xs
xsm
sm
md
lg

“แซมดิน” เปิดใจเหตุเข้าคุกเขมร-เผย กต.ให้ข้อมูล กล่อมสารภาพล้ำแดน 55 เมตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แซมดิน” เปิดใจผ่าน “สภาท่าพระอาทิตย์” ย้อนเหตุลงสำรวจเขตแดนสระแก้วพร้อม “พนิช” หวังดูหลักเขต 46 พิสูจน์ชายแดนไทย ย้ำจุดถูกจับ ทุกคนยังเชื่ออยู่ในเขตไทย แต่ถูกทหารเขมรพาเข้าไปถ่ายรูปลึกเข้าไปในหมู่บ้าน เผยสภาพคุกเปรย์ซอว์สุดอนาถ หนู แมลงสาบเต็ม ถูกห้ามรับรู้ข่าวสารภายนอก ระบุ “กษิต” ไปเยี่ยมแล้วให้ จนท.เอาแผนที่ให้ดูบอกคนไทยล้ำแดน 55 เมตร โดยไม่ให้ข้อมูลอื่น จึงเข้าใจว่ามีการพิสูจน์แล้วว่าเราล้ำจริง ต้องสารภาพเพื่อเอาตัวรอด





รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ทางเอเอสทีวี วันที่ 23 มกราคม 2553 นายแนเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดำเนินรายการ โดยมี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ 1 ใน 7 คนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว และเพิ่งเดินทางกลับประเทศไทย และนายแก่นฟ้า แสนเมือง จากมูลนิธิกองทัพธรรม เป็นแขกรับเชิญในรายการ

ปานเทพ- สวัสดีครับท่านผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการท่าพระอาทิตย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2554 กับผม ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รับหน้าที่ดำเนินรายการและสนทนากับท่านผู้ชม จริงๆ วันนี้วิทยากรหลายท่านยังอยู่ที่กาญจนบุรี ยังกลับมาที่กรุงเทพมหานครไม่ได้ แต่ว่าเราก็มาจัดในรายการนี้เป็นรายการพิเศษจริงๆ นะครับ เพราะว่าเรามีแขกรับเชิญเป็น 1 ใน 5 คนซึ่งได้ถูกจับ ได้ถูกทหารกัมพูชาจับตัวขึ้นศาล และสามารถกลับมาสู่ประเทศไทยได้เมื่อคืนนี้เองนะครับ เมื่อวานนี้ตอนเย็น แล้วก็ได้มีโอกาสพูดคุยเรียนเชิญท่านมาพูดคุยวันนี้ด้วยนะครับ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ครับ สวัสดีครับ อีกท่านหนึ่งเป็นคนที่อยู่กองทัพธรรมมูลนิธิ แล้วก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่กาชาดสากลในช่วงเขมรอพยพมาอยู่ในประเทศไทย คุณแก่นฟ้า แสนเมือง ครับ

แก่นฟ้า- สวัสดีครับคุณปานเทพ

ปานเทพ- วันนี้ก็ขออนุญาตกล่าวต้อนรับคุณแซมดิน แล้วก็ยินดีต้อนรับกลับสู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง ดีใจด้วยนะครับ

แซมดิน- ขอบคุณครับ

ปานเทพ- และก็อยากจะบอกว่าคนไทย ชาว ASTV พันธมิตรฯ จำนวนมาก ให้กำลังใจมาโดยตลอดนะครับ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามใน 7 คน ก็อยากจะเรียนอย่างนี้

แซมดิน- ต้องกราบขอบพระคุณมากครับที่เป็นห่วง ก็ทราบอยู่นะครับในความเป็นห่วงของพี่น้องประชาชนชาวไทย

ปานเทพ- แล้วก็จะว่าไปแล้วก็คือเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หลายคนเข้าใจอะไรมากขึ้น ว่าเกิดอะไรขึ้นตามแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ถือว่าครั้งนี้ไม่สูญเปล่านะครับ นี่ผมอยากจะเรียนให้ทราบจริงๆ ว่าคน สังคม ได้ตื่น รู้และสนใจกับประเด็นนี้กันมาก ตลอดระยะเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมา

แซมดิน- ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับที่เราไปทำแล้วทำให้เหมือนกับเปิดพรมขึ้นมา แล้วก็เห็นอะไรต่างๆ ซึ่งยังยุ่งเหยิงอยู่

ปานเทพ- มีหลายคำถามที่เราอยากจะถามกันมากในรอบเกือบเดือนที่ผ่านมา แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีบุคคลในวิดีโอและเดินทางไป เล่าให้ฟัง ผมอยากจะเริ่มต้นที่ประเด็นที่มีคนสงสัยกันมากที่สุด ก็คือว่า คณะ 7 คนไปได้ยังไง ทำไมถึงมีทั้ง ส.ส. คุณวีระ คุณแซมดิน ทำไมพวกผมไม่เคยรู้อะไรกันมาก่อนเลย แล้วตัดสินใจยังไง ไปกันยังไง เริ่มต้นกันยังไง แล้วทำไมมีคุณพนิชมาด้วย เริ่มต้นมายังไงครับ

แซมดิน- ดูเหมือนคนละขั้วนะ แล้วไปกันยังไงไปด้วยกัน เรื่องนี้เกิดจากที่คุณพนิชไปพบพ่อท่านเมื่อประมาณต้นเดือนธันวาฯ แล้วผมก็เข้าไปร่วมอยู่ในที่สนทนานั้นด้วย ก็คุยกันไปหลายเรื่องว่าจะช่วยบ้านช่วยเมืองกันยังไง เพราะว่าคุณพนิชเป็น ส.ส.กทม. อยู่เขต 6 อยู่ที่เขตบึงกุ่ม และของเราก็อยู่ในนั้นด้วย ก็คิดว่าถ้าประสานกันก็ดี ก็คุยกันไปหลายเรื่อง ทีนี้เมื่อจบการสนทนาก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่า เอ๊ะ ข้อมูลของภาคประชาชนกับภาครัฐบาล ดูมันไม่ตรงกันเลย ดูมันห่างกันลิบลับเลย

ปานเทพ- ตอนนี้ก็จะมีประเด็นว่า ทหารไทยถอนออกจากวัดแก้วหรือยัง ช่วงเวลานั้นใช่ไหมครับ

แซมดิน- ช่วงต้นๆ นั้น คือมันมีข้อมูลจากชาวบ้าน ของเราจะมีข้อมูลจากชาวบ้านที่ร้องเรียนกันเข้ามาว่า ที่ดินของเขามีโฉนด มี น.ส.3 มีอะไรพวกนี้ แต่ว่าเขาเข้าไปไม่ได้ แต่ว่าทางภาครัฐผมเชื่อว่าคงไม่รู้เรื่องหรอก เรื่องอย่างนี้ แต่เราเป็นภาคประชาชน เราลงไปในพื้นที่ ตัวผมเองไม่ได้ไปนะครับ ส่วนใหญ่ที่ไปน่ะ นายตายแน่ มุ่งมาจน เขาก็จะไปของเขาอยู่ประจำ เมื่อผมเห็นประเด็นที่มันมีข้อมูลที่แตกต่างเพราะว่าเอฟเอ็มทีวีเขาจะเอาข้อมูลในลักษณะนี้มาออกอยู่ประจำ ผมก็เลยบอกกับคุณพนิชว่า ภาครัฐกับภาคประชาชนน่าจะไปพิสูจน์ความจริงในพื้นที่กันบ้าง เพื่อที่จะได้มีข้อมูลที่เท่าเทียมกันหรือข้อมูลที่ใกล้เคียงกัน

ปานเทพ- ทำไมถึงไม่เลือกเอาวิดีโอที่คุณตายแน่ทำวิดีโอมาหลายครั้งให้คุณพนิชดู

แซมดิน- ยังไม่ได้มีโอกาสดูกันหรอกครับตอนนั้น ก็ติดต่อกันทางโทรศัพท์ คุณพนิชก็ติดต่อมาที่ผมอยู่หลายครั้งอยู่ แต่ผมไม่ได้รับข้อมูลเท่านั้นเอง มีก่อนวันที่ 29 นั่นล่ะที่คุณพนิชติดต่อมา ก่อน 2-3 วัน

ปานเทพ- วันที่ 26

แซมดิน- ประมาณนั้นล่ะ วันที่ 26

ปานเทพ- วันนั้นคุณพนิชโทร.หา อ.เทพมนตรี จะชวนไปที่เขาพระวิหาร คุณแซมดินทราบ

แซมดิน- ทราบอยู่ครับว่าจะไปเขาพระวิหาร ผมถามนายตายแน่ว่าจุดไหนที่เหมาะที่สุดที่เราควรจะไปดูที่มันมี ที่มันชัดเจนว่าเป็นที่ของประชาชนชาวไทย มีหลักฐานชัดเจน ตายแน่เขาก็บอกว่า ที่ที่เหมาะที่สุด ที่สระแก้ว แต่ผมจำไม่ได้ว่าสระแก้ว ผมไปบอกว่าปราจีนฯ ด้วยความเข้าใจว่าอยู่ในเขตปราจีนฯ ผมก็ไปบอกท่านว่า ไปที่ปราจีนฯ ท่านก็ทราบว่าไปปราจีนฯ เท่านั้นเอง แล้วก็หลังจากนั้น นายตายแน่ก็แนะนำผมว่า ถ้าจะไปจริงๆ ควรจะเอาคุณวีระ สมความคิด ไปด้วย

ปานเทพ- นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่ไปที่เขาพระวิหาร

แซมดิน- ใช่ครับ เพราะว่าเขาพระวิหารเราคิดว่าคงไปที่หลังดีกว่า เนื่องจากว่าเราต้องการที่ที่มันชัดเจนว่าเป็นของคนไทย แล้วคนไทยเข้าไปไม่ได้ มีเอกสารสิทธิ แล้วก็มีการร้องเรียนมาจริงๆ มีการร้องเรียนมา คุณวีระก็ได้รับการร้องเรียนมา แล้วก็มีหลักฐานเอกสารอะไรต่างๆ เรียบร้อย อยู่ที่คุณวีระ ตรงนี้ก็เมื่อตกลงกัน คุณพนิชก็ดีนะครับ ดีมากเลย ก็รับปากว่าจะไปวันที่ 29 ก็จัดรถมารับผม 6 โมงเช้า

ปานเทพ- จัดรถมารับคุณแซมดิน

แซมดิน- ใช่ ที่สันติอโศก ทีแรกคิดว่าจะเอารถมา 2 คัน แต่เห็นว่าเราไปนิดเดียว ผมบอกว่าผมไปกับคุณตายแน่ ส่วนคุณวีระจะไป คุณพนิชยังไม่รู้ ผมยังไม่ได้บอกในรายละเอียด เมื่อไปสักระยะหนึ่ง ไประหว่างทางผมก็บอก เดี๋ยวคุณวีระจะมาสมทบด้วย

ปานเทพ- ก็แสดงว่าคุณวีระไม่ได้อยู่ตอนเช้า ก็คือคุณพนิชไปรับคุณแซมดิน ระหว่างขึ้นรถถึงจะบอก

แซมดิน- ใช่ครับ มีผม มีคนขับรถคุณพนิช ขับรถนั่งอยู่ตอนหน้า แล้วก็มีเลขาฯ นั่งอยู่ตอนหน้า ส่วนผมก็จะนั่งคู่กับคุณพนิช อยู่เบาะที่ 2 แล้วก็ตายแน่เขาก็อยู่เบาะหลัง เป็น 5 คน เมื่อไปถึงที่ ก่อนถึงสระแก้ว ผมก็บอกว่าเดี๋ยวคุณวีระเขาจะมาพบ

ปานเทพ- อยู่ระหว่างทาง

แซมดิน- ระหว่างทาง ตอนนี้กำลังตามกันมา คุณวีระก็คงออกเช้าๆ เหมือนกัน ออกจากกรุงเทพฯ เหมือนกัน

ปานเทพ- ทำไมถึงจะมีคุณวีระ เพราะคุณตายแน่เขาแนะนำว่า

แซมดิน- คุณตายแน่เขาแนะนำไง ว่าเรื่องนี้คุณวีระเขาเคยได้ลงพื้นที่ แต่ผมไม่รู้นะว่าคุณวีระถูกจับแถวนั้น

ปานเทพ- ตอนนั้นยังไม่รู้

แซมดิน- ตอนนั้นยังไม่รู้ แล้วก็บอกมีเอกสารหลักฐาน ผมก็บอก เอ้าอย่างนั้นผมต้องชวนคุณวีระไปด้วย คุณวีระก็ดีนะครับ พอผมชวนมาก็มา ก็บอกมาสมทบกัน คุณวีระก็มา 5 คนเหมือนกัน เป็นรถ 2 คัน เราก็มาถึงสระแก้ว ก็มากินอาหารรอ แล้วรถคุณวีระก็มาถึงทีหลัง ประมาณ 9 โมงกว่าๆ พอพบกันแล้ว เขาก็มี 5 คน เราก็มี 5 คน ก็บอกให้คุณวีระนำไป ว่าอยู่ตรงไหนเพราะเราไม่รู้ คุณวีระมีประสบการณ์ คุณวีระก็ขับรถนำไป แกไม่ได้ขับเองนะครับ มีคนขับให้ ก็นำไป พอผ่านด่าน ตชด.

ปานเทพ- หลายด่าน

แซมดิน- หลายด่าน แต่ไม่มีการตรวจ ไม่มีเลยครับ ไม่มีการตรวจ ไม่มีเลย เราก็ขับไป ไม่ได้เร็ว

ปานเทพ- คือไม่ได้ปิดกั้นและขอตรวจ หรือว่าระงับ ไม่มีเลย

แซมดิน- ไม่มีครับ ไม่มีครับ เพราะผมนั่งอยู่ตลอดเวลา ผมก็ดู มีเหมือนกัน มีทำท่าจะ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร

ปานเทพ- นี่ก็แปลก เพราะว่าดูจากวิดีโอ คุณวีระก็ดูสงสัยประเด็นนี้เหมือนกัน ในระหว่างเดินทางไปว่าเอ๊ะ ทำไม ตชด.

แซมดิน- แต่เราไม่ได้ติดต่อก่อนนะครับ คุณพนิชก็ถามผมเหมือนกันว่า เอ๊ะ เราควรจะติดต่อ ตชด.ก่อนไหม หรืออะไรก่อนไหม ผมบอกอย่าเลย เราไปกันแบบตามธรรมชาติ เมื่อเขาดัก มีด่านตรงไหนเราก็หยุดให้เขาตรวจ แล้วก็บอกเขาว่าเราจะมาดูตรงนี้ เท่านั้นเอง เราก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องผ่าด่าน หรืออะไรด่านยังไง เราก็ไปตามธรรมชาติของเรา ไปธรรมดาเลยนะครับ ก็ไปช้าๆ ไม่ได้รวดเร็วอะไร ก็ขับไปเรื่อยๆ

แก่นฟ้า- พี่ยืนยันได้ไหมว่าพี่ไม่ได้ขับรถฝ่าด่านไปอย่างที่มีข่าวออกมา

แซมดิน- ไม่มีครับ ไม่มีๆๆ ยืนยันเลยครับ เพราะว่าผมโกหกไม่ได้อยู่แล้ว

ปานเทพ- คุณแซมดินไม่มีโกหกอยู่แล้ว

แซมดิน- โกหกไม่ได้อยู่แล้ว ก็ขับไปเรื่อยๆ ไม่มีไม้กั้น ไม่มีคนมายืนขวางยังไง หรือไม่มีการบอกว่าให้หยุด ไม่มีครับ ผมก็ไปเรื่อยๆๆๆ พอไปถึงจุดที่เรา

ปานเทพ- ก่อนไปถึงจุด ระหว่างสนทนากับคุณพนิชในรถ ดูเขามีการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐคนอื่นๆ ไหมว่าเขากำลังจะไปที่นี่

แซมดิน- ก็มีครับ ก็มีติดต่อกับผู้บังคับบัญชาของคุณพนิช

ปานเทพ- คือท่านนายกฯ

แซมดิน- คือท่านนายกฯ

ปานเทพ- ระหว่างในรถ ขับรถเหรอครับ

แซมดิน- ระหว่างขับรถไปเนี่ยครับ ก็ sms ไป ก็บอกเท่านั้นเอง ว่าไป ท่านนายกฯ ก็ไม่รู้นะครับว่า ทีแรกผมคิดว่าก็รู้ว่าไปปราจีนฯ เท่านั้นเอง แต่ก็ sms ทีหลัง ท่านนายกฯ ก็ไม่รู้ว่าเราจะไปตรงจุดไหน ไม่รู้จริงๆ

ปานเทพ- แต่ว่าคุณพนิชส่งข้อความไป

แซมดิน- ก็ส่งข้อความไป

ปานเทพ- เขาส่งข้อความไปว่าอย่างไร ทราบไหมครับ

แซมดิน- ก็ส่งข้อความว่าจะไปดูหลักเขต 46 ที่สระแก้ว

ปานเทพ- อ๋อ ระบุจังหวัดด้วย

แซมดิน- ครับ ที่สระแก้ว ก็เลยบอก อ้าว ไม่ใช่ปราจีนฯ ก็ sms ไปเท่านั้นเอง

ปานเทพ- ก็คือรู้ก่อน

แซมดิน- รู้ก่อนนิดหน่อยเท่านั้นเอง

ปานเทพ- ทีนี้ผมก็ขออนุญาตนำสู่แผนที่เลยแล้วกันนะครับ ภาพถ่ายทางอากาศ ตามที่รายงานหลายฝ่ายได้รายงานว่า ทางคณะได้เดินทางไปที่ถนนศรีเพ็ญ แล้วก็จอดรถ

แซมดิน- ใช่ครับ ผ่านไป 7-8 ด่านหรือยังไงเนี่ย ผมไม่ได้นับ

ปานเทพ- ผ่านจากฝั่งนี้ใช่ไหมครับ

แซมดิน- ใช่ครับ บนถนนจะมีด่าน

ปานเทพ- นี่ครับ ผ่านมา แล้วก็มาถึงจุดนี้

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- เสร็จแล้วก็ตัดสินใจ

แซมดิน- แล้วก็ลง เผอิญทีแรกลงเราก็กะว่าจะรอท่านนายกฯ อบต.

ปานเทพ- บ้านใหม่หนองไทร คุณธิติพัทธ์ เสมาทอง

แซมดิน- ใช่ครับ ตอนแรกก็ว่าจะรอ ทีนี้พอลงมา อ้าว ยังไม่เห็นมาเลย ก็คิดว่าเราจะเดินไปก่อน เดี๋ยวเราจะกลับมา

ปานเทพ- คิดว่าเดินกลับมา

แซมดิน- ใช่ครับ เราก็เดินไป วัตถุประสงค์เราคือจะไปดูหลัก 46 มันอยู่ตรงไหน เราไม่เคยคิดว่าเราจะต้องไปกัมพูชานะครับ เพราะเราไม่มีเอกสารอะไรเดินทางออกนอกประเทศ ไม่มี ไม่มีหนังสือใดๆ ทุกคนไม่มี ก็กะว่าเดี๋ยวเรามาดูซิว่าหลัก 46 มันอยู่ตรงไหน แล้วจะกลับมาดูเอกสาร เพราะว่าตอนนั้นท่านนายกฯ อบต.ยังมาไม่ถึง

ปานเทพ- ตอนที่เราเดินไป

แซมดิน- เราก็เดินมาเรื่อยๆ

ปานเทพ- ก็คือฝ่าทุ่งนา

แซมดิน- ผ่านทุ่งนามา แล้วก็มีรั้ว มีหลัก แบบหลักรั้วชาวบ้านนะครับ หลักรั้วแบบหลักบ้าน ไม่ใช่หลักเขตนะครับ เราก็เห็นว่าตรงนี้ไม่ใช่ที่ๆ เราจะมาดู ก็คงไม่ใช่ เราก็เดินต่อไปเรื่อยๆ

ปานเทพ- คุณวีระได้บอกว่า ได้ชี้ว่าข้างในนี้คือพื้นที่ที่เขาเคยถูกจับ

แซมดิน- ใช่ครับ ผมเพิ่งรู้ตอนนั้น ว่าคุณวีระมาถูกจับบริเวณนี้

ปานเทพ- ตรงนี้สำคัญก็คือว่า ตอนนั้นคุณพนิชยังไม่เคยทราบว่าคุณวีระเคยถูกจับ

แซมดิน- อ๋อ ยังไม่รู้หรอกครับ

ปานเทพ - มารู้บริเวณแถวนี้

แซมดิน- มารู้ตอนนี้ล่ะครับ

ปานเทพ- คุณวีระเล่าให้ฟังว่า

แซมดิน- ว่าถูกจับแถวนี้ ก็ชี้ให้ดู ก็เดินๆ ข้ามรั้วมา

ปานเทพ- แต่ทำไมถ้ารู้ว่าถูกจับ ทำไมทั้งคณะยังตัดสินใจเดินเข้าไปต่อ

แซมดิน- อ๋อ เราต้องการไปดูหลักเขต 46 ของไทย เราต้องการไปสุดแดนว่าสุดแดนไทยมันอยู่ตรงไหน เราก็จะไปดูหลักเขต 46 เพราะว่าเราทราบมาว่าชาวบ้านเขาร้องเรียนมา บอกว่าที่เขาอยู่ติดกับ 46 บริเวณนั้น เราก็จะไปดูตรงนั้น เท่านั้นเอง

ปานเทพ- พูดตรงๆ ก็คือ คุณแซมดิน คุณพนิช ไม่มีใครรู้หรอกว่าหลักเขตอยู่ที่ไหน

แซมดิน- ไม่รู้ครับ

ปานเทพ- เพราะไม่เคยไป

แซมดิน- จนบัดนี้ จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่เห็นนะครับ เพราะว่าเราก็ยังไม่ได้เจอเลย

ปานเทพ- ที่จริงจะว่าไปแล้วคุณวีระก็ยังไม่เคยเห็น

แซมดิน- ก็ยังไม่เห็นครับ

ปานเทพ- จริงๆ ไปกันทั้งที่ยังไม่มีใครรู้ว่าหลักเขตอยู่ที่ไหน

แซมดิน- ใช่ เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะ เขาก็ถ่ายภาพให้ดูเหมือนกัน ในหนังสือพิมพ์นะครับ ว่ามันอยู่ในป่า เราก็เราเดินบนถนนคงไม่เห็น

ปานเทพ- เอาล่ะครับ ทีนี้ในระหว่างเดินทางไป ตชด.เขาได้โบกเรียกเรากลับไหมครับ หรือว่าจะเดินตามเราไปไหมครับ

แซมดิน- เราออกมาไกลแล้ว เราเห็นเหมือนกันว่ามีรถกระบะสีขาวๆ มาจอดต่อท้ายเรา แต่ตอนนั้นเราออกมาไกลแล้ว ออกมาไกลถึงถนน

ปานเทพ- ถึงถนนเลยเหรอครับ

แซมดิน- ครับ ระหว่างก่อนถึงถนนมันเป็นคันนา ก่อนถึงถนนเล็กน้อยเราเก็เห็นแล้ว แต่ว่ามันไม่มีการส่งสัญญาณมาว่าเรียกเราหรืออะไร ไม่มีโทรศัพท์มาถึงเรา เพราะว่าปกติถ้าจะเรียก ทางผู้ช่วย ส.ส.เขาก็น่าจะโทรศัพท์มา แต่ก็ไม่มี เราก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ พอไปถึงถนนเราก็เลี้ยวขวา

ปานเทพ- ก่อนจะไปถึงถนน มีหลายคนสงสัยในวิดีโอคลิป หลายท่านชี้บอกว่าข้างหน้าเนี่ย มากันแล้ว มากันเต็มเลย ฝั่งเขานี่แหล่ะ คล้ายๆ คุณวีระพูดอย่างนั้น เดี๋ยวผมจะเปิดวิดีโอคลิปให้ดูแล้วกัน เพื่อจะได้ประกอบ ขออนุญาตแล้วกันนะครับ รู้สึกจะเป็นนาทีที่ 30 นาที 14 วินาที ในช่วงนี้มีคำพูดบางคำเหมือนกับว่าจะมีใครอยู่ข้างหน้า คุณวีระบอกว่าเดี๋ยว ตชด.จะมาช่วยเรา มาเป็นแถวเลย แล้วบอกว่ามาแล้วๆ ของเขานี่เหรอครับ แล้วก็หันไปหา ตชด. มีคนสงสัยว่าช่วงนี้เราเห็นอะไรหรือเปล่า

แซมดิน- อ๋อ ยังไม่เห็นทหารอะไร

ปานเทพ- ไม่มี

แซมดิน- ยังไม่มีครับ ก็มีชาวบ้านอยู่คนหนึ่งตรงนั้น ที่เรามาทัก ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เราก็ทัก เราก็คุยกันไป

ปานเทพ- อันนั้นรู้สึกว่าพอถึงจุดนี้เสร็จเราก็เลี้ยง

แซมดิน- เลี้ยวมา ก็คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง

ปานเทพ- ระหว่างนั้น คุณพนิชบอกว่ามีการโทรศัพท์คุณแซมดิน อยู่ใกล้ๆ ด้วย ทราบว่าโทรหาหลายคน ใช่ไหมครับ

แซมดิน- มีโทรหาคุณ อะไร บอกคุณสมเกียรติ บอกนายกฯ ด้วย ว่าเราเข้ามา เรากำลังจะเข้าเขต หรือยังไงเนี่ย

ปานเทพ- แต่จริงๆ ผมดูวิดีโอคลิปแล้วนะครับ ก็คือคุณพนิชได้บอกว่าเข้ามาในเขตกัมพูชาแล้ว ซึ่งกัมพูชาตอนแรกพยายามจะปล่อยคลิปนี้ออกมา กระจายกันมาก เพื่อให้เข้าใจว่าคุณพนิชรู้ตัวว่าเข้ามาในเขตกัมพูชา แต่พอเดินไปสักนิดคุณพนิชบอกว่า หมายถึงว่าไปดูหลักเขตซึ่งอยู่ในประเทศไทยนี่ล่ะ แต่ว่ากัมพูชามาอาศัยอยู่ ทุกคนเข้าใจตรงกันหมด

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- แล้วก็ยังเชื่อว่าเป็นพื้นที่ประเทศไทย

แซมดิน- ทุกคนยังคิดว่าเป็นพื้นที่ประเทศไทย เพราะว่ายังเดินกันอย่างสบายใจ สังเกตจากการเดินของพวกเรานะ เราไม่ได้หลบซ่อน หรือเป็นสปาย หรือแอบๆ เราก็เดินกันอย่างสง่าผ่าเผยบนถนน แล้วก็ยังเข้าใจว่าอยู่ในประเทศไทย เพราะว่ายังไม่พบหลักเขต

ปานเทพ- ระหว่างเดินผมเห็นในวิดีโอคลิป พอเดินเลี้ยวขวาเข้าถนนแล้ว ก็เจอสุภาพสตรี

แซมดิน- คนหนึ่ง เราก็ถาม เขาก็พูดไทยไม่ได้ เขาพูดกัมพูชา

ปานเทพ- เราไม่สงสัยบ้างเหรอ เอ๊ะ นี่เป็นพื้นที่อะไรกันแล้ว

แซมดิน- ก็มีอยู่เหมือนกัน แต่ว่าที่ผมมา ที่สระแก้วเนี่ย ผมก็พยายามจะพูดกับประชาชนหลายคนนะ แต่เขาก็พูดไทยไม่ได้ ผมก็เข้าใจว่าในพื้นที่ชายแดนก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ หลายคนก็ใช้ภาษาลักษณะอย่างนี้ ภาษาท้องถิ่นของเขา

ปานเทพ- ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย ขออภัยครับ เลี้ยวซ้ายตรงสามแยก ตรงนี้มีการพูดคุยกับชาวบ้าน ร้านค้า มีทหารตรงนี้ใช่ไหมครับ

แซมดิน- มีลักษณะเหมือนทหาร แต่ว่าไม่ได้เป็นทหารทีเดียว

ปานเทพ- เขาทำอะไรครับ

แซมดิน- เขาก็ยืนอยู่ เราก็เลยคุยสนทนากับเขา ว่าเป็นใคร อะไร ยังไง อายุเท่าไหร่ อยู่มานานหรือยัง ทีนี้ตอนคุยกับเขาอยู่ เหมือนกับมีเพื่อนเขาอีกคนหนึ่งมาบอกว่าไม่ให้คุย เราก็ ไม่ให้คุยก็ไม่เป็นไร เราก็เดินต่อมาอีกนิดหน่อย แล้วก็มาถึงร้านค้า มีร้านค้าอยู่ ฝั่งตรงข้าม

ปานเทพ- ก็มีการดื่มน้ำ ผมเห็นอยู่

แซมดิน- ครับ ก็ซื้อน้ำ 3 ขวด

ปานเทพ- แล้วก็ทักชาวบ้าน

แซมดิน- ก็ทัก ก็คุยกันธรรมดา แล้วก็ใช้เงินบาทซื้อ

ปานเทพ- แล้วจากนั้น

แซมดิน- จากนั้นก็ พอขยับตัวออกมาจากร้านค้าก็เหมือนกับมีคนมาคอย ลักษณะเหมือนทหารนะครับ มี ว. แต่ไม่มีอาวุธ

ปานเทพ- นี่คือแค่ออกจากร้านค้าเท่านั้น

แซมดิน- ใช่ครับ พอออกจากร้านค้าเขาก็มา เหมือนกับบล็อกตัวเราให้เราหยุดอยู่ก่อน

ปานเทพ- ให้เราอยู่กับที่ก่อน

แซมดิน- ใช่ครับ ให้อยู่กับที่ก่อน

ปานเทพ- แล้วจากนั้นเป็นอย่างไร

แซมดิน- จากนั้นเราก็อยู่กับที่ ไม่ให้ไปไหน ก็ไม่ไป แล้วเราก็เหมือนกับถูกควบคุมตัว เขาให้เรารอตรงนั้นเราก็รอ ก็รอไป พอสักประเดี๋ยว ผู้บังคับบัญชาเขาก็มากัน แล้วก็มีทหารมา มีอาก้ามา ก็ล้อมเราไว้ แต่ว่าก็ไม่ได้ทำร้ายอะไร ก็ล้อมอยู่ห่างๆ ก็สะพายเฉยๆ ก็ยืนอยู่ห่างๆ ล้อมไว้ เราก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร แล้วจากนั้นก็ยึดอุปกรณ์ ทั้งกล้อง ทั้งโทรศัพท์

ปานเทพ- อยากให้คุณแซมดินชี้เองแล้วกันนะครับ จากจุดบริเวณแถวร้านค้าซึ่งอยู่บริเวณแถวนี้ แล้วก็มาควบคุมตัวเรา เสร็จแล้วเขาพาเราไปไหนต่อครับ

แซมดิน- พอควบคุมเสร็จแล้ว เขายึดอุปกรณ์กล้องเราเรียบร้อยแล้ว เขาก็พาเราเดินมาตามถนน พอเดินมาแล้วเขาก็ถ่ายรูป ตอนอยู่ตรงนี้ยังไม่ถ่าย แล้วก็เดินมาแล้วก็มาถ่ายรูป พอถ่ายรูปเสร็จก็พาเรามาที่สระน้ำ

ปานเทพ- สระน้ำอยู่นี่ครับ ลิบเลย

แซมดิน- ก็พาเรามาที่บริเวณสระน้ำ ถ้าสระน้ำอยู่ตรงนี้เรามานั่งอยู่แถวๆ นี้ ซึ่งเป็นที่ทหารของเขา เป็นเหมือนกับหน่วยทหารของเขา

ปานเทพ- ตอนนั้นคุณแซมดินทราบไหมครับว่าสระน้ำนี้เป็นพื้นที่ไทยหรือพื้นที่กัมพูชา

แซมดิน- ทางคุณวีระบอกเราว่าสระน้ำนี้ก็เป็นพื้นที่ของประเทศไทย เราก็เชื่อที่คุณวีระบอก

ปานเทพ- เพราะว่าคุณวีระเขามีข้อมูล

แซมดิน- เพราะว่าคุณวีระได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า พ่อตาของนายก อบต.เขามาฟ้อง ขุดเอง เราก็อยู่ตรงนั้นสักพักหนึ่ง เมื่ออยู่ตรงนั้นสักพักหนึ่ง ทางฝ่ายทหาร ตำรวจเราก็เข้ามา เพื่อที่จะนำตัวเรากลับไป

ปานเทพ- เขาบอกว่าเราอยู่ตรงหน้าซุ้มประตูวัด

แซมดิน- ไอ้วัดอะไรเนี่ย มาถ่ายรูปเราทีหลัง มาถ่ายรูปเราทีหลัง คือพาเราเดินมาแล้วค่อยมาถ่ายรูป

ปานเทพ- มาถ่ายรูปทีหลัง ก็แสดงว่าแถวๆ ที่เราอยู่บริเวณนี้ บริเวณร้านค้าก็ไม่น่าเลยหลักเขต แม้กระทั่งหลักเขตในปัจจุบัน

แซมดิน- เราไม่ทราบ เราไม่รู้อะไรเพราะมันไม่มีเส้นอะไรบอก เราก็ไม่รู้ แต่เรายังมั่นใจว่าเรายังอยู่ในประเทศไทยเท่านั้นเอง

ปานเทพ- คุณแซมดินมั่นใจ

แซมดิน- ครับ เรามั่นใจว่าเรายังอยู่ในประเทศไทย

ปานเทพ- ทีนี้ขออนุญาตมาที่สระน้ำ เราถูกนำตัวมาสระน้ำ ใช้เวลาเดินมาเรื่อยๆ

แซมดิน- ก็เดินมาเรื่อยๆ เลยครับ เขาไม่ให้ขึ้นรถนะ ทีแรกเอารถมานึกว่าจะรับมาขึ้นรถ

ปานเทพ- ทำไมคุณแซมดินยังโทรศัพท์คุยกับผมได้ หลังจากที่ถูกจับ

แซมดิน- เขาไม่ได้ยึดผม ผมก็ไม่ได้ไปหลบซ่อนอะไรนะ ผมก็ใส่ไว้ในกระเป๋า เพียงแต่เขาไม่ได้ขอยึด แต่เขายึดของคนอื่นไปหลายคน

ปานเทพ- ก็เลยโทรหาผมได้ในช่วงนั้น ที่บอกว่าผมถูกพาตัวมาอยู่ที่สวนผลไม้ที่หนึ่ง แถวนี้ยังเป็นพื้นที่ไทยอยู่ที่บ้านหนองจาน

แซมดิน- ใช่ครับๆ ผมก็ตามที่คุณวีระบอกนั่นล่ะว่าเป็นพื้นที่ประเทศไทย ผมก็บอกว่าเรายังถูกจับอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย

ปานเทพ- ก็แสดงว่าตอนนี้คุณแซมดินกำลังจะบอกว่า เราอยู่แถวนี้ ร้านค้าถูกลากตัวออกมาถ่ายรูป แล้วก็มา

แซมดิน- แล้วก็พามาที่สระน้ำ แล้วหลังจากนั้นทาง ตชด.กับท่านผู้กำกับ พ.ต.อ.ณัฏฐ์ ก็ไปพยายามที่จะช่วยเราให้ออกมา

ปานเทพ- ระหว่างที่เราถูกจับไป คุณวีระ ในฐานะคนมีประสบการณ์ในการถูกจับ ได้ถูกสอบถามจากคน 6 คนที่เหลือไหมครับว่า สถานการณ์จะเป็นยังไง เขามีประสบการณ์ยังไงบ้าง เขาได้เล่าให้ฟังไหมครับ

แซมดิน- เขาก็บอกเหมือนกันว่า เดี๋ยวก็จะมี ตชด.มา มาช่วยเรา

ปานเทพ- เขามั่นใจอย่างนั้น

แซมดิน- ก็มาครับ

ปานเทพ- แล้วคุณพนิชล่ะครับ พอถูกจับแล้ว

แซมดิน- ก็พวกเราทุกคนมั่นใจว่า พวกเราทุกคนน่ะ ไม่ใช่เฉพาะตัวผมหรอก ก็ยังมั่นใจว่าเดี๋ยวก็ต้องมาช่วยให้เราออกไป

ปานเทพ- คุณพนิชโทรหานายกฯ ได้ไหมในช่วงนั้น ถูกจับแล้ว

แซมดิน- ถูกจับแล้วโทรหานายกฯ ได้มั้ย ... เอ ผมไม่แน่ใจนะ ไม่แน่ใจ

ปานเทพ- ไม่เป็นไรครับ เอาข้อเท็จจริงที่เราจำได้ก็แล้วกันนะครับ

แซมดิน- เอาเป็นว่า ผมยังโทรได้ แล้วผมก็โทรมาที่ ทางรายการ นะครับว่าเราถูกจับอยู่ในประเทศไทย แล้วเมื่อ ตชด.มา อะไรมา เขาก็ แต่ของพวกเราไม่ได้มีอาวุธเข้ามานะ แล้วก็คุยกันสักพักหนึ่ง ทั้งหมดก็หายออกไป ในขณะที่ผมยังไม่รู้เพราะว่าผมกำลังพะวงอยู่กับโทรศัพท์ พอหันกลับมาอีกทีก็ อ้าว เฮ้ย หายไปไหนหมดแล้ว ก็ตกลงเขาบอกกับตายแน่ว่า เขาต้องกลับไปก่อนแล้ว เรื่องนี้มันไปถึงกระทรวงต่างประเทศ ไปถึงกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาแล้ว

ปานเทพ- เป็นเรื่องใหญ่

แซมดิน- เป็นเรื่องใหญ่แล้ว เขาก็เลยต้องออกไป ก็คือช่วยไม่ได้นั่นแหล่ะ ท่านพนิชก็ยังบ่นนิดหน่อยเลยว่า

ปานเทพ- ตชด.ที่มามากี่คนครับ

แซมดิน- มาเป็นสิบเลยนะครับ

ปานเทพ- พร้อมอาวุธด้วยไหมครับ

แซมดิน- ไม่มีครับ ไม่มีอาวุธเลยครับ ไม่มีอาวุธเลยสักคนครับ

ปานเทพ- แต่ทหารกัมพูชาติดอาวุธหมดไหมครับ

แซมดิน- มีครับ มีอาก้า มีพวกนั้นอยู่ ปืน เขามีครบหมดล่ะครับ

ปานเทพ- แต่ ตชด.ไม่มีเลย ที่มาช่วย

แซมดิน- ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาควบคุม ได้อย่างชัดเจน เพราะเราต้องปลดอาวุธก่อนเข้า

ปานเทพ- แล้วคุณแซมดินก็ถูกยึดโทรศัพท์

แซมดิน- หลังจากนั้นผมก็มั่นใจแล้ว พวกมาช่วย ใช่มั้ย ผมก็เลยโทรใหญ่เลย เปี๊ยกเขายังเตือนผมเลย ลุงอย่าเพิ่งๆ อย่าเพิ่งโทรเลย ไม่เป็นไรแล้ว ผมก็โทร แล้วสักประเดี๋ยวเดียว ทหารกัมพูชาเขาก็มายึดโทรศัพท์ผมไป แต่เขาปิดไม่เป็นเขาก็มาคืนผม มาคืนผมใหม่ จะให้ผมปิดนะ แต่ผมก็โทรต่อ นั่นน่ะที่ประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกัน

ปานเทพ- กับคุณยุทธิยงค์

แซมดิน- ครับ หลังจากนั้นเขาก็ให้ผมปิด ผมก็ปิดเครื่องโทรศัพท์แล้วก็ส่งให้เขา หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งรออย่างเดียวเลย รอที่จะ ตำรวจเขาจะพาเราไป ประมาณ 4 โมงเย็น

ปานเทพ- ตำรวจพาเราไป ? ตำรวจฝั่งไหน

แซมดิน- ตำรวจกัมพูชา ก็พาเรามาที่พระตะบอง

ปานเทพ- ไปไกลเลยคราวนี้

แซมดิน- ไปไกลเลย แล้วก็มาที่พนมเปญ

ปานเทพ- นั่งรถอะไรไปครับ

แซมดิน- เป็นรถตู้ครับ รถของเขานะ ฝุ่นฟุ้งเลย รถตู้ ไม่มีเก้าอี้ด้วย ให้เรานั่งเก้าอี้แบบเก้าอี้พลาสติก นั่งกัน มีเก้าอี้อยู่ 3-4 ตัวเท่านั้นเอง มันไม่ครบนะ ทางคุณพนิชยังเสียสละต้องไปนั่งไอ้ที่ยางอะไหล่

ปานเทพ- ถึงตอนนี้ก่อนที่เราจะข้ามไปต่อ ว่าไปพระตะบองแล้วเป็นยังไง มีข้อสงสัยว่าในฐานะคุณแซมดินก็เห็นปรากฏการณ์ เห็นการพูดคุยทั้งหมด มีใครหลอกใครไหม เพื่อไปให้ถูกจับ

แซมดิน- อ๋อ ไม่มีหรอกครับ เรื่องนี้ผมเป็นคนประสานทั้งหมด

ปานเทพ- แล้วคุณพนิชก็รับรู้ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง

แซมดิน- คุณพนิชมารู้สถานการณ์เมื่อตอนเข้ามาในพื้นที่

ปานเทพ- กับคุณวีระ พอเห็นแนวรั้วคุณวีระก็บอกว่าถูกจับแล้ว

แซมดิน- เห็นแนวรั้วคุณวีระก็บอกว่า ถ้าข้ามแนวรั้วนี้ไป เขาอาจจะจับได้นะ มีปัญหาจะถูกจับนะ เพราะเขามีประสบการณ์ว่าเขาเคยข้ามไปแล้ว

ปานเทพ- คือทุกคนมีความเต็มใจและอาสาที่จะไปตรวจสอบเรื่องนี้

แซมดิน- ใช่ครับ เต็มใจ แล้วก็ไปด้วยกัน 7 คน 7 คนนี้มาด้วยความสมัครใจ ไม่หลอกกันอย่างแน่นอนครับ ผมมีความมั่นใจ เพราะว่าผมเป็นคนประสานทั้งหมด ส่วนผู้หญิง 2 คน เขามากับคุณวีระ ก็ตามด้วยศรัทธา ก็ตามมาด้วย ส่วนกจพลธรณ์ เขาเป็นคนขับรถ เขาก็ตาม ส.ส.มา ส่วนผม เปี๊ยก และคุณวีระ ก็รู้ว่าเราจะมาตรงนี้

ปานเทพ- ส่วนคุณพนิชก็ต้องการพิสูจน์เช่นเดียวกัน

แซมดิน- คุณพนิชก็ต้องการพิสูจน์ว่ามันเป็นของคนไทย แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าไปรังวัดไม่ได้ เจ้าหน้าที่ที่ดินนะครับ เขาก็บอกเขาเข้าไปรังวัดไม่ได้ ชาวบ้านเข้าไปทำกินไม่ได้ในที่ดินที่เขามีโฉนดตรงนั้นเราก็ต้องการพิสูจน์

ปานเทพ- ที่ดินรังวัดไม่ได้ ชาวบ้านก็เข้าไปไม่ได้ อันนี้มีความหมายนะครับเพราะตอนหลังมีคนอ้างว่ารังวัดได้แล้ว ไปลากแผนที่

แซมดิน- เขาเข้าไปไม่ได้ครับ

ปานเทพ- ไม่ได้

แซมดิน- ซึ่งเรื่องนี้ทางคุณวีระเขาบอกว่าได้ทำเรื่องฟ้องศาลด้วยนะ ซึ่งเอกสารผมให้ตายแน่เขารวบรวมอยู่ตอนนี้

ปานเทพ- เราจะพักกันสักครู่นะครับ ช่วงหน้ามาคุยกันต่อว่า หลังจากที่คุณแซมดินและคณะ 6 คนไทยถูกจับกุมไป เกิดอะไรขึ้นบ้าง สภาพความเป็นอยู่ยังไง ข้อมูลที่ได้รับตรงนั้นเป็นยังไง แล้วทำไมตัดสินใจขั้นตอนสุดท้ายในการที่จะสู้คดีความอย่างไรบ้าง ช่วงหน้ามาคุยกันนะครับ พักกันสักครู่ครับ

ช่วงที่ 2

ปานเทพ- ประชาสัมพันธ์ในช่วงนี้นะครับ ก่อนที่เราจะมาฟังการให้ข้อมูลจากคุณแซมดิน เลิศบุศย์ ต่อนะครับ ทางพันธมิตรฯ กำแพงเพชรได้ประชาสัมพันธ์มาว่า สามารถขึ้นรถฟรี เต็มออกๆ ได้ที่ตลาดริมปิง 8 โมงเช้าวันที่ 25 มกราคม นะครับ ลงชื่อเดินทางและรับบริจาคค่ารถวันที่ 23-24 ที่เต็นท์พันธมิตรฯ ริมปิง จากคณะทำงานพันธมิตรฯ กำแพงเพชร นอกจากนี้มีที่อุดรธานี เช่นเดียวกัน สามารถที่จะติดต่อ คนที่สนใจจะมาร่วมชุมนุม ติดต่อได้กับคุณแอ้ม อุดรฯ 089-7101547 นอกจากนี้ ร่วมเป็นเจ้าของนาฬิกาองค์จตุคามรามเทพ ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเศกสำหรับท่านสุภาพสตรี จัดสร้างขึ้นและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น แล้วก็เครื่อง เป็นระบบควอตซ์ ตัวเรือนได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ พิถีพิถันด้วยเนื้อสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีดำ องค์จตุคามรามเทพปางประทานพร ล้อมด้วยพระราหู วงแสงอาทิตย์ พร้อมพรายน้ำ ฝาหลังสลักรูป 12 นักษัตรรอบเจดีย์พระศรีมหาธาตุ กันน้ำได้ลึก 50 เมตร กระจกแซฟไฟร์ ป้องกันรอยขีดข่วน ขณะนี้มีจำนวนจำกัดมากนะครับ เหลือเฉพาะเรือนสเตนเลสล้วนเท่านั้น โดยสามารถติดต่อเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์ ที่โรงบุญพันธมิตรฯ บ้านเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.หรือสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 081-6518216 , 083-5411165 รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับ ASTV ทีวีของประชาชน

กลับมาที่คุณแซมดิน เลิศบุศย์ นิดหนึ่งว่า ตอนนี้ข้อมูลที่เราฟังจากคุณวีระ สมความคิด อย่างเดียว ว่าเป็นพื้นที่ประเทศไทย และเราถูกจับ ขออนุญาตให้คุณแซมดินชี้นิดหนึ่งนะครับ จุดที่ร้านค้า เราเดินมาจาก

แซมดิน- เราเดินมาบนถนนนะครับ แล้วก็มาพูดคุยกับทางชาย

ปานเทพ- ชุดสีดำ

แซมดิน- ครับ ชาวกัมพูชา อยู่สักครู่หนึ่ง แล้วเดินมาอีกนิดหนึ่งเราก็จะมาที่ร้านค้า เราก็แวะซื้อน้ำ พอออกจากร้านค้านั่นล่ะครับก็ถูกจับ

ปานเทพ- ซึ่งร้านค้านี้เป็นร้านค้าแรกที่เราเห็นด้วยซ้ำ

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็ควรอยู่ในประเทศไทยนะ

แซมดิน- ตรงนี้ผมไม่ทราบ

ปานเทพ- ไม่เป็นไรครับ

แซมดิน- แต่ผมมั่นใจว่าเรายังอยู่ในประเทศไทย

ปานเทพ- แล้วพอถูกจับก็ถูกพาลึกเข้ามา

แซมดิน- ถูกจับเสร็จเขาก็จะพาเราเดินมาระยะหนึ่ง แล้วค่อยมาถ่ายรูปเรา เสร็จแล้วก็พาเรามาที่สระน้ำ

ปานเทพ- ให้คุณแก่นฟ้าอธิบายนิดหนึ่ง อีกครั้งหนึ่ง ว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ยังไง คุณแก่นฟ้าเคยทำงานกาชาดสากล

แก่นฟ้า- มูลนิธิกาชาดสากลนะครับ จุดปฏิบัติการทั้งหมดก็อยู่แนวชายแดน คือช่วยเหลือผู้ที่ คือเป็นพยาบาลผู้บาดเจ็บจากการสู้รบ เราก็จะช่วยออกไป

ปานเทพ- มาช่วยเขมรที่อพยพมาอยู่ในประเทศไทยใช่ไหมครับ

แก่นฟ้า- ครับ ส่วนใหญ่เน้นทางด้านการบาดเจ็บ คนบาดเจ็บ คนป่วย เขามีโรงพยาบาลอยู่ที่ศูนย์เขาอีด่าง ซึ่งห่างจากนี่ประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ที่ศูนย์เขาอีด่างนะครับ ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด แล้วอย่างที่ผมได้บอกไปเมื่อวานนี้ว่า ผมจะเป็นคนที่จะบอกว่าให้คนขับรถไปรับคนที่ไหนๆ เพราะฉะนั้นผมก็ต้องรู้ รู้พื้นที่ทุกอย่าง ผมก็ต้องลงพื้นที่ให้รู้ว่าพื้นที่ไหนๆๆ ไหนเขตไทย ไหนเขตเขมร ก็ต้องรู้ด้วย

ปานเทพ- ซึ่งคุณแก่นฟ้าบอกว่าพื้นที่นี้เป็น

แก่นฟ้า- พื้นที่นี้ต้องเป็นของไทย เพราะว่าสระน้ำนี่ล่ะครับ คือถ้าไม่มีสระน้ำนี่ผมยังไม่มั่นใจเท่าไร แต่พอบอกว่าสระน้ำนี่ปั๊บ สระน้ำยูเอ็นขุด มันก็ต้องเป็นของไทย เพราะว่าสระน้ำนี่จะขุดในเขมรไม่ได้ เพราะสระน้ำไม่ใช่ขุด 1-2 วันจะเสร็จ ก็สระใหญ่พอสมควร

ปานเทพ- มีอีกภาพหนึ่งเพื่อให้คุณแก่นฟ้าได้ชี้จุด กับคุณแซมดินได้รับทราบไปด้วยแล้วกัน เพราะคุณแซมดินเพิ่งออกมา ภาพนี้เป็นภาพจากเว็บไซต์กาชาดสากล เมื่อปี 1980 ก็คือปี 2523 บอกว่าชาวอพยพเขมรมาอยู่ที่ค่ายอพยพหนองจาน ที่ประเทศไทย ในประเทศไทย เขียนอย่างนี้นะครับ ปัจจุบันก็ยังมีเว็บไซต์อยู่ ถ้าให้คุณแก่นฟ้าชี้จุด เป็นจุดไหน บริเวณไหน ในแผนที่ที่เราพูดถึงเมื่อสักครู่นี้ครับ

แก่นฟ้า- ถ้าเดินมาอยู่อย่างนี้นะครับ ถ้าภาพนี้เลยผมว่ามันน่าจะอยู่ตรงบริเวณนี้ด้วยซ้ำไป

ปานเทพ- ลึกเข้าไปกว่านี้อีก

แก่นฟ้า- ครับ เพราะว่าเวลาเขาเดินมา กว่าจะเข้าไปถ่ายรูปได้ เข้าไปถ่ายเนี่ยคงยาก พวกนักข่าวไปถ่ายคงมาถ่ายแถวๆ นี้ ในเขตไทย ในเขตที่ทหารไทยยังดูแลคุ้มครองอยู่ ในภาพจะเห็นว่ามีทหารไทยดูแลคุ้มครองอยู่ เพราะทหารไทยจะไปยืนถือปืนอยู่ในเขมร มันเป็นไปไม่ได้

ปานเทพ- คุณแซมดินทราบข้อมูลเหล่านี้ไหม

แซมดิน- ไม่ทราบครับ

ปานเทพ- ทราบไหมครับว่ามีศูนย์อพยพชาวกัมพูชา

แซมดิน- ก็ทราบจากที่คุณวีระเล่าให้ฟัง

ปานเทพ- ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปที่คุณแซมดินอยู่ จากสระน้ำแล้วก็ขึ้นรถตู้ไป

แซมดิน- ขึ้นรถตู้ไป ก็ไปที่พระตะบอง ที่พระตะบองเราก็ได้รับอาหารกับน้ำ เสร็จแล้วก็นั่งต่อไปเลยครับ ทีแรกนึกว่าจะให้อยู่ที่นั่น ก็เอาเข้าพนมเปญ มาถึงประมาณ 5 ทุ่ม 15 ก็มาถึง ก็ถูกสอบเลยครับ ตั้งแต่ 5 ทุ่ม 15 ตม.ก็สอบเราไป บางคนก็สอบถึงเช้า คำถามเขาบอกว่าคุณเข้ามาในพนมเปญทำไม ผมบอกว่าผมไม่ได้เข้ามาในพนมเปญ แล้วเข้ามาในกัมพูชาทำไม

ปานเทพ- เจ้าหน้าาที่เขาพูดภาษา หรือมีล่าม

แซมดิน- มีล่าม ผมก็บอกว่าผมไม่ได้เข้า ผมยังอยู่ในประเทศไทย จะมาถามผมอย่างนี้ได้ยังไง ก็เถียงกันอยู่นานครับ ไปถึงตี 2 ผมก็บอก เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณอยากเขียนอะไรคุณเขียนไปเถอะ เดี๋ยวผมไปพูดกับศาลเอง

ปานเทพ- พูดอย่างนี้เลย

แซมดิน- ผมบอกเขาเอง

ปานเทพ- คนอื่นล่ะครับ

แซมดิน- คนอื่นเขาก็แยกไปสอบ ผมถูกแยกสอบ

ปานเทพ- แยกคนละห้อง

แซมดิน - แยกคนละห้อง ก็ไปสอบ บางคนก็อยู่ถึง 6 โมงเช้า เกือบ 6 โมงเช้า

ปานเทพ- จากกี่โมงนะครับ

แซมดิน- จาก 5 ทุ่ม 15

ปานเทพ- จาก 5 ทุ่ม 15 ถึงเช้าเลยเหรอครับ

แซมดิน- ครับ เขาก็สอบไปเรื่อยๆ

ปานเทพ- ใครออกช้าที่สุดครับ

แซมดิน- ผมว่ากจพลธรณ์จะช้ากว่าเพื่อนนะ

ปานเทพ- กจพลธรณ์ซึ่งเป็นคนติดตามคุณพนิช

แซมดิน- ครับ เขานึกว่าเป็นบุคคลสำคัญไง แต่งตัวดี ไม่ได้ใส่สูทแต่ว่าใส่แจ๊กเก็ต ก็ถูกแยกไปสอบ ของผมตอนแรกเขาสอบรวม เพราะว่าไม่สำคัญ เขาสอบรวมกันอยู่ สักประเดี๋ยวเดียวสอบไปสอบมาเขาแยกผมไปเดี่ยวแล้ว เพราะผมก็ ยังยืนยันว่าเราอยู่ในประเทศไทย เขาบอกว่ารับๆ ไปเถอะ แล้วก็เดี๋ยวจะได้กลับไปนอน ผมบอกถ้าแบบนี้นะ คุณอยากเขียนอะไรคุณเขียนไปเลย เดี๋ยวผมก็จะไปบอกกับอัยการบอกกับศาลเขาใหม่ พอหลังจากนั้นตี 2 ผมนอนก่อนแล้ว ใครจะเขียนอะไรก็เขียนไป

ปานเทพ- เซ็นมั้ย

แซมดิน- เซ็นครับ ผมก็ประทับตรา พอไปถึงอัยการ อัยการก็สอบใหม่ สอบใหม่ผมก็บอก

ปานเทพ- ขออนุญาตนิดครับ ที่เราประทับตราไป เราก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเขียนอะไรไป

แซมดิน- ไม่รู้หรอกครับ เพราะว่าเขาเขียนเป็นภาษากัมพูชา ผมบอกว่าคุณน่ะเขียนไม่ครบนะ ที่ผมบอก เขาบอกว่าถ้าเขียนครบมันต้องถึงเช้าเลย เขาก็บอกอย่างนั้น เขาก็อยากไปนอนเหมือนกันแหล่ะ ผมก็บอก ไม่เป็นไร คุณอยากเขียนอะไรคุณก็เขียนไป เพราะผมถือว่าเดี๋ยวผมต้องไปบอกอัยการ บอกกับศาลใหม่ เท่านั้น แล้วหลังจากนั้นตี 2 ผมก็นอนแล้ว ตี 2 กว่าๆ ผมก็นอน ทีแรกเขาก็ให้ผมนอนเดี่ยว อยู่ห้องหนึ่ง

ปานเทพ- เป็นห้องขังเลยเหรอ

แซมดิน- ไม่ใช่ครับ เป็นห้องทำงานธรรมดา ที่ ตม.

ปานเทพ- ที่ ตม.

แซมดิน- ตม.สอบก่อน แล้วก็หลังจากนั้นก็ให้ผมมานอนรวมอยู่กับเปี๊ยกและผู้หญิงอีก 2 คน ก็มานอนในห้องโถงใหญ่ ก็นอน เช้าขึ้นเขาก็ขอเอกสารต่างๆ กระเป๋าสตางค์ ดูมีบัตรอะไรบ้าง ก็เอาไปตอน 6 โมงเช้า

ปานเทพ- มิน่าที่ฮุน เซน บอกว่ามี ส.ส.2 คน คงเข้าใจผิด เพราะคิดว่าคนติดตามคุณพนิชเป็น ส.ส.ด้วย

แซมดิน- ใช่ครับ ตอนแรกเขาก็ให้ความสำคัญกับกจพลธรณ์

ปานเทพ- จากตื่นเช้ามา

แซมดิน- ตื่นเช้ามา แล้วหลังจากนั้นก็ 9 โมงก็ต้องออกแล้ว 9 โมงเขาก็จะมาพาไปพบอัยการ อัยการก็สอบใหม่

ปานเทพ- เหมือนเดิม

แซมดิน- ก็สอบใหม่ ตอนนี้เราก็พูดกับอัยการ บอกว่าที่ตำรวจสอบมาเนี่ย ไม่ถูก เพราะว่าเขียนไม่ครบ ผมบอกเอาล่ามแปลด้วย ผมก็ให้ล่ามแปล ที่ครบคืออย่างไร ผมก็ให้การไปใหม่ อัยการเขาก็จดใหม่ หลังจากนั้นก็ไปถึงผู้พิพากษา คือเร็วมากนะ กระบวนการ จากอัยการเสร็จ จัดหาทนาย คือท่านทูตท่านก็ช่วยได้เยอะมากนะ ท่านทูตมาพยายามช่วยเหลือจัดหาทนายมาให้ แล้วบอกเราด้วยนะ จะเอาทนายแบบไหน มีทั้งสองส่วน คือทนายที่ไม่เคยที่จะต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา และอีกทนายหนึ่ง คือทนายนี้ต่อสู้กับรัฐบาลกัมพูชา ก็ 2 คนให้เราเลือก พวกเราก็ตกลงใจเลือกเอาไม่ต่อต้าน เอาไม่ต่อต้าน เพราะเราคิดว่าประเด็นนี้มันไม่ใช่ประเด็นกฎหมาย น่าจะเป็นประเด็นการเมือง เพราะของเราเราเชื่อว่ามันเรื่องเล็กน้อย เดินหลง หรือว่าอะไรเข้ามา หรือเข้าหรือไม่เข้า เราก็ยังไม่รู้เลย เราก็ยังเชื่อว่าเรายังอยู่ในประเทศไทย มันก็น่าจะปล่อยๆ กันไป เราก็เชื่ออย่างนั้น

ปานเทพ- ก็เลยหาทนายที่เป็นมิตรกับฝ่ายรัฐ

แซมดิน- หาทนายที่เป็นมิตร กับฝ่ายรัฐกัมพูชา เขาก็ตกลง ก็มีนักธุรกิจมาช่วยออกค่าทนายให้เรา

ปานเทพ- การตัดสินใจตอนนั้นเป็นการแนะนำจากใครครับ

แซมดิน- ท่านทูตครับ ซึ่งมาช่วยเหลือเราอยู่ตลอด ท่านทูตก็พามาทั้งสองส่วน แล้วให้เราตัดสินใจเอง ว่าจะเลือกแบบไหนก็ได้ ก็แล้วแต่เรา ก็นับว่าเราก็เลือกตามที่เราเห็นว่าควร

ปานเทพ- แล้วทุกคนเลือกเหมือนกันมั้ยครับ

แซมดิน- ก็เหมือนกันครับ

ปานเทพ- ใช้ทนายเดียวกัน?

แซมดิน- ใช้ทนายเดียวกัน คือ 3 คน กับ 4 คน มีทนาย 2 คนมาช่วยเรา แต่ก็ถือว่ามาจากกลุ่มเดียวกัน คือทนายที่ไม่เคยขัดแย้งอะไรกับกัมพูชาแบบหนัก แต่ก็จะมีข้อมูลจากเราและจะช่วยให้เราออกไป เราก็เลือกแล้วล่ะ เราก็เลือกตามสิทธิ์ของเรา ทนายก็มา ล่ามก็มา ก็มาช่วยแปลช่วยอะไร พอบ่ายๆ ผู้พิพากษา ตุลาการ ก็เป็นผู้หญิง ก็มาซักต่อ ก็ถามว่าอัยการเขาฟ้องเรา 2 ข้อหาอย่างที่ทราบแล้วนะครับ ก็คือเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเข้าเขตทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็เราก็รับทราบแต่เราก็ปฏิเสธไปหมดว่าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ก็ปฏิเสธ ทุกคน ก็ไม่ได้นัดหมายกัน ก็ตอบตรงกันหมดว่าเราปฏิเสธ หลังจากนั้นก็ถามด้วยว่า จะขอร้องอะไรมั้ย แต่ละคนก็อาจจะขอต่างกัน แต่ผมก็บอกว่าขอให้ตัดสินโดยยุติธรรม เท่านั้นเอง แล้วเราก็นึกว่าจะพาไปที่ ตม.อย่างเดิม มันเป็นห้องทำงาน เราก็จะได้นอนพักสบาย ที่ไหนได้ พาไปนู่นเลยเรือนจำเปรย์ซอว์ ค่ำๆ แล้วก็พาไปถึงเปรย์ซอว์เลย ไปถึงก็มีชุดนักโทษไว้ ผมจะเปลี่ยนเขาก็บอกว่าไม่ต้อง ยังไม่ต้องเปลี่ยน ของเราใส่ชุดเดิมได้ เขาก็มาไม่ให้เราใส่ อาหารการกินก็มาเลย

ปานเทพ- เขาแยกขังยังไงครับ

แซมดิน- ก็แยกคุณวีระ กับท่าน ส.ส.พนิช อยู่ด้วยกัน อยู่ห้องข้างล่าง ก็ถือว่าเป็นห้องดีหน่อย ห้อง VIP แต่ผม 3 คน เปี๊ยก กจพลธรณ์ แล้วก็ผม อยู่ห้องข้างบน ตอนเช้าที่ได้มาคุยกันอีกทีหนึ่ง ของเราจะได้ออกตอน 8 โมง ก็จะออกมาแล้วก็ให้มาพักข้างนอก อาบแดด อะไรพวกนี้ หลังจากเข้าไปแล้วเขาก็ให้ข้าวเรา เป็นต้มผักกาดดองนะ หิวมากเลย เราก็เอา กินก็กิน หมูลอยเต็มเลย เราก็เขี่ยหมูออกไปเรากินมังสวิรัติ เขาไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เราก็กินข้าวแข็งๆ ต้มผักกาดดองก็เค้มมม เค็ม ก็กินเข้าไป กินไม่ไหว แต่ก็พยายามกิน กินไปได้ถ้วยเดียว ถ้วยเล็กๆ ก็พอแล้ว ไม่เอาแล้ว คุณพนิชกินไม่ได้เลยนะ มันเค็ม แล้วคงข้าวแข็งเกินไปก็ไม่ได้กิน

ปานเทพ- ผู้หญิง 2 คน

แซมดิน- ผู้หญิง 2 คนนั้นแยกไปอีกแดนหนึ่ง ผู้หญิง 2 คนก็อยู่รวมกันอีกแดนหนึ่ง ผู้หญิงก็จะดีหน่อย ไปอยู่ห้องกว้างๆ ไม่ได้อยู่เหมือนอย่างเราอยู่ในคุก ถึงแม้จะเป็นห้องพิเศษ มีห้องน้ำ แต่ไม่มีประตู

แก่นฟ้า- ห้องกว้างไหม

แซมดิน- ห้องกว้างประมาณ 1.70x4.5 เมตร ประมาณนั้น ข้างบนดีกว่า ซึ่งห้อง VIP แย่กว่า คืออากาศมันไม่ถ่ายเทเลย ท่าน ส.ส.พนิช ก็จุดทั้งธูป มันเหม็นน่ะ ก็ฉีดพ่นอะไรต่ออะไร เรายังนึกเลยถ้าไปอยู่รวมกับท่านสงสัยจะแย่เหมือนกันนะเนี่ย ไม่รู้จะตายด้วยอะไรแน่

แก่นฟ้า- พ่นเพื่อไล่ยุงไล่แมลงสาบ

แซมดิน- ไล่ยุงไล่แมลงสาบ มันเยอะมาก มียุง หนู แมลงสาบ เยอะ เราก็ หลังจากที่เรานอนที่นั่นคืนหนึ่งแล้ว เช้าก็จะได้ออก ส่วนใหญ่ก็จะได้ออกตอนประมาณ 8 โมง ประมาณนี้ แล้วก็อยู่ถึงประมาณ 10 โมงกว่า 11 โมง แล้วก็กลับเข้าไป แล้วก็อยู่ในนั้น บ่าย 2 ได้ออกมาอีกเที่ยวหนึ่ง 2-4 โมงโดยประมาณนี้ ก็จะออกมาอย่างนี้ทุกคน นอกจากวันอาทิตย์ก็จะไม่ให้ออก เพราะคนไม่ค่อยมี

ปานเทพ- เห็นบอกว่า มีสภาพที่หนู แมลงสาบ

แซมดิน- ของเราถือว่าสกปรก แต่ของเขาเขาถือว่าดีแล้ว ส่วนการดูแลอาหาร หลังจากนั้นท่านทูตก็ส่งอาหาร ให้คนส่งอาหารมา ก็ได้กินดีเหมือนกันหมด เป็นอาหารมังสวิรัติจากร้านอาหารไทยในกัมพูชา

ปานเทพ- มีใครมาข่มขู่คุกคาม หรือทำให้เราบีบคั้น ไม่สบายใจ หรือว่าทำร้ายร่างกาย

แซมดิน- ไม่มีครับ ระวังเรามากเลย เวลาเราเดินไป เขาจะแหวกเลย นักโทษคนอื่นต้องหลบๆๆ นะ เพราะว่าเดี๋ยวกลัวเราเป็นอะไรไป เขาจะลำบาก ของเราจะได้รับการดูแลค่อนข้างดี ถ้าถือว่าเป็นนักโทษเขาก็ดูแลอย่างดี ทางสถานทูตก็ได้ซื้อทั้งเครื่องนอนมาให้ กางเกง เสื้อ มุ้ง เครื่องนอนต่างๆ ก็ซื้ออย่างดีมา ทำให้นักโทษคนอื่นๆ ดูแล้วก็อิจฉาเหมือนกัน ส่วนเงินเราก็ส่วนใหญ่ทางบ้านเราก็ส่งไป เราก็ใช้เงินใช้ทองที่อยู่ในนั้นใช้อำนวยความสะดวกในหลายๆ เรื่อง เรื่องอาหารเช้า เพราะว่าอาหารที่นั่นจะส่งตอนเที่ยงกับตอนเย็น

ปานเทพ- 2 มื้อ

แซมดิน- 2 มื้อครับ แค่เที่ยงกับเย็น แต่เช้าไม่มี เราก็ไปซื้อไมโลซื้อขนมอะไรมากินกันตอนเช้า

ปานเทพ- คุณแก่นฟ้ามีอะไรจะถามไหมครับ

แก่นฟ้า- ก็อยากจะถามว่า อย่างเช่นในคุก ทุกคุกจะต้องมีขาใหญ่

ปานเทพ- มีไหม

แซมดิน- มีครับ เราเห็น พอเช้าขึ้น 7 โมง ขาใหญ่ ใหญ่แล้วในคุกเนี่ย จะมีคนคอยเดินตามเขา จะคอยบีบนวด เราก็รู้นะ เขาก็จะไปนั่งที่ๆ เป็นซุ้ม ซุ้มนั้นจะเป็นซุ้มที่ดีที่สุดในอาคารบี ของเราอยู่อาคารบี ก็จะเป็นซุ้มที่ดีที่สุด แต่พอเราเดินลงไปแล้วนะ ขาใหญ่ที่ว่านั่นเขาก็ต้องออก คือเราเป็นขาพิเศษ

ปานเทพ- ขาใหญ่กว่า

แซมดิน- เราก็ไม่ได้ต้องการอย่างนั้นนะ แต่ว่าเขาก็จะให้เราไปอยู่ แต่ว่าอยู่ในที่นั้น มันจะเป็นบริเวณ บริเวณที่เราอยู่นั้น เราจะไม่ได้ โทรศัพท์ไม่ได้ หนังสือพิมพ์ไม่ได้อ่าน การติดต่อกับบุคคลภายนอกไม่มี โทรทัศน์

ปานเทพ- สิ่งที่พวกผมพูดอยู่ ข้อมูลทั้งหลาย ไม่มีทางรู้เลย

แซมดิน- ไม่มีครับ เห็นอะไรไม่ได้เลย เพราะว่าไม่ให้ใครมาพูดกับเรา พอใครมาพูดกับเรา พอเขารู้ก็จะถูกย้าย ก็จะถูกแยกออกไป ก็จะมีคนที่เขาไว้ใจได้มาอยู่กับเรา คอยแปลให้อะไรให้

ปานเทพ- มาถึงเรื่องของการพูดให้ข้อมูลกับเราได้ในส่วนของฝ่ายรัฐ เขามาพบเรา เยี่ยมเรา

แซมดิน- อ๋อ ท่านรัฐมนตรี ท่านก็ไปเยี่ยมเราครับ ท่านก็ไปเป็นคณะใหญ่เลยครับ ไปเยี่ยมเรา

ปานเทพ- แล้วเขาพูดกับเราว่าอย่างไรบ้าง

แซมดิน- ข้อมูลที่ได้บอกเราว่าเราเข้ามา เขาให้แผนที่ผมนะครับ ผมก็ดูแล้วว่า อ้าว อ๋อนี่เราเข้ามาในเขตของกัมพูชาประมาณ 55 เมตร

ปานเทพ- คือรัฐมนตรีเป็นคนอธิบาย

แซมดิน- ไม่ใช่ครับ ทางเจ้าหน้าที่ให้แผนที่นั้นผมมา

ปานเทพ- แล้วก็บอกว่าเราล้ำไป 55 เมตร

แซมดิน- ใช่ครับ ผมก็เลยขอโทรศัพท์ แล้วก็โทรแจ้งมาทางของเราว่า ตอนนี้เราล้ำเข้ามาจริง เพราะว่าผมเห็นใบนั้นใบเดียว

ปานเทพ- ไม่เห็นข้อมูลอื่น

แซมดิน- ไม่มีครับ

ปานเทพ- เป็นอีกข้อมูล หรือว่ามีพื้นที่ ส.ค.1 เป็นพื้นที่ที่ยังตกลงไม่แล้วเสร็จ มีข้อตกลงว่าห้ามส่งตัวขึ้นสู่ศาล เขาได้พูดกับเราไหม

แซมดิน- ไม่มีเลยครับ ไม่มี

ปานเทพ- มีแต่บอกว่าเราล้ำเข้าไป

แซมดิน- ใช่ครับ ก็มีแผนที่ลักษณะคล้ายๆ กันอย่างนี้ครับ แต่ว่าตรงนี้คือเราล้ำมา 55 เมตร

แก่นฟ้า- ไม่มีเส้นสีฟ้า

ปานเทพ- ไม่มีอธิบายว่าพื้นที่นี้เป็นยังไง มีกาชาดสากลทำงานมาก่อน มีเขมรอพยพ

แซมดิน- ไม่ใช่ครับ

ปานเทพ- ไม่ให้ข้อมูลแบบนี้ บอกว่าเราล้ำอย่างเดียว

แซมดิน- ครับ บอกว่าเราล้ำ ผมก็เลยบอกว่าถ้าเราล้ำ เราก็รับผิดนะ ถ้าเราล้ำ แต่ว่าตอนนั้นก็ยังไม่มีใครรับนะ เพราะมันก็เหมือนกับว่าเราไม่แน่ใจ เราก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่า

ปานเทพ- เพราะเราก็ไม่รู้หรอก เพราะเขาบอกเราแค่นั้นเอง

แซมดิน- ใช่ครับ ก็เป็นการบอกเรา ว่าเราล้ำ คือของเรานะ ถ้าเราผิดเราก็รับผิด จะลงโทษยังไงก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเราไม่ผิด ก็อย่าลงโทษ เราก็บอกว่าให้ความยุติธรรมกับเรา ก็บอกกับศาล เพราะว่าเราไปขึ้นศาลของกัมพูชา เราก็ตั้งใจแล้วว่าเรามาเราทำเพื่อพี่น้องประชาชนที่เขาร้องเรียนมา แล้วเราก็อยากจะมาช่วยเท่านั้นเอง

ปานเทพ- ทั้ง 7 คนนั่นแหล่ะ

แซมดิน- เราไม่ได้มีพื้นที่อยู่แถวนี้ เราไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นเราก็คิดว่า เรามาช่วยแล้ว ถ้าการช่วยของเราแล้วทำให้เราติดคุก เราก็รับนะ ตอนที่ศาลตัดสินน่ะยังตลกมากเลย เพราะว่าผู้แปลเขาก็แปลว่าเราถูกติดคุก 9 เดือน แล้วเขาก็หยุดแค่นั้น เราก็เออ ติดคุก 9 เดือนก็ 9 เดือน จนกระทั่งเขาเดินออกไปหมดแล้ว แล้วมาแปลเพิ่มทีหลัง เดินกันชุลมุนไปแล้ว ศาลก็เลิกไปแล้ว แล้วมาแปลเพิ่มบอกว่า แขวน เนื่องจากเรารับโทษไปแล้ว มาแขวนทีหลัง หรือรอลงอาญาของเราน่ะ

ปานเทพ- ต้องอธิบายนิดหนึ่ง เพราะว่าคุณแก่นฟ้าก็ไปเยี่ยมคุณแซมดินในวันใกล้ๆ หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศไปให้ข้อมูลว่าเราล้ำแล้ว

แซมดิน- เขาไปเยี่ยมทีหนึ่ง

ปานเทพ- คือเป็นข้อมูลเดียวที่เรารับรู้ว่าเราล้ำไป 55 เมตร คุณแก่นฟ้าก็ไป แล้วปรากฏว่าทางสถานทูตก็รายงานอย่างนี้

แก่นฟ้า- ครับ ก็เห็นแผนที่แผ่นนี้ล่ะครับ

ปานเทพ- อย่างเดียว ไม่มีอย่างอื่น

แก่นฟ้า- ไม่มีอย่างอื่น ถ้าเป็นอย่างนี้เราก็ล้ำ คือถ้าเป็นอย่างนี้จริง เราก็ล้ำ

ปานเทพ- แล้วก็ไม่มีข้อมูลอื่น

แก่นฟ้า- ไม่มีข้อมูลอื่น ผมก็ได้ข้อมูลอย่างนี้ ก็แสดงว่าล้ำ

ปานเทพ- ก็เลยเข้าใจว่าล้ำจริงๆ

แก่นฟ้า- ครับ

แซมดิน- ใช่ครับ ผมก็เข้าใจว่าล้ำแล้ว คือของเราเราอยู่บนข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาได้พิสูจน์แล้ว ร่วมกันแล้วว่าเราล้ำ

ปานเทพ- ก็เลยเชื่ออย่างนั้น

แซมดิน- เราก็เลย ล้ำก็ล้ำ ไม่เป็นไร

ปานเทพ- เพราะว่าไม่มีใครให้ข้อมูลด้านอื่น ทนายก็คงไม่รู้ เพราะว่าจะมาดูข้อมูลอื่นก็คงไม่ได้ ถูกไหมครับ

แซมดิน- ทนายคงไม่ทราบหรอกครับ

แก่นฟ้า- ทีนี้ผมก็อยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่าสิ่งที่คุณแซมดินพูด พูดเพื่อเอาตัวรอด 5 คนนี้สารภาพเพียงเพื่อเอาตัวรอดกลับเมืองไทยแค่นั้นเอง จริงๆ แล้วข้อมูลที่เขาได้ก็อย่างที่ผมบอก

ปานเทพ- คือแค่นี้

แก่นฟ้า- แค่นี้ พอแค่นี้ปั๊บก็ต้องยอมรับความจริงว่ามันล้ำขนาดนั้น เพราะเป็นข้อตกลงกัน ในเมื่อรัฐบาลคุยกับรัฐบาล อย่างคุณแซมดินพูด ใช่ไหมครับ ว่าเป็นอย่างนี้ เราจะไปบอกว่าไม่ล้ำได้ยังไง ในเมื่อเขาบอกว่าอย่างนี้

ปานเทพ- รัฐบาลไทยบอกว่าล้ำ

แก่นฟ้า- ครับ ก็ต้องบอกว่าล้ำ

ปานเทพ- จริงๆ ในประเทศไทยเขาสู้กัน 3 ประเด็น ว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะส่งตัว 7 คนไทยขึ้นสู่ศาล ก็คือ 1. มีทั้งข้อมูล ทั้งพยานบุคคล ทั้งเอกสาร ยืนยันว่าเป็นพื้นที่ประเทศไทยอยู่ 2. ถึงแม้ว่า สมมุติว่าไม่ใช่พื้นที่ประเทศไทย ก็ยังเป็นพื้นที่ๆ หลักเขต 46-47 ยังตกลงกันไม่ได้ในชั้นกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา และยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วย นี่คือข้อที่ 2 เพราะฉะนั้นระบุว่าล้ำไม่ได้ และประการที่ 3 มีข้อผูกพัน ระหว่างไทย-กัมพูชามีข้อตกลง ก่อนที่จะถูกจับ ว่าฝั่งกัมพูชาและไทยถ้าประชาชนพลัดหลงซึ่งกันและกัน ห้ามนำตัวส่งขึ้นสู่ศาล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด 3 ประการนี้คุณแซมดินรับทราบไหมครับ ว่ามีข้อตกลง

แซมดิน- ไม่ทราบ

ปานเทพ- ไม่ทราบเลย เขาไม่บอกอะไรเราเลย บอกแต่ว่าเราล้ำ

แซมดิน- ไม่ทราบครับ

ปานเทพ- ถ้าอย่างนั้นก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเราถึงไม่มีทางสู้ นอกจากสารภาพ ใช่ไหมครับ หรือว่าทำอะไร

แซมดิน- ตอนนั้นเราก็ไม่ถึงกับสารภาพนะครับ คือของเรายังมั่นใจว่าเราอยู่ในประเทศไทย แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเราเข้าในพื้นที่ของเขาก็ลงโทษไป เท่านั้นเอง แต่เรามั่นใจเพราะว่าเราหาหลัก 46 อย่างเดียว ซึ่งเรายังไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน

ปานเทพ- คุณแซมดินได้เขียนจดหมายถึง พล.ต.จำลอง ระหว่างที่คุณแก่นฟ้าไปเยี่ยม ได้เขียนแต่ก็ไม่ได้นำออกมา

แซมดิน- เขายึดหมดล่ะครับ

ปานเทพ- เขียนอะไรครับ

แซมดิน- เขียนว่าตอนนี้รัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาเขายังเจรจากันอยู่ ก็แค่นี้

ปานเทพ- แต่ถูกยึดไปเรียบร้อยแล้ว

แซมดิน - เขายึดไป

ปานเทพ- คงไปแปลต่อ

แซมดิน- หรืออาจจะยาวกว่านี้นิดหน่อย จำไม่ได้ แต่เนื้อหามันลักษณะอย่างนั้น มีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ไม่รู้จำได้ไหม

แก่นฟ้า- คือผมจำไม่ได้นะครับ เพียงแต่ว่าทางจากที่เจรจากันบอกว่าในกระบวนการที่กำลังดำเนินการอยู่ ก็อย่าให้พวกเรารุนแรง

ปานเทพ- คือการเคลื่อนไหว

แซมดิน- การเคลื่อนไหวก็ไม่อยากให้รุนแรง เพราะว่าเคลื่อนไหวรุนแรงแล้วเดี๋ยว 7 คนจะมีปัญหา คือเราก็เกรงว่า เดี๋ยวเขาโกรธ

ปานเทพ- คือข้อความนี้ไม่ได้เป็นข้อความถูกขู่เข็ญบังคับ ที่เราส่งสื่อสารกลับมา

แซมดิน- ไม่ครับ

ปานเทพ- คือเราได้รับการติดต่อมาว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวในช่วงเวลาตอนนี้ ทางกัมพูชาจะโกรธ

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- เป็นความตั้งใจของคุณแซมดินเอง

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- เพราะเข้าใจว่าข้อมูลที่รัฐบาลให้มา เราผิดแน่นอนแล้ว

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- ด้วยความเข้าใจแค่นั้น

แซมดิน- ใช่ครับ

ปานเทพ- ก็เลยต้องการบอกว่าถ้าอย่างนั้นอย่าเพิ่งเคลื่อนไหว

แซมดิน- อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวเลย เพราะว่าเดี๋ยวมันจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศกันเพิ่มมากขึ้น

ปานเทพ- ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พันธมิตรฯ ยังตัดสินใจยังไม่เคลื่อน นี่เรียนตามตรงเลย

แซมดิน- ก็อย่างนั้นจริงๆ ผมก็คิดอย่างนั้นจริงๆ ว่าถ้าเราผิด เราก็ผิด ก็แล้วแต่ศาลกัมพูชาเขาจะตัดสิน เราก็คิดได้แค่นั้น เพราะเราดูแล้วว่ามีคำพูดคำหนึ่ง เขาบอกว่า ถ้าเป็นแผ่นดินไทยจริงๆ ทำไมตำรวจ ทหารที่มาหาคุณ ทำไมไม่ช่วยคุณล่ะ

ปานเทพ- นี่ใครพูดครับ

แซมดิน- ทาง ตม. ตม.เขาพูดเราก็อึ้งไปเหมือนกัน คือเขาถามทางคุณวีระนะ

ปานเทพ- ถ้าเป็นพื้นที่แผ่นดินไทยจริง ทำไมตำรวจหรือทหารไม่มาช่วยเรา

แซมดิน- เออ ทำไมไม่ช่วยคุณล่ะเนี่ย ก็เข้ามาแล้วนี่ ทำไมไม่ช่วยคุณล่ะ

ปานเทพ- คงจะเป็นคำถามที่เป็นสามัญสำนึกธรรมดาเลยนะครับ

แซมดิน- เราก็บอก เออ ก็จริงเว้ย ถ้าเป็นแผ่นดินเราก็ต้องช่วยเราไปแล้วสิ เราเป็นคนไทยนี่ เราก็อยู่ในแผ่นดินไทย ทำไมไม่มาช่วยเรา เราก็คิดอย่างนั้น คุณวีระโดนคำถามนี้

ปานเทพ- ขึ้นศาลกี่ครั้งครับ

แซมดิน- ขึ้นศาลเหรอ ศาลเรียกมาสอบโดยศาลชั้นต้นก็สอบวันที่อัยการครับ

ปานเทพ- วันเดียวกันเลย

แซมดิน- วันเดียวกัน แล้วก็กลับไป ตอนนี้การประกันตัว ในวันที่ 13 ท่านพนิช กับคุณนฤมล ออกมาก่อน ได้รับการประกันก่อน เนื่องจากว่าทั้งสองป่วย

ปานเทพ- ทั้งคู่ป่วย

แซมดิน- ทั้งคู่ป่วย คุณพนิชบวมมากเลยนะ เท้า โดนแมลงสาบ ผมว่า เอ๊ะ แมลงสาบกัดทำไมบวมขนาดนี้ เท้าบวม แล้วก็กัดศีรษะ ก็เลยจำเป็นต้องโกน

ปานเทพ- แมลงสาบ

แซมดิน- แมลงสาบ เข้าไปกัด ของผมมันก็เข้ามุ้งเหมือนกัน ผมก็จับแล้วก็เอาไปปล่อยข้างนอก ก็บวม แกแพ้ แต่การโกนหัวเนี่ย ที่นั่นเขาถือสามากเลยนะ เรียกสอบกัน คนตัดผมนี่โดนขัง ไม่ได้ออกเลย

ปานเทพ- ทำไมล่ะ

แซมดิน- โดนขังไม่ได้ออกมาอีก 1 วันเลย

ปานเทพ- เพราะ?

แซมดิน- เพราะเขาถือว่า

ปานเทพ- การโกนหัวเป็นการลงโทษ

แซมดิน- การโกนหัวเขาไม่เป็นธรรมเนียมนิยมของที่นั่น ต้องมีญาติ ที่เขมรเขาคิดว่าญาติเสียชีวิต แต่นี่เราถือว่ามันเป็นเชื้อโรค และเราต้องการทำความสะอาดให้ง่าย เราก็โกน คือคุณพนิชกับคุณนฤมลเขาก็ออกมาก่อน ส่วนเรา ทางสถานทูตและก็ทางรัฐบาลไทยก็พยายามหาทางวิธีการประกันตัวออกมาทั้งหมด ตอนหลังก็ออกมาเพิ่ม ทางคุณราตรีก็ได้ประกันออกมาได้ ก็อยู่คุณวีระคนเดียว

ปานเทพ- สุดท้ายทนายเขาไม่ได้สู้ประเด็นที่เรามาพูดกันวันนี้ใช่ไหมครับ ที่เราสู้ข้อมูลในประเทศไทยว่าการสำรวจจัดทำหลักเขตแดนไม่แล้วเสร็จ MOU 243

แซมดิน- ไม่มีครับ ไม่ได้สู้ตรงนี้ ก็เหมือนกับเราไม่มีเจตนา ไม่มีความตั้งใจ เข้ามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อจะมาดูหลัก 46 เท่านั้น

ปานเทพ- คือสู้ในประเด็นนี้ ว่าไม่มีความตั้งใจ

แซมดิน- เราไม่มีความตั้งใจที่จะมารุกล้ำอะไร ก็เหมือนเจตนาจริงๆ ของเราที่เราเดินเข้าไป

ปานเทพ- ตอนกลับไปที่สถานทูตอีกครั้ง เราได้มีการพูดคุยกับคนไทยได้มากขึ้นไหม ในประเทศไทย

แซมดิน- หลังจากที่เราออกมาแล้ว หลังจากที่เราได้รับประกันตัวออกมาก็เหลือคุณวีระคนเดียวที่ยังคงค้างอยู่ในคุก ตอนนี้เราได้ตามหนังสือพิมพ์ เช็กโทรทัศน์ เริ่มทราบแล้วว่ามันมีข้อมูลในลักษณะนี้

ปานเทพ- เพิ่งรู้ข้อมูลหลังจากที่ศาลพิจารณาจบไปแล้ว

แซมดิน- ใช่ครับๆ อยู่ที่ทำเนียบท่านเอกอัครราชทูตไทย

ปานเทพ- ถึงได้เพิ่งรู้

แซมดิน- ครับ ก็มีข้อมูลทุกอย่าง ท่านก็เอื้ออำนวยความสะดวกดีมาก ให้นอน ให้ที่หลับที่นอน อาหารการกิน และอยากรู้ข้อมูลอะไรก็ให้ทั้งหมด เราก็เช็กทั้งโทรทัศน์ เช็กทั้งหนังสือพิมพ์ และนิตยสารอะไรต่างๆ ก็อ่าน

ปานเทพ- จึงได้รู้ข้อมูลว่ามันไม่ได้มีข้อมูลแค่เราล้ำอย่างเดียว มันยังมีข้อมูลที่ต่อสู้กันอีกมาก

แซมดิน- ก็มีอยู่ แต่รายละเอียดเรายังไม่ชัดเจน จนมาวันนี้ก็ชัดเจนมากขึ้น ทางอาจารย์ก็ให้เพิ่มเติม

ปานเทพ- ครับ ทีนี้ก็จะให้เพิ่มเติมนิดหนึ่งว่า หลังจากเราพิจารณาได้ประกันตัว ไปฟังศาล ตกลงศาลพิพากษาว่าอย่างไร ที่เราได้รับฟังมา ตอนนี้เรารอการแปลทางการอยู่นะครับ แต่ว่าคุณแซมดินได้ยินว่ายังไง ความผิดฐานอะไร ว่าอย่างไรบ้าง

แซมดิน- คือก็ 2 ข้อนั้นผิดหมดล่ะครับ คือเข้ามาในแผ่นดินกัมพูชา

ปานเทพ- เข้ามาในแผ่นดินกัมพูชา เขาใช้คำนี้เลย

แซมดิน- โดยผิดกฎหมาย และเข้าไปในเขตทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 ข้อนี้ก็ผิด เขาก็เลยลงโทษ ลงโทษเราก็คือปรับเรา 1 ล้านเรียล แล้วก็ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ยึดเลยครับ ทั้งโทรศัพท์ ทั้งวิดีโออะไรต่างๆ ก็ยึดไป แล้วก็จำคุก 9 เดือน แต่ว่าให้รอลงอาญา ก็เลยกลับได้

ปานเทพ- อีก 2 คน

แซมดิน- อีก 2 คนนั้น มีข้อหาเพิ่มเติม

ปานเทพ- เขาสู้ว่าอย่างไร

แซมดิน- เขาสู้ว่าเขายังอยู่ในแผ่นดินไทย เพราะคุณวีระมั่นใจมากว่ายังอยู่ในแผ่นดินไทย

ปานเทพ- เพราะว่าเขามีข้อมูลมาโดยตลอด

แซมดิน- คุณวีระมีข้อมูลมากกว่าพวกเรามี เพราะว่าเขาศึกษาเรื่องนี้มาก่อน และมั่นใจว่ายังอยู่ในแผ่นดินไทย

