน มีแต่ปวดหัวทุกวัน คนนั้นจะเอาอย่างนี้คนนี้จะเอาอย่างนั้น เราต้องทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันให้ได้ ทำให้ประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าบอกว่ามีเรื่องผลประโยชน์หรือบ่อนคาสิโนก็ขอให้ไปเอาหลักฐานมา ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชาผมไปเกี่ยวข้องผมก็จะลงโทษ ไม่ใช่พูดกันลอยๆ กล่าวอ้างไปเรื่อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว