xs
xsm
sm
md
lg

หลักเขตถูกย้าย เขมรรุกล้ำชายแดนสระแก้ว 8.8 พันไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพมนตรี ลิมปพยอม
“เทพมนตรี” ชี้เขมรอพยพเข้ามาที่โคกสูง ทำให้หลักเขตต้องอยู่แนวหลังหมู่บ้าน ทหารยืนยันคนไทยถูกจับในเขตไทย เผยมีหลายหลักเขตถูกเคลื่อนย้าย-สูญหาย เขมรรุกล้ำชายแดนไทย จ.สระแก้ว อีก 8,800 ไร่ “ชวนนท์” วอนให้แบ่งเรื่องช่วยคนไทยกับเรื่องเขตแดนออกจากกัน ชี้การปักปันเขตแดนต้องเจรจากันต่อไป สัปดาห์หน้าจะเร่งยื่นขอประกันตัว นำคนไทยทั้ง 7 คน กลับมาให้ได้โดยเร็ว


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนา “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” โดย นายเทพมนตรี ลิมปพยอม 

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ กล่าวในการเสวนา “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าพื้นที่บ้านโคกสูง บ้านหนองจาน เดิมมีโฉนดอยู่ใน จ.ปราจีนบุรี หลังจากมีชุมชนเขมรอพยพเข้ามาอยู่ในบริเวณดังกล่าว ทำให้หลักเขตที่ 45, 46, 47 และ 48 จะต้องอยู่หลังหมู่ บ้านชาวกัมพูชาดังกล่าว และทหารไทยจะต้องอยู่ประจำหลักเขตฝั่งไทย ซึ่งหมายถึงว่าเขตแดนของไทยจะต้องอยู่หลังหมู่บ้าน และจากพิกัดแผนที่ของทหารระบุว่าจุดที่คนไทยทั้ง 7 คน ถูกจับกุมอยู่ที่พิกัด T518234 ซึ่งเมื่อดูตามแผนที่แล้วจะเห็นได้ชัดว่าอยู่ในเขตแดนของไทย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลักเขตหลายหลักถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาในฝั่งไทย บางหลักเขตถูกทำลาย ทำให้มีแนวหลักเขตแดน 2 แนว คือ แนวหลักเขตแดนเดิม และแนวที่ถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาในฝั่งไทย (ช่วงหลักเขต 48-49) โดยกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่รวม 8,800 ไร่ บริเวณบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ รวมถึงที่ อ.คลองลึก จ.สระแก้ว

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในรายการ “ตอบโจทย์” ทางทีวีไทย ระบุว่า กรณีคนไทย 7 คนที่ถูกจับกุมโดยกัมพูชา วันนี้ศาลกัมพูชาใช้เวลา 11 ชั่วโมง ทบทวนสำนวนก่อนสั่งฟ้อง ขณะนี้มีการยืนยัน 2 ข้อกล่าวหา คือ เข้าเมืองผิดกฎหมาย และรุกล้ำเขตแดนทหาร ทางเราก็ขอให้เร่งรัดกระบวนการพิจารณาให้เร็ว ซึ่งต้องรอดูวันเปิดทำการในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการพิจารณาคดี มีการพิพากษาอย่างไร และจะมีการประกันตัวอย่างไร ซึ่งตาตมกระบวนการศาลของกัมพูชาถ้ายื่นขอประกันตัวจะทราบผลภายใน 5 วัน ถ้ายื่นวันจันทร์ (10 ม.ค.) ก็จะทราบผลการประกันตัววันศุกร์ (14 ม.ค.) โดยเป้าหมายหลักขณะนี้คือการนำคนไทยทั้ง 7 คน กลับมาให้เร็วที่สุด

นายทรงฤทธิ์ โพนเงิน อาจารย์ศูนย์แม่น้ำโขงศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวว่า จากการที่ศาลดำเนินการในวันนี้ (6 ม.ค.) สะท้อนถึงความพยายามจะปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น และจากการให้สัมภาษณ์และท่าทีของนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในช่วงที่ผ่านมาก็เห็นว่าต้องการใช้การเจรจาด้วยสันติวิธี ต้องการทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น โดยท่าทีของนายฮุนเซนก็ไม่ได้โฉ่งฉ่างเหมือนเดิม ซึ่งกรณีที่คนไทยถูกจับกุมครั้งนี้เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีความไม่ชัดเจนเรื่องเขตแดน โดยยังมีเขตแดนที่ยังไม่ปักปัน มีหลักเขตแดนสูญหายไปหลายแห่ง ที่ จ.สระแก้ว มีหลักเขตแดนหายไปถึง 6 หลัก

