"คำนูณ" ฉะ เงื่อนไขแกนนำแก๊งแดง จี้รบ.ให้ยุบสภา เชื่อ คนไทยรู้ข้อเรียกร้องทำเพื่อ "ทักษิณ" ชี้ แนวทางต่อสู้ "หัวขวด" แยกกันเดิน "ฝ่ายจักรภพ" ส่งผลให้ชุมนุมไร้เอกภาพ ช่วยลมหายใจ "รบ.อภิสิทธิ์" ให้ยาวยิ่งขึ้น แนะ จับตา "สายเหยี่ยวแดง" ก่อเหตุ พลิกสถานการณ์บีบคั้นเบื้องบนเจรจา "หมอวรงค์" ยัน รบ.ตั้งรับม็อบเต็มที่ แฉ วิดีโอลิงก์ "ทักษิณ" พบปลุกปั่นให้เกิดสงครามไพร่ล้มสถาบัน ย้ำ ปชป. ไม่บ้าจี้ทำตามเงื่อนไข ทางออกที่ดีที่สุดจบลงด้วยกระบวการในสภา
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
วันนี้ (16 มี.ค.) รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการเชิญ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงตลอด 5 วันที่ผ่านมา พร้อมทั้งร่วมวิเคราะห์ถึงจุดจบ
นายคำนูณ กล่าวถึงการชุมนุมคนเสื้อแดงครั้งนี้ว่า ต้องยอมรับว่ามีนิมิตรหมายอันดีจากหลายฝ่าย แม้การชุมนุมคนเสื้อแดงจะเกิดขึ้น แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีอะไรที่เลวร้าย เพราะรัฐบาลสู้ตามแนวทางสันติวิธี โดยเอาบทเรียนช่วงเดือนเมษาฯปีที่แล้ว มาปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้วันนี้จะมีเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกไปเทเลือดในสถานที่ต่างๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนี้ก็เรียบร้อยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่ ต้องจับตาดูสถานการณ์วันนี้ คืนนี้ และพรุ่งนี้ให้ดีๆ มันถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์ เพราะการระดมมาชุมนุมมันทำไม่ยาก แต่การจะสนองความต้องการเอาชนะมันไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อมองสถานการณ์ที่ผู้ชุมนุมลดน้อยลง ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของแกนนำคนเสื้อแดงแต่ละฝ่าย ในกลุ่มพวกฮาร์ดคอร์หรือนายจักรภพ เพ็ญแข ก็สบประมาทว่ากลุ่มสามเกลอไม่สามารถนำชัยชนะมาให้คนเสื้อแดงหรือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ ดังนั้น ต้องจับตาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจเลือกไพ่ใบต่อไปด้วยการใช้คนกลุ่มไหนมาเคลื่อนไหว
นพ.วรงค์ กล่าวประเด็นเดียวกันว่า ตนมองการชุมนุมเมื่อช่วงเดือนเมษาฯปีที่แล้วของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าส่อไปในทิศทางของการใช้ความรุนแรง เนื่องจากแกนนำมีการปลุกระดมบนเวทีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการสร้างความรุนแรงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเทเลือดที่ทำเนียบรัฐบาลหรือที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ แต่มันเป็นคนละเรื่องกับข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออก เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่มีเครื่องรับประกันได้ว่า หากรัฐบาลยอมทำเช่นนั้นตามเงื่อนไขแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นจะจบลงด้วยดี ดังเช่นที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในสังคมปัจจุบันนี้รุนแรงมาก ดังนั้น เกรงว่าถ้ายุบสภาจะมีการสงครามรอบใหม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง
นายคำนูณ กล่าวถึงเงื่อนไขคนเสื้อแดงว่า การที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา พอยื่นเงื่อนไขเช่นนี้ทำให้แต้มต่อตกเป็นของรัฐบาลทันที เพราะคนส่วนใหญ่รู้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรียกร้องเพื่อส่วนรวม และการบีบให้มีการเลือกตั้ง มันก็เดาได้ไม่ยากว่าจะต้องมีประเด็นแก้รัฐธรรมนูญช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงยังแบ่งแยกกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างแก๊งสามเกลอกับก๊วนนายจักรภพ ที่มีการแยกเวทีกันคนละที่และโฟนอินโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ฉะนั้น การต่อสู้ครั้งนี้มันจึงขาดเอกภาพ ไม่มีพลังเพียงพอที่จะโค่นรัฐบาลชุดนี้ จึงถือเป็นสิ่งที่กลายเป็นปัจจัยให้รัฐบาลชุดนี้มีอายุยาวยิ่งขึ้น
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ส่วนการเปลี่ยนแกนนำทัพจากแก๊งสามเกลอมาเป็นกลุ่มแดงสยามหรือเสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีทางเลือกอีกมากมาย สมมุติการชุมนุมครั้งนี้จบไปแบบไม่ได้อะไร ก็ยังมีอาวุธต่อสู้ในสภา ที่ทุกฝ่ายจะต้องจับจ้องไปที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าจะใช้กลเม็ดอย่างไรปราบรัฐบาลชุดนี้ แต่ถึงอย่างไร ตนคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเกมในหรือนอกสภาท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ก็ต้องยอมรับว่ามีความหมิ่นเหม่อยู่
นพ.วรงค์ กล่าวถึงการตั้งรับของรัฐบาลว่า เรื่องการซักฟอกในสภา ทางรัฐบาลกำลังเตรียมข้อมูลพวกหลักฐานคลิปเสียงเท็จหรือการตัดต่อต่างๆ มาใช้ชี้แจงความจริงในสภา โดยการอภิปรายครั้งนี้เชื่อว่ามีการเล่นประเด็นนี้แน่นอน ส่วนสถานภาพของรัฐบาลกับพรรคร่วม ตนขอยืนยันว่ายังดีอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากนั้น ทางรายการได้เปิดเทปวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้ปลุกปั่นเวทีคนเสื้อแดง โดยล่าสุดได้มีการโจมตีรัฐบาลและสถาบันองคมนตรีอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นนี้ นพ.วรงค์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์มาแต่ละที ต้องพูดถึงเรื่องยุทธศาสตร์ไพร่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยพยายามสร้างภาพว่ากลุ่มคนเสื้อแดงถูกกดขี่ มีการแบ่งชนชั้นการปกครองและเป่าหูด้วยข้อมูลผิดๆในหมู่คนยากจน ซึ่งในทางการเมืองหากนักการเมืองทำเช่นนี้ แม้ชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถบริหารประเทศได้อยู่ดี ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมุ่งที่จะแบ่งแยกประชาชนแล้วเหยียบย่ำชนชั้นไพร่เพื่อหวังผลทางการเมืองอีก ก็ไม่มีทางจะประสบความสำเร็จ
นายคำนูณ กล่าวถึงแผนปลุกปั่นเรื่องชนชั้นไพร่ว่า เป็นวาทะกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากฝ่ายซ้ายของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งชนชั้นไพร่หรือคนยากจน พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแบบมาให้เป็นสงครามไพร่โค่นล้มอำมาตย์ ซึ่งมันส่อนัยยะของกุนซือที่คิดแผนนี้ และนับว่าเป็นอันตรายต่อระบอบการปกครองไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องทำงานหนักมากขึ้น และตนอยากเสนอให้นายอภิสิทธิ์ คิดจริงจังเรื่องนี้ โดยต้องมองข้ามช็อตการชุมนุมคนเสื้อแดงต่อไปด้วยว่า จะบริหารประเทศต่อไปวันข้างหน้าได้อย่างไร
นพ.วรงค์ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงว่า หากวันนี้ต่อสู้โดยที่ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ม็อบนี้จะมีความชอบธรรมมากขึ้น ดังนั้น เงื่อนไขที่จะบอกให้มีการยุบสภา มันไม่สามารถกระทำได้ด้วยเหตุผลเช่นนี้ ซึ่งทางที่ดีเป็นการที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภา คือ ในเวทีที่ถูกต้องมาหาทางออกร่วมกัน
นายคำนูณ กล่าวแย้งว่า หากหมายถึงการที่รัฐบาลจะยอมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผู้นำที่ถูกต้องจะไปเจรจากับผู้ที่ศาลตัดสินจำคุกและยึดทรัพย์บางส่วนตกเป็นของแผ่นดิน ดังนั้น เงื่อนไขข้อแรกก็ติดขัดแล้ว โดยเฉพาะในกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปก่อนเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ซึ่งลึกๆแล้วตนรู้ว่านายอภิสิทธิ์ก็ต้องการเจรจาอย่างสันติวิธี ถ้าไม่มีเงื่อนไขข้อนี้ แต่ซ้ำร้ายที่ทางด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ปิดประตูและเลือกทางเดินที่จะลามปามประธานองคมนตรี แต่รัฐบาลต้องอย่าลืมว่าเวลานี้ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เขามองข้ามรัฐบาลไป ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปเจรจาได้อย่างไร และโต๊ะการเจรจาจะประกอบด้วยใครบ้าง เนื่องจากจุดมุ่งหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินเกมให้เป็นแบบวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2535 ซึ่งสอดคล้องกับการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จะกลับประเทศไทยได้ก็ต่อเมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณ แต่ถึงอย่างไร เหตุการณ์อย่างนั้นคงไม่เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เอาความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นตัวประกัน ฉะนั้น เหตุการณ์เหมือนเมื่อปี 2535 คงยากที่จะมีให้เห็น แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะแนวทางต่อสู้ของแก๊งสามเกลอ แม้วันนี้ยังไม่มีอะไรรุนแรงมาก แต่ที่น่าห่วงคืออีกกลุ่มที่เป็นสายเหยี่ยวคนเสื้อแดง จะพลิกสถานการณ์ก่อเหตุ ซึ่งมันยัง 50 : 50 ต้องจับตาดูในวันหรือสองวันนี้ให้ดี
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
วันนี้ (16 มี.ค.) รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการเชิญ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงตลอด 5 วันที่ผ่านมา พร้อมทั้งร่วมวิเคราะห์ถึงจุดจบ
นายคำนูณ กล่าวถึงการชุมนุมคนเสื้อแดงครั้งนี้ว่า ต้องยอมรับว่ามีนิมิตรหมายอันดีจากหลายฝ่าย แม้การชุมนุมคนเสื้อแดงจะเกิดขึ้น แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีอะไรที่เลวร้าย เพราะรัฐบาลสู้ตามแนวทางสันติวิธี โดยเอาบทเรียนช่วงเดือนเมษาฯปีที่แล้ว มาปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้วันนี้จะมีเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกไปเทเลือดในสถานที่ต่างๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนี้ก็เรียบร้อยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่ ต้องจับตาดูสถานการณ์วันนี้ คืนนี้ และพรุ่งนี้ให้ดีๆ มันถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์ เพราะการระดมมาชุมนุมมันทำไม่ยาก แต่การจะสนองความต้องการเอาชนะมันไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อมองสถานการณ์ที่ผู้ชุมนุมลดน้อยลง ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของแกนนำคนเสื้อแดงแต่ละฝ่าย ในกลุ่มพวกฮาร์ดคอร์หรือนายจักรภพ เพ็ญแข ก็สบประมาทว่ากลุ่มสามเกลอไม่สามารถนำชัยชนะมาให้คนเสื้อแดงหรือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ ดังนั้น ต้องจับตาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจเลือกไพ่ใบต่อไปด้วยการใช้คนกลุ่มไหนมาเคลื่อนไหว
นพ.วรงค์ กล่าวประเด็นเดียวกันว่า ตนมองการชุมนุมเมื่อช่วงเดือนเมษาฯปีที่แล้วของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าส่อไปในทิศทางของการใช้ความรุนแรง เนื่องจากแกนนำมีการปลุกระดมบนเวทีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการสร้างความรุนแรงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเทเลือดที่ทำเนียบรัฐบาลหรือที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ แต่มันเป็นคนละเรื่องกับข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออก เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่มีเครื่องรับประกันได้ว่า หากรัฐบาลยอมทำเช่นนั้นตามเงื่อนไขแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นจะจบลงด้วยดี ดังเช่นที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในสังคมปัจจุบันนี้รุนแรงมาก ดังนั้น เกรงว่าถ้ายุบสภาจะมีการสงครามรอบใหม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง
นายคำนูณ กล่าวถึงเงื่อนไขคนเสื้อแดงว่า การที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา พอยื่นเงื่อนไขเช่นนี้ทำให้แต้มต่อตกเป็นของรัฐบาลทันที เพราะคนส่วนใหญ่รู้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรียกร้องเพื่อส่วนรวม และการบีบให้มีการเลือกตั้ง มันก็เดาได้ไม่ยากว่าจะต้องมีประเด็นแก้รัฐธรรมนูญช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงยังแบ่งแยกกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างแก๊งสามเกลอกับก๊วนนายจักรภพ ที่มีการแยกเวทีกันคนละที่และโฟนอินโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ฉะนั้น การต่อสู้ครั้งนี้มันจึงขาดเอกภาพ ไม่มีพลังเพียงพอที่จะโค่นรัฐบาลชุดนี้ จึงถือเป็นสิ่งที่กลายเป็นปัจจัยให้รัฐบาลชุดนี้มีอายุยาวยิ่งขึ้น
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ส่วนการเปลี่ยนแกนนำทัพจากแก๊งสามเกลอมาเป็นกลุ่มแดงสยามหรือเสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีทางเลือกอีกมากมาย สมมุติการชุมนุมครั้งนี้จบไปแบบไม่ได้อะไร ก็ยังมีอาวุธต่อสู้ในสภา ที่ทุกฝ่ายจะต้องจับจ้องไปที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าจะใช้กลเม็ดอย่างไรปราบรัฐบาลชุดนี้ แต่ถึงอย่างไร ตนคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเกมในหรือนอกสภาท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ก็ต้องยอมรับว่ามีความหมิ่นเหม่อยู่
นพ.วรงค์ กล่าวถึงการตั้งรับของรัฐบาลว่า เรื่องการซักฟอกในสภา ทางรัฐบาลกำลังเตรียมข้อมูลพวกหลักฐานคลิปเสียงเท็จหรือการตัดต่อต่างๆ มาใช้ชี้แจงความจริงในสภา โดยการอภิปรายครั้งนี้เชื่อว่ามีการเล่นประเด็นนี้แน่นอน ส่วนสถานภาพของรัฐบาลกับพรรคร่วม ตนขอยืนยันว่ายังดีอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากนั้น ทางรายการได้เปิดเทปวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้ปลุกปั่นเวทีคนเสื้อแดง โดยล่าสุดได้มีการโจมตีรัฐบาลและสถาบันองคมนตรีอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นนี้ นพ.วรงค์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์มาแต่ละที ต้องพูดถึงเรื่องยุทธศาสตร์ไพร่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยพยายามสร้างภาพว่ากลุ่มคนเสื้อแดงถูกกดขี่ มีการแบ่งชนชั้นการปกครองและเป่าหูด้วยข้อมูลผิดๆในหมู่คนยากจน ซึ่งในทางการเมืองหากนักการเมืองทำเช่นนี้ แม้ชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถบริหารประเทศได้อยู่ดี ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมุ่งที่จะแบ่งแยกประชาชนแล้วเหยียบย่ำชนชั้นไพร่เพื่อหวังผลทางการเมืองอีก ก็ไม่มีทางจะประสบความสำเร็จ
นายคำนูณ กล่าวถึงแผนปลุกปั่นเรื่องชนชั้นไพร่ว่า เป็นวาทะกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากฝ่ายซ้ายของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งชนชั้นไพร่หรือคนยากจน พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแบบมาให้เป็นสงครามไพร่โค่นล้มอำมาตย์ ซึ่งมันส่อนัยยะของกุนซือที่คิดแผนนี้ และนับว่าเป็นอันตรายต่อระบอบการปกครองไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องทำงานหนักมากขึ้น และตนอยากเสนอให้นายอภิสิทธิ์ คิดจริงจังเรื่องนี้ โดยต้องมองข้ามช็อตการชุมนุมคนเสื้อแดงต่อไปด้วยว่า จะบริหารประเทศต่อไปวันข้างหน้าได้อย่างไร
นพ.วรงค์ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงว่า หากวันนี้ต่อสู้โดยที่ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ม็อบนี้จะมีความชอบธรรมมากขึ้น ดังนั้น เงื่อนไขที่จะบอกให้มีการยุบสภา มันไม่สามารถกระทำได้ด้วยเหตุผลเช่นนี้ ซึ่งทางที่ดีเป็นการที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภา คือ ในเวทีที่ถูกต้องมาหาทางออกร่วมกัน
นายคำนูณ กล่าวแย้งว่า หากหมายถึงการที่รัฐบาลจะยอมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผู้นำที่ถูกต้องจะไปเจรจากับผู้ที่ศาลตัดสินจำคุกและยึดทรัพย์บางส่วนตกเป็นของแผ่นดิน ดังนั้น เงื่อนไขข้อแรกก็ติดขัดแล้ว โดยเฉพาะในกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปก่อนเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ซึ่งลึกๆแล้วตนรู้ว่านายอภิสิทธิ์ก็ต้องการเจรจาอย่างสันติวิธี ถ้าไม่มีเงื่อนไขข้อนี้ แต่ซ้ำร้ายที่ทางด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ปิดประตูและเลือกทางเดินที่จะลามปามประธานองคมนตรี แต่รัฐบาลต้องอย่าลืมว่าเวลานี้ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เขามองข้ามรัฐบาลไป ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปเจรจาได้อย่างไร และโต๊ะการเจรจาจะประกอบด้วยใครบ้าง เนื่องจากจุดมุ่งหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินเกมให้เป็นแบบวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2535 ซึ่งสอดคล้องกับการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จะกลับประเทศไทยได้ก็ต่อเมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณ แต่ถึงอย่างไร เหตุการณ์อย่างนั้นคงไม่เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เอาความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นตัวประกัน ฉะนั้น เหตุการณ์เหมือนเมื่อปี 2535 คงยากที่จะมีให้เห็น แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะแนวทางต่อสู้ของแก๊งสามเกลอ แม้วันนี้ยังไม่มีอะไรรุนแรงมาก แต่ที่น่าห่วงคืออีกกลุ่มที่เป็นสายเหยี่ยวคนเสื้อแดง จะพลิกสถานการณ์ก่อเหตุ ซึ่งมันยัง 50 : 50 ต้องจับตาดูในวันหรือสองวันนี้ให้ดี
