xs
xsm
sm
md
lg

ไข่แม้วบ่นอุบ รบ.ใช้ กม.มั่นคง เหน็บเครื่องมือรักษาอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกเพื่อไทยบ่นพึมพำอ้างรู้ทัน รบ.ต้องประกาศใช้ กม.มั่นคง โวย เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจติง ตร.อย่าด่วนสรุปคดีปาบึ้ม ฝีมือเสื้อแดง ชี้ พิรุธอื้อ ทำขึงขังตั้ง “วอร์รูม” เกาะติดชุมนุม 12 มี.ค.พร้อมช่วยม็อบแดง ดักคอ “มาร์ค” ล้มไปออสซี่ ผวาเจอคนไทยต่างแดนไล่

วันนี้ (8 มี.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ คตม.มีมติเตรียมเสนอให้ ครม.ประกาศใช พ.ร.บ.ความมั่นคง ตั้งแต่วันที่ 11-23 มีนาคมนี้ ในเขต กทม.และปริมณฑลเพื่อควบคุมการชุมนุมคนเสื้อแดงนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เกินความจริงที่คาดหมายไว้ว่ารัฐบาลต้องออกมาในมุกนี้ ก่อนหน้านี้ คนในรัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ได้ออกมาปล่อยข่าวในลักษณะว่าจะมีการสร้างความรุนแรง หรือก่อวินาศกรรมในระหว่างการชุมนุม ซึ่งการที่รัฐบาลจะนำกฎหมายความมั่นคง มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างแท้จริง เพื่อรักษาอำนาจของตนเอง เป็นการผิดจากวัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากยังไม่มีข้อเท็จจริงใดที่จะปรากฏว่า มีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะใช้กฎหมาย ทั้งๆ ที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นและยังเป็นการจำกัดสิทธิของผู้ชุมนุมและประชาชนผู้ที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงเป็นการทำลายบรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยว จึงเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะตราบใดที่การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบและปราศจากอาวุธ รัฐบาลย่อมไม่มีสิทธิมาจำกัดสิทธิเสรีภาพการชุมนุมได้ การที่รัฐบาลนำกฎหมายความมั่นคงเป็นเครื่องมือ ปกติจะมีเฉพาะรัฐบาลเผด็จการทหารเท่านั้นที่ชอบใช้กฎหมายดังกล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีตำรวจสามารถจับกุมตัว 2 ผู้ร่วมก่อเหตุปาระเบิดธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลมได้แล้วโดยผู้ต้องหาที่จับได้ ยอมรับว่า ได้รับการร้องขอจากแนวร่วมคนเสื้อแดงให้ดำเนินการนั้น จะเห็นว่า การจับกุมผู้ต้องหามีพิรุธและความไม่สมเหตุผลหลายประการโดยเฉพาะที่ นายเอกชัย มูลเกษ ให้การว่า ไม่เคยเห็นหน้าและรู้จักคนปาระเบิด และหลังมีการก่อเหตุ แทนที่จะไปแจ้งตำรวจแต่กลับพาไปผู้ก่อเหตุไปส่งแล้วกลับบ้านไปเล่นเกมตามปกติซึ่งผิดวิสัยคนทั่วไป หากนายเอกชัย บริสุทธิ์จริง ควรออกมาแสดงตนตั้งแต่แรก ไม่ต้องรอให้ถูกจับกุมได้ ส่วน นายไสว ยางสันเที๊ยะ อ้างว่าได้รับการไหว้วานจากแนวร่วมคนเสื้อแดงโทร.มาหาโดยเป็นเบอร์โทรศัพท์มีเพียงเลข 00 เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติผู้โทรศัพท์มีเจตนาปิดบัง เมื่อไม่รู้จักกันมาก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนไม่รู้จักกันจะยอมรับทำเรื่องที่มีความเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย ซึ่งนายไสวควรต้องไตร่ครองเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมีข้อสงสัยว่า ที่มีการพุ่งเป้าการวางระเบิดไปที่กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเบอร์โทรที่สั่งการเป็นเบอร์ 00 ก็เพื่อไม่ต้องการให้สาวต่อ แต่จบที่ว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดง เพื่อเป็นข้ออ้างว่าคนเสื้อแดงเป็นคนก่อเหตุเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่สามารถจับคนปาระเบิดได้ ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดง

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ในวันนี้พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมือง โดยได้มีมติตั้งคณะทำงาน หรือ “วอร์รูม” เพื่อติดตามสถานการณ์ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงระดมพลชุมนุมใหญ่ระหว่างวันที่ 12 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยจะมีศูนย์บัญชาการ อยู่ที่พรรคเพื่อไทย ถนนพระรามสี่ นายยงุยุทธ วิชัยดิษฐ มีหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งจะมีคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.และสมาชิกพรรค ร่วมวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ เพื่อติดตามตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลเป็นไปตามกฎหมาย และละเมิดสิทธิของประชาชนตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งจะให้การช่วยเหลือกรณีที่รปะชาชนอาจถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ ความปลอดภัย สาธารณูปโภค ซึ่งสมารถแจ้งความเดือดร้อนหากได้รับการบาดเจ็บต่างๆ พรรคเพื่อไทยก็จะทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานราชการ รัฐบาลต่างๆ เนื่องจากเมื่อครั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมขับไล่ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เคยออกไปร่วมติดตามการชุมนุมและให้การดูแล ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจึงจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการดูแลประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้รัฐบาลคำนึงถึงสิทธิความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ส่วนจะมีส.ส.ในเข้าร่วมชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม พรรคก็ได้ให้เป็นเรื่องสิทธิของส.ส.แต่ละคน

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรี ประกาศงดเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 14 มี.ค.นั้น พรรคเพื่อไทยไม่เชื่อว่านายกฯจะทำด้วยความจริงใจและมีเหตุผลในเรื่องของสถานการณ์ภายในประเทศจริง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้รับข้อมูลเอกสารหลักฐานจากคนไทยในออสเตรียที่เตรียมจะชุมนุมประท้วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยมีการทำหนังสือและไปยื่นต่อรัฐบาลออสเตรเลียที่เมืองนิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย อย่างเป็นทางการตามกฎหมายของประเทศออสเตรีย จึงเห็นว่า กรณีดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินยกเลิกกำหนดการไปประเทศออสเตรเลีย
กำลังโหลดความคิดเห็น