xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯปลุก ปชช.พร้อมรับมือแดงเผาเมือง แย้มมี บางระจัน 2553

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกนนำพันธมิตรฯ ปลุกประชาชนพร้อมรับมือเสื้อแดงป่วนเมือง หากรัฐบ่มิไก๊ “พิภพ” จวก “ทักษิณ” หวังผลเหมือน “พฤษภาทมิฬ” เชื่อเดินเกมพลาด ยันเคลื่อนไหวไม่แบ่งสี ลั่นไม่ทำสถานการณ์เลวร้ายลง “สมเกียรติ” วอนเสื้อแดงอย่าตกเป็นเหยื่อพวกจ้องป่วน ลั่นอาจได้เห็น “ชาวบ้านบางระจัน” ยุคใหม่ ปกป้องชุมชน เย้ย แกนนำแดงไม่มีใครกล้าตายแทน “แม้ว” สรส.ยันไม่ยอมให้กรุงเทพฯอัมพาตแน่ “จำลอง” แนะอย่าเชื่อไม่มีรัฐประหาร แต่อย่าให้เกิดแล้วกัน “ศิริชัย” ซัด แดงต้นตอสร้างเงื่อนไข



วันนี้ (9 มี.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ ๔ /๕๓ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กEหมายป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และให้ภาคประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อการบิดเบือนข่าวสาร และต่อต้านหยุดยั้งเหตุ โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในวันนี้แกนนำพันธมิตรได้เรียกประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ซึ่งถ้ารัฐไม่สามารถจัดการอะไรได้ เราจึงต้องจำเป็นที่จะออกมาเคลื่อนไหว

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า ตนขอเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า กำลังเดินยุทธศาสตร์การเมืองที่ผิดพลาด เพราะกำลังทำลายชาติ และสังคม จากการที่กระทำตระบัดสัตย์ ไม่ยอมรับคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ 46,373 ล้านบาท ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการชี้นำเหตุการณ์ให้มีการเจรจาแบบช่วงพฤษภาทมิฬ ปี 2535 จนนำไปสู่การนิรโทษกรรมนั้น ถือว่าเป็นการเดินเกมที่ผิดพลาดมาก และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่หยุดยั้งการกระทำก็จะถูกตราหน้าไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ทำลายชาติเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ชุมชนจะต้องพร้อมที่จะปกป้องตัวเอง แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจ อย่าให้ตกเป็นเครื่องมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ขณะที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ระบอบทักษิณจะจบลงด้วยการเคลื่อนไหวของพลังทางศีลธรรม หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศตัวเป็นศัตรูต่อศาล ล้มล้างราชอาณาจักร ซึ่งจากนี้เราอาจได้เห็นชาวบ้านบางระจันยุคใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งในจังหวัดต่างๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนการที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามข่มขู่จะทำกรุงเทพฯให้เป็นทะเลเพลิง และให้เป็นอัมพาตนั้น ตนขอวอนให้ประชาชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงอย่าตกเป็นเหยื่อ เพราะประชาชนกลุ่มอื่นอาจมีสิทธิ์ตอบโต้การกระทำดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากรัฐบาล และกองทัพ ไม่สามารถจัดการป้องกันความรุนแรงได้ ประชาชนก็เป็นสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเมืองด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ตนมองว่า แกนนำเสื้อแดงไม่มีใครที่จะกล้าตายแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ มีแต่จะหลอกให้ประชาชนมาเป็นเหยื่อเท่านั้น

ด้าน นายอำนาจ พละมี แกนนำสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า ทางสหภาพจะไม่ยอมให้ใครทำกรุงเทพฯให้เป็นอัมพาตเด็ดขาด ซึ่งสหภาพพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางให้เกิดความสงบขึ้น เช่นเดียวกับ นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรฯรุ่น 2 ที่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า กลุ่มเสื้อแดงจะมีการเคลื่อนไหวแบบใด ซึ่งสังคมไทยต้องพร้อมประณามพวกที่ใช้ความรุนแรง

นายพิภพ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะออกมาเคลื่อนไหวนั้น จะทำให้สถานการณ์บานปลายขึ้นหรือไม่ ว่า การเคลื่อนไหวนั้นจะคำนึงถึงสถานการณ์เป็นหลัก ซึ่งจะวิเคราะห์แล้วว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และยืนยันว่า การเตรียมพร้อมในที่นี้ไม่ใช่เฉพาะแค่พันธมิตรฯ แต่หมายถึงประชาชนชาวไทยทั้งหมด ซึ่งหากมีการเคลื่อนไหวจะต้องทำให้ทุกอย่างคลี่คลายได้ลง

ส่วนการกังวลว่าจะมีการทำรัฐประหารขึ้นนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เงื่อนไขการทำรัฐประหารอยู่ที่สถานการณ์ ซึ่งทหารก็จะต้องพิจารณาแล้วว่าสมควรกระทำหรือไม่ เพราะหากทำไปแล้วพลาดก็จะเป็นกบฏ ฉะนั้น อย่าไปเชื่อว่าจะไม่มี เพียงแต่เราต้องอย่าทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นก็แล้วกัน ขณะที่ นายศิริชัย กล่าวเสริมว่า ตนเชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารขึ้น ส่วนพันธมิตรฯเองนั้น พยายามหลีกเลี่ยง

นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีแนวโน้มจะเกิดความรุนแรงด้วยว่า เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไร้ทางเลือก จะต้องยึดอำนาจรัฐให้ได้จึงมีตัวเลือก 2 ด้าน คือ ใช้ความรุนแรง และยุบสภา ซึ่งขณะนี้จากการประเมินศักยภาพรัฐที่เตรียมตั้งรับ และพร้อมจะรุกกลับโดยออก พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็สบายใจได้อยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ด้านนายพิภพ กล่าวว่า ตนยืนยันว่า การออกมาในครั้งนี้ไม่ได้เลือกว่าจะต้องเป็นสีใด ทั้งนี้ ตนเสนอให้รัฐใช้กฎหมายจัดการผู้กระทำความรุนแรงได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ยินยอมให้เข่นฆ่าประชาชน ซึ่งตนยังห่วงใยต่อทุกฝ่ายไม่อยากให้มีการบาดเจ็บล้มตายลง และไม่อยากให้ใครก็ตามเป็นเหยื่อของความรุนแรง

รายละเอียดแกนนำพันธมิตรฯแถลงข่าว

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

เราประชุมในวันนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไหวภาคประชาชน ซึ่งการเคลื่อนไหวของพวกเราแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องน่ารื่นรมณ์ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ต้องอาศัยความอดทน อาศัยความเสียสละอย่างยิ่ง แต่เราไม่มีทางเลือก ถ้าแม้นว่ารัฐบาลไม่สามารถจัดการอะไรได้ ปล่อยให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงต่อไป ก็เป็นความจำเป็นที่เราในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน ก็จะต้องออกมาเคลื่อนไหว เพื่อนำสันติสุขมาสู่สังคม บ้านเมือง ซึ่งเราได้มีการพูดกันแล้วหลายเรื่องหลายราวทีเดียวในการประชุมวันนี้ ส่วนวัน เวลา สถานที่นั้น เราก็จะประกาศให้ทราบต่อไปเมื่อถึงเวลา

พี่น้องประชาชนคงเห็นว่าเราจะทำเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆ เราไม่ใช่อะไรก็จะเคลื่อนไหวๆ ก็เปล่า เห็นว่าถ้าไม่มีทางอื่นเลย เราไม่สามารถเลือกทางอื่นได้ เราก็จะต้องเคลื่อนไหวแน่นอน และเราก็ได้ผ่านความยากลำบากมาแล้วตลอดระยะเวลาที่เราเคลื่อนไหวมานั้น ถ้าจะเกิดขึ้นอีกสักครั้งก็ไม่เป็นไร เพื่อชาติเพื่อบ้านเมืองของเรา จึงขอประกาศให้ประชาชนได้ทราบเพื่อความสบายใจว่าเราทำตามความจำเป็นเท่านั้น และขอให้หลายๆ คนได้เตรียมความพร้อมเอาไว้ เมื่อมีการนัดแนะกัน ก็จะได้มาอย่างพร้อมเพรียง ณ วัน เวลา และสถานที่ที่เราจะกำหนดต่อไป

