“เสธ.แดง” ปัดข้อหาช่วย “เคทอง” หนี จ๋อย! ตร.ไม่ให้ประกันลูกน้อง

“เสธ.แดง” ซึมรุดเยี่ยม “เคทอง” ถึงห้องขัง บอกข่าวดี ตร.ไม่ให้ประกันตัว อ้างมีรายชื่อติดบัญชีแบล็กลิสต์ของรัฐบาล เจ้าตัวปัดข้อหาช่วยเหลือ “เคทอง” หลบซ่อนตัว เตรียมนำโฉนดที่ดินมูลค่า 9 แสน ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลพรุ่งนี้ ส่วนผู้ชุมนุมเสื้อแดงเริ่มรวมตัวหน้ากองปราบเรียกร้องปล่อยตัวเคทอง ด้านรักษาการ ผบก.ป.สั่งรับมือกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการด่วน




วันนี้ (7 มี.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุม พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก นายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือเคทอง และลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ อีก 6 ราย พร้อมยึดอาวุธปืน และกระสุนจำนวนมากในรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนกงจักร 2481 ขณะเดินทางเข้าสอบถามความคืบหน้าคดีของนายพรวัฒน์ ก่อนแจ้งข้อหา พล.ต.ขัตติยะ และลูกน้องในความผิดฐานร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้พำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วน นายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ โดนข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือนำตัว พล.ต.ขัตติยะ ไปกักขังอยู่ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 2 กองปราบ เนื่องจากเป็นนายทหารระดับสูง โดยให้กำลังตำรวจคอมมานโดคอยดูแลอย่างและชิด ขณะที่เคทอง และลูกน้องคนสนิทของเสธแดงนั้น ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องขังของกองปราบ

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ขัตติยะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายพรวัฒน์ ทองสมบูรณ์ หรือ เคทอง พร้อมลูกน้องคนสนิทอีก 6 ราย หลังจากถูกควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังกองปราบปราม ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้ไปพูดคุยกันลูกน้องเพื่อที่จะบอกว่าทางพนักงานสอบสวนกองปราบไม่ยอมให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยอ้างว่า ตนและลูกน้องทั้งหมด มีรายชื่อติดอยู่บัญชีแบล็กลิสต์ของรัฐบาลและกำลังถูกจับตามองอยู่ รวมทั้งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวโยงทางการเมือง ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่กล้าที่จะให้ประกันตัว

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่าช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงานนั้น ตนยืนยันว่า ไม่ได้หลบซ่อน ซึ่งตนมีเจตนาที่จะพา เคทอง เข้ามอบตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการเจรจากับทางตำรวจให้ชัดเจนก่อนว่าจะพาเคทอง เข้ามอบตัวได้อย่างไร เบื้องต้นได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน จ.นครปฐม มูลค่าประมาณ 9 แสนบาท เพื่อยื่นขอประกันในชั้นศาลในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) พร้อมทั้งระดมทุนเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ในการยื่นของประกันตัวลูกน้องทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่กองปราบได้ทำการปิดประตูทางเข้าด้านหน้า โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี รวมทั้งสื่อมวลชน และรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าออกได้ ขณะที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คน ได้รวมตัวมาชุมนุมกันที่บริเวณหน้าประตูทางเข้ากองปราบ เพื่อเรียกร้องให้ทางตำรวจปล่อยตัว เสธ.แดง และ เคทอง พร้อมทั้งปิดประตูทางเข้าประตูกองปราบไม่ให้รถเข้าออกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้าน พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากที่ เสธ.แดง ได้ยื่นขอประกันตัว ทางพนักงานสอบสวนยังไม่อนุญาตให้ประกันผู้ต้องหาทั้งหมดได้ เนื่องจากต้องรอประเมินหลักทรัพย์ให้ชัดเจนเสียก่อน เพราะโฉนดที่ดินนั้นเป็นราคาประเมินเมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะต้องประเมินราคาให้ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาท รักษาการ ผบก.ป.ได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่กำลังกองปราบปรามทั้งหมดให้เตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งเพื่อรับมือกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากมีรายงานข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงกำลังทยอยเดินทางมาชุมนุมสมทบกันบริเวณด้านหน้ากองปราบเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว เสธ.แดง

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีญาติของ 6 ผู้ต้องหา ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิ์ผล หรือ เสธ.แดง ได้เดินทางมายังกองปราบปราม เพื่อเยี่ยมผู้ต้องหา โดยมีกำลังตำรวจคอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ได้มีผู้อ้างตัวว่าเป็นทนายของกลุ่มผู้ต้องหามาติดต่อขอพบพนักงานสอบสวน ซึ่งทาง พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบก.ป.อยู่ระหว่างประสานงานโดยยังไม่ได้อนุญาตให้เข้าพบเนื่องจากไม่มีเอกสารในการแสดงตัวที่ชัดเจน

มีรายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป.ได้สั่งการให้วางกำลังรักษาความปลอดภัยอยู่โดยรอบกองปราบปรามได้รับการกำชับจากนายตำรวจระดับสูงให้ตรวจสอบบุคคลที่อยู่ภายในกองปราบปรามไม่เว้นแม้แต่ตำรวจ และสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามทำข่าวจำนวนมาก พร้อมกับให้รายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มอย่างใกล้ชิดซึ่งอาจเริ่มมีความเคลื่อนไหวในวันเดียวกันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางตำรวจกองปราบปราม ได้ประชุมทางวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ร่วมกับ กองบัญชาการสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้องแดงบริเวรด้านหน้ากองปราบปราม ถนนพหลโยธิน ทั้งหมด เพื่อเตรียมป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้จำนวน 2 ลำ หากมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นก็จะพิจารณานำผู้ต้องหาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ คุมตัวไปยังที่ปลอดภัยได้ทันท่วงที

เมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เดินทางเข้าเยี่ยม พล.ต.ขัตติยะ ที่กองปราบปราม โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่ามาเยี่ยมเสธ.แดงในฐานะคนรู้จักคุ้นเคยกัน ส่วนกรณีการประกันตัว พล.ต.ขัตติยะ กับลูกน้องทั้งหมดนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบพบว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ ยังไม่พร้อม ส่วนหลักทรัพย์ที่เป็นโฉนดที่ดินก็มีการประเมินราคาไว้นานเกินกว่ากำหนดการประเมินราคา 3 เดือน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนให้ผู้ต้องหาไปขอประกันตัวในชั้นศาลแทน โดยจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังในเวลา 08.00 น.วันที่ 8 มีนาคมนี้

ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ทางกำลังตำรวจคอมมานโด บก.ป.จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลอาญา ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เวลา 08.00 น. ส่วนรถตู้ สีขาว ทะเบียนตรากงจักร 2481 ที่ยึดมานั้นจะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง คราบเลือด และวัตถุพยานอื่นๆ อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวพันกับการกระทำเความผิดอื่นใด รวมทั้งมีความเกี่ยวพันกับคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่ นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถที่แน่ชัดเพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำถึงที่มาของรถตู้คันนี้ต่อไป