"คำนูณ" จี้ รบ.ปรับกระบวนทัศน์บริหารประเทศ ชี้ สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ รัฐต้องตื่นตัวหากขอโอกาสไม่ยุบสภา กระทุ้ง "มาร์ค" รุกทางการเมือง ใช้สื่อรัฐในมือทำความเข้าใจ ปชช. เชื่อ สงครามแดงไม่จบง่าย 27 มี.ค.นี้ แค่สลายตัวชั่วคราว เพื่อรอเป่าหูสงครามระลอกใหม่ ด้าน "ทวี" แนะ รัฐเลิกนิ่งสยบเคลื่อนไหว เตือน เป็นเป้าเสื้อแดง ต้องหาวิธีจัดการเด็ดขาด
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
วันนี้ (25 มี.ค.) รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการเชิญ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และผศ.ทวี สุรฤทธิกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ถึงประเด็นยุทธศาสตร์กลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามเบี่ยงเบนประเด็นทหารออกมาทำหน้าที่ปกป้องประเทศว่าเป็นการปฏิวัติหรือคิดใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
นายคำนูณ กล่าวถึงประเด็นรัฐบาลนำทหารมาดูแลความปลอดภัยหน้ารัฐสภา ว่า ทหารยุคนี้คงไม่เหมือนกับยุคเก่า ทหารคือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และรัฐวันนี้ก็คือนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ได้รับการโหวตในสภา เป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ดังนั้น ทหารที่ไปทำหน้าที่ที่สภา เพื่อทำหน้าที่ปกป้องการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติให้สามารถทำงานได้ อย่าไปมองว่าทหารเท่ากับรัฐประทหาร หรือทหารเท่ากับเผด็จการ แต่ต้องดูว่าเขามาทำอะไร
"คนที่เขามาเพื่อมาปกป้องศักดิ์ศรีของคนอีกกลุ่มหนึ่งให้ทำหน้าที่ของตัวเอง ถามว่าคนที่เขามามีเกียรติหรือไม่ ต้องมาทนแดด ทนร้อน หรือโดนชี้หน้าด่า ตอนแรกผมก็คิดว่ามันขนาดนี้เลยหรือ แต่พอได้ไตร่ตรองดีๆ คนเหล่านี้มาทำหน้าที่ ผมเชื่อว่ามีเหตุมีผลในการที่มาปกป้องรัฐสภา แต่ผมมีข้อสังเกตว่ารัฐบาลน่าจะได้มีการสื่อสารกับสมาชิกสภาว่าจะมีความจำเป็นอย่างไร ซึ่งครั้งนี้รัฐบาลไม่ได้มีการสื่อสาร เช้ามาจึงเกิดผู้คนเสียความรู้สึกที่ถูกปิดเส้นทาง ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด" นายคำนูณ กล่าว
ผศ.ทวี กล่าวถึงประเด็นรัฐบาลประกาศใช้กฏหมายความมั่นคงในช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมว่า ตอนที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ตอนแรกตนไม่เห็นด้วย หลังจากที่ช่วงเมษาฯปีที่ผ่านมา เคยมีการประกาศมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อพิจารณาเหตุผลของรัฐบาล ทำให้คิดว่าฝ่ายดังกล่าวคงเล็งเห็นแล้วว่าหากเลือกใช้ตำรวจดูแลสถานการณ์อย่างเดียวอาจจะเอาไม่อยู่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ทหาร ซึ่งประเด็นนี้มองอีกมุมเหมือนรัฐบาลกำลังตื่นกลัวคนเสื้อแดงจะทำอะไรที่ร้ายแรงหรือไม่
"ผมมองว่าทหารน่าจะใช้ตอนที่ตำรวจเอาไม่อยู่มากกว่า แต่รัฐบาลเลือกใช้ทันที ทำให้ความกลัวของคนกรุงเทพฯเกิดขึ้น สะท้อนความไม่เอาไหน ทำให้ต้องกลัวคนเสื้อแดง ประชาธิปไตยก็เป็นง่อย ผมมองไปยาวกว่านี้ว่า ถ้าหากมีการประกาศใช้กฏหมายมั่นคงไปเรื่อยๆ ก็ไม่แน่ที่ผู้คนอาจจะทำอะไรรุนแรงเกิดขึ้น" นายทวี กล่าว
นายคำนูณ กล่าวถึงประเด็นท่าทีและข้อแนะนำสำหรับรัฐบาลในการบริหารประเทศท่ามกลางความไม่ปกติเช่นนี้ว่า รัฐบาลต้องปรับกระบวนทัศน์บริหารประเทศใหม่ หากไม่ยุบสภาต้องตอบคำถามว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าอยู่แบบนี้รัฐบาลจะลำบากในระยะยาว โดยตนเห็นว่าตอนนี้รัฐบาลมีกำลังทหารสนับสนุนอยู่จริง แต่ตนว่ารัฐบาลไม่ได้ทำการรุกทางการเมืองเลย ตัวอย่างเช่น รัฐบาลใช้ทหารเพื่อเข้าไปประชุมสภา ตนอยากถามว่าทำเพื่ออะไร ทั้งที่ไม่ได้มีนัยสำคัญ ตนอยากให้นายกฯได้ใช้เวทีสภาเป็นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยใช้รูปแบบให้สมาชิกลุกขึ้นหารือ หรือจะเป็นการที่นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเดินเกมรุกทางการเมือง รัฐบาลต้องทำให้เห็นว่าที่ต้องใช้กำลังทหารเพราะอะไร เนื่องจากความปลอดภัย ในความคำว่าสันติมันมีความหมายอะไรแฝงอยู่
"ผมเคยตั้งกระทู้ถามรบ.ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยการที่ตนเสนอคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย แต่ท่านก็ไม่ทำ ตอนหลังฝ่ายค้านไม่ร่วม พันธมิตรฯก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญในบางประเด็น แต่ว่ามันก็มีช่องทางอื่นๆอยู่ ที่รัฐบาลสามารถนำข้อเสนอมาปรับใช้ได้ตามสมควร แต่ถามว่ารบ.ทำอะไรบ้างแล้วหรือไม่ ทำไมไม่มีข้อเสนอเหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ผมคิดว่าคนเบื่อม็อบที่ชุมนุมยืดเยื้อ แต่ตอนนี้เริ่มเบื่อรัฐบาลว่าทำไมไม่เคยทำอะไร" นายคำนูณ กล่าว
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าคนเสื้อแดงอยู่ยืดเยื้อ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยแรงกดดันจะกลับมาอยู่ที่รัฐบาลทันที ตนคิดว่ามันเป็นประเด็นใหญ่ที่เราจะต้องร่วมกันเสนอแนะรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเราอาจจะชอบมากชอบน้อยแตกต่างกันไป แต่ในเมื่อท่านเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ต้องดำเนินการ
ผศ.ทวี กล่าวถึงท่าทีรัฐบาลว่า รัฐบาลจะนิ่งสยบความเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่รัฐบาลต้องดูหลักความถูกต้องหรือความไม่ถูกต้อง รัฐบาลต้องสร้างหลักการว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นเช่นไร เสื้อแดงสร้างสังคมใหม่เป็นวาระของตัวเอง แต่ทำไมรัฐบาลไม่ยอมทำมิตินั้นบ้าง
นายคำนูณ กล่าวถึงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ว่า ในภาวะสงครามเช่นนี้ รัฐบาลต้องหาวิธีตอบโต้อีกฝ่าย คือต้องตอบโต้ทางการเมืองหรือตอบโต้ทางการข่าว แต่ที่สำคัญอีกสิ่งที่เห็นชัดคือเรื่องมวลชน จะเห็นได้ว่ามวลชนของรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นพวกหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งอย่งเดียว แต่ถ้าเป็นประเภทมวลชนส่วนตัวที่จะออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลัง ต้องยอมรับว่านายอภิสิทธิ์ยังไม่มี ทำไมนายกฯไม่ออกมาเรียกร้องให้คนที่สนับสนุนตัวเองแสดงตัวเพื่อออกมาแสดงพลังกดดันอีกฝ่าย
ผศ.ทวี กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ดูกระท่อนกระแท่น แม้จะมีการชุมนุมใหญ่ออกไปป่วนทั่วกรุงเทพฯ แต่ตนคิดว่าอาจจะมีการใช้วันที่ 27 มี.ค.นี้ เป็นการปิดท้ายการชุมนุมช่วงนี้ แลัวค่อยไปรอเคลื่อนไหวพร้อมกันต่อในช่วงหลังสงกรานต์ แต่ประเด็นอยู่ยาวจนถึงช่วงนั้นเลยก็มีความเป็นไปได้ โดยต้องวิเคราะห์กันว่าหากจะอยู่จะมีขบวนการสนับสนุนค่าใช้จ่ายอย่างไร ในที่สุดแล้วตนคิดว่าน่าจะเป็นการหยุดพักช่วงนี้ไปก่อน เพื่อรอเคลื่อนไหวใหม่
นายคำนูญ กล่าวประเมินกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ อาจเป็นสงครามการเมืองที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น ตนเชื่อว่าวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะระดมครั้งสุดท้ายแล้วประกาศชัยชนะ เพื่อสลายตัวชั่วคราว จากนั้นเกมจะกลับมาสู่สภา โดยอาจมีชุมนุมอีกครั้งช่วงอภิปรายตามจังหวัดใหญ่ๆ แล้วค่อยนัดรวมตัวกันอีกครั้ง อาจจะไม่ใช่การสลายทันทีช่วงนี้ แต่น่าจะเป็นก่อนสงกรานต์
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่ามีความพยายามนำนายจาตุรนต์ ฉายแสง ขึ้นเป็นผู้นำมวลชนมากขึ้น ซึ่งตนคิดว่านายกฯ ต้องคิดให้หนัก และเราต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของสื่อเสื้อแดง เนื่องจากมีอะไรซ่อนอยู่ มีการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ตนคิดว่านายกฯเป็นฝ่ายตั้งรับทางการเมืองมากเกินไป สถานการณ์แบบนี้รัฐน่าจะหยิบฉวยประเด็นที่เสื้อแดงพูดมารุกทางการเมือง อย่างน้อยต้องตาต่อตาฟันต่อฟันในเกมการเมือง บังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด เสมือนการออกหมัดทั้งสองฝ่าย อย่าปล่อยให้เสื้อแดงรุกอยู่ฝ่ายเดียว