พิภพ ธงไชย

ผมอยากจะพูดไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะว่าอยากจะเตือนท่านว่า ท่านดำเนินยุทธศาสตร์ทางการเมืองครั้งนี้ผิดพลาด และจะเสียหายกับตัวท่านเอง กับครอบครัว แต่ความเสียหายของตัวท่านเองกับครอบครัวนั้น ลำพังก็คงอยู่ในขอบเขตจำกัด แต่ยุทธศาสตร์ของท่านครั้งนี้ท่านกำลังทำลายประเทศชาติ บ้านเมือง และสังคม ทำให้สังคมรู้สึกว่าตกอยู่ในอันตราย จากการที่ท่านตระบัดสัตย์ ไม่รับคำพิพากษา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าท่านพร้อมจะน้อมรับคำพิพากษา ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และในขณะที่กำลังมีการสอบสวนพยานในศาลยุติธรรม ท่านและครอบครัว รวมทั้งทนาย ก็พร้อมในการต่อสู้ หาหลักฐานพยานต่างๆ มาแก้ต่าง ข้อกล่าวหา เพราะฉะนั้นเมื่อผลคำพิพากษาออกมาเช่นนี้แล้ว ทั้งชัดเจน ยุติธรรม เป็นที่เข้าใจกับประชาชนทั่วไปที่รักความเป็นธรรม ว่าถูกต้องและเป็นธรรม ท่านกลับตระบัดสัตย์ โดยไม่รับคำพิพากษา

เพราะฉะนั้นการตระบัดสัตย์ของท่านครั้งนี้ ท่านจะไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์พฤษภาฯ ก็คงเห็นเช่นเดียวกันว่า สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์พฤษภาฯ เพราะการตระบัดสัตย์ของผู้นำ รสช.ในตอนนั้น และถ้าท่านต้องการจะชี้นำให้เครือข่ายของท่านใช้ความรุนแรงกับสังคมไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปสู่การเจรจาประนีประนอมแบบเหตุการณ์พฤษภาฯ ผมคิดว่านี่เป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาด เพราะว่าฐานของ รสช.เป็นฐานที่ผิด ฐานของผู้นำ รสช.ในตอนนั้นที่กลับมาตระบัดสัตย์มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งก็ผิด ฐานการใช้ความรุนแรงกับประชาชนในท้องถนนราชดำเนินก็ผิด แต่ครั้งนี้รัฐบาลมีความชอบธรรม โดยยืนอยู่บนคำพิพากษาที่ชอบธรรม ฉะนั้นถ้าใช้ฐานที่ผิดกัน แล้วคิดว่าจะได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันกับเหตุการณ์พฤษภาฯ คือมีการเจรจาประนีประนอมยอมความ และออก พ.ร.บ.กฎหมายนิรโทษกรรมทั้งหมด นี่ผมคิดว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดของคุณทักษิณ

แล้วยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดนี้ กำลังทำลายสังคมไทยและก่อให้เกิดความหวาดกลัว เพราะฉะนั้นวันนี้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับคุณทักษิณ ว่าคุณใช้ยุทธศาสตร์ที่ทำลายชาติบ้านเมือง ถ้าคุณไม่หยุดยั้ง คุณจะถูกตราไว้ในประวัติศาสตร์ว่าคุณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตนักโทษชาย ที่ทำลายชาติบ้านเมืองอย่างมาก แล้วประชาชนคนไทยที่รักความเป็นธรรม รักสันติทุกหมู่เหล่า ย่อมจะไม่สามารถจะอยู่เฉยๆ เพื่อให้การไม่รับคำพิพากษา ตระบัดสัตย์ แล้วมาทำลายชาติบ้านเมือง ทำลายสังคมทั้งประเทศ ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ สถาบันและองค์กรต่างๆ ของสังคมไทยที่รวมตัวกันเป็นรัฐ ซึ่งหมายถึงชุมชนด้วย ก็ต้องพร้อมที่จะออกมาปกป้องตัวเอง ไม่ให้กลุ่มคุณทักษิณนำพาประเทศชาติไปสู่ความฉิบหายและความล่มสลาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็อยากจะเรียนเตือนว่า ทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจและไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของคุณทักษิณ

ตอนนี้คุณทักษิณกำลังใช้คนพวกนี้เป็นเครื่องมือ ขณะเดียวกันคนพวกนี้ก็ใช้คุณทักษิณเป็นเครื่องมือ ก็ไม่เป็นไร ถ้าการใช้เครื่องมือนั้นไม่ทำลายชาติบ้านเมือง ฉะนั้นผมอยากจะเรียนว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีจุดยืนตรงว่า ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย และการชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบและสันติ และไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และชุมชนที่จะป้องกันตัวเองก็จะต้องเคารพกฎหมาย และอยู่ในการป้องกันตัวเองแบบสงบและสันติตามที่ขอบเขตของกฎหมายกำหนดไว้

ผมว่าวันนี้ถึงเวลาที่ชุมชน คนไทยทั้งประเทศ ต้องร่วมกับรัฐบาล เพื่อออกมาปกป้องประเทศชาติ เพราะการเคลื่อนไหวของคุณทักษิณครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์กับตัวเองอย่างเดียว แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่จะทำลายประเทศชาติและสังคมไปในที่สุดครับ

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

กราบเรียนพี่น้องประชาชนผ่านสื่อมวลชน 3 ข้อนะครับ ข้อแรก ผมยังยืนยันเสมอว่า ระบอบทักษิณจะจบลงด้วยการเคลื่อนไหวใหญ่ของประชาชน หรือการตื่นขึ้นของชุมชนผู้รักสันติ ที่ผมเคยใช้ศัพท์ว่า "พลังทางศีลธรรม" พลังทางศีลธรรมของสังคม ปรากฏการณ์นี้ทักษิณได้ประกาศชัดเจนว่าเขาเป็นศัตรูต่อราชอาณาจักร ศัตรูต่อองค์กรที่ในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ ก็คือศาล ไม่ยอมรับ แล้วก็มุ่งทำลายศาล และขบวนการของเขายังมีขบวนการต้องการล้มล้างราชอาณาจักรด้วย เพราะฉะนั้นเราจะเห็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ใหม่ก็คือว่า การลุกขึ้นปกป้องชาติบ้านเมืองของพลังทางศีลธรรม หรือเราอาจจะเรียกว่าชาวบ้านบางระจันยุคใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดต่างๆ ว่าเขาไม่อาจจะทนต่อพฤติกรรมฉ้อฉลปล้นชาติ แล้วยังตั้งกลุ่ม แก๊งอันธพาล มาสร้างความหวาดกลัวและไม่ปลอดภัยให้กับประเทศ

อันนี้ผมคิดว่าองค์กรเครือข่ายของระบอบทักษิณจะได้เห็นแน่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ชาวบ้านบางระจันยุคใหม่

ประเด็นที่ 2 การที่เครือข่ายของระบอบทักษิณอย่างน้อยกลุ่ม 3 เกลอ หรือหลายเกลอ ออกมาข่มขู่สังคมไทย ใน 2 รอบที่เป็นภาษาที่น่าสะพรึงกลัวมาก ครั้งแรก ให้เตรียมขวดเปล่ามาเติมน้ำมันในกรุงเทพฯ ประมาณล้านขวด แล้ววางเพลิง เขาใช้ศัพทว่าให้กรุงเทพฯ กลายเป็นทะเลเพลิง ตอนนี้รายงานที่เราได้รายงานต่อสาธารณะไปแล้วก็มีอย่างน้อยมาจากจังหวัดในภาคอีสานจังหวัดใหญ่จังหวัดหนึ่ง ร้อยเอ็ด ได้เตรียมขวดมา ที่รายงานเข้าสู่รัฐบาลแล้วจำนวนมาก ปฏิบัติการนี้อาจจะซ่อนเร้นอยู่

ครั้งที่ 2 เขาได้มาเตือนว่าในวันที่ 14 หรือสงคราม 9+1 ทัพ สงคราม 10 ทัพของเขา เพื่อจะเป็นสงครามสัญลักษณ์ที่พม่าเคยยกมา 9 ทัพ แต่แพ้ปฐมบรมกษัตริย์ของราชวงศ์จักรี เขาเลยเพิ่มไปอีก 1 ทัพ เป็น 10 ทัพ โดยโฆษกที่เป็นแพทย์ของเขา ชื่อหมอเหวง แถลงการณ์ว่ามี 10 ทัพ แต่อาจจะมาน้อยหน่อยนะหมอ เข้ามาเพื่อปฏิบัติการที่เขาเรียกว่า ทำกรุงเทพมหานครให้เป็นอัมพาต เพราะฉะนั้นศัพท์ที่เขาทำให้น่ากลัว 2 ครั้ง 1. กรุงเทพมหานครกลายเป็นทะเลเพลิง 2. เป็นเมืองอัมพาต เป็นศัพท์ที่ข่มขู่ประชาชนและสถาบันหลักของชาติ