ปานเทพ- เพราะฉะนั้นในกระบวนการต่อสู้ของเขา ก็เลยสู้ว่า

แซมดิน- ก็สู้กับทางกฎหมาย แต่ของเราเลือกสู้ทางการเมือง

ปานเทพ- ระหว่างการพิจารณาเรานั่งฟังอยู่ด้วยไหมครับ

แซมดิน- นั่งครับ

ปานเทพ- นั่งฟังตลอด

แซมดิน- นั่งฟังตลอดครับ

ปานเทพ- ทางกัมพูชาได้อ้างเอกสารหรือหลักฐานอะไรบ้าง

แซมดิน- มีหมดล่ะครับ ว่าแผนที่เขาก็ไม่เหมือนแผนที่ของเรานะครับ แผนที่ของเขาเส้นของเขาจะเหมือนกับว่า ของเราตรงนี้จาก 55 เมตร ของเขาเป็น 195 ว่าเราล้ำเข้าไป 195 เมตร ของเขาก็มีแผนที่ของเขาเอง เขาบอกผู้เชี่ยวชาญ มาทั้งฝ่ายความมั่นคง มาทั้ง ตม. มาทั้งตำรวจ มาทั้งผู้เชี่ยวชาญแผนที่ มากันเยอะมากเลย จนกระทั่งบอกได้ว่าเรารุกล้ำเข้าไปในแผ่นดิน

ปานเทพ- มันไม่ข้อมูลคัดง้างอย่างอื่นเลยที่เป็นข้อมูลของฝ่ายรัฐบาลไทยที่เข้าไปช่วย

แซมดิน- ไม่มีครับ

แก่นฟ้า- ถ้า 195 เมตร ก็ประมาณเส้นสีเหลืองนี่

ปานเทพ- ก็คือจากแนวรั้ว

แก่นฟ้า- แต่ถ้าทางยาวคือ 500 กว่า

ปานเทพ- แค่วัดก็ยังไม่เหมือนกัน

แซมดิน- นี่คือตามที่ศาลและผู้เชี่ยวชาญ

ปานเทพ- ก็คือศาลเขาไม่ได้ตัดสินอย่างอื่นเลย คือตัดสินว่าเราผิดที่เข้าไปในเขตกัมพูชา

แซมดิน- ครับ

ปานเทพ- เขาไม่ได้พูดถึงพื้นที่พิพาท ไม่ได้พูดพื้นที่ที่ตกลงกันไม่ได้ ไม่ใช่

แซมดิน- ไม่ใช่ครับ

ปานเทพ- เขาบอกเลยว่าเป็นพื้นที่

แซมดิน- ของกัมพูชา

ปานเทพ- ของกัมพูชาเลย นี่มีความหมายมากเลยนะครับ

แก่นฟ้า- แม้แต่วัดก็วัดคนละเส้น

ปานเทพ- ทีนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ผมมีวิดีโอคลิปให้คุณแซมดินได้ดู เพราะว่าไม่ได้ดู ASTV เลย แน่นอนอยู่แล้ว

แซมดิน- อ๋อ ไม่ได้ดูหรอกครับ

ปานเทพ- ให้ดูคลิปของชาวบ้านสระแก้วพูดถึงจุดที่จับ 2 ตอน ตอนแรกวันที่ 5 มกราคม ตอนที่ 2 วันที่ 15 มกราคม เพื่อให้คุณแซมดินได้รู้ว่าตัวเองนั้นถูกจับในพื้นที่ที่ชาวบ้านคนไทยเขาพูดว่าอย่างไรกันบ้าง

(VTR)

ปานเทพ- ฟังข้อมูลแล้วเป็นยังไงครับ

แซมดิน- ฟังข้อมูลแล้วทำให้เราแน่ใจเลยว่าเรายังอยู่ในแผ่นดินไทยจริงๆ

ปานเทพ- จากชาวบ้าน ไม่ใช่ผมนะครับ ผมก็ลากเส้นบอกว่า จาก สค.1 เอกสารที่เขาได้รับ เขาเคยเห็นตามเส้นเขตแนวเป็นแบบนี้

แซมดิน- ถ้าอย่างนั้นก็ดีใจที่เรายังไม่ไปกัมพูชา

ปานเทพ- แต่ระหว่างการต่อสู้อาจจะไม่ได้นึกว่าหลักเขตมันเคลื่อนย้ายได้ครับ คุณแซมดิน เพราะฉะนั้นนี่เป็นช่วงทีหลังหลังจากที่เขมรอพยพ และมีการเคลื่อนย้ายหลักเขตกัน ทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ถึงมีชาวบ้านออกมายืนยันเรื่องสระน้ำ เพราะเป็นสัญลักษณ์เป็นสำคัญ ก็เลยจะให้คุณแซมดินได้เห็นเพิ่มเติม ทางข้อมูลข่าวสาร คุณศิริโชคมาทำใหม่ บอกว่านายบุญจันทร์อยู่พื้นที่นี้ และนายหมา อยู่สระน้ำเนี่ย เข้าใจผิด ตามที่ในประเทศอ้างนั้นเป็นคนละที่ดินของนายหมา และไม่ได้อยู่บนที่ดินของนายหมา ตามที่นายปานเทพกล่าวอ้างแต่อย่างใด ผมเรียนนะครับนี่เป็นคำพูดที่บิดเบือนจากนักการเมือง เพราะไม่ใช่ผมพูด ชาวบ้านเจ้าของที่ดินเขาชี้จุดเอง เพราะฉะนั้นแล้วก็เรียนให้ทราบแล้วกันครับว่าอะไรเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

แซมดิน- ครับ ก็ นายตายแน่เขาก็ยังคงตามอยู่ และผมก็ต้องตามข้อมูลนี้อยู่

ปานเทพ- เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมที่ไม่เข้าใจว่าทำไม 5 คนถึงออกมาก่อน ก็เรียนให้ทราบว่า ถึงชั่วโมงนี้เขาไม่มีข้อมูลต่อสู้เลย มีแค่กระทรวงการต่างประเทศไปชี้ว่าเขาล้ำอยู่ 55 เมตร ตามเส้นสีชมพูนี้ เท่านี้ ไม่มีข้อมูลอย่างอื่นเลย แต่คุณวีระเขาไปมาแล้วก็อาจจะมีข้อมูลมากกว่า ก็เลยอาจทำให้เลือกแนวทางจะต่อสู้ว่านี่คือผืนแผ่นดินไทย

แซมดิน- ใช่ครับ คุณวีระจะต่อสู้ทางกฎหมายต่อ

ปานเทพ- แล้วมีใครมาโน้มน้าวให้เรายอมรับผิดไหมครับ

แซมดิน- ไม่มีครับ แล้วเราก็ไม่ได้ยอมรับด้วยว่าเราเข้าในแผ่นดินเขา เรายังมั่นใจว่าเราอยู่แผ่นดินไทย แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเราเข้ามาก็เป็นเรื่องของศาลจะพิสูจน์กันไป

ปานเทพ- เราให้การกับศาลว่า?

แซมดิน- เรายังมั่นใจว่าเราอยู่ในแผ่นดินไทย แต่เป็นเรื่องของศาลที่จะพิสูจน์ว่า ถ้าเรา คือเราไม่รู้จริงๆ ว่า เราล้ำหรือไม่ล้ำ แต่ข้อมูลที่เรามีตอนหลัง ถึงได้รู้ว่าเราล้ำ เราล้ำเราก็บอกเพื่อนเรา เท่านั้นเอง ว่าตอนนี้เราล้ำมาแล้ว

ปานเทพ- คุณแก่นฟ้ามีอะไรเพิ่มเติมไหมครับ เชิญครับ

แก่นฟ้า- ก็เป็นเรื่องที่ มันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีขีดจำกัดของข้อมูลแค่นั้น

ปานเทพ- เพราะคุณแก่นฟ้าก็ไปเยี่ยมครั้งหนึ่ง ก็เห็นแค่นั้นจริงๆ

แก่นฟ้า- ครับแค่นั้นจริงๆ

ปานเทพ- เห็นข้อมูลแค่นั้น

แก่นฟ้า- ข้อมูลที่คุณปานเทพพูดตอนหลัง ผมก็รู้ตอนหลัง หลังจากที่ผมไปเยี่ยมแล้วนะครับ ก็มีข้อมูลแค่นั้นจริงๆ นะครับ ถ้าเป็นข้อมูลแค่นั้นจริงๆ ผมก็เชื่อตามที่แซมบอก ว่าเราล้ำจริงๆ ถ้าเป็นข้อมูลตามนี้นะครับ แต่พอผมมารู้ข้อมูลคราวหลังที่ออกมาเรื่อยๆ แล้วโดยเฉพาะสระน้ำยูเอ็น ที่ล่าสุด

ปานเทพ- อันนี้คุณแก่นฟ้าเห็นเองเลย เคยมีประสบการณ์มาก่อน

แก่นฟ้า- ถ้าสระน้ำยูเอ็น ผมทำงานที่นั่นตั้งหลายปีนะครับ ตั้ง 5 ปีทำงานที่นั่น ก็ชัดเจนแล้วว่าอันนี้มันอยู่ในเขตไทยแน่ แล้วก็แถบนี้ผมเคยให้คนเข้าไปรับคนเจ็บคนป่วยอยู่ตลอดเวลา ที่โดนกับระเบิดอะไรออกมา เพราะอย่างนั้นต้องถูกจับในประเทศไทยแน่ๆ นี่คือสิ่งที่ผมได้ข้อมูลทีหลัง

ปานเทพ- เวลาช่วงสุดท้ายให้คุณแซมดิน อยากจะบอกอะไรกับประชาชนที่ชม ASTV อยู่ เชิญเลยครับ

แซมดิน- ครับ ก็ต้องขอบคุณมากสำหรับพี่น้องประชาชนทุกคนที่ส่งแรงใจไปช่วยพวกเรา แต่พวกเราทุกคนก็เข้มแข็ง และก็การต่อสู้ครั้งนี้คิดว่าได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์สำหรับการที่จะมาสอบความจริงว่าเป็นอย่างไร ถ้าได้ความจริงออกมาเป็นอย่างไร ก็คิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้น แล้วก็เราไม่ได้ต้องการแผ่นดินของกัมพูชาแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่เราก็ไม่ได้ต้องการที่จะเสียแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียวเช่นกัน เราต้องการให้บ้านพี่เมืองน้องอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ไม่ต้องการที่จะไปทะเลาะวิวาทหรือหาเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะต้องสูญเสียแผ่นดิน เราก็ไม่ยอม เพราะฉะนั้นก็ต้องพิสูจน์กันนะครับว่าความจริงเป็นอย่างไร ซึ่งผมคิดว่าภาครัฐกับภาคประชาชนน่าจะเอาข้อมูลมาพิสูจน์กันว่าความจริงเป็นอย่างไร แล้วใช้ข้อมูลตามที่เป็นจริง ผมไม่คิดว่าการที่เราทะเลาะเบาะแว้งหรือแตกแยกกันทุกวันนี้ ภาพมันออกเป็นอย่างนั้น ในขณะเดียวกันกัมพูชาก็ยังใช้พื้นที่ของแผ่นดินไทยไปเรื่อยๆ อย่างนี้ก็ไม่ถูก ตามความเห็นผม เพราะฉะนั้นภาคประชาชนก็ควรจะกดดันภาครัฐช่วงนี้เพื่อที่จะให้พิสูจน์ออกมาโดยเร็วว่าแผ่นดินไทยเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามผมก็คิดว่า ก็ต้องใช้วิธีการเจรจากันก่อน ก็คิดอย่างนั้นครับ

ปานเทพ- แต่สิ่งที่ได้แน่ๆ วันนี้ได้พิสูจน์ได้ว่าที่ดินทำกินของคนไทยถูกกัมพูชายึดครองอยู่จริง

แซมดิน- ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าข้อมูลลักษณะนี้ ผมก็ชัดเจนตามที่คลิปวิดีโอเมื่อกี้นี้

ปานเทพ- รวมถึง ใครอาจจะไม่รู้นะครับว่า MOU 2543 นั้นระบุว่าก่อนปี 2543 ถ้าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรให้เป็นอย่างนั้นจนกว่าการเจรจาจะแล้วเสร็จ เพราะฉะนั้นแล้วอันนี้ก็เป็นปัญหาอยู่มาก เพราะว่าจะทำให้เขมรซึ่งยึดพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ต้องออก เพราะทำยังไงก็ไม่ยอมเจรจาให้แล้วเสร็จ แล้วก็ยึดครองต่อไปอย่างไม่มีขีดจำกัด อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นปัญหาใหม่ที่เราได้เห็นจากปรากฏการณ์นี้อย่างชัดเจนนะครับ

แซมดิน- ครับ

ปานเทพ- วันนี้ขอบพระคุณ 2 ท่านมากนะครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้ากับรายการสภาท่าพระอาทิตย์ อ้อไม่มีแล้วนะครับ เราเจอกันที่นู่นเลย สะพานมัฆวานรังสรรค์ ผมกับคุณแซมดิน คุณแก่นฟ้า ก็อยู่แถวนั้น นับตั้งแต่สัปดาห์หน้า หลังวันที่ 25 มกราคมเป็นต้นไป เจอกันที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ครับ เราทั้ง 3 คนลาไปก่อน สวัสดีครับ / สวัสดีครับ






กำลังโหลดความคิดเห็น