ครป.ออกแถลงการณ์ ประณามข้อเรียกร้องเสื้อแดงกระต่ายขาเดียวยุบสภา เพียงเพื่อช่วงชิงอำนาจนำการเมืองกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ ยันทุรังแก้ รธน.ก็เพื่อนิรโทษกรรมและปลดล็อกคืนอำนาจสู่การเมืองแบบรูปแบบเดิมๆ จะเกิดกระแสต่อต้านจากอีกกลุ่ม บ้านเมืองจมปลัก
วันนี้ (29 มี.ค.) นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์ ให้หัวข้อเรื่องไปให้พ้นจากวงจรที่เลวร้าย ต้องปฏิรูปสังคมไทยเพื่อแก้ไขวิกฤตชาติ โดยเนื้อหาระบุว่า ท่ามกลางวิกฤตสถานการณ์ของสังคมไทย อันเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชัน และราชการบางส่วนที่ไม่ปกป้องประโยชน์ชาติ ทำให้ประเทศต้องเสียโอกาสในการพัฒนาและประชาชนตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งที่ยิ่งทวีความรุนแรง จนกระทั่งล่าสุดเกิดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ซึ่งแม้มีการเจรจาระหว่างตัวแทนทั้งสองฝ่าย แต่ก็ไม่ยังสามารถหาทางออกของวิกฤตได้ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.เราเห็นว่าการเจรจาระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะกับแกนนำคนเสื้อแดงที่ผ่านมานั้น แม้จะเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้วิกฤตตามวิถีของประชาธิปไตย แต่วิกฤตของชาติที่หยั่งรากลึก ย่อมยากที่แก้ด้วยการเจรจา เพื่อให้มีการยุบสภาตามวงจรอันเลวร้ายแบบเดิมๆ ที่กดดันและสร้างความหวาดกลัวด้วยความรุนแรง เพื่อให้สังคมไทยทำทุกอย่างเพื่อความต้องการส่วนตนของคนชั่วที่มอมเมาประชาชน และไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม เราต้องไม่ยอมให้มีการกระทำภายใต้อาณัติแห่งการข่มขู่คุกคามที่ชั่วร้ายเช่นนี้ ครอบงำประเทศได้อีกต่อไป
2.ท่ามกลางวิกฤตสถานการณ์ประเทศเช่นนี้นั้น เราขอเรียกร้องว่าต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐและภาคประสังคมจะต้องร่วมกันคลี่คลายโดยถือเอาวิกฤตนี้ สร้างบรรทัดฐานการเมืองที่ดีแก่ประเทศชาติ ทั้งนี้เพราะการยุบสภาตามการเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง แม้จะอ้างว่าเป็นกระบวนการหนึ่งของวิถีแห่งระบอบประชาธิปไตย แต่โดยเจตนาจากการกระทำทุกวิธีทั้งหมดทั้งมวลของคนกลุ่มเหล่านี้ ที่เรียกร้องให้มีการยุบสภาในครั้งนี้นั้น ก็เพียงเพื่อสร้างโอกาสทางการเมืองให้ตนเอง เพื่อช่วงชิงอำนาจให้กลับมาอยู่ในมือโดยใช้วงจรวิธีการแบบเดิมๆ ทั้งการซื้อเสียง ซื้อพรรคการเมือง แทรกแซงข้าราชการและองค์กรอิสระ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ปรากฏขึ้นจริงมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
3.เราเห็นว่า ความต้องการอำนาจหรือความพยายามช่วงชิงอำนาจทางการเมืองของคนกลุ่มนี้ ก็เป็นไปเพื่อตนเอง พวกพ้องและครอบครัว ทั้งๆ ที่การสูญเสียอำนาจดังกล่าวของคนเหล่านี้ก็เกิดจากผลทางกฎหมาย อันเกิดจากการกระทำของตนและเป็นผลตามกฎหมาย ทำให้การเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่อาจใช้กลุ่มคนหรือพลังมวลชน จึงต้องการอำนาจทางการเมืองเพื่อเข้าไปแก้ข้อติดขัดทางกฎหมาย ทั้งการนิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่จะเอื้อต่อประโยชน์แก่กลุ่มตน ซึ่งจะทำให้วงจรทั้งหมดนั้นหมุนกลับมาที่เดิม เพราะเมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะมีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาคัดค้านอยู่ดี อันจะทำให้ประเทศจมปลักอยู่ที่เดิมและยิ่งจะเพิ่มวิกฤตมากขึ้นเรื่อยๆ
4.เพื่อให้วิกฤตปัญหาดังกล่าวแก้ไขได้ เราขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายในสังคม จะต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม เพราะที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมคือเสาหลักของบ้านเมืองมาอย่างช้านานและนานาประเทศก็ยอมรับ เมื่อทุกฝ่ายยอมรับกระบวนการยุติธรรม ทุกสิ่งก็จะดำเนินการต่อไปได้ จากนั้นทุกภาคส่วนของสังคมก็จะต้องหยิบเอาประเด็นปัญหาของสังคมคลี่คลายทีละเรื่องทีละประเด็นทำให้เกิดความเป็นธรรม ในขณะเดียวกันการบริหารประเทศของรัฐบาล ก็จะต้องคลี่คลายปัญหาที่เป็นเรื่องความขัดแย้ง เช่น วาทะกรรมเรื่องสองมาตรฐานหรืออำมาตยาธิปไตยมาคลี่คลาย ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่หมักหมมมานานที่ทุกรัฐบาลต้องแก้ไข
5.เราเห็นว่า การเจรจาจะกำลังจะเกิดขึ้นอีกในวันนี้ จะต้องเคารพความเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนโดยยืนอยู่บนประโยชน์ของประเทศชาติ อันจะนำไปสู่การปฏิรูปสังคมไทยทั้งระบบ สร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างเท่าเทียม สร้างประชาธิปไตยที่ให้ประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่และประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจให้เกิดความเสมอภาคทางสังคม ด้วยการสร้างกติกาใหม่ที่ให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม เราขอคัดค้านการเจรจาที่เป็นไปแค่เพื่อการสมยอมระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดง และการยุบสภาที่ไม่นำพาไปสู่ทางออกจากวงจรแบบเดิมๆ ที่จะซ้ำเติมสร้างความเลวร้ายให้สังคมตกต่ำไม่สิ้นสุด
6.เราเห็นว่าเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างมีวุฒิภาวะโดยปราศจากการถูกกดดันด้วยอาณัติอันชั่วร้ายต้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายและปฏิบัติใช้อย่างเป็นธรรมไม่ใช่เรื่องสองบรรทัดฐานตามคำโฆษณาชวนเชื่อ ดังนั้น เราจึงขอเสนอให้ทุกฝ่ายของสังคม ทั้งฝ่ายบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ องค์กรอิสระและองค์กรภาคประชาชน ได้ร่วมกันระดมความเห็นเพื่อกำหนดวาระแห่งการปฏิรูปประเทศทั้งระบบ สร้างกลไกการแก้ไขปัญหาขึ้นมา เช่น การจัดตั้ง “คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปสังคมไทย” ในการหาทางออกของวิกฤตชาติโดยเร่งด่วน
ครป.ขอยืนยันว่าวิกฤตชาติที่ดำรงอยู่มายาวนานล้วนมาจากน้ำมือนักการเมืองที่โกงชาติทั้งสิ้น เราจึงไม่อาจฝากอนาคตของสังคมไทยไว้ในกำมือของพวกเขาได้อีกต่อไป สังคมที่เป็นธรรมและประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการจะต้องเกิดจากความสามัคคีของคนในชาติที่เอาบ้านเอาเมืองมาก่อนอคติและประโยชน์ส่วนตน เราขอเรียกร้องให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการกระบวนการปฏิรูปสังคมใหม่ในทุกขั้นตอนเพื่อสร้างความสงบและสันติสุขกลับมาโดยเร็ว