ปฏิบัติการในการก่อกวน ใส่ร้ายป้ายสี และข่มขู่ท่านประธานองคมนตรีที่นครราชสีมาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้สะท้อนว่ากลุ่มนี้เหิมเกริมขนานใหญ่ต่อสถาบันที่ใกล้ชิดที่สุดของสำนักพระราชวัง หรือพระมหากษัตริย์ไทย ผมจึงคิดว่า ย้ำเตือนไปว่า พี่น้องประชาชนโปรดอย่ามาทำให้กรุงเทพฯ เป็นทะเลเพลิง อย่าตกเป็นเหยื่อ และก็อย่าทำให้กรุงเทพฯ เป็นอัมพาต เพราะว่าประชาชนกลุ่มอื่นมีสิทธิ์ตอบโต้การกระทำเช่นเดียวกัน

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเรียกประชุมด่วนวันนี้ ภายใต้เงื่อนไขเดียวก็คือว่า หากรัฐบาลและกองทัพจัดการไม่ได้ เหนือบ่ากว่าแรง หรือทำไม่เต็มกำลัง ประชาชนที่เหลืออยู่ก็มีสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นมาปกป้องชาติบ้านเมือง เพราะเราถือว่า 3 เสาหลักค้ำจุนราชอาณาจักรไทย 1. รัฐบาล 2. กองทัพ 3. ศาล ศาลสถิตยุติธรรมได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ยึดทรัพย์ไปแล้ว 4 หมื่นกว่าล้าน และมีลายแทงไปอีก 10 กว่าคดี จะยึดอีกหลายแสนล้าน จึงเป็นคำพิพากษาสืบเนื่อง ที่จะต้องกวาดล้างให้หมด เพราะฉะนั้นศาลได้ทำหน้าที่เต็มกำลังและครบถ้วนแล้ว ก็ยังเหลือกองทัพกับรัฐบาล คำพูดของท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บอกว่าถ้ากองทัพและรัฐบาลเหนือบ่ากว่าแรง คำพูดของท่านอ่อนโยน สุภาพ แล้วก็คือทำอะไรไม่ได้ พันธมิตรฯ ก็จำเป็น ท่านจึงใช้ศัพท์ว่า รอการเคลื่อนไหว แถลงการณ์นี้ย้ำเตือนไปถึงพี่น้องพลังทางศีลธรรมทั่วประเทศ รอฟังประกาศการเคลื่อนไหวของเรา จะเคลื่อนไหวด้วยจังหวะก้าวที่เหมาะสม คำนึงถึงความปลอดภัยที่สุด ส่งผลประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมากที่สุด และมีความชอบธรรมที่สุดที่จะเคลื่อนไหวกัน

และข้อสุดท้าย ผมอยากจะเรียนพี่น้องประชาชนชาวชนบทที่ผมได้คลุกคลีกับพวกท่านอยู่ ในฐานะคนจนและคนยากไร้ รวมทั้งผู้ต้องการสังคม ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า ว่า คนที่เป็นหัวโจก แกนนำท่าน ไม่มีใครกล้าแทน พ.ต.ท.ทักษิณ สักคนหรอกครับ มีแต่เขาจะปอกลอกทักษิณทั้งสิ้น ไม่มีใครกล้าตายแทน เขาจะหลอกให้ท่านพลีชีพ หรือเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องในสิ่งที่บุคคลที่เขาสามารถรีดเอาทรัพย์ หรือเรียกเอาทรัพย์ได้ แล้วก็มีส่วนแบ่งให้ท่านบ้างจำนวนหนึ่ง ไม่มากเกินไป ทำให้ท่านได้มีข้อวิพากษ์วิจารณ์และสงสัยมานานแล้วว่า ทำไมพวกท่านเคลื่อนไหวก็ได้รับรายวัน ได้ครบบ้าง ไม่ครบบ้าง แต่พวกหัวโจกกลับร่ำรวย สู้เพื่อรวยโดยตลอด เพราะฉะนั้นผมจึงย้ำเตือนไปถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่อยู่ในภาคชนบทและภาคเมือง

