ASTVผู้จัดการรายวัน-หมอเหวง ทำซ่า! อ้างทหารมีอาวุธ กลับม๊อบหน้าแหก ด้านปชป.ปูดแผน"แดงไพร่" สร้างสถานการณ์ความรุนแรง หวังใช้แห่ศพกดดันรัฐบาล ชี้เป้าหมายไปไกลกว่ายุบสภา ด้านเพื่อไทยปูดรัฐบาลเตรียม สลายการชุมนุม
เช้าวานนี้(22 มี.ค.) นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำเสื้อแดง ได้นำกลุ่มสตรีเสื้อแดง ประมาณ 500 คน เดินตระเวนไปตามหน่วยพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย ที่ตั้งอยู่โดยรอบสถานที่ชุมนุม ตามมาตรการเต็นท์ต่อเต็นท์ ในการเข้าไปตรวจอาวุธของทหาร โดยอาสาสมัครสันติวิธีหญิงจะขอเข้าไปขอตรวจค้น หากหน่วยใดไม่ให้ความร่วมมือ กลุ่มเสื้อแดงก็จะทำป้ายผ้าขนาดใหญ่ติดไว้หน้าเต็นท์ทหารว่าหน่วยทหารหน่วยนี้ใช้อาวุธสงครามเพื่อเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์
โดยไปตรวจบริเวณวัดโสมนัสวรวิหารเป็นจุดแรก ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดประตูเหล็กบริเวณหน้าวัดเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาตั้งแถวพร้อมด้วยโล่ กระบอง เพื่อควบคุมฝูงชนเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความวุ่นวาย
ต่อมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เข้ามาเจรจากับนพ.เหวง ผลปรากฎว่า นพ.เหวง ยังต้องการเข้าไปในพื้นที่ เพราะไม่มั่นใจว่าทหารจะมีอาวุธหรือไม่ ต่อมา พ.ท.วรุตม์ ประเทืองหิน ผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ได้เข้ามาเจรจากับ นพ.เหวง โดยยืนยันว่า ทหารไม่ได้มีการติดอาวุธแน่นอน เพราะได้รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชามาว่า ไม่ให้มีการติดอาวุธและทำหน้าที่เพียงรักษาความสงบและคอยอำนวยความสะดวกเท่านั้น จะไม่มีการทำร้ายประชาชน
ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปยังสนามม้านางเลิ้ง บริเวณแยกนางเลิ้งถนนพิษณุโลก ซึ่งแกนนำนปช. อ้างว่า มีรถขนทหารจำนวนกว่า 20 คัน พร้อมด้วยอาวุธสงคราม
ส่วนบริเวณวัดตรีทศเทพช่วงเช้าวันเดียวกัน ทหารได้ระดมกำลังจากพื้นที่ใกล้เคียงย่านบางลำพู มาช่วยรักษาความเรียบร้อย ขณะที่ญาติที่มาประกอบพิธีสงฆ์ให้ผู้ล่วงลับภายในวัดตรีทศเทพ ได้ออกมาสังเกตการณ์เพราะเกรงว่าการชุมนุมจะส่งผลกระทบต่อพิธีทางสงฆ์
สั่งติดอาวุธเจ้าหน้าที่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุม ศอ.รส. ว่าตามพ.ร.บ.ความมั่นคง บัญญัติไว้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถพกพาอาวุธด้วย เพื่อป้องกันระงับยับยั้ง แก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาถือเป็นความตั้งใจของ ศอ.รส. ที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่พกพาอาวุธ และเหตุผลเพื่อป้องกันการกล่าวอ้าง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่มีความพยายามนำอาวุธมาใช้กับผู้ชุมนุม ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ด้วยสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามสร้างสถานการณ์ก่อความรุนแรง ไม่ว่า จะเป็นการใช้ระเบิด การยิงเอ็ม 79 การยิงอาร์พีจี
ไม่ให้เสื้อแดงตรวจค้นอาวุธจนท.
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามตรวจค้นอาวุธของเจ้าหน้าที่นั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ และเราจะไม่ยอม เพราะไม่มีบ้านเมืองไหนให้กลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจค้นภายในพื้นที่ตั้ง จุดตรวจ สายตรวจ หรือแม้กระทั่งเต็นท์รักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจุดทั้งหลายสามารถมองเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจในลักษณะอย่างไร มีใครถืออาวุธในลักษณะอย่างไร หากผู้ชุมนุมยังพยายามดำเนินการอีก แสดงว่า การชุมนุมโดยสันติ ไม่ประสงค์ความรุนแรงที่อ้างมาตลอดนั้น ไม่เป็นความจริง
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะรู้ว่า สิ่งไหนถูก หรือผิด ส่วนที่มีการกังวลว่า ผู้ชุมนุมจะจับตัวเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน เพื่อใช้ในการต่อรองนั้น ทุกกรณีจะต้องมีการป้องกัน
แผนชั่วแห่ศพกดดันรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวฝ่ายข่าวของรัฐบาลได้รายงานมาโดยตลอดว่า มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการที่จะสร้างความวุ่นวายในช่วงที่ผ่านมา และอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งถ้าหนนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะมีเหตุการณ์สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ชุมนุม และถ้ามีผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ก็จะนำเหยื่อเหล่านี้มาแห่ เพื่อกดดันและใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือรัฐบาล ทั้งๆ ที่ขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมก็มีความขัดแย้ง แต่ทุกกลุ่มก็ยังขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว ที่ผ่านมาไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น กลุ่มสามเกลอ ก็จะโยนความผิดให้รัฐบาลว่า คนเสื้อแดงไม่ได้เป็นผู้กระทำ จึงอยากถามว่า เป็นการกระทำของกลุ่มสามเกลอเท่านั้น จึงเรียกว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดงใช่หรือไม่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงการวีดีโอลิงค์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และใส่ร้ายนายกฯ ว่าเป็นบุคคลไม่ยอมรับกติกา โดยยกกรณีการบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีกติกา หรือกฎหมายใดที่บัญญัติว่าพรรคการเมืองทุกพรรคที่จัดตั้งขึ้นมา จะต้องลงรับสมัครการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหากที่ไม่ยอมรับกติกา พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี ก็ไม่ยอมรับโทษ ศาลตัดสินยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ก็ต่อต้านคำพิพากษา
เสื้อแดงมีเป้าหมายมากกว่ายุบสภา
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นคนเจรจาเอง เพราะเป็นผู้ที่มีอำนาจการตัดสินใจเรื่องยุบสภา แต่ของฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่รู้ว่าใครมีอำนาจการตัดสินใจกันแน่ ดังนั้นกระบวนการเจรจาทั้งสองฝ่าย ควรได้พูดคุยกันก่อน ไม่ควรจะมีเงื่อนไขก่อน เราจะมาพูดถึงกรอบวีธีการ และเหตุผลของแต่ละฝ่ายก่อนถึงจะสามารทถทำให้เดินหน้าไป
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ขณะนี้คนเสื้อแดงมีเป้าหมายอย่างอื่นนอกเหนือจากการยุบสภา เราไม่มั่นใจว่าเรื่องการยุบสภาจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของเขา ที่จริงหลักการเจรจาควรเอาหลักการเหตุผลมาแผ่พูดคุยกัน และเปิดเผยให้สาธารณชนรับฟังด้วย ไม่ต้องมาถกเถียงว่าใครเล่นเกมทางการเมือง หากมีความจริงใจ ก็ส่งตัวแทนแต่ละฝ่ายมาพูดจาถึงกรอบ และวีธิการเจรจากัน โดยต้องหาคนที่ได้รับความเชื่อถือจากทั้งสองฝ่ายมาดูแล แต่ตนไม่อยากให้ไปยึดมั่นในตัวบุคคล
ต้องเลิกพ.ร.บ.มั่นคงก่อนเจรจา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึง การเจรจากับรัฐบาลเพื่อหาทางออกของปัญหาการเมือง ว่า คนเสื้อแดงจะเจรจากับนายอภิสิทธิ์ คนเดียวเท่านั้น หากนายอภิสิทธิ์ ไม่มา คงไม่มีประโยนช์ ส่วนการเจรจาจะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงก่อน เชื่อว่าในวันนี้ รัฐบาลจะประชุมเพื่อต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกไปอีก แต่ขอยืนยันว่า จะประกาศ พ.ร.บ.กี่ร้อยครั้ง แต่ถ้าไม่มีความชอบธรรมกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
พท.ขอ"ชวน-บัญญัติ"นำการเจรจา
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะไม่ให้ความร่วมมือในสภากับรัฐบาล ว่าตนยังยืนยันในความเห็นเดิมคือ เมื่อมีประชาชนจำนวนมากออกมาเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอุณหภูมิทางการเมืองถึงขีดสุดแล้ว แต่นายกรัฐมนตรี ก็ยังเพิกเฉย
"ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ก็ต้องมีมาตรการตอบโต้ ส่วนขั้นตอนและรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น จะหารือในที่ประชุมพรรควันที่ 23 มี.ค.นี้ สิ่งสำคัญคือ พรรคเพื่อไทยต้องรู้ว่าจากนี้ไปจะไม่ให้รัฐบาลซื้อเวลาอีกแล้ว " นายวิทยากล่าว
ส่วนที่รัฐบาลจะส่งนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ มาเจราจา คงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เด็กเล่นขายของ วันนี้ต้องให้ผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการประธานที่ปรึกษา ที่เป็นผู้ใหญ่ในพรรค ควรจะลงมาพูดคุย
ยอมรับเพื่อไทย-เสื้อแดงพวกเดียวกัน
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทย อยู่เบื้องหลังจัดฉากการเคลื่อนพลของคนเสื้อแดงนั้น ความจริงคือ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงแยกกันไม่ออก เนื่องจากคนเสื้อแดง ก็คือเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ดังนั้นที่บอกว่าพรรคเพื่อไทย อยู่เบื้องหลัง หยุดพูดเสียที พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ ต้องรู้ และตาสว่างเสียทีว่า ใครคือใคร
ปูดรัฐบาลจะสลายการชุมนุม
นายวิทยา ยังกล่าวด้วยว่า ตนทราบว่า รัฐบาลได้เตรียมการจะสลายการชุมนุม ดังนั้น ส.ส.ในพรรคได้หารือแล้ว เห็นว่า เราจะปกป้อง เข้าไปดูแลประชาชนที่เข้าไปชุมนุม โดยเริ่มตั้งแต่ วันนี้ (23 มี.ค.) จะจัดเวรยาม แบ่ง ส.ส.แต่ละภาค เข้าไปตรวจตรา ดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าหากรัฐบาลมีการสลายการชุมนุมจริง ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ส่ง "จิ๋ว"กล่อมพรรคร่วมถอนตัว
ทั้งนี้ ทางพรรคได้มอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะเดินสายไปพบ 3 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เพื่อขอให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยจะให้เหตุผลในการถอนตัว เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนในการเลือกตั้งใหม่ โดยอาจเริ่มจากการไปพบนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นพรรคแรก
สำหรับในส่วนข้อเสนอมาตรการไม่เข้าร่วมประชุมสภา ไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลนั้น จะหารือกับที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ เพื่อหาข้อสรุป
วุฒิฯค้านยุบสภา
ในการการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หารือต่อที่ประชุม กรณีการเจรจาความขัดแย้งทางการเมืองว่า ขณะนี้มีหลายกลุ่มที่อาสาเข้ามาช่วยเจรจา อาทิ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กลุ่มสันติวิธี หรือแม้แต่ ส.ว.บางส่วน ซึ่งเป็นความปรารถนาดี
อย่างไรก็ดี มีคำถามว่า ประเด็นการเจรจาคืออะไร ไม่ว่าจะเป็น การยุบสภา การสร้างรัฐไทยใหม่ การนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ การนิรโทษกรรมให้ใครบางคน ซึ่งแบบนี้คงไม่ใช่แล้ว ถ้าเจรจาไปแล้วคนที่อยู่ที่ประเทศมอนเตเนโกรไม่ยอมรับ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
นพ. เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา หารือกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงกดดันให้รัฐบาลยุบสภา ว่า การยุบสภาจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้น ได้รับผลกระทบ เพราะงบไทยเข้มแข็งมีปัญหา ส่วนงบปี 54 หากเข้าสภาไม่ได้ตามกำหนด และมาเข้าสภาช่วงท้ายๆ ปีงบประมาณ จะทำให้ชะงักการเบิกจ่าย กระทบการแก้ปัญหาทั้งการเกษตร น้ำ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้โพลจากเนชั่น ร้อยละ 82 จาก 15,000 กว่าคน เห็นว่า ไม่ควรยุบ ถือว่า เป็นข้อมูลยืนยันความคิดของคน กทม.และต่างจังหวัดบางแห่ง แต่ถ้านายกฯ วางกติกาชัดเจน แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีแล้ว ก็อาจค่อยกำหนดความชัดเจนในการยุบสภา และขอให้กำลังใจนายกฯ ในการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย
แนะนายกฯใช้ทำเนียบชี้แจงปชช.
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า วันนี้ นายกฯควรออกจากกองพันทหารราบที่ 11 และเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ และสภาตามปกติ เพราะเรื่องภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ผู้ชุมนุมก็บอกว่า จะไม่มาปิดล้อม หรือถ้ามา ก็บอกว่า จะมาอย่างสันติ และแม้ว่าจะไม่มาสันติ รัฐบาลก็มีแนวทางการดำเนินการตามที่ศาลปกครองกลางเคยวินิจฉัยไว้
ส่วนเรื่องการเจรจารัฐบาลต้องออกทีวีพูล โดยเชิญแกนนำผู้ชุมนุมมาร่วมพูดคุย โดยน่าจะมี 4 ขั้น คือ 1. หากรอบการเจรจาว่า อะไรเจรจาได้หรือเจรจาไม่ได้ และไม่ต้องมีคนกลาง 2. นายกฯ เป็นประธานการเจรจา และมีคนกลางจากฝ่ายสังคมมาร่วมฟัง และออกทีวีพูล เพื่อให้สาธารณะตัดสิน 3. สิ่งที่ผุ้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงเรียกร้อง ต้องยอมรับว่า เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นจริง รัฐบาลจึงต้องยอมรับ เพราะมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น มีการซื้อขายตำแหน่งราชการ มีปัญหาการคอร์รัปชั่น มีความเหลวแหลกเกิดขึ้นจริง ฉะนั้นรัฐบาลต้องประกาศแก้ไขเรื่องดังกล่าว เป็นวาระแห่งชาติ ต้องปรับครม. โดยหาคนที่มีฝีมือ และตรงไปตรงมา มาทำ จากนั้นควรตั้งกรรมการจากทุกภาคส่วน มาวิเคราะห์ปัญหาและสังเคราะห์ออกมาเป็นแนวทางดำเนินการ 4. เมื่อทำเสร็จแล้วทั้งหมด นายกฯอาจสามารถประกาศกำหนดช่วงวันยุบสภาล่วงหน้าได้
"ชัยสิทธิ์" ขึ้นเวที ให้กำลังใจเสื้อแดง
เมื่อเวลา 18.45 น. วานนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. และเป็นญาติผู้พี่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมายังสถานที่ชุมนุมของกลุ่มเสิ้อแดงเพื่อให้กำลังใจ และได้วิเคราะห์ว่า รัฐบาลยุบสภายาก เพราะยิ่งคนเสื้อแดงมามากเท่าไร รัฐบาลจะยิ่งดื้อมากขึ้น ทั้งนี้ยังกล่าวให้ประชาชนหันไปทาง รพ.ศิริราช พร้อมกล่าวว่า เราจงรักภักดี และทหารที่จงรักภักดี ต้องอยู่ข้างประชาชน และขอเตือนทหารถ้าจะทำอะไรกับประชาชนขอให้นึกเสมอว่า ไม่ได้มารบ
อ้างพ่อแม่เอาใจแต่ไอ้เหลืองทิ้งไอ้แดง
นายสุทิน คลังแสง อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชาชน ขึ้นเวทีปราศรัยคนเสื้อแดงโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า บ้านจะดีได้ ต้องเริ่มที่พ่อและแม่ อย่ามาโทษคนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดงถูกกระทำด้วยความไม่เป็นธรรมมาก่อน อีกไม่นานก็ต้องมายุบพรรคเพื่อไทยอีก เงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไปยึดเขา เพื่อเอาไปให้สีเหลือง ถ้าเปรียบบ้านนี้เหมือนว่ามีพ่อมีแม่ เสื้อแดงก็เป็นลูกคนหนึ่งชื่อไอ้แดง มีพี่ชายคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนคนเสื้อเหลือง ก็เป็นลูกพ่อแม่อีกคน เรียกว่าไอ้เหลือง มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นพี่ชาย
"ไอ้แดงมันเป็นลูกพ่อแม่เดียวกันกับไอ้เหลือง แต่พ่อแม่ให้สิทธิ์ไอ้เหลือง มากกว่า มันเลยทำให้ไอ้แดงมันคิด ขอฝากบอกว่า สงครามแห่งอำนาจมันแก้ไขง่าย แต่สงครามความเชื่อ และสงครามความคิด มันแก้ยาก แผ่นดินมันแตกมาแล้วในหลายประเทศ" นายสุทิน กล่าว
วีระ อ้างแม้วเป็นหวัดหยุดจ้อ
เวลา 21.45 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ขี้นเวทีอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอากาศเปลี่ยนแปลงเล่นงานทำให้เจ็บค เพราะเดินทางไปมอนเตรเนโกร อากาศเย็น พอมาที่ดูไบจึงไม่มีเสียงไม่สามารถมาวีดีโอลิงก์ได้
เช้าวานนี้(22 มี.ค.) นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำเสื้อแดง ได้นำกลุ่มสตรีเสื้อแดง ประมาณ 500 คน เดินตระเวนไปตามหน่วยพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย ที่ตั้งอยู่โดยรอบสถานที่ชุมนุม ตามมาตรการเต็นท์ต่อเต็นท์ ในการเข้าไปตรวจอาวุธของทหาร โดยอาสาสมัครสันติวิธีหญิงจะขอเข้าไปขอตรวจค้น หากหน่วยใดไม่ให้ความร่วมมือ กลุ่มเสื้อแดงก็จะทำป้ายผ้าขนาดใหญ่ติดไว้หน้าเต็นท์ทหารว่าหน่วยทหารหน่วยนี้ใช้อาวุธสงครามเพื่อเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์
โดยไปตรวจบริเวณวัดโสมนัสวรวิหารเป็นจุดแรก ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดประตูเหล็กบริเวณหน้าวัดเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาตั้งแถวพร้อมด้วยโล่ กระบอง เพื่อควบคุมฝูงชนเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความวุ่นวาย
ต่อมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เข้ามาเจรจากับนพ.เหวง ผลปรากฎว่า นพ.เหวง ยังต้องการเข้าไปในพื้นที่ เพราะไม่มั่นใจว่าทหารจะมีอาวุธหรือไม่ ต่อมา พ.ท.วรุตม์ ประเทืองหิน ผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ได้เข้ามาเจรจากับ นพ.เหวง โดยยืนยันว่า ทหารไม่ได้มีการติดอาวุธแน่นอน เพราะได้รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชามาว่า ไม่ให้มีการติดอาวุธและทำหน้าที่เพียงรักษาความสงบและคอยอำนวยความสะดวกเท่านั้น จะไม่มีการทำร้ายประชาชน
ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปยังสนามม้านางเลิ้ง บริเวณแยกนางเลิ้งถนนพิษณุโลก ซึ่งแกนนำนปช. อ้างว่า มีรถขนทหารจำนวนกว่า 20 คัน พร้อมด้วยอาวุธสงคราม
ส่วนบริเวณวัดตรีทศเทพช่วงเช้าวันเดียวกัน ทหารได้ระดมกำลังจากพื้นที่ใกล้เคียงย่านบางลำพู มาช่วยรักษาความเรียบร้อย ขณะที่ญาติที่มาประกอบพิธีสงฆ์ให้ผู้ล่วงลับภายในวัดตรีทศเทพ ได้ออกมาสังเกตการณ์เพราะเกรงว่าการชุมนุมจะส่งผลกระทบต่อพิธีทางสงฆ์
สั่งติดอาวุธเจ้าหน้าที่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุม ศอ.รส. ว่าตามพ.ร.บ.ความมั่นคง บัญญัติไว้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถพกพาอาวุธด้วย เพื่อป้องกันระงับยับยั้ง แก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาถือเป็นความตั้งใจของ ศอ.รส. ที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่พกพาอาวุธ และเหตุผลเพื่อป้องกันการกล่าวอ้าง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่มีความพยายามนำอาวุธมาใช้กับผู้ชุมนุม ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ด้วยสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามสร้างสถานการณ์ก่อความรุนแรง ไม่ว่า จะเป็นการใช้ระเบิด การยิงเอ็ม 79 การยิงอาร์พีจี
ไม่ให้เสื้อแดงตรวจค้นอาวุธจนท.
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามตรวจค้นอาวุธของเจ้าหน้าที่นั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ และเราจะไม่ยอม เพราะไม่มีบ้านเมืองไหนให้กลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจค้นภายในพื้นที่ตั้ง จุดตรวจ สายตรวจ หรือแม้กระทั่งเต็นท์รักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจุดทั้งหลายสามารถมองเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจในลักษณะอย่างไร มีใครถืออาวุธในลักษณะอย่างไร หากผู้ชุมนุมยังพยายามดำเนินการอีก แสดงว่า การชุมนุมโดยสันติ ไม่ประสงค์ความรุนแรงที่อ้างมาตลอดนั้น ไม่เป็นความจริง
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะรู้ว่า สิ่งไหนถูก หรือผิด ส่วนที่มีการกังวลว่า ผู้ชุมนุมจะจับตัวเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน เพื่อใช้ในการต่อรองนั้น ทุกกรณีจะต้องมีการป้องกัน
แผนชั่วแห่ศพกดดันรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวฝ่ายข่าวของรัฐบาลได้รายงานมาโดยตลอดว่า มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการที่จะสร้างความวุ่นวายในช่วงที่ผ่านมา และอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งถ้าหนนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะมีเหตุการณ์สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ชุมนุม และถ้ามีผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ก็จะนำเหยื่อเหล่านี้มาแห่ เพื่อกดดันและใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือรัฐบาล ทั้งๆ ที่ขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมก็มีความขัดแย้ง แต่ทุกกลุ่มก็ยังขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว ที่ผ่านมาไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น กลุ่มสามเกลอ ก็จะโยนความผิดให้รัฐบาลว่า คนเสื้อแดงไม่ได้เป็นผู้กระทำ จึงอยากถามว่า เป็นการกระทำของกลุ่มสามเกลอเท่านั้น จึงเรียกว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดงใช่หรือไม่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงการวีดีโอลิงค์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และใส่ร้ายนายกฯ ว่าเป็นบุคคลไม่ยอมรับกติกา โดยยกกรณีการบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีกติกา หรือกฎหมายใดที่บัญญัติว่าพรรคการเมืองทุกพรรคที่จัดตั้งขึ้นมา จะต้องลงรับสมัครการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหากที่ไม่ยอมรับกติกา พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี ก็ไม่ยอมรับโทษ ศาลตัดสินยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ก็ต่อต้านคำพิพากษา
เสื้อแดงมีเป้าหมายมากกว่ายุบสภา
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นคนเจรจาเอง เพราะเป็นผู้ที่มีอำนาจการตัดสินใจเรื่องยุบสภา แต่ของฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่รู้ว่าใครมีอำนาจการตัดสินใจกันแน่ ดังนั้นกระบวนการเจรจาทั้งสองฝ่าย ควรได้พูดคุยกันก่อน ไม่ควรจะมีเงื่อนไขก่อน เราจะมาพูดถึงกรอบวีธีการ และเหตุผลของแต่ละฝ่ายก่อนถึงจะสามารทถทำให้เดินหน้าไป
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ขณะนี้คนเสื้อแดงมีเป้าหมายอย่างอื่นนอกเหนือจากการยุบสภา เราไม่มั่นใจว่าเรื่องการยุบสภาจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของเขา ที่จริงหลักการเจรจาควรเอาหลักการเหตุผลมาแผ่พูดคุยกัน และเปิดเผยให้สาธารณชนรับฟังด้วย ไม่ต้องมาถกเถียงว่าใครเล่นเกมทางการเมือง หากมีความจริงใจ ก็ส่งตัวแทนแต่ละฝ่ายมาพูดจาถึงกรอบ และวีธิการเจรจากัน โดยต้องหาคนที่ได้รับความเชื่อถือจากทั้งสองฝ่ายมาดูแล แต่ตนไม่อยากให้ไปยึดมั่นในตัวบุคคล
ต้องเลิกพ.ร.บ.มั่นคงก่อนเจรจา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึง การเจรจากับรัฐบาลเพื่อหาทางออกของปัญหาการเมือง ว่า คนเสื้อแดงจะเจรจากับนายอภิสิทธิ์ คนเดียวเท่านั้น หากนายอภิสิทธิ์ ไม่มา คงไม่มีประโยนช์ ส่วนการเจรจาจะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงก่อน เชื่อว่าในวันนี้ รัฐบาลจะประชุมเพื่อต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกไปอีก แต่ขอยืนยันว่า จะประกาศ พ.ร.บ.กี่ร้อยครั้ง แต่ถ้าไม่มีความชอบธรรมกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
พท.ขอ"ชวน-บัญญัติ"นำการเจรจา
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะไม่ให้ความร่วมมือในสภากับรัฐบาล ว่าตนยังยืนยันในความเห็นเดิมคือ เมื่อมีประชาชนจำนวนมากออกมาเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอุณหภูมิทางการเมืองถึงขีดสุดแล้ว แต่นายกรัฐมนตรี ก็ยังเพิกเฉย
"ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ก็ต้องมีมาตรการตอบโต้ ส่วนขั้นตอนและรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น จะหารือในที่ประชุมพรรควันที่ 23 มี.ค.นี้ สิ่งสำคัญคือ พรรคเพื่อไทยต้องรู้ว่าจากนี้ไปจะไม่ให้รัฐบาลซื้อเวลาอีกแล้ว " นายวิทยากล่าว
ส่วนที่รัฐบาลจะส่งนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ มาเจราจา คงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เด็กเล่นขายของ วันนี้ต้องให้ผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการประธานที่ปรึกษา ที่เป็นผู้ใหญ่ในพรรค ควรจะลงมาพูดคุย
ยอมรับเพื่อไทย-เสื้อแดงพวกเดียวกัน
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทย อยู่เบื้องหลังจัดฉากการเคลื่อนพลของคนเสื้อแดงนั้น ความจริงคือ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงแยกกันไม่ออก เนื่องจากคนเสื้อแดง ก็คือเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ดังนั้นที่บอกว่าพรรคเพื่อไทย อยู่เบื้องหลัง หยุดพูดเสียที พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ ต้องรู้ และตาสว่างเสียทีว่า ใครคือใคร
ปูดรัฐบาลจะสลายการชุมนุม
นายวิทยา ยังกล่าวด้วยว่า ตนทราบว่า รัฐบาลได้เตรียมการจะสลายการชุมนุม ดังนั้น ส.ส.ในพรรคได้หารือแล้ว เห็นว่า เราจะปกป้อง เข้าไปดูแลประชาชนที่เข้าไปชุมนุม โดยเริ่มตั้งแต่ วันนี้ (23 มี.ค.) จะจัดเวรยาม แบ่ง ส.ส.แต่ละภาค เข้าไปตรวจตรา ดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าหากรัฐบาลมีการสลายการชุมนุมจริง ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ส่ง "จิ๋ว"กล่อมพรรคร่วมถอนตัว
ทั้งนี้ ทางพรรคได้มอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะเดินสายไปพบ 3 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เพื่อขอให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยจะให้เหตุผลในการถอนตัว เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนในการเลือกตั้งใหม่ โดยอาจเริ่มจากการไปพบนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นพรรคแรก
สำหรับในส่วนข้อเสนอมาตรการไม่เข้าร่วมประชุมสภา ไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลนั้น จะหารือกับที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ เพื่อหาข้อสรุป
วุฒิฯค้านยุบสภา
ในการการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หารือต่อที่ประชุม กรณีการเจรจาความขัดแย้งทางการเมืองว่า ขณะนี้มีหลายกลุ่มที่อาสาเข้ามาช่วยเจรจา อาทิ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กลุ่มสันติวิธี หรือแม้แต่ ส.ว.บางส่วน ซึ่งเป็นความปรารถนาดี
อย่างไรก็ดี มีคำถามว่า ประเด็นการเจรจาคืออะไร ไม่ว่าจะเป็น การยุบสภา การสร้างรัฐไทยใหม่ การนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ การนิรโทษกรรมให้ใครบางคน ซึ่งแบบนี้คงไม่ใช่แล้ว ถ้าเจรจาไปแล้วคนที่อยู่ที่ประเทศมอนเตเนโกรไม่ยอมรับ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
นพ. เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา หารือกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงกดดันให้รัฐบาลยุบสภา ว่า การยุบสภาจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้น ได้รับผลกระทบ เพราะงบไทยเข้มแข็งมีปัญหา ส่วนงบปี 54 หากเข้าสภาไม่ได้ตามกำหนด และมาเข้าสภาช่วงท้ายๆ ปีงบประมาณ จะทำให้ชะงักการเบิกจ่าย กระทบการแก้ปัญหาทั้งการเกษตร น้ำ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้โพลจากเนชั่น ร้อยละ 82 จาก 15,000 กว่าคน เห็นว่า ไม่ควรยุบ ถือว่า เป็นข้อมูลยืนยันความคิดของคน กทม.และต่างจังหวัดบางแห่ง แต่ถ้านายกฯ วางกติกาชัดเจน แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีแล้ว ก็อาจค่อยกำหนดความชัดเจนในการยุบสภา และขอให้กำลังใจนายกฯ ในการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย
แนะนายกฯใช้ทำเนียบชี้แจงปชช.
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า วันนี้ นายกฯควรออกจากกองพันทหารราบที่ 11 และเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ และสภาตามปกติ เพราะเรื่องภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ผู้ชุมนุมก็บอกว่า จะไม่มาปิดล้อม หรือถ้ามา ก็บอกว่า จะมาอย่างสันติ และแม้ว่าจะไม่มาสันติ รัฐบาลก็มีแนวทางการดำเนินการตามที่ศาลปกครองกลางเคยวินิจฉัยไว้
ส่วนเรื่องการเจรจารัฐบาลต้องออกทีวีพูล โดยเชิญแกนนำผู้ชุมนุมมาร่วมพูดคุย โดยน่าจะมี 4 ขั้น คือ 1. หากรอบการเจรจาว่า อะไรเจรจาได้หรือเจรจาไม่ได้ และไม่ต้องมีคนกลาง 2. นายกฯ เป็นประธานการเจรจา และมีคนกลางจากฝ่ายสังคมมาร่วมฟัง และออกทีวีพูล เพื่อให้สาธารณะตัดสิน 3. สิ่งที่ผุ้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงเรียกร้อง ต้องยอมรับว่า เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นจริง รัฐบาลจึงต้องยอมรับ เพราะมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น มีการซื้อขายตำแหน่งราชการ มีปัญหาการคอร์รัปชั่น มีความเหลวแหลกเกิดขึ้นจริง ฉะนั้นรัฐบาลต้องประกาศแก้ไขเรื่องดังกล่าว เป็นวาระแห่งชาติ ต้องปรับครม. โดยหาคนที่มีฝีมือ และตรงไปตรงมา มาทำ จากนั้นควรตั้งกรรมการจากทุกภาคส่วน มาวิเคราะห์ปัญหาและสังเคราะห์ออกมาเป็นแนวทางดำเนินการ 4. เมื่อทำเสร็จแล้วทั้งหมด นายกฯอาจสามารถประกาศกำหนดช่วงวันยุบสภาล่วงหน้าได้
"ชัยสิทธิ์" ขึ้นเวที ให้กำลังใจเสื้อแดง
เมื่อเวลา 18.45 น. วานนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. และเป็นญาติผู้พี่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมายังสถานที่ชุมนุมของกลุ่มเสิ้อแดงเพื่อให้กำลังใจ และได้วิเคราะห์ว่า รัฐบาลยุบสภายาก เพราะยิ่งคนเสื้อแดงมามากเท่าไร รัฐบาลจะยิ่งดื้อมากขึ้น ทั้งนี้ยังกล่าวให้ประชาชนหันไปทาง รพ.ศิริราช พร้อมกล่าวว่า เราจงรักภักดี และทหารที่จงรักภักดี ต้องอยู่ข้างประชาชน และขอเตือนทหารถ้าจะทำอะไรกับประชาชนขอให้นึกเสมอว่า ไม่ได้มารบ
อ้างพ่อแม่เอาใจแต่ไอ้เหลืองทิ้งไอ้แดง
นายสุทิน คลังแสง อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชาชน ขึ้นเวทีปราศรัยคนเสื้อแดงโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า บ้านจะดีได้ ต้องเริ่มที่พ่อและแม่ อย่ามาโทษคนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดงถูกกระทำด้วยความไม่เป็นธรรมมาก่อน อีกไม่นานก็ต้องมายุบพรรคเพื่อไทยอีก เงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไปยึดเขา เพื่อเอาไปให้สีเหลือง ถ้าเปรียบบ้านนี้เหมือนว่ามีพ่อมีแม่ เสื้อแดงก็เป็นลูกคนหนึ่งชื่อไอ้แดง มีพี่ชายคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนคนเสื้อเหลือง ก็เป็นลูกพ่อแม่อีกคน เรียกว่าไอ้เหลือง มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นพี่ชาย
"ไอ้แดงมันเป็นลูกพ่อแม่เดียวกันกับไอ้เหลือง แต่พ่อแม่ให้สิทธิ์ไอ้เหลือง มากกว่า มันเลยทำให้ไอ้แดงมันคิด ขอฝากบอกว่า สงครามแห่งอำนาจมันแก้ไขง่าย แต่สงครามความเชื่อ และสงครามความคิด มันแก้ยาก แผ่นดินมันแตกมาแล้วในหลายประเทศ" นายสุทิน กล่าว
วีระ อ้างแม้วเป็นหวัดหยุดจ้อ
เวลา 21.45 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ขี้นเวทีอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอากาศเปลี่ยนแปลงเล่นงานทำให้เจ็บค เพราะเดินทางไปมอนเตรเนโกร อากาศเย็น พอมาที่ดูไบจึงไม่มีเสียงไม่สามารถมาวีดีโอลิงก์ได้