นายชวนนท์กล่าวว่า วันนี้ไทยและกัมพูชาได้เดินหน้าการเจรจาปรับความสัมพันธ์ระหว่างกัน นายกฯ ได้พบปะกัน ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี รวมถึงเรื่องมรดกก็ตกลงกับว่าจะมีการพบปะกันก่อนจะถึงการประชุมมรดกโลกที่บาห์เรน ซึ่งกรณีคนไทย 7 คน เราก็ขอว่าอย่าให้ทอดยาวเกินไป เพราะจะทำให้ประชาชนคนไทยไม่สบายใจ อาจจะทำให้กระทบในเรื่องอื่นๆและกระทบความสัมพันธ์ ซึ่งไทยและกัมพูชาต้องทำความเข้าใจร่วมกันในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องเขตแดน เรื่องเขาพระวิหาร ถ้ามีความเข้าใจร่วมกันมีความสัมพันธ์ที่ดีก็เจรจากันได้ด้วยดี

ตนอยากให้แบ่งเรื่องการให้ความช่วยเหลือคนไทย 7 คน กับเรื่องข้อพิพาทเขตแดนออกจากกัน เพราะเรื่องเขตแดนจะต้องไปเจรจาในกรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ที่ยังมีความเห็นเรื่องหลักเขตแดนไม่ตรงกัน การให้ความช่วยเหลือคนไทย ไม่ใช่แสดงว่าว่าเรายอมรับเรื่องเขตแดน แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการในพื้นที่ซึ่งมีการพลัดหลงข้ามเขตแดนด้วยกันทั้งสองฝ่าย เราก็มีการจับกุมชาวกัมพูชาที่เข้ามาเช่นกัน ส่วนเรื่องเขตแดนจะต้องรอการจัดทำหลักเขตแดน รอการปักปันเขตแดนให้ได้ข้อสรุป

นายทรงฤทธิ์กล่าวว่า ในกัมพูชาเองก็มีรัฐบาล มีฝ่ายค้าน ถ้าฮุนเซนทำอะไรที่ละเลยกฎหมายประเทศเขา ก็อาจเป็นช่องว่างให้ถูกโจมตีทางการเมืองได้ ต้องติดตามดูว่าคดีนี้จะจบลงอย่างไร คนไทยจะมีความผิดอย่างไร ซึ่งในพื้นที่นั้นยังไม่มีความชัดเจน หากถูกชี้ว่าเป็นการรุกล้ำเขตแดนแล้วมีการอ้างเรื่องนี้ในอนาคต ก็จะสะท้อนถึงความจริงใจของฮุนเซนในการเจรจากับไทย โดยในกัมพูชาจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในปีหน้าและการเลือกตั้งใหญ่ในปีถัดไป ที่ผ่านมาการได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกทำให้ฮุนเซนชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในช่วงที่ผ่านมา แต่หลังจากขึ้นทะเบียนแล้วยังไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ ตกถึงประชาชน นอกจากข้อพิพาทเขตแดนกับไทย กัมพูชาก็ยังมีปัญหาเขตแดนด้านเวียดนามด้วย ซึ่งถ้าฝ่ายค้านโหมกระแสเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมืองก็จะไม่เป็นผลดี เรื่องปัญหาชายแดนที่ยังตกลงกันไม่ได้ ควรจะเริ่มเจรจาจากสิ่งที่มีอยู่ ที่ได้ข้อตกลงร่วมกัน ดีกว่าจะเพิ่มปมปัญหาใหม่ๆ ขึ้นมา หากมีความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วยดีการเจรจาก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น ในกรณีคนไทย 7 คน ถ้าคดีนี้จบได้เร็วความสัมพันธ์ระหว่างกันก็จะดีขึ้นได้

นายชวนนท์กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ก็ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ก็ไม่อยากให้ปัจจัยภายนอกมากระทบการเจรจา เพราะหากมีการเมืองมากดดัน บางครั้งการเจรจาก็จะทำให้มีแรงต้านกลับมา ซึ่งเรื่องการพลัดหลงในแนวเขตแดนก็มีการจับกุมกันมาโดยตลอด เราก็ต้องเจรจากัน ชี้แจงว่าเรามีเจตนาตรวจสอบพื้นที่ แต่ไม่มีความชำนาญในเส้นทาง ไม่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ เมื่อเกิดมีการพลัดหลงก็ต้องพูดคุยกัน ส่วนคนไทยที่ถูกจับกุมทางสถานทูตไทยก็ได้ดูแล โดยขออนุญาตทางเรือนจำเพื่อส่งอาหาร ส่งเสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นซึ่งตอนนี้การดำเนินการก็ไม่ได้ติดขัดอะไร และจะดำเนินการนำตัวคนไทยทั้ง 7 คน กลับมาให้เร็วที่สุด
ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
กำลังโหลดความคิดเห็น