ย้ำอีกทีว่า ไม่มีใครกล้าตายแทนทักษิณหรอกครับ นอกจากเหยื่อที่ไม่รู้เรื่อง ก็คือบางคนในพวกท่าน ขนาดทักษิณเองบอกว่าจะกลับมาเมื่อประกาศเป่านกหวีดลุกขึ้นสู้ จากกัมพูชา อยู่ใกล้ๆ นี้เอง ว่าจะกลับมา กลับบินหนีไปแอฟริกาเลย ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าทักษิณเป็นคนขี้ขลาดที่สุด แล้วท่านมีหัวโจกขี้ขลาดที่สุดแล้ว แล้วมีกลุ่มหัวเกลอทั้งหลายคอยรีดเอาทรัพย์มา แล้วแบ่งท่านนิดหน่อย ท่านจะคิดยังไง เรามาวันนี้เพื่อ 1. บอกว่าพลังทางศีลธรรมมีการรอติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด จะลุกขึ้นสู้เมื่อมีเหตุผลที่หนักแน่น และเป็นไปทางที่เหมาะสม สันติ และเชื่อว่ากลุ่มพลังทางศีลธรรม และชาวบ้านบางระจันใหม่จะเกิดขึ้นทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งทั้งประเทศ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ

อำนาจ พละมี

วันนี้เป็นอีกวันหนึ่ง ทางสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และทำหน้าที่ให้บริการรับใช้พี่น้องประชาชนมาตลอดทั้งประเทศ เราในส่วนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขอยืนยันว่า เราจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นอัมพาต ตัดขาดการคมนาคม ในส่วนของผู้ใช้แรงงาน ในส่วนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ในฐานะองค์กรสมาชิกของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส. จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย และมีความสงบ สันติ ทำให้ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของพลังทางศีลธรรม อย่างที่ อ.สมเกียรติ ได้เรียนในตอนต้น เพราะฉะนั้นขอยืนยันให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่เป็นเจ้าของประเทศไทย ที่รักชาติรักบ้านรักเมือง ได้ร่วมกันรักษาให้เกิดความสงบกับประเทศชาติและประชาชน อย่ายอมให้ใครก็ตามมาทำร้ายประเทศชาติอีกต่อไป

ศิริชัย ไม้งาม

เรียนพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าจากนี้ไปอีก 4 วัน จะถึงจุดหักเหของประเทศที่เอาอนาคตของประเทศเป็นเครื่องต่อรอง เพราะว่าทุกคนคงได้ทราบว่าวันนี้สังคมไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงในการดำเนินชีวิต ความสุขของคนไทยลดน้อยลง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราคงทราบว่า การเคลื่อนไหวของ นปช. ซึ่งเราไม่สามารถจะประเมินได้ว่า การเคลื่อนไหวนั้นจะออกในรูปแบบใด ดังนั้นการติดตามสถานการณ์เป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีการประเมินสถานการณ์โดยตลอด อยากจะเรียกร้องไปถึงพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ทุกหมู่เหล่า ว่าวันนี้การรวมตัวของพี่น้องจะทำให้เกิดพลังสามัคคีในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ ขอให้ทุกคนใช้สิทธิ์ในการปกป้องตัวเอง และชุมชนหรือสังคมที่เป็นของคนไทยทุกคน อย่าตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจากใครก็ตามที่เอาเรื่องของอนาคตของประเทศชาติไปทำเพื่อคนบางกลุ่ม บางพวก และเรียกร้องว่าถ้าเกิดความรุนแรงขึ้น สังคมไทยต้องพร้อมจะประณาม อย่ายอมรับเงื่อนไขของคนที่ทำลายบ้านเมือง ผมคิดว่านี่คือการช่วยของคนไทย ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ที่จะช่วยชาติบ้านเมือง

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ในระยะเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีข่าวร้ายๆ ที่ทำลายบ้านเมือง ก็ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างกระชั้นชิด และอย่าวิตกกังวลเกินกว่าเหตุ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ เราในฐานะที่เป็นคนที่ระลึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ อย่าไปวิตกกังวล

ช่วงถามตอบ

ถาม - ประเมินนี้ ถ้าเกิดว่า เสื้อเหลืองออกมานี่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกหรือเปล่า

จำลอง - เราคงไปตอบแทนเขาไม่ได้ ว่าเขาจะทำให้เลวร้ายลงแค่ไหน แต่เราก็พร้อมเผชิญเหตุการณ์ แม้รัฐบาลและทหารจัดการอะไรไม่ได้

พิภพ - โดยหลักการเคลื่อนไหวของเรา ทุกครั้งที่ผ่านมา เราจะคำนึงถึงสถานการณ์เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง เราจะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้าย เพราะฉะนั้น คำถามของคุณว่า ถ้าออกมาจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายหรือไม่ การเคลื่อนไหวใดๆ ของเรา เราจะวิเคราะห์และพิจารณาแล้วว่า จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติโดยรวม และไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

สอง ผมคิดว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ คงไม่ใช่เฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่หมายถึงประชาชนทุกภาคส่วน ณ ที่ยึดมั่นและต้องการรักษาประเทศชาติให้รอดปลอดภัย เพราะตอนนี้ การกระทำของคุณทักษิณ และพวก เป็นการมุ่งโจมตีสังคมไทยทั้งสังคมให้เกิดภาวะที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้ เพราะฉะนั้นอยากจะตอบว่า เราจะคำนึงถึงเรื่องนี้ ว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ครั้งนี้ จะทำในนามประชาชนที่รักความเป็นธรรมทั้งประเทศ และคำนึงถึงว่า จะไม่ก่อให้เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายลง แต่จะต้องทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีด้วย นี่คือคำเตือนและคำเรียกร้องของเรา

ถาม - พันธมิตรเข้าไปสู่การรัฐประหาร ถ้าเกิดว่า ออกมาเผชิญหน้ากันเหลือง-แดง

จำลอง - พวกเรารู้อยู่แล้ว ทหารจะทำต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะการกระทำรัฐประหาร ถ้าไม่สำเร็จต้องถูกประหารชีวิต เป็นการเสี่ยงที่มากมายเกินไป เงื่อนไขมันอยู่ที่สถานการณ์ว่า สถานการณ์นั้นเป็นเงื่อนไขพอเพียงหรือเปล่า ที่จะทำการรัฐประหาร และไม่ใช่เฉพาะเงื่อนไขเท่านั้น ทหารต้องพิจารณาแล้ว เห็นว่า ถ้ามันจำเป็นจริงๆ เลี่ยงไม่จริงๆ เขาถึงจะทำ เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อใครที่บอกว่า การรัฐประหาร การปฏิวัติจะไม่มีต่อไป ผมพูดมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว ไปดูเอกสารต่างๆ ได้ ในฐานะที่เป็นทหารคนหนึ่ง เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องวิตกกังวล มันเป็นเรื่องการตัดสินใจของทหารเขา ว่า เขาจำเป็นหรือเปล่า ที่จะต้องทำ เราเพียงแต่อย่าทำให้เกิดสถานการณ์นั้น

ทหารมีคำอยู่คำหนึ่ง ว่า การเสี่ยงที่ใคร่ครวญแล้ว กว่าเขาจะทำรัฐประหาร เพราะงั้น เราไม่ต้องไปวิตกกังวลในเรื่องนี้ เพราะไงเราก็ควบคุมเขาไม่ได้ เราห้ามเขาไม่ได้ ถ้าสถานการณ์มันจำเป็น

อำนาจ - ขออนุญาตเพิ่มเติม ผมคิดว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ที่ นปช.ประกาศออกมาจากมาตรการต่างๆ นั้น ผมคิดว่า เป็นการพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารเกิดขึ้น ในนั้นพันธมิตรยืนยันชัดเจนว่า เราไม่เคยสนับสนุนแนวทางการรัฐประหาร อยากให้บ้านเมืองเดินไปภายใต้กฎหมาย อันนี้ เราพยายามหลีกเลี่ยงและพยายามไม่เข้าไปอยู่ในวงจรนั้น

ถาม - เราประเมินสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้ ถือว่า เป็นการเคลื่อนไหวที่พร้อมจะก่อความวุ่นวายแน่นอนไหม

สมเกียรติ - เราประเมินว่า ระบอบทักษิณ ไม่มีทางเลือก ไร้ทางเลือก มีแต่ทางรอดเพียงทางรอดเดียว คือยึดอำนาจรัฐให้ได้ เพราะตอนนี้ เขาพ่ายแพ้ถูกยึดทรัพย์ และผลของคำพิพากษาต่อเนื่องไปอีกนับ 10 คดี หลายแสนล้าน เพราะฉะนั้น เขาจึงมีเพียงทางรอด ไม่มีทางเลือกอื่นจะเดิน ทางรอดคือยึดอำนาจรัฐ ยึดนี่มี 2 วิธี 1 คือใช้ความรุนแรง ก่อความรุนแรงก่อนและยึดอำนาจรัฐ 2 บีบให้ยุบสภา และให้เลือกตั้งใหม่ และโกงอย่างเอิกเกริก เหนือกว่าการเลือกตั้งสกปรก เมื่อปี 2500 สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เพื่อเอาอำนาจรัฐ

เพราะฉะนั้น การประเมินของเราไม่ผิด แต่เรากำลังประเมินว่า ศักยภาพของรัฐ เมื่อเขาก่อความรุนแรงมาก ตั้งรับและรุกกลับได้ไหม เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่ารัฐตอนแรก ลังเลในการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคง ตอนนี้กลับเดินหน้า ผู้นำประกาศงดการเดินทางไปต่างประเทศ แสดงว่า ในทางยุทธวิธี ตั้งรับเต็มที่ พร้อมจะรุกกลับ เพราะฉะนั้น เราค่อนข้างจะสบายใจอยู่บ้าง แต่ในฐานะพันธมิตรฯ พลังทางศีลธรรม มันอดไม่ได้ที่จะห่วงใย จึงมาประชุมกันในวันนี้

จำลอง - ที่บอกว่าสบายใจบ้าง คือวางใจไม่ได้ จึงต้องมีการประชุมด่วน จะเห็นว่าย้อนไปถึงเหตุการณ์เดือนเมษาฯ ที่มีการล่มการประชุมอาเซียนที่พัทยา เราก็เห็นว่าทางฝ่ายรัฐบาล ทางฝ่ายตำรวจ ทหาร ได้มีผู้คนเยอะแยะไปหมด สามารถจะระงับเหตุการณ์ได้ ก็ทำไม่ได้ แต่ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรอะไรมากมายนัก เพียงแต่เสียชื่อเสียง เขาตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะล้มการประชุม เมื่อล้มการประชุมเสร็จมันก็หยุดแค่นั้น แต่คราวนี้ไม่ใช่นะครับ จะเป็นการเผาบ้านเผาเมือง ทำลายบ้านทำลายเมือง มันยิ่งกว่าคราวที่แล้วเยอะแยะ เราจึงเห็นว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้ว จะต้องออกมาบอกประชาชนว่า ทุกคนที่เป็นคนที่รักบ้านรักเมืองต้องเตรียมตัวให้พร้อม

พิภพ - ขอเรียนเพิ่มเติมว่า เราออกมาครั้งนี้เป็นความห่วงใยประชาชนทุกฝ่ายนะครับ ไม่ใช่เรื่องเลือกสี เราไม่ต้องการให้ประชาชนเป็นเหยื่อของการตระบัดสัตย์ของคุณทักษิณ และการพยายามจะกลับมามีอำนาจอีก เพราะฉะนั้นการที่เราเสนอต่างๆ นี่คือให้รัฐใช้ความระมัดระวัง และใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปใช้อาวุธเข่นฆ่าประชาชน การใช้สิทธิการชุมนุม เดินขบวนโดยสงบและสันติสามารถทำได้ แต่การที่แกนนำของ นปช.หรือคุณทักษิณ พยายามจะโน้มน้าวไปให้ใช้ความรุนแรง รัฐก็มีหน้าที่ตามกฎหมายที่ป้องกันความรุนแรง แต่การป้องกันความรุนแรงต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งรัฐก็มีเครื่องมือตัวนี้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะฉะนั้นอยากเรียนว่าเราออกมาวันนี้ ห่วงใยพี่น้องทุกฝ่าย ไม่อยากให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต และรัฐก็จะต้องควบคุมดูแลเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันพี่น้องที่มีความคิดประการใด เข้าร่วมอย่างไรก็แล้วแต่ ก็จะต้องระมัดระวัง ไม่เป็นเหยื่อที่นำไปสู่ความรุนแรงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร









กำลังโหลดความคิดเห็น