xs
xsm
sm
md
lg

งัด กม.ความมั่นคงคุมพระนคร 13 วัน-เกมยื้อโต้ “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


งานนี้แสดงให้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลน่าจะอ่านเกมออกแล้วว่าฝ่ายทักษิณ ก็มีความกดดัน เนื่องจากต้องเผด็จศึกให้ได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ขณะเดียวกันหากจะใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างความปั่นป่วน ภาพโดยรวมก็ออกมาว่าต้องเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงแน่ ก็จะยิ่งเสียหาย และหากมีการลงมือจริงไม้เด็ดอีกอย่างหนึ่งที่คาดว่าจะต้องนำมาใช้นั่นคือ การขอถอนประกันบรรดาแกนนำให้กลายเป็นคนนอกกฎหมาย ทุกอย่างก็จะเข้าทางมากขึ้นไปอีก

ในที่สุดก็เป็นไปตามความคาดหมายสำหรับการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในกรุงเทพมหานคร และบางพื้นที่เขตปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 11-23 มี.ค.โดยคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.)จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติในวันอังคารที่ 9 มี.ค.นี้

หากติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร จะพบว่ากำลังดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อให้ลบล้างความผิดและได้ทรัพย์สิน อำนาจกลับคืนมาโดยเร็ว

ความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ เกิดขึ้นอย่างเข้มข้นทันทีหลังจากถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์จำนวน 4.63 หมื่นล้านบาทจากการทุจริตหลายกระทง และศาลยังได้ชี้ให้เห็นความผิดอื่นๆ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีอีกมากมายตามมาทั้งทางแพ่งและอาญา

คราวนี้คาดว่าเป็นการทุ่มเทสรรพกำลังมากกว่าทุกครั้ง สังเกตได้จากการรวบรวมทุกกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวพร้อมๆ กัน และหลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าต้องการใช้ “ความรุนแรง” เพื่อบีบคั้นให้ฝ่ายรัฐบาลทำตามเงื่อนไขให้ได้ นั่นคือเป้าหมายเฉพาะหน้าต้อง “ยุบสภา” โดยหวังว่าพรรคเพื่อไทยที่ตัวเองเป็นเจ้าของต้องชนะการเลือกตั้งแล้วกลับมาออกกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดทั้งหมดและฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้วนำฉบับปี 2540 กลับมาใช้ใหม่

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ การชุมนุมครั้งนี้อาจมีการคาดหวังลึกๆว่าหากมีจำนวนคนเข้าร่วมมากพอก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ ซึ่งเป้าหมายคงไม่ใช่หยุดอยู่ที่ “อำมาตย์” ดังที่ ทักษิณ และคนเสื้อแดงพยามสร้างสัญลักษณ์ในการต่อสู้อย่างแน่นอน เพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้ในกลุ่มเครือข่ายโดยเฉพาะ “สื่อเสื้อแดง” ต่างออกมาเปิดเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นคืออะไร ดังกรณีลงภาพหน้าปกของนิตยสาร “VOCE OF TAKSIN” ฉบับล่าสุดที่ลงรูป ครุฑพ่าห์ ถูกปิดหน้าแล้วมีข้อความว่า “บ้านที่ดีต้องเริ่มที่พ่อ” ว่าต้องการสื่อให้เห็นอะไรและสื่อถึงใคร!!

นาทีนี้เรียกได้ว่าเปิดหน้ากันเต็มตัว ไม่มีอำพรางกันอีกต่อไป ขณะที่ ทักษิณ ก็ได้วิดีโอลิงก์ตามเวทีคนเสื้อแดงที่มีการโหมโรงกันก่อนถึงวันชุมนุมใหญ่ไปทั่วประเทศ “ปลุกระดม” กันเต็มที่ ทำทุกวิถีทางเพื่อปลุกเร้าให้ชาวบ้านเข้าร่วมให้มากที่สุด


อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “ฮาร์ดคอร์” รวมไปถึงกลุ่มที่ติดอาวุธและนิยมความรุนแรงเข้ามาพร้อมๆกัน ซึ่งก็มีทั้งใช้คำพูดข่มขู่ว่าจะเกิดเหตุร้ายที่นั่นที่นี่รวมไปถึงการลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งต่อมาก็มีการจับกุม “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล “เคทอง” หรือ พรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ กับพวกรวม
8 คนพร้อมอาวุธอีกจำนวนหนึ่ง โดยคัดค้านการประกันตัว
นอกจากนี้ยังมีการจับกุมคนที่ก่อเหตุขว้างปาระเบิดเข้าใส่ธนาคารกรุงเทพสาขาสีลมเมื่อหลายวันก่อน จำนวน 2 คน ซึ่งยอมรับว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มคนเสื้อแดงอีก

ความเคลื่อนไหวทั้งสองเหตุการณ์ย่อมเป็นการชี้ให้เห็นว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12-14 มีนาคมล้วนส่อไปในทางรุนแรง และแม้ว่าจะสามารถจับกุมคนที่ก่อเหตุขว้างระเบิดและกลุ่มที่ชอบเคลื่อนไหวในแนวทางรุนแรงอย่างกลุ่ม “เสธ.แดง” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเหตุการณ์ร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจะบรรเทาเบาบางลงไป

ขณะเดียวกัน หากมองอีกด้านหนึ่ง การประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงของรัฐบาลตั้งแต่วันที 11-23 มี.ค.ในพื้นที่กรุงเทพฯและบางพื้นที่ในเขตปริมณฑล รวมทั้งการเลื่อนเดินทางไปเยือนประเทศออสเตรเลียของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค.อย่างไม่มีกำหนดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้เตรียมมาตรการรับมืออย่างเข้มข้นเช่นเดียวกัน

เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงประเมินสถานการณ์แล้วว่าบรรยากาศน่าจะตึงเครียดจึงได้งดกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศดังกล่าว

หากพิจารณาจากจำนวนวันที่ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 11-23 มี.ค.เป็นเวลาถึง 13 วัน ขณะที่ ฝ่าย ทักษิณ ประกาศว่าจะชุมนุมแบบ “ม้วนเดียวจบ” 12-14 มี.ค. แค่ 3 วัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าฝ่ายรัฐบาลได้เตรียมการตั้งรับแบบยืดเยื้อ และอ่านเกมออกว่ายิ่งคนเสื้อแดงชุมนุมนานเท่าไหร่และหากยังไม่อาจล้มรัฐบาลลงได้ ความเบื่อหน่ายของผู้ชุมนุมเองรวมไปถึงคนกรุงเทพฯที่จะเดือดร้อนรำคาญก็จะยิ่งเป็นตัวบั่นทอนกำลังไปโดยปริยาย

ประกอบกับในช่วงนี้เป็นช่วงอากาศร้อนจัด การอยู่กลางแดดเป็นเวลานานก็ยิ่งทำให้เกิดอาการอ่อนล้าลงไปเรื่อยๆ

งานนี้แสดงให้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลน่าจะอ่านเกมออกแล้วว่าฝ่ายทักษิณก็มีความกดดัน เนื่องจากต้องเผด็จศึกให้ได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ขณะเดียวกันหากจะใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างความปั่นป่วน ภาพโดยรวมก็ออกมาว่าต้องเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงแน่ ก็จะยิ่งเสียหาย และหากมีการลงมือจริงไม้เด็ดอีกอย่างหนึ่งที่คาดว่าจะต้องนำมาใช้นั่นคือ การขอถอนประกันบรรดาแกนนำให้กลายเป็นคนนอกกฎหมาย ทุกอย่างก็จะเข้าทางมากขึ้นไปอีก

การงัดกฎหมายความมั่นคงขึ้นมาใช้ควบคุมก็ยิ่งเป็นการเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญยังได้ “เบี้ยเลี้ยง” เป็นกอบเป็นกำ เป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วย

ดังนั้น เมื่อประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้วเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนในสังกัดทักษิณที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน แม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลยังได้เปรียบอยู่หลายขุม เพราะคราวนี้ฝ่าย “บิ๊ก”กองทัพจำเป็นต้องกอดคอกับ อภิสิทธิ์ ต่อไป อย่างน้อยก็ชั่วระยะหนึ่ง เพราะถ้าชิ่งไปก่อนก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน!!



กำลังโหลดความคิดเห็น