เจรจายก 2 ยุติ หลัง“วีระ” เปิดฉากจี้ถามรัฐยุบสภา 15 วัน นายกฯ ฟันธงยุบตอนนี้วุ่นวายไม่จบ ด้าน “ไอ้ตู่” ฉวยโอกาสเปิดอภิปรายย่อย ป้ายสีนายกฯ ทำลายบรรยากาศ เจอ “มาร์ค” ตอกหน้าถาม รธน.มิชอบ ลงเลือกตั้งทำไม ชี้ใครจะเชื่อยุบวันนี้ เลือกตั้งสงบ ด้าน “เหวง” หลุดโลกกล่าวหา รบ.สั่งเข่นฆ่าประชาชน นำภาพจลาจลเดือน เม.ย.มาบิดเบือน “วีระ”เสียงอ่อย ยกเลิกขีดเส้นยุบสภาภายใน 15 วัน “มาร์ค” ชิงจังหวะยื่นข้อเสนอทำประชามติ แก้ไข รธน.ภายในสิ้นปี "ตู่"ยืนกระต่ายขาเดียว ยุบใน 15 วัน สุดท้ายไร้ข้อสรุป แกนนำ"ไข่แม้ว"ลั่นเลิกเจรจา
คลิกที่นี่ เพื่อฟังการเจรจาระหว่างรัฐบาล VS นปช.
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่สถาบันพระปกเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดโต๊ะเจรจาระหว่างรัฐบาลและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) ในวันที่ 2 เพื่อหาข้อยุติและหาทางออกของสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ที่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เริ่มคึกคัก มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 100 ชีวิต เดินทางเฝ้าเกาะติดสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ทางสถาบันพระปกเกล้าได้มีการเตรียมความพร้อมมากกว่าวันแรก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนมาก ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบมาดูแลรักษาความสงบอย่างเข้มงวด โดยมีการจัดระเบียบนักข่าว ช่างภาพ ด้วยการกั้นแนว ยืนเกาะติดสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายอย่างวันแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเจรจาระหว่างรัฐบาล และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นครั้งที่ 2 ว่า ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงที่ประชุมแล้ว โดยมี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มาต้อนรับ พร้อมด้วย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ด้านทางฝั่งคนเสื้อแดง ยังคงเป็น นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง ล่าสุดได้เดินทางเข้าสู่ที่ประชุมแล้ว โดยผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 2 ฝ่ายมีสีหน้ายิ้มแย้มก่อนเริ่มการเจรจา
กระทั่งเวลา 18.15 น.การเจรจาได้เริ่มเปิดฉากขึ้น โดยนายวีระได้กล่าวว่า การเจรจาในวันนี้ก็จะมาสอบถามในเงื่อนไขเดิมว่า รัฐบาลจะยุบสภาได้ภายใน 15 วันหรือไม่ หลังได้ยื่นเงื่อนไข และได้นำกลับไปทบทวนเมื่อคืนนี้ เพราะเชื่อว่าระยะเวลา 15 วัน ถือว่าเหมาะสมแล้ว
นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า การที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็คงจะมีเงื่อนไขใหม่ที่สามารถนำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบ ฟันธงว่าจะยุบสภาในวันนี้หรืออีก 15 วัน ข้างหน้าไม่ต่างกัน เพราะไม่เชื่อข้อเสนอที่ว่ายุบสภาแล้ว จะนำไปสู่ความสงบ เพราะประชาชนส่วนใหญ่รวมทั้งจากฝ่ายต่างๆไม่เห็นด้วยกับเสนอนี้ และวาระของรัฐบาลที่เหลือยู่ 1 ปี 9 เดือน น่าจะบริหารประเทศไปในที่ดีขึ้น ส่วนจะยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนหมดวาระไม่มีปัญหา แต่ต้องปูทางเพื่อนำมาซึ่งความสงบ เช่น แก้ไข รธน.ให้แล้วเสร็จเสียก่อน ส่วนที่จะมาขีดเส้นหลัง 15 วันไปแล้วจะไม่มีการเจราจาอีกแล้วก็ถือเป็นสิทธิของคนเสื้อแดง
ด้าน นายจตุพรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อสถานการณ์บ้านเมือง หากไม่ยุบสภาหลัง 15 วันไปแล้วพร้อมได้ยื่น 6 ประเด็นอภิปรายรัฐบาลว่า การยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้ง ถือเป็นทางออกที่นายกเคยพูดเสมอว่าในสมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นทางออกให้แก่ประเทศได้ ซึ่งหากตัดสินใจยุบสภาจริงก็ยังสามารถรักษาการต่อไปได้อีก 60 วัน พร้อมกล่าวหาปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ มีที่มาโดยมิไม่ชอบ ดังนั้น ตำแหน่งนายกเป็นลาภที่มิควรได้ ส่วนข้อเสนอพรรคร่วมฯ แก้ไข รธน.ก่อนตัดสินใจยุบสภา วันนี้คนเสื้อแดงนับแสนคนยอมไม่ได้ เพราะเห็นว่าสายไปเสียแล้ว จึงสมควรคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อนำไปสู่แก้ไข รธน.ในภายหลัง อีกทั้งรัฐบาลใช้ 2 มาตรฐานกับคนเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นบาดแผลลึกของประชาชนคนไทย การบริหารราชการล้มเหลว เช่น ไปเซ็นสัญญาอาฟตา หรือกู้เงินต่างชาตินับแสนล้านบาท สร้างหนี้ให้กับชาติ จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มต่างๆ มาร่วมลงสัตยาบัน เพื่อให้การยอมรับผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพราะไม่อยากเห็นทหารออกมาเข่นฆ่าประชาชน จึงขอเรียกร้องให้นายกฯเสียสละตั้งแต่วันนี้หากไม่อยากตกเป็นทรราช
นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบโต้คำถามนายจตุพร ถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้ ส.ส.ไม่ต้องทำตามมติพรรค และการพูดดังกล่าวถือเป็นการดูถูก ส.ส.มาก ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในกระบวนการรัฐสภา โดยเพื่อไทยก็ยังเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจตามปกติ และถ้ามาเถียงกันคงไม่จบ ส่วนถ้าบอกว่ามาโดยมิชอบนั้น ถ้ารัฐธรรมนูญมิชอบแล้ว นายจตุพรลงเลือกตั้งทำไม และการที่ตั้งกติกาขึ้นมาเพราะกลัวการทุจริต ซึ่งรัฐบาลบางชุดที่ถูกยุบพรรคที่มีเสียงได้มาโดยมิชอบ ก็ถูกลาภมิควรได้เช่นกัน ถ้าบอกว่าไม่ถูกมาตั้งแต่ต้นแล้วเพิ่งมาเรียกร้องนี่มันไม่ถูก
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตนพูดเองว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวควรรับและแก้ แต่คนคิดต่างกัน ซึ่งตนมองว่าสามารถแก้ได้ในบางประเด็น แต่ไม่ควรแก้ล้างความผิดหรือเอาประโยชน์เพื่อตัวเอง และตนยอมรับว่า รับปากที่จะแก้ไข รธน.กับพรรคร่วม ตนเป็นคนแนะนำให้ทำประชามติในการประชุมวิป 3 ฝ่าย ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์เสนอแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น แต่คนล้ม คือ วิปฝ่ายค้าน ฉะนั้น จะมาต่อว่าพวกตนไม่ได้ ส่วน มาตรา 309 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ยังบอกไม่ต้องแก้เลย ซึ่งถ้าพูดรวมๆ ไปคนก็จะสับสน ทั้งนี้ ตนเห็นว่า นายจตุพร พูดเกินเลยไปถึงหมวดกษัตริย์ เป็นเรื่องไม่น่าพูด ฉะนั้น ถ้ายุบสภาจะมีความขัดแย้งยิ่งขึ้น ไปถามใครจะเชื่อเลือกตั้งจะสงบ
นายอภิสิทธิ์ยังถามนายจตุพรด้วยว่า คนที่ทุบรถของตนในกระทรวงมหาดไทย เป็นแดงแท้หรือแดงเทียม มีแกนนำบนเวทีบัญชาการ ไม่คิดห้าม ไม่มีพูดสักคำ ตนยืนยันว่าไม่มีการล้อมปราบฆ่าประชาชน การหารือกับผู้นำทหารก็ยืนยันว่าไม่คิดปราบปราม แต่พวกท่านกระทำกับตน ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าต้องใช้เวลาปรับอารมณ์ บางคนก็มีอารมณ์แรงต่อท่าน ตนก็จะบอกให้อดทน อย่าทำอะไร แต่ตนก็ห้ามไม่ได้ทุกคน และเชื่อเวลาจะช่วยได้ ขณะที่จะมีการยุบสภาใน 15 วันนั้น คงจะไม่ได้ แต่ตนยินดีจัดเลือกตั้งก่อนวาระ แต่ให้มาคุยกันว่า มีอะไรบ้างที่ต้องทำ ถ้าสนใจก็ต้องคุยกันต่อ แต่ถ้าเห็นไม่ตรงก็ไม่ต้องคุยกัน
ส่วนเรื่อง 2 มาตรฐานนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าพูดว่าคดีนี้ใช้ได้ คดีนี้ไม่ได้รับผลประโยชน์ต้องมาต่อต้าน อย่างนี้บ้านเมืองไม่มีระบบก็อยู่ไม่ได้ และยืนยันตนไม่ได้เร่งรัดคดี คดีไหนยากก็นานในการดำเนินคดี คดีของกลุ่มพันธมิตรฯ บางคดีไม่ซับซ้อนก็ออกหมายจับ ซึ่งเกิดการดำเนินคดีขึ้นยุคของตนทั้งนั้น คดีเสื้อแดงทุบรถ ตนก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง เพราะรัฐไม่ควรเข้ายุ่ง ถ้าจะทำแค่ให้รายงานความคืบหน้าคดีที่ประชาชนสนใจ และเร่งรัดให้โปร่งใส ซึ่งตนมองว่าเรื่องแบบนี้เกินเลยกว่ายุบสภาเยอะ
ขณะที่กรณีอาฟตา ตนยังไม่ได้นำเข้าสภา ยังเป็นสินค้าสงวนอยู่ จึงขอให้นายจตุพรไปดูรายละเอียดก่อน ส่วนการกู้ก็มี พ.ร.ก.4 แสนล้าน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าการกู้เงินที่มากที่สุดเกิดขึ้นสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำนวน 7 แสนล้านบาท ซึ่งตนไม่ติดใจ เพราะเป็นความจำเป็น แต่ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ทำหนี้เพิ่ม ขณะที่การทุจริตคอร์รัปชัน กรณีที่มีการยึดทรัพย์ทำไมไม่พูด ยุคของตนตั้งคณะกรรมการสอบการทุจริตอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น ต้องเอาความจริงให้ประชาชน
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีการทุบรถของตนที่กระทรวงมหาดไทยว่า ตนอยู่ในรถแน่นอน แต่ถึงแม้ว่า ตนไม่อยู่ในรถ ก็ขอถามว่า ทำไมแกนนำเสื้อแดงบนเวทีจึงไม่ห้ามปราม ตนยังไม่เห็นมีคนไหนพูดห้ามปราบบนเวที บางคนก็ใช้วิธีกล่าวร้าย แล้วไปว่ากันในศาล แล้วใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.เอา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์กำลังตอบโต้นายจตุพรในกรณีดังกล่าว นายจตุพรได้พยายามพูดแทรก และชี้หน้านายอภิสิทธิ์อยู่ตลอดเวลา
ด้าน นพ.เหวง กล่าวโต้นายกฯ อย่าพยายามซื้อเวลา เพราะไม่เชื่อกลไกตามระบอบรัฐสภา ข้อเสนอวันนี้ขอให้ยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งในพรุ่งนี้เสียเลย เชื่อว่าจะยุติปัญหาบ้านเมือง เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนว่าจะเลือกพรคประชาธิปัตย์กลับมาผู้นำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ขออย่าปฏิเสธว่าการเลือกตั้งจะไม่มีหลักประกัน เพราะรัฐบาลชุดนี้อยู่เบื้องหลังการฆ่าประชาชน พร้อมโชว์ภาพถ่ายเมื่อเหตุการณ์ เม.ย.ที่ต้องพูด เพราะเห็นว่าการเจรจาอาจไม่รู้เรื่องแล้ว สุดท้ายขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงมีระเบียบวินัย
นายอภิสิทธิ์กล่าวยืนยันว่า ภาพพวกนี้เคยหยิบยกมาแล้วในการอภิปรายในเวทีสภา และเคยได้ชี้แจงไปแล้ว ขอร้องเจตนารมณ์ของการเจรจาอย่ามานั่งกล่าวหากัน โดยหยิบประเด็นเดิมมาขยายผล และนำไปบิดเบือนปราศรัยให้ผู้ชุมนุมฟัง จนทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทำให้ความขัดแย้งบานปลายไม่รู้จักจบสิ้น ขอย้อนถามว่า ต่อเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.49 ที่พวกท่านเกลียดนัก เกิดขึ้นเพราะใคร หากวันนี้ยืนยันว่าจะไม่ยุบสภาภายใน 15 วัน จะมีทางผ่อนปรนเพื่อเจรจากันอีกได้หรือไม่ ส่วนกรอบระยะเวลา ขอให้คำนึงถึงปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อบริหารวงเงินงบประมาณ ไม่ให้โครงการต่างๆ เกิดการชะงักงัน ส่วนกติกาขอจัดทำประชามติแก้ไข รธน.หากสภารับดำเนินการ ก็จะสามารถกำหนดกรอบเวลาได้ อีกประเด็นคือ การนำบรรยากาศบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คือ การชุมนุมก็มีได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐาน รธน. รัฐบาลก็บริหารต่อไป ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ภาคประชาชนก็เดินหน้าต่อไป ข้อเสนอหากแก้รธน.เสร็จสิ้นตามข้อเสนอพรรคร่วม คาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ เพราะกระบวนการแก้ไข รธน.ต้องผ่านการจัดทำประชามติ เพื่อนำไปสู่จัดการเลือกตั้งภายในระยะเวลา 9 เดือน
นายวีระได้กล่าวตัดบทว่า เพื่อให้การบรรยากาศการเดินหน้าต่อไปได้ ขอยอมรับว่า การขีดเส้นภายใน 15 วัน อาจจะเร่งรัดเกินไป แต่นักวิชาการเสนอมาว่าจะเป็นได้หรือไม่ให้ยุบสภาภายใน 3 เดือน โดยตัดกรอบงบประมาณออกไป เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บนโต๊ะเจรจาขอให้ทั้งสองฝ่ายมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน อย่าเพิ่งใช้การเจรจาวันนี้มาตัวกำหนดกรอบวันการยุบภา ขอให้นำข้อเสนอในวันนี้กลับไปพิจารณาใหม่ โดยไม่ได้กำหนดวันนัดหารือใหม่ แต่อาจจะเป็นการหารือโดยไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดสดอีก พร้อมขอฝากให้แกนนำทั้งสาม ช่วยกันรักษาบรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปด้วยความสงบ
อย่างไรก็ตามนายจตุพรได้สรุปว่า เมื่อรัฐบาลไม่เห็นด้วยที่จะยุบสภาภายใน 15 วันถือว่ารัฐบาลไม่รับข้อเสนอของฝ่ายคนเสื้อแดง ขณะที่ฝ่ายคนเสื้อแดงก็ไม่รับเงื่อนไขยุบสภาใน 9 เดือน จึงถือว่าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงขอหยุดการเจรจาไว้แค่นี้ก่อน และคงจะยังไม่มีรอบที่ 3 ซึ่งฝ่ายตนจะต้องไปหารือกับผู้ชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าอีกครั